ดดดดหน้าที่เกี่ยวข้องของกริยา

ดดดดคำในภาษาไทย ถึงแม้ว่าจะเป็นคำเดียวกัน แต่ถ้าอยู่ในตำแหน่งการเกี่ยวข้องกับคำหรือกลุ่มคำ (วลี) ที่ต่างกัน คำนั้นก็สามารถเปลี่ยนแปลงชนิดของคำได้ โดยคำกริยาส่วนใหญ่จะเป็นเช่นนี้ คำกริยาที่จะใช้เกี่ยวข้องกับคำนาม ต้องเป็นคำแสดงอาการต่าง ๆ ของนามนั้น แต่ถ้ากริยากลายเป็นคำที่ขยายคำนาม คำนั้นจะกลายเป็นคำวิเศษณ์ทันที คำกริยาที่มีกรรตุการกหรือกรรมการกพ่วงอยู่ด้วย ถ้านำมาใช้เป็นคำวิเศษณ์มักจะรวมกันเป็นคำประสม

ดดดดลักษณะที่เกี่ยวข้องของกริยามีดังต่อไปนี้

ดดดด๑. คำกริยาทั้งหมดยกเว้นกริยาช่วย จะเป็นวาจก (กริยาของประโยคที่แสดงว่าประธานทำหน้าที่เป็นผู้ทำ ผู้ใช้ ผู้ถูกทำ หรือผู้ถูกใช้) ของนามและสรรพนามได้ทั้งนั้น

ดดดด๒. เกี่ยวข้องเป็นบทขยายของนามสรรพนามและกริยา กริยาพวกนี้ได้แก่กริยาสภาวมาลาหรือกริยาที่ทำหน้าที่เป็นประธานของประโยค กริยาเหล่านี้จะใช้เป็นการกต่าง ๆ หรือจะเป็นบทขยายกริยาก็ได้

ดดดด๒.๑ เป็นกรรตุการก เช่น นอน มากไม่ดี เป็นต้น

ดดดด๒.๒ เป็นกรรมการก เช่น ฉันอยาก จะพบท่าน เป็นต้น

ดดดด๒.๓ เป็นวิเศษณการก เช่น ศาลาสำหรับ พัก ชั่วคราว เป็นต้น

ดดดด๒.๔ เป็นบทขยายกริยา เช่น ตาสีฝัน เห็นช้าง เป็นต้น

ดดดด๓. ใช้ควบคู่กับคำนามหรือคำขยาย กริยาพวกนี้คือกริยาที่อาศัยส่วนเติมเต็มหรือ วิกตรรถกริยา (ได้แก่คำว่า เป็น เหมือน คล้าย เท่า คือ) จะต้องอาศัยคำนามหรือคำขยายมาประกอบเพื่อให้เนื้อความบริบูรณ์ เช่น

ดดดด๓.๑ ควบคู่กับคำนาม เช่น เขา คล้าย โจร เป็นต้น

ดดดด๓.๒ ควบคู่กับคำขยาย เช่น เขา เป็น ใหญ่ เป็นต้น

ดดดด๔. ใช้ช่วยกริยาด้วยกัน คือกริยานุเคราะห์หรือคำช่วยกริยา กริยาเหล่านี้จะช่วยกริยาแท้ให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้น โดยเราสามารถสรุปออกมาคร่าว ๆ ได้ดังนี้

ดดดด๔.๑ บอกมาลา ได้แก่ นิเทศมาลา ปริกัลป์ปมาลา ศักดิมาลา อาณัติมาลา สภาวมาลา โดยที่กริยาสภาวมาลามีหน้าที่คล้ายกับนามหรือวิเศษณ์ จึงไม่ต้องมีกริยานุเคราะห์มาช่วย มีเพียงบางกริยาเท่านั้นที่ต้องใช้กริยานุเคราะห์มาช่วย

ดดดด๔.๒ บอกกาล ได้แก่ ปรัตยุบันกาล อดีตกาล อนาคตกาล อนุตกาล กาลสมบูรณ์

กาลซ้อน

ดดดด๔.๓ บอกวาจก ได้แก่ กรรตุวาจก กรรมวาจก และการิตวาจก

ดดดดหมายเหตุ

ดดดดกรรตุวาจก ไม่ต้องมีกริยานุเคราะห์เพราะกรรตุวาจกอยู่หน้าข้อความเป็นเครื่องหมาย

ดดดดกรรมวาจก นอกจากคำว่าถูก และถูกให้แล้ว ไม่ต้องมีกริยานุเคราะห์เพราะใช้กรรมการกอยู่หน้าข้อความเป็นเครื่องหมาย

ดดดดข้อสังเกต

ดดดดกริยานุเคราะห์คำว่า “ ได้ ” ใช้ได้หลายประการ เช่น ใช้บอกอดีตกาล ใช้ช่วยกริยาให้ได้ความบริบูรณ์ ซึ่งเราจะต้องสังเกตเนื้อความดูว่าคำว่า “ ได้ ” จะใช้ในหน้าที่ใด

ดดดดคำว่า “ จะ ” กับ “ จัก ” จะใช้ต่างกันตรงที่คำว่า “ จะ ” บอกอนาคตอันใกล้ ซึ่งจะใช้กับปรัตยุบันกาล ตรงกับคำว่า “ เตรียม ” และ “ เริ่ม ” และคำว่าจะมักจะใช้ควบคู่กับกริยาสภาวมาลาหรือจะใช้ควบคู่กับกริยานุเคราะห์ตัวอื่น ๆ ก็ได้ ส่วนคำว่า “ จัก ” ใช้กับอนาคตกาลอย่างเดียวเท่านั้น

ดดดด๕. ลักษณะเกี่ยวข้องประการสุดท้าย คือรวมกริยาพวกเดียวกัน เช่น ตาสีไปนั่งสูบบุหรี่ที่นา เป็นต้น จากประโยคนี้คำว่า ไป เป็นกริยาหัวหน้า คำว่า นั่ง เป็นกริยารอง และคำว่า สูบ เป็นกริยารองของคำว่านั่งอีกทีหนึ่ง

ดดดดข้อสังเกตระหว่างกริยารองกับกริยาสภาวมาลา

ดดดดกริยารองเหล่านี้ สามารถแยกออกมาเป็นประโยคโดยยังคงเป็นประธานคนเดียวกันกระทำกริยาแต่ละอย่าง และเมื่อนำมารวมกันก็จะได้ความเรียงเป็นลำดับเช่นเดิม แต่ถ้าหากเป็นกริยาสภาวมาลาซึ่งเป็นเพียงบทขยายของกริยา หากแยกประโยคออกจะไม่ได้ความคงเดิมอีกต่อไป

ดดดดหน้าที่เกี่ยวข้องของคำวิเศษณ์

ดดดดคำวิเศษณ์ มีหน้าที่เป็นบทขยายของนาม สรรพนาม กริยา และคำวิเศษณ์ด้ยกัน มีระเบียบในการเรียงลำดับในการใช้ประกอบคำดังนี้

ดดดด๑. ประกอบนามและสรรพนาม

ดดดด๑.๑ ประกอบข้างหน้า ได้แก่ ประมาณวิเศษณ์บางพวก ประมาณวิเศษณ์บอกจำนวนนับ (คือสังขยา) อนิยมวิเศษณ์ ปฤจฉาวิเศษณ์ (วิเศษณ์ที่ประกอบจากจำนวน)

ดดดดหมายเหตุ

ดดดดคำประมาณวิเศษณ์ บอกจำนวนนับที่เรียกว่าสังขยา มักจะใช้รวมกับลักษณนาม (นามที่บอกรูปร่างลักษณะ) เป็นวิเศษณวลี เช่น ๒ รูป ๕ ตัว ฯลฯ หรือที่เรียกว่านามวลี เช่น รูป ๑ ตัว หนึ่ง ฯลฯ แล้วเขียนไว้ประกอบบทด้านหน้าอีกทีหนึ่ง เช่น พระ ๒ รูป ม้าตัวเดียว เป็นต้น

ดดดดข้อสังเกต

ดดดดคำว่า “ หนึ่ง ” ประกอบข้างหน้าก็มี แต่ไม่นิยมใช้ มักใช้ในการทำบัญชีเท่านั้น ส่วน

ดดดดคำว่า “ เดียว ” จะใช้ประกอบข้างหลัง

ดดดด๑.๒ ประกอบได้ทั้งข้างหน้าและข้างหลัง คือคำประมาณวิเศษณ์ที่เป็นคำพูดโดยมาก

ดดดด๑.๓ ประกอบข้างหลัง ได้แก่คำวิเศษณ์อื่น ๆ นอกจากพวกที่ได้กล่าวมาแล้ว

ดดดด๒. ประกอบกริยาและวิเศษณ์ด้วยกัน นิยมใช้ประกอบข้างหลังเป็นพื้น ที่ผิดแผกไปจากนี้ก็มี ได้แก่

ดดดด๒.๑ พวกประกอบข้างหน้า คือ ประมาณวิเศษณ์บางคำ ประติเษธวิเศษณ์

ดดดด๒.๒ พวกประกอบคำต่าง ๆ พวกนี้สามารถประกอบได้ทั้งข้างหน้าและข้างหลัง ได้แก่ กาลวิเศษณ์ที่เป็นคำประสม ปฤจฉาวิเศษณ์ ประติเษธวิเศษณ์บางคำ ประติชญาวิเศษณ์

ดดดดหมายเหตุ

ดดดดประติเษธวิเศษณ์ คือวิเศษณ์ที่ประกอบบอกความปฏิเสธหรือไม่ยอมรับ

ดดดดกาลวิเศษณ์ คือวิเศษณ์ที่ประกอบบอกเวลา

ดดดดปฤจฉาวิเศษณ์ คือวิเศษณ์ที่ประกอบบอกเนื้อความเป็นคำถามหรือความสงสัย

ดดดดประติชญาวิเศษณ์คือวิเศษณ์ที่ประกอบบอกเสียงร้องเรียกและเสียงขานรับเพื่อแสดงความสละสลวยของภาษาและแสดงความเป็นกันเองในระหว่างผู้พูด

 

หน้าก่อนหน้าน กลับสู่ด้านบนี้ กลับสู่หน้าแรก ไปหน้าต่อไป

ffdjnรวมลิงค์เว็บภาษาไทย

Homepage

คำนาม

คำนิยาม

คำนาม 5 ชนิด

คำนามที่ได้จาก

ภาษาบาลีและสันสกฤต

คำสรรพนาม

คำนิยาม

คำสรรพนาม 6 ชนิด

คำกริยา

คำนิยาม

คำกริยา 4 ชนิด

คำวิเศษณ์

คำนิยาม

คำวิเศษณ์ 10 ชนิด

คำบุพบท

คำนิยาม

บุพบทที่ไม่เชื่อมกับบทอื่น

บุพบทที่เชื่อมกับบทอื่น

คำสันธาน

คำนิยาม

คำสันธานตามลักษณะการเชื่อม

คำอุทาน

คำนิยาม

อุทานบอกอาการ

อุทานเสริมบท

หน้าที่เกี่ยวข้องของคำ

ลักษณะและระเบียบของคำ

รวมเว็บภาษาไทย

แบบฝึกหัด