ห้องสมุดประชาชนเป็นแหล่งการศึกษาค้นคว้าการรับรู้ข่าวสารและข้อสนเทศรวมทั้งการพักผ่อนหย่อนใจที่สำคัญยิ่งของประชาชนในท้องถิ่น
ฉะนั้นห้องสมุดประชาชนจึงมีหน้าที่ในการรวบรวมวัสดุสารนิเทศต่างๆ โดยเน้นความสนใจและอาชีพของประชาชนในท้องถิ่น
สำหรับหน้าที่ของห้องสมุดประชาชนได้มีผู้อธิบายไว้ดังต่อไปนี้
สุพรรณี วรากร ได้อธิบายหน้าที่ของห้องสมุดประชาชนไว้ 2 ประการ คือ
1)
หน้าที่ในการรวบรวมหนังสือและวัสดุต่างๆได้แก่หน้าที่ในการรวบรวมหนังสือสิ่งพิมพ์และวัสดุการอ่านในรูปแบบต่างๆ
ซึ่งได้พัฒนาขึ้นตามความเจริญก้าวหน้าของวิทยาการ
2)
หน้าที่ในการให้บริการ ห้องสมุดประชาชนมีขอบเขตการบริการแก่สมาชิกทุกคนในชุมชน
ย่อมมีลักษณะแตกต่างและมีความต้องการต่างๆ กันอย่างเท่าเทียมกันดังนั้น ห้องสมุดประชาชนจึงมีบริการและกิจกรรมต่างๆ
มากมาย ทั้งนี้เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้หนังสือและวัสดุต่างๆ ที่มีอยู่ภายในห้องสมุด
กรมสามัญศึกษาได้กำหนดหน้าที่ของห้องสมุดประชาชนไว้ดังต่อไปนี้
1)
ให้การศึกษานอกโรงเรียนแก่ประชาชน
2)
ส่งเสริมประชาชนให้มีนิสัยรักการอ่านและการศึกษาค้นคว้า
3)
ให้บริการทางข่าวสารและความรู้ต่างๆ เพื่อให้ประชาชนเป็นคนทันต่อเหตุการณ์
4) ส่งเสริมและแนะนำให้ประชาชนมีความรู้ ทัศนคติ และสามารถปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดีตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
5)
ส่งเสริมและเผยแพร่วัฒนธรรม
6)
ส่งเสริมให้ประชาชนรู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์
สมาคมห้องสมุดประชาชนซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสมาคมห้องสมุดเอมริกันได้กำหนดบทบาทและหน้าที่ของห้องสมุดประชาชนไว้เมื่อปี
ค.ศ. 1979 เพื่อตอบสนองความต้องการของสังคมดังนี้
1)
ส่งเสริมให้ชุมชนหรือสังคมมีโอกาสได้ใช้ความรู้ ที่บันทึกไว้ในอดีต ไม่ว่าจะเป็นข้อเท็จจริง
หรือศาสตร์ต่างๆ ซึ่งบางส่วนอาจจะเป็นของสถาบันเอง หรืออาจจะเป็นของเครือข่ายสารนิสนเทศ
ที่ได้มีการเชื่อมโยงกันระหว่างรัฐ ประเทศ และระดับโลก
2 )จัดองค์ความรู้ให้ผู้ใช้สามารถเข้าใชั้ได้หลายรูปแบบทั้งสิ่งพิมพ์และสิ่งไม่ตีพิมพ์เพื่อสนองความต้องการของผู้ใช้ที่มีความต้องการแตกต่างกัน
3 )มีการรวบรวมและจัดองค์ความรู้ไว้หลายรูปแบบทั้งสิ่งพิมพ์และสิ่งไม่ตีพิมพ์เพื่อสนองความต้องการของผู้ที่ใช้ที่มีความต้องการแตกต่างกัน
4)
เผยแพร่ความรู้ให้ผู้ใช้ได้มีโอกาศใช้อย่างสะดวกไม่ว่าจะเป็นความรู้ในอดีตที่ผ่านมา
หรือความรู้ในปัจจุบัน เพื่อที่จะช่วยแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน ซึ่งรวมถึงการจัดบริการแนะนำหรือส่งเสริมการใช้สารสนเทศให้กับกลุ่มสนใจต่างๆ
5)
ประสานงานกับหน่วยบริการสารสนเทศและห้องสมุดอื่นๆ โดยร่วมกันวางนโยบายสำหรับรับมือกับสารสนเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
6)
ร่วมมือกันกำหนดจริยธรรมในวิชาชีพ เพื่อสร้างสรรค์สิ่งที่ดีแก่ผู้ใช้ รวมทั้งส่วนเสริมสิทธิในการเรียนรู้ของชุมชน
7) ประสารงานกันในการกำหนดนโยบายการจัดหาทรัพยากรสารสนเทศเพราะไม่มีหน่วยงานใดที่สามารถจะรวบรวมสารสนเทศไว้ได้อย่างครบถ้วน
8)
ร่วมมือกันในการใช้ทรัพยากรสารสนเทศ โดยร่วมมือในการสร้างและการควบคุมดูแลระบบเครือข่าย
เพื่อให้เอื้อประโยชน์ในการตใช้สารสนเทศของประชาชนไม่ว่าสารสนเทศจะเก็บไว้ที่ใดก็ตาม
9)
นอกจาการเลือก การรวบรวมหรือการจัดองค์ความรู้แล้ว สิ่งสำคัญคือความเชี่ยวชาญในการใช้สารสนเทศ
เพื่อที่จะช่วยให้พลเมืองมีทักษะในการใช้สารสนเทศได้ด้วยตนเองดังนั้นบทบาทหน้าที่ของห้องสมุดประชาชนอีกประการหนึ่งคือการสอนการใข้สารสนเทศ
ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญสำหรับยุคปัจจุบัน เพราะสารสนเทศมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง ประชาชนรู้แหล่งสารสนเทศที่จะใช้บริการและรู้จักประเมินค่าสารสนเทศที่มีอยู่มากมาย
10)
จัดองค์ความรู้ในรูปแบบที่สามารถใช้ได้ง่ายและสะดวก เพราะผู้ใช้แต่ละคนมีข้อจำกัดในการเข้าใช้สารสนเทศแตกต่างกัน
เช่นปัญหาในด้านภาษาจะต้องแปลให้เป็นภาษาที่ใช้กันโดยทั่วไปในชุมชน ปัญหาทางด้านจริยธรรมและวัฒนธรรม
อายุ และความพร้อมทางร่างกายและจิตใจ ซึ่งล้วนแต่เป็นอุปสรรคในการใช้สารสนเทศ