บันทึกเรื่องผี โดย โก๋กรุงเก่า...

ตอน... ผีโรงหนัง...

     สมัยผมเป็นเด็กผมชอบดูหนังมาก ตามต่างจังหวัด เวลาผมไปช่วยแม่ขายของที่ตลาดสดอำเภออินทร์บุรี ผมจะแอบหลบไปดูหนังเสมอ โรงหนังที่หลังตลาดสภาพไม่ค่อยดีนัก เพราะเป็นโรงหนังที่นำสังกะสีมาทำโดยการตีตะปูแปะติดกันทั้งโรง เวลาเข้าไปดูบรรยากาศจึงร้อนมาก ถึงแม้จะมีพัดลมช่วยบ้างก็ตาม อีกทั้งยังมืดสลัวทึบ ๆ ที่สำคัญมีกลิ่น เหม็นสาปด้วย

     เก้าอี้ที่ใช้นั่งดูก็เป็นเก้าอี้ยาวแบบมีพนักพิง ตัวหนึ่งนั่งดูกันได้หลายคนไม่ เหมือนสมัยนี้ที่โรงหนังได้พัฒนาขึ้นมามาก โดยเฉพาะที่กรุงเทพ ซึ่งเราจะเรียกกันว่าโรงภาพยนตร์อะไรทำนองนี้ มีทั้งระบบแสงสีเสียงสุดยอดอภิมหาจักรวาลบานตะเกียง เห็นมีโฆษณาเหมือนกันว่าเทียบเท่าระดับโลก อะไรมันจะไขนหนาดกันละหว่า... มันก็ดูหนังดูภาพยนตร์ได้เหมือนกันละวะ ผิดกันที่ราคาค่าดูที่สูงลิบลิ่วสำหรับโรงหนังใหญ่ ๆ ที่กรุงเทพ

     ปัจจุบันนี้ผมยังชอบหนีเมียไปนั่งดูหนังคนเดียวบ่อย ๆ บางทีก็ไปคุยกับเจ้าของโรงหนังบ้างอะไรทำนองนี้ เรื่องที่ผมกำลังเขียนให้คุณผู้อ่านฟังนี้ ผมก็เขียนขึ้นในโรงหนังนี่เองละครับโรงหนังที่ผมเอ่ยถึงนี้ก็คือ โรงหนังจักรวาลอยู่ตลาดพญาไท ติดกับโบสถ์แม่พระฟาติมา ราคาค่าดูแสนจะถูกแสนถูกเพียงสี่สิบบาทเท่านั้นเอง สำหรับหนังสองเรื่อง

     วันนี้มีหนังจีนกับหนังฝรั่ง ไม่บอกดีกว่าว่าเรื่องอะไร ที่ว่ามานี้ก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรื่องที่ผมจะเล่าให้ทุกท่านฟังสักเท่าไหร่หรอกครับ เพราะที่ผมบอกไว้ว่าสมัยผมเป็นเด็ก ซึ่งผมมักจะหนีแม่แอบไปดูหนังนั้น เรื่องมันนานมาแล้ว และมันก็เกิดขึ้นในโรงหนังนั่นเอง

     หลังจากซื้อตั๋วผ่านประตูเข้าไปนั่งสิกดาวน์ชมหนังไปได้สักครึ่งเรื่อง ผมก็รู้สึกปวดท้องอยากเข้าห้องน้ำขึ้นมาอย่างกระทันหัน เอาละซิแหมหนังกำลังมันส์เลยเรื่องแรกวันนี้เป็นหนังผีสยดสยองสะด้วย ห้องน้ำโรงหนังที่นี่ไม่ค่อยสะอาดหนัก แต่ก็กว้างขวางพอสมควรที่พอจะรองรับบรรดาพ่อหนุ่มทั้งหลายได้หลายสิบคน โดยเฉพาะโถฉี่นี่มีเป็นสิบ

     ผมรู้สึกแปลกใจว่าทำไมวันนี้ผู้คนไปไหนกันหมด ก็ได้คำตอบจากความคิดของตนเองว่าส่วนใหญ่พวกผู้ชายจะมาเข้าห้องน้ำตอนหนังจบ หรือไม่ก็ตอนจะเปลี่ยนขึ้นเรื่องใหม่อะไรอย่างนี้ มีแต่ผมเท่านั้นที่ประเภทไม่ค่อยจะมีความอดทนเหมือนกับคนอื่นเขาสักเท่าไหร่ ปวดปับก็ไปเข้าห้องน้ำเลย ห้องน้ำชายไม่มีใครมาใช้บริการเลย แถมก็มืดสลัว ๆ บรรยากาศวังเวงดีเหลือหลาย ทำไมมันถึงได้ประหยัดฟืนไฟอะไรกันขนาดนี้วะนี่

     ขณะที่ผมกำลังสาระวนกับภาระกิจลับสุดยอดส่วนตั้วส่วนตัวอยู่นั้น ยืนฉี่แบบสบายอารมณ์ครับ แหมอั้นไว้สะนานเหมือนกันนะนี่ เอ่อ....ค่อยยังชั่ว ขณะที่ผมกำลังยืนฉี่เพลินๆ อยู่นั้น ฉับพลันผมก็ต้องแปลกใจเพราะผมได้ยินเสียงคนยืนฉี่อยู่ใกล้ๆ ผมหันไปมองตามเสียงนั้น ภายใต้แสงสลัวของมุมมืด อ้าว...นั่นใครมายืนฉี่อยู่ที่ด้านในวะนั่น แม่งเยี่ยวหดตดหายหมดกู มาไม่ให้ซุ่มให้เสียง ผมนึกในใจ แต่ก็แปลกใจไม่น้อย เพราะยังไม่เห็นมีใครเดินผ่านด้านหลังผม ไปเลยแม้แต่คนเดียว

     ใจผมยิ่งเต้นแรงขึ้นเรื่อย ๆ จะไม่ให้เต้นแรงได้อย่างไรเล่าครับ ก็ในเมื่อคนที่ผม เห็นนั้นค่อย ๆ เหลียวหันกลับมามองผมเช่นกัน เมื่อตาต่อตามาบรรจบ รักแรกพบก็บังเกิด เอ๊ยไม่ใช่.... ความกลัวก็พุ่งปาดเข้ามาหาผมทันที คุณพระคุณเจ้าช่วยลูกด้วย นั่นมันใบหน้าคนหรือผีกันแน่วะนั่น ผมเผ้ายาวรุงรัง ใบหน้าถึงจะเห็นไม่ชัดเจนนัก แต่ก็น่าขยักแขยงสุดที่จะกล่าว นัยตาถลนล้นออกมาแดงกร่ำ แค่นั้นยังไม่พอ เพราะสิ่งที่ทำให้ผมแทบช็อกเป็นของแถมก็คือ เสียงที่หลุดออกมาจากปากปีศาจตนนั้น ผมจำได้ดีจนถึงบัดนี้

     "มาเยี่ยวคนเดียวหรือน้อง เฮอ ๆๆๆๆๆ" บรรลัยแล้วมึงผมอุทานสุดเสียง "ผีหลอก ๆๆๆ ช่วยด้วย ๆๆๆๆ ผีหลอกคนเยี่ยว"

     เสียงคนด่ากันลั่นโรงหนังผมได้ยินแว่ว ๆ ว่า

     "ไอ้ห่าเอ๊ยกำลังดูหนังผีสยองอยู่ เสือกแหกปากตะโกนขึ้นมาได้ ตกใจหมดเลย" และอีกหลาย ๆ เสียงที่ตกใจกับการกระทำของผมเช่นกัน ผมเองหลังจากงง ๆ อยู่พักใหญ่ก็ต้องตกใจ อ้าว...เวรแล้วกู เสือกนั่งให้หนังดู แทนที่จะมาดูหนัง ดันหลับฝันว่าถูกผีหลอกไปสะนี่ ฮะ ๆๆๆๆๆๆ ผมหัวเราะขำตัวเอง

     เห็นไหมเล่าครับคุณผู้อ่าน ผมนึกอยู่แล้วเชียวในโรงหนังจะมีผีได้อย่างไง มีแต่ผมนั่นแหละที่น่ากลัวกว่าผีเพราะแทนที่คนกำลังดูหนังผีจะกลัวผีบนจอ แต่ดันมากลัวและโกรธผมมากกว่า ที่ดันทะลึ่งฝันร้ายแล้วแหกปากตะโกน จนทำให้คนอื่นตกอกตกใจฝันหนีดีฟ่อ ไม่โดนถีบออกจากโรงหนังก็บุญแล้วครับ..…จริงไหมคุณผู้อ่าน...ฮะ ๆๆ

สวัสดี

โก๋กรุงเก่า

|| ผีต่างดาว || คืนนี้ผีดุ || ผีต้นมะม่วง || ผีต้นหว้า || ผีทะเล || ผีไร้ญาติ || ผีอีกา ||
|| วิญญาณเมืองโบราณ || วิญญาณเมืองลับแล || ผีโรงหนัง || ผีโรงแรม ||
|| ผีเที่ยงคืน || ผีเจ้าเล่ห์ || ผีบ้านผีเรือน || ผีคุ้งน้ำ || ผีบ้านร้าง || ผียาบ้า ||