ฟิสิกส์
เสียง |
|
เสียงสำหรับหูมนุษย์มีความถี่ 20 - 20,000 เฮิร์ตซ์ เกิดจาก การสั่น ของวัตถุทำให้ตัวกลางเกิดเป็นส่วนอัดและส่วน ขยาย มีคุณสมบัติการ สะท้อน การหักเห แทรกสอด และ เลี้ยวเบน อัตราเร็วของเสียงในอากาศ Vt = 331 + 0.6t Vt = ความเร็วของเสียงที่อุณหภูมิ t oC ความเข้มของเสียง คือ กำลังเสียงที่ตกกระทบในแนวตั้ง ฉากกับพื้นที่ ของหน้าคลื่นของทรงกลม 1 ตารางหน่วย ความเข้มสูงสุดที่มนุษย์ ทนได้ คือ 1 W/m2 I = ความเข้มเสียง มีหน่วยเป็น วัตต์/ตารางเมตร (W/m2) P = กำลัง มีหน่วยเป็น วัตต์ R = ระยะห่างจากแหล่งกำเนิดเสียง (m) ระดับความเข้มของเสียง I = ความเข้มของเสียง หน่วยเป็น W/m2 I0 = ความเข้มของเสียงต่ำสุดที่คนเราจะได้ยิน 10-12 W/m2
บีตส์ เกิดจากการแทรกสอดของคลื่นเสียงที่มีความถี่ต่างกันไม่ เกิน 7 Hertz fB = f1 - f2 ; fB = ความถี่บีตส์ ความถี่ที่หูได้ยิน f1 , f2 = ความถี่ของคลื่นทั้งสอง ปรากฎการณ์ดอปเปลอร์ เป็นปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นเนื่องจากการเคลื่อนที่ของ ผู้ฟังหรือ ต้นกำเนิดเสียง หรือทั้งสองอย่างเคลื่อนที่ทำให้ ความถี่ที่ผู้ฟังได้รับเปลี่ยนไป fL = ความถี่เสียงที่ผู้ฟังได้รับ fS = ความถี่เสียงจากต้นกำเนิด v = ความเร็วของเสียง(ในอากาศ) vL = ความเร็วของผู้ฟัง vS = ความเร็วของต้นกำเนิดเสียง ค่า v เป็นบวกเสมอ (+) ค่า vL , vS - เป็นบวก(+) ถ้าไปทิศทางเดียวกับ v - เป็นลบ (-) ถ้าไปทิศทางตรงข้ามกับ v - เป็น 0 ถ้าอยู่นิ่ง คลื่นกระแทก เกิดเมื่อแหล่งกำเนิดเสียงมีอัตราเร็วมากกว่าอัตราเร็ว เสียง (vS > v ) เช่น เครื่องบิน
การสั่นพ้อง เป็นการสั่นอย่างรุนแรง เนื่องจากมีการกระทำด้วยความ ถี่เท่ากับความถี่ธรรมชาติของวัตถุ ถ้าวัตถุเป็นปลายปิดหรือ ปลายตรึง จะเป็นบัพ แต่ถ้าเป็นปลายเปิดหรือปลายปล่อย จะเป็นปฏิบัพ วัตถุปลายเปิด / เส้นเชือก n = จำนวน loop / จำนวน node
T = ความตึงเชือก v = ความเร็วของเสียง f = ความถี่ของเสียง
ท่อปลายปิด n = จำนวน antinode การหักเหของเสียง การแทรกสอด โดยแหล่งกำเนิดเฟสตรงกัน การรวมกันแบบเสริมสร้าง n = 0 , 1 , 2 , 3 , ... การรวมกันแบบหักล้างกัน n = 1 , 2 , 3 , ...
|