ATM
นั้นจะมีการรับรองว่ามีการส่งข้อมูลตามลำดับ แต่ไม่มีการรับรองว่าข้อมูลจะถูกส่งไปถึงเรียบร้อยหรือไม่
การรับรองถึงการส่งในลำดับของข้อมูลเป็นไปได้จากข้อเท็จจริงที่ว่า
ATM เป็นระบบ Circuit Oriented ดังนั้นข้อมูลทุกตัวจะเดินทางในเส้นทางเดียวกันเสมอ
โปรโตคอล ATM เหมาะที่จะนำมาใช้รับ/ส่งข้อมูลให้กับแอพพลิเคชันเหล่านี้คือ
แอพพลิเคชันที่ยอมให้เกิดการสูญหายของข้อมูล แต่ความล่าช้าจะมีผลต่อการรับ/ส่งข้อมูล
(เช่น ภาพ และเสียงแบบเรียบไทม์ แน่นอนว่าการสูญหายของข้อมูลจะต้องอยู่ในขนาดที่จำกัด
และไม่สูญเสียมากเกินไป) แอพพลิเคชันที่การสูญหายของข้อมูลมีผลอย่างยิ่งต่อการรับ/ส่ง
แต่ความล่าช้าของการส่งข้อมูลไม่มีผลมากนัก (เช่น การรับ/ส่งไฟล์ข้อมูล
ทั้งนี้ความล่าช้าที่เกิดขึ้นต้องไม่มากจนเกินไปด้วย)
และสุดท้ายแอพพลิเคชันแบบที่การสูญเสียของข้อมูล และความล่าช้ามีผลต่อการทำงานของแอพพลิเคชัน
โดยธรรมชาติของโปรโตคอล ATM จะเป็นบริการแบบ Connection
Oriented ดังนั้นการจัดเตรียมบริการแบบ Connectionless
ให้กับแอพพลิเคชันเก่าๆ จึงต้องกระทำที่ชั้นบนสุดของโมเดล
ATM นั่นคือทำให้บริการเหล่านั้นเป็นแอพพลิเคชันของ ATM
การกระทำเช่นนี้เป็นแนวคิดแบบ Connectionless Server ซึ่งอาศัยข้อมูลเส้นทางที่มีอยู่ในเซลล์สำหรับใช้เปลี่ยนทิศทางข้อมูล
ATM
เป็นมาตรฐานที่ไม่ลงตัวกับ โมเดล ISO/OSI ได้อย่างพอดีนัก
โมเดลทั้งหมดของ ATM ค่อนข้างจะคล้ายกับชั้น Data-Link
(ชั้นที่ 2 ของโมเดล ISO/OSI) มากที่สุด แต่ว่าการควบคุมการไหลของข้อมูล
(Flow Control), การทำวงจรเสมือน (Virtual Circuit) และอีกหลายส่วนที่ทำงานในชั้นที่สูงกว่าก็ยังคงอยู่
นอกจากนี้ชั้น AAL ในโมเดลที่กำหนดขึ้นมาเพื่อใช้ขนส่งโปรโตคอลที่ทำงานในชั้นที่สูงกว่า
เช่น IPOATM เป็นต้น ในท้ายที่สุด ATM ควรจะถูกพิจารณาในฐานะที่เป็นเทคโนโลยีมากกว่าที่จะเป็นผลิดภัณฑ์
โดยเป็นเทคโนโลยีที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้งานได้หลากหลาย
รวมถึงการนำไปทำเป็น Backbone สำหรับเครือข่ายความเร็สูง,
LAN Emulaionและอื่นๆ
มาตรฐานของ
ATM
มีคำพูดในเชิงเสียดสีว่า
"ข้อดีของมาตรฐานก็คือ มีหลายมาตรฐานให้เลือกใช้"
CCITT ที่ต่อมาได้เปลี่ยนเป็น ITU (http://www.itu.ch)
ได้กำหนดมาตรฐาน ISDN แบบ Broadband บน ATM ไว้ สถาบันมาตรฐานนของสหรัฐฯ
(ANSI) (http://www.ansi.org) ได้ตั้งคณะทำงาน T1S1.5
เพื่อกำหนดมาตรฐานของ ATM นอกจากนี้ยังมีการรวมตัวกันของบริษัทด้านการสื่อสาร,หน่วยงานภาครัฐ
และกลุ่มงานวิจัยก่อนก่อตั้งเป็น ATM Forum ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนสมาชิกมากกว่า
400 ราย มาตรฐานเหล่านี้ IETF เองก็มีส่วนในการกำหนดดด้วย
ซึ่งบางส่วนก็เข้ากันได้บางส่วนก็เข้ากันไม่ได้ ตัวอย่างของมาตรฐานเหบ่านี้ได้แก่
มาตรฐานการทำ LAN Emulation ที่พัฒนาโดย IETF และ RFC
1577 คือ "Classical IP and ARP over ATM" เป็นมาตรฐานจาก
IETF ที่กำหนดวิธีการส่ง IP ไปบนระบบ ATM ให้ดูเรื่อง
"LAN Emulation" ในตอนท้ายของบทนี้ หากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม
รูปแบบเฮดเดอร์ของ
ATM
เซลล์ของ
ATM นั้นประกอบด้วยเฮดเดอร์ขนาด 5 ไบต์ต่อท้ายด้วยข้อมูลขนาด
48 ไบต์ เฮดเดอร์มีอยู่สองแบบคือ UNI แบบนี้สำหรับเชื่อมต่อระหว่างผู้ใช้กับเครือข่าย
อีกแบบหนึ่งคือ NNI แบบนี้ใช้ในการเชื่อมต่อระหว่างเครือข่ายกับเครือข่าย
เฮดเดอร์แบบ UNI ใช้ข้อมูลขนาด 4 บิตเพื่อทำ Generic Flow
control (ควบคุมการไหลของข้อมูลทั่วไป) โดยควบคุมความคับคั่งของข้อมูลด้วยการจำกัดจำนวนข้อมูลที่ไหลเข้ามายังเครือข่าย
ตัวกำหนดเซสชันของ ATM ใช้ VCI (Virtual Channel Indiactor)
ซึ่งสามารถกำหนดให้เป็นได้ทั้งแบบถาวรหรือแบบชั่วคราว
การรวม VCI เข้าเป็นกลุ่มเดียวกันสามารถทำได้ด้วย VPI
(Virtual Path Identifier) ทั้ง VPI และ VCI จะมีความหมายต่อโหนดใดโหนดหนึ่งเป็นการเฉพาะเท่านั้น
และจะเปลี่ยนแปลงไปตามการไหลของข้อมูล เมื่อมีการเคลื่อนที่จากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง
PTI (Payload Type Indicator) จะเป็นตัวบอกว่าข้อมูลที่อยู่ในเซลล์นั้นเป็นข้อมูลของผู้ใช้
หรือเป็นข้อมูลที่ใช้ในการควบคุมการทำงานของระบบ ข้อมูลนี้ยังใช้เป็นตัวแสดงว่าเกิดความคับคั่งของข้อมูลหรือไม่ด้วย
ส่วนที่เป็น CLP (Cell Loss Priority) จะถูกนำไปใช้ในวิธีการต่างๆ
หนึ่งในนั้นคือใช้เป็นตัวบอกว่างานรับ/ส่งข้อมูลเกินอัตราที่ตกลงกันไว้แล้ว
สำหรับเซลล์ที่ใช้บรรจุข้อมูลของผู้ใช้นั้น ข้อมูลนี้จะเป็นตัวบอกถึงว่าผู้ใช้ยินยอมให้เกิดการสูญหายของข้อมูลหรือไม่
เช่น ถ้าเป็นการดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลในฐานข้อมูล ย่อมต้องแสดงว่าไม่สามารถยอมรับการสูญเสียของข้อมูลได้
แต่ถ้าเป็นงานมัลติมีเดีย การสูญเสียข้อมูลไปบางส่วนจะเป็นสิ่งที่ยอมรับได้
ข้อมูลในส่วน HEC (Header Error Check) เป็นส่วนเพิ่มความถูกต้องของข้อมูลด้วย
CRC แต่จะทำเฉพาะส่วนที่เป็นเฮดเดอร์เท่านั้น ไม่รวมไปถึงส่วนข้อมูลภายในเซลล์
ชั้น
AAL
ATM
เป็นเทคโนโลยีของการเชื่อมต่อแบบ Connection Oriented
ที่จะโอนย้ายข้อมูลด้วยเซลล์ที่มีขนาดคงที่คือ 53 ไบต์
สามารถนำไปใช้งานได้หลายประเภท โดยมีชั้น Adaptation Layer
เพื่อให้มีอินเตอร์เฟซที่จำเป็นต่อการใช้งานได้หลากหลายของ
ATM