เย็นวันหนึ่งขณะที่ผมกำลังกลับจากโรงเรียน
สมัยก่อนเส้นทางกลับบ้านยังเป็นป่าอยู่
บ้านที่ผมอยู่นั้นผู้เฒ่าผู้แก่เคยเล่าว่าเป็นเมืองเก่าสมัยทวาราวดี
มีเศษอิฐ เศษกระ
เบื้องแตกกระจัดกระจายอยู่มากมาย
สิ่งที่ผมกลัวมากที่สุดในสมัยเด็กก็คือการเดินทางกลับบ้านแล้วจะต้องเดินผ่านป่าแห่งนี้
นอกจากจะต้องเดินกลับบ้านคนเดียวแล้ว
ยังต้อง เดินกลับตอนเย็น ๆ
ใกล้พลบค่ำด้วย
เนื่องจากโรงเรียนอยู่ห่างไกล
โดยเฉพาะช่วงเวลาเย็นใกล้พลบค่ำนี่
เจ้านกฮูกนกเค้าแมวกำลังจะออกหากิน
เสียงหรีดหริ่งเรไรร่ำร้องดังสนั่นทั้งป่า
ช่างเป็นความสงบวิเวกวังเวงอย่างบอกไม่ถูก
วันหนึ่งขณะที่ผมกำลังเดินผ่านป่าอยู่นั้นเอง
ผมก็ต้องสะดุ้งสุดตัว
เพราะสิ่งที่ผมเห็นนั้นมันไม่ได้ใช่ป่าสะแล้ว
กลายเป็นคล้าย ๆ เมืองใหญ่ ๆ
สมัยโบราณ
แต่มองไม่ค่อยชัดเจนนัก
เห็นผู้คนกำลังเดินกันไปมาขวักไขว่
ผมเกือบไม่เชื่อตาตัวเองว่าเป็นไปได้อย่างไร
ด้วยความกลัวในสมัยเด็ก
ผมจึงวิ่งสุดตัวอย่างไม่เหลียวหลังกลับไปดูอีก
หลังจากวันนั้นเวลาผมจะเดินผ่านตรงที่ป่าแห่งนั้นอีก
ผมจะวิ่งอย่างเดียวเลยครับ
ไม่อยากจะเจออีกเข็ดจริงๆ
เมืองลับแล
คุณตาเคยเล่าให้ฟังว่าที่พวกเราอยู่นี้เป็นเมืองเก่าสมัยโบราณ
บางวันช่วงค่ำ ๆ
จะได้ยินเสียงดนตรีไทยโบราณฟังไพเราะจับใจมีคนเคยเห็นเมืองโบราณกันบ่อย
คาดว่าน่าจะเป็นพวกเมืองลับแลที่ยังคงมีอยู่
แต่อยู่คนละมิติกาลเวลา
สำหรับผมการได้เห็นสิ่งที่แปลกประหลาดในวัยเด็กย่อมเกิดความกลัวเป็นธรรมดา
มีคนเคยเล่ากันว่าในเมืองลับแลนั้นมีแก้วแหวนเงินทองมากมาย
ใครได้หลงเข้าไปจะได้รับทองคำเป็นแท่ง
ๆ กลับมา
แต่พอมาถึงบ้านทองเหล่านั้นก็จะกลับกลายเป็นเพียงก้อนหินธรรมดา
เป็นเรื่องราวที่คนสมัยก่อนเล่าต่อ
ๆ กันมา
เมืองลับแลจะมีจริงหรือไม่ผมไม่ทราบ
แต่ที่แน่ ๆ ผมเห็นมาแล้ว
เห็นจนต้องโกยอ้าวเลยแหละครับ
สวัสดี
โก๋กรุงเก่า |