ห้องสมุดประชาชนได้เริ่มจัดตั้งครั้งแรกเมื่อพ.ศ.2459โดยกรมศึกษาธิการในสมัยนั้น)มีชื่อเรียกว่า"ห้องสมุดหนังสือสำหรับประชาชน" เป็นที่รวบรวมหนังสือต่างๆ ที่มีประโยชน์ต่อประชาชนและเปิดบริการให้ ประชาชนทุกคนเข้าอ่านได้อยู่ในความรับผิดชอบของแผนกห้องสมุด และ ผู้มาใช้บริการไม่ต้องเสียเงิน ห้องสมุดหนังสือ สำหรับประชาชนได้รับการจัดตั้งขึ้น 3 แห่ง คือ ที่โรงเรียน วัดสุทัศน์ โรงเรียนสามจีนใต้ จังหวัดพระนครและโรงเรียน วัดประยูรวงศ์จังหวัดนนทบุรี ในปีต่อมาได้เปิดขึ้นอีก 2 แห่ง ที่โรงเรียนมหาวชิราวุธสงขลา และ ณ ที่ว่าการอำเภอชัยภูมิจังหวัดชัยภูมิ
ต่อมาในปี
พ.ศ.2461 ได้เปิดเพิ่มอีก 4 แห่ง ในจังหวัดบุรีรัมย์ พ.ศ.2483 คณะรัฐมนตรีมีมติให้จัดตั้ง
กองการศึกษาผู้ใหญ่ขึ้น สังกัดสำนักงานปลัดกระทรวง
ศึกษาการ ต่อมาในปี พ.ศ.2492 รัฐบาลมีนโยบายจัดการศึกษาผู้ใหญ่ ให้กว้างขวาง
และเหมาะสมกับสถานการณ์จึงได้มีการขยายรูปงานใหม่ 4 ด้าน คือ การศึกษา ขั้นพื้นฐานการอาชีวศึกษาผู้ใหญ่
การมัธยมศึกษา และการศึกษาประชาชน ในงานด้านการศึกษา ประชาชนรัฐบาลวงนโยบายให้จังหวัดต่าง
ๆ เริ่มจัดห้องสมุด
ประชาชนขึ้น เมื่อ พ.ศ.2494 และ กองการศึกษาผู้ใหญ่โอนมา สังกัดกรมประชาศึกษา
ใน
พ.ศ. 2495 กรมประชาศึกษาเปลี่ยนชื่อเป็นกรมสามัญศึกษางานห้องสมุดประชาชนจึงมาสังกัดแผนก
การศึกษาประชาชน กองการศึกษาผู้ใหญ่กรมสามัญศึกษาและในปีเดียวกันนี้เองคณะรัฐบาลได้มีมติให้จัดตั้งห้องสมุด
ประชาชนอำเภอขึ้นตามอำเภอต่างๆอำเภอละ 1แห่งมอบหมายให้กระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงมหาดไทยร่วมกัน
ดำเนินการ แต่มีอุปสรรคบางประการทำให้ไม่สามารถจัดตั้งห้องสมุดประชาชนได้ครบทุกอำเภอ
ต่อมากระทรวงศึกษาธิการได้ปรับปรุงระเบียบห้องสมุดประชานจำแนกออกเป็น 3 ประเภท
1. ห้องสมุดประชาชนจังหวัด
2.
ห้องสมุดประชาชนอำเภอ และ
3.
ห้องสมุดเคลื่อนที่
ในปี พ.ศ.
2516รัฐบาลเห็นความสำคัญของกิจกรรมห้องสมุดประชาชนที่เป็นศูนย์กลางการให้การศึกษาของ
ประชาชนจึงได้ประกาศให้ห้องสมุดประชาชน
จังหวัดสถานศึกษาสังกัดกองการศึกษาผู้ใหญ่กรมการสามัญศึกษาต่อมาในวันที่24มีนาคม2522ได้มีการจัดตั้งกรมการศึกษานอกโรงเรียนขึ้นมาในกระทรวงศึกษาธิการ
กิจกรรมห้องสมุดประชาชนจึงโอนมาขึ้นอยู่ในความดูแลรับผิดชอบของงานอุปกรณ์การศึกษาและสื่อมวลชน
กองปฏิบัติการส่วนห้องสมุด ประชาชนภายในจังหวัดต่าง ๆ เป็นเพียงกิจกรรมหนึ่งของศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนจังหวัดแต่ละจังหวัด
ต่อมาได้มีการปรับปรุงโครงสร้างการบริหารงานภายในกรมการศึกษานอกโรงเรียนงานห้องสมุดประชาชนจึงอยู่ในความดูแลรับผิดชอบ
ของฝ่ายส่งเสริม
ปฏิบัติการกองส่งเสริมปฏิบัติการในปีพ.ศ.2535กรมการศึกษานอกโรงเรียนได้ปรับบทบาทของห้องสมุดประชาชนให้กว้างขวางโดยให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมใน
การดำเนินงานทั้งการบริการและการจัดกิจกรรมให้มากที่สุด เพื่อให้เกิดความรู้สึกการเป็นเจ้าของผลทำให้มีห้องสมุดประชาชนจังหวัด
73 แห่ง ห้องสมุดประชาชน อำเภอ
502 แห่งและห้องสมุดประชาชนตำบล 689 แห่ง