Cable
Modem
ในประเทศสหรัฐอเมริกามีครัวเรือนจำนวนมาก
ที่เชื่อมโยงเข้าสู่ระบบสื่อสารที่มีแบนด์วิดธ์สูงในรูปแบบของเครือข่า
ยสายเคเบิล (หรือ Cable TV นั่นเอง) เครือข่ายชนิดนี้สามารถขนส่งข้อมูล
ด้วยความเร็ว 30 Mbps โดยมีโมเด็มชนิดเคเบิลทำหน้าที่เชื่อมคอมพิวเตอร
์เข้าสู่อินเตอร์เน็ตผ่านเครือข่ายสายเคเบิล ในลักษณะเดียวกับที่โมเด็มปกต
ิต่อคอมพิวเตอร์เข้ากับระบบโทรศัพท์ท้องถิ่นธรรมดา เครือข่ายสายเคเบิล
นั้นสามารถให้ความเร็วได้ประมาณ 28.8 Kbps (หรือ 56 Kbps
ก็ทำได้)
เท่ากับที่โมเด็มปกติทำ
และอาจเป็นไปได้ทีจะได้ความเร็วที่สูงมากกว่านี้ เพราะสัญญาณพาหะของเครือข่ายสายเคเบิลมีแบนด์วิดธ์สูงกว่ามาก
(ตามลำดับคือ 6 หรือ 8 MHz) จึงทำให้โมเด็มชนิดเคเบิลสามารถรับ/ส่ง
ข้อมูลด้วยแถบสัญญาณที่กว้างกว่า โมเด็มปกติใช้การเชื่อมต่อเข้ากับ
เครื่องคอมพิวเตอร์ผ่านทางพอร์ตอนุกรม ซึ่งไม่สามารถรองรับกับ
ความเร็วที่โมเด็มชนิดเคเบิลมีได้ ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ต้องการ
ใช้โมเด็มชนิดนี้จำเป็นต้องมีการ์ดีอเทอร์เน็ตสำหรับใช้เชื่อมต่อแทน
ซึ่งเหตุนี้เองโมเด็มชนิดเคเบิลจึงต้อง มีการแปลงข้อมูลจากอีเทอร์เน็ตไปเป็นสัญญาณอะนาล็อก
และในทางกลับกันด้วย เนื่องจากมาตรฐาน
ที่มียังไม่นิยมใช้ในวงกว้าง โมเด็มชนิดเคเบิลของเครื่องผู้ให้บริการและของผู้ใช้บริการจึงจำเป็น
ต้องใช้จากผู้ผลิตเดียวกันเท่านั้น
ในทางทฤษฎีความเร็วของโมเด็มชนิดเคเบิลอาจสูงถึง
30 Mbps แต่ในทางปฏิบัตินั้นมีข้อจำกัดหลายอย่าง ทำให้ความเร็วที่ได้ตกลงไปมาก
สาเหตุหนึ่งก็คือทางด้านเซิร์ฟเวอร์ของผู้ให้บริการไม่ได้เชื่อมโยงเข้ากับอินเตอร์เน็ตด้วยช่องทางสื่อสารที่ใหญ่พอ
เครื่องเซิร์ฟเวอร์เมื่อได้รับข้อมูลที่ไคลเอนต์ต้องการมันจะส่งข้อมูลนี้ให้กับไคลเอนต์โดยเร็วที่สุด
แต่เซิร์ฟเวอร์อาจคอยรับข้อมูลนั้นให้เสร็จก่อนจึงส่งมาให้ไคลเอนต์ได้
เหตุนี้ทางบริษัทผู้ให้บริการอย่างเช่น บริษัท @Home จึงแก้ไขปัญหานี้ด้วยการแคชข้อมูลที่มีการเรียกใช้บ่อยๆ
ไว้ที่เซิร์ฟเวอร์ (เรียกเซิร์ฟเวอร์นี้ว่า Head End)
การเดินสายสัญญาณเครือข่ายเคเบิลเองก็เป็นอีกปัญหาหนึ่ง
อุปกรณ์แยกสัญญาณที่เรียกว่า Splitter (ทำหน้าที่แยกสัญญาณให้กับโทรทัศน์จำนวนหลายเครื่องภายในบ้านหลังเดียวกัน
และจากการเดินสายด้วยอุปกรณ์ราคาถูก ทำให้ความเร็วลดต่ำลงอย่างมาก
บวกกับข้อเท็จจริงที่ว่าแบนด์วิดธ์จากบ้านของผู้ใช้บริการ
ไปยังบริาทผู้ให้บริการนั้นมีการแบ่งปันให้กับผู้ใช้บริการจำนวนมาก
อัตราความเร็วทีเป็นจริงจึงเหลือเพียง 1.5 Mbps ซึ่งหากนำไปเปรียบเทียบกับความเร็ว
28.8 Kbps หรือ 56 Kbps ของโมเด็มปกติถือว่าไม่ดีไปกว่ากันมากนัก
|