บันทึกเรื่องผี โดย โก๋กรุงเก่า...

ตอน... ผีคุ้งน้ำ...

     พูดถึงน้ำ ไม่ว่าจะแม่น้ำ ห้วย หนอง คลอง บึง ก็คงจะธรรมดา ใคร ๆ ก็ เคยเห็นเคยลงไปเล่น ให้เย็นฉ่ำกันทั้งนั้น แต่สำหรับผมแล้ว เมื่อก่อนอาจจะนึกสนุกสนานกับการเล่นน้ำ พูดง่าย ๆ ว่าให้แช่เล่นทั้งวันก็ไม่เป็นไร ชอบอยู่แล้ว ยิ่งแบ่งเป็นสองพวกแล้วเอาขี้ดินขว้างปากันก็ยิ่งสนุกนัก ใครไม่เคยเล่นไม่รู้หรอกว่ามันโคตรจะมันขนาดไหน วิธีเล่นน้ำให้สนุกนั้น มีหลายวิธีด้วยกัน เช่น การดำน้ำแข่งกัน อันนี้ในฐานะจอมอึดแห่งหมู่บ้านคูเมือง ผมไม่เป็นรองใครเหมือนกัน วิธีเล่นก็ง่าย ๆ ครับ คือใครดำได้นานและไกลกว่ากัน อย่างของผมคือ ก่อนจะดำก็ต้องสูด ลมหายใจลึก ๆ ก่อน แล้วก็ดำพร้อมกับเอาเท้าถีบดินพรุ่งตัวไปให้ไกลสุดแรงเกิด และที่สำคัญต้องเป็นเส้นตรงด้วย เชื่อได้เลยว่าตำแหน่ง แชมเปี้ยนการดำน้ำต้องเป็นของเราอย่างแน่นอน

     แถวบ้านนอก ชาวบ้านมักจะทอดแหหาปลากันบ่อย โดยเฉพาะหมดฤดูทำนาการหว่านแห หรือภาษาชาวบ้านเรียกกันว่า ทอดแห นั้น ใช่ว่าใครก็จะทอดได้ทุกคน อันนี้จะชี้แจงแถลงไขให้ฟัง การทอดแหที่ดีจะต้องขึ้นแหให้สวยงาม จับแหออกเป็นท่อน ๆ ขึ้นแข้งขึ้นขา ตวัดแหไปด้านหลัง แล้วใช้ศอกยกขึ้นเอาแหพาดไว้ ทีนี้ด้านหน้าก็ต้องโก่งขาเล็กน้อยให้ดูสวยงาม จัดวาดวง ให้ดูดี ยิ่งอธิบายก็ยิ่งงง เอาเป็นว่า การขึ้นแหเพื่อเตรียมจะทอดปลานั้น มันเป็นเรื่องของศาสตร์และศิลป์ ที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว เป็นวิธีการที่จำเป็นจะต้องฝึกหัดกันจนเชี่ยวชาญ ใครขึ้นแหไม่สวย ไม่เข้าที จะโดนปลามันหัวเราะเยาะเอาพูดเล่นนะครับ เมื่อขึ้นแหได้ดูดีแล้ว ก็ต้องรอล่ะทีนี้ บางทีรอจนอ่อนอกอ่อนใจเลยก็มี คือ รอเวลาให้ปลามันขึ้นมาหายใจ เมื่อมันขึ้นมาแล้วก็ต้องดูและสังเกต คลาดเดาอีกว่าเป็นปลาอะไร ไม่ใช่ว่า เป็นแค่ปลากระดี่ขึ้นแล้วก็ทอดแหเลย อันนี้ เป็นได้โดนแซวให้อับอายกันแน่นอน

     การขึ้นมาหายใจของปลาแต่ละชนิดมีวิธีที่แตกต่างกัน พอจะอธิบายคล่าว ๆ ได้ว่า ถ้าเป็นปลาช่อนนี่ น้ำเขาจะหมุนวนสวยงาม มีน้ำหนัก และวงใหญ่ คุณพ่อผมเก่งมาก ๆ เวลาปลาขึ้นนี่ รู้เลยว่าเป็นปลาชนิดใด น้ำหนักประมาณเท่าไร และทิศทางการว่ายจะไปทางด้านใด จะต้องทำการทอดแหไปดัก เพื่อให้ได้ปลาตัวนั้น วิธีการทอดแห เป็นวิชาสำคัญอย่างยิ่งยวด สำหรับหนุ่มบ้านนอก ผมเองถึงแม้จะได้เรียนหนังสือสูงพอสมควร แต่วิชาการดำรงชีพแบบลูกชาวบ้านชนบท ผมยังคงจดจำได้ดี และไม่มีวันที่จะลืมเลือนไปจากสมองไปได้ ความจริงผมเป็นคนกลัวบาปอยู่เหมือนกัน ระยะหลังวิธีการฆ่าสัตว์ตัดชีวิตจึงได้เลิกไป หันมาจับปากกาเขียนหนังสือแทน

     จะเล่าเรื่องผีคุ้งน้ำ แต่ก็โม้เรื่องการทอดแหหาปลาไปสะยาวเลย เอาเป็นว่ามันก็ เกี่ยวกับเรื่องน้ำเหมือนกันนั่นแหละ ทีนี้มาเข้าเรื่องกันดีกว่า วัดการ้องเป็นวัดที่ใกล้กับหมู่บ้านผมมากที่สุด สรรพคุณในเรื่องภูติผีปีศาจผมก็ได้อาศัยแหล่งข้อมูลของที่วัดนี้เป็นหลักใหญ่ เพราะผีมักจะมาจากป่าช้า และป่าช้าก็ต้องอยู่ที่วัด หรือใครจะเถียงผม เดี๋ยวให้ผีหักคอเลยนะจะหาว่าไม่เตือน คุ้งน้ำหลังวัดการ้องมีต้นตะเคียนคู่ใหญ่สูงตระหง่าน แลดูน่าวังเวงยิ่งนัก แล้วที่สำคัญคุ้งน้ำนี้ ผีดุที่สุด เพราะเป็นเขตป่าช้าของวัดนั่นเอง ลุงเชื่อมแกยึดอาชีพหาปลามาตั้งแต่สมัยรุ่นหนุ่ม ทุกท่านคงจะเคยได้ยินคำว่า แม่ลาการ้อง หรือแม่ลาปลาเผา กันบ้าง ใช่เลยครับ ลำการ้องที่ว่า ก็คือที่นี่แหละครับ

     ลุงเชื่อมแกชอบลง เบ็ดเวลากลางคืนเป็นประจำความที่แกเป็นคนขยัน เอาจริงเอาจังกับการทำงานในอาชีพของแก ผมจึงมักจะเห็นแก กับเรือพายที่แกชอบพายไปลงเบ็ดลงข่ายเสมอ ปลาที่นี่ชุกชุมมาก ยิ่งในฤดูน้ำหลาก นำจะเอ่อล้นมาจนเกือบท่วมบริเวณวัด แต่ก็ไม่เคยมีข่าวว่าวัด ถูกน้ำท่วม ป้าแถมป้าของผม เล่าให้ฟังว่า ที่ใต้วัดมีเรือสุพรรณหงส์หนุนวัดอยู่ทำให้น้ำไม่ท่วม พอน้ำมาก เรือก็จะหนุนให้ลอยขึ้นตามระดับน้ำ ถึงแม้บ้านของชาวบ้านจะถูกน้ำท่วม ซึ่งก็เป็นบริเวณใกล้ ๆ วัดนั่นเอง แต่ก็แปลกที่วัดน้ำไม่เคยท่วมเลยสักปีเดียว คุณผู้อ่านว่าแปลกไหมครับ

     มีอยู่คืนหนึ่งลุงเชื่อมแกนึกอุตริหรือเพี้ยนไปหรือเปล่าก็ไม่ทราบได้ ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าบริเวณท้ายวัดเป็นเขตปลอดมนุษย์ในยามวิกาล เพราะเป็นที่เสวนาของบรรดาผี ๆ เขา เท่านั้น แกกลับพายเรือเลียบไปวางเบ็ดวางข่ายหาปลาเฉยเลย ตั้งแต่หัววัน จนชาวบ้านผ่านมาเห็นเข้าก็นึกสงสัย และทักทายกล่าวด้วยความหวังดีว่า

     "เฮ้ย ตาเชื่อมนั่นแกบ้าหรือเปล่ามาหาปลาแถวนี้ ไม่รู้หรือไงว่าผีมันดุขนาดไหน" ป้าขาว พูดยังไม่ทันขาดคำ เสียงน้ำดังตูมใหญ่ดังสวนขึ้นมาทันควัน จนทำให้การสนทนาหยุดลงไปพักใหญ่ ผสมความเงียบในเวลาเย็นใกล้จะค่ำ

     "นั่นแน่ พึ่งจะลงเบ็ดไปได้หน่อยเดียว เสียงปลาขึ้นต้อนรับแล้วไง" ลุงเชื่อมกล่าวติดตลก แบบชอบอก ชอบใจ แต่สำหรับป้าขาวแล้ว ไม่อยากจะฟังสักเท่าไร เพราะรู้สึกหนาว ๆ ร้อน ๆ อยากจะเผ่นอยู่เหมือนกัน

     "งั้นเชิญแกตามสบายเหอะ ฉันไปดีกว่า" ป้าขาวกล่าวจบก็รีบจ้ำอ้าว กลับบ้าน ไปทันที

     "อะไรกัน ยายขาว แค่เสียงปลาขึ้นมาหายใจแค่นี้ ก็กลัวแล้วหรือ ฮาๆๆๆๆ" ลุงเชื่อมนี่ แกขี้ตลกจริง ๆ คงจะเป็นเพราะแกมักจะหากินในเวลาค่ำคืนอยู่เสมอ ทำให้ไม่รู้สึกหวาดกลัวอะไรมากนัก บางทีหนนี้แกคงจะได้บทเรียนอะไรบางอย่างบ้างก็เป็นได้ ผมคิด เอาเองครับ

     รุ่งเช้าของวันใหม่ มีคนพบศพของลุงเชื่อมลอยขึ้นอืดบริเวณป่าช้า ไม่มีใครทราบได้ว่า ลุงเชื่อมแกเกิดนึกเบื่อโลกอะไรขึ้นมา จึงได้ลงไปนอนจมน้ำตายให้เป็นที่วิพากวิจารย์กันไปทั้งหมู่บ้านอยู่นานพอสมควร มีคนได้ยินเสียงลุงเชื่อม แต่ได้ยินไม่ชัดนัก เสียงร้องให้ช่วยด้วย ๆ แต่ใครเล่าจะกล้าออกไปช่วยแก โดยเฉพาะบริเวณป่าช้าวัดการ้องในยามค่ำคืนเช่นนั้น หลายคนพูดกันว่า สงสัยแกจะโดนผีคุ้งน้ำเล่นงานจนต้องตายเป็นแน่ บางคนก็ว่าแกอาจจะเป็นลมแล้วร่วงน้ำหายใจไม่ออกตาย หลายคนให้ความเห็นกันไป แต่ก็คงพิสูจน์ไม่ได้หรอก นอกจากจะปลุกผีลุงเชื่อมให้มาพูดมาเล่าให้ฟัง แต่ก็นั่นแหละใครเล่าจะรอฟังแกเล่า เพราะถ้าขืนแกลุกขึ้นมาจริง ๆ เป็นได้เผ่นกันป่าราบเป็นแน่

     ไปสู่สุคติเถิดลุงเชื่อม คนเรานี่ผิดพลาดเพียงครั้งเดียวในชีวิต ก็มีสิทธิ์ไปเมืองผีได้เหมือนกันนะนี่ เวรกรรมจริง ๆ เมื่อไรความยากจนจะหมดไปจากหมู่บ้านของเราเสียที การทำมาหากินกับความเจ็บปวดของสัตว์อื่น ๆ จะได้ลดน้อยลงไป ถึงแม้จะเป็นปลาก็เถอะ เอาเป็นว่า ถ้าคนมีหนทางเลือกที่ดีกว่านี้ได้ ก็คงจะดีไม่น้อย ใครกันล่ะจะมอบโอกาสดีให้กับชาวบ้านในชนบทหรือกับลูกชาวไร่ชาวนาอย่างพวกกระผม ผมมีโอกาสได้กลับไปเยี่ยมบ้านบ้าง แต่ก็พบกับสิ่งน่าอนาจใจ ยาบ้ามหันตะภัยร้ายได้คุกคามหมู่บ้านของผม เพื่อน ๆ หลายคนติดยากันงอมแงม ที่โดนจับไปติดคุกติดตะรางก็มี ตายในคุกก็มี ชีวิตจริงมันเป็นอย่างนี้แหละประเทศชาติเอ๋ย...

สวัสดี

โก๋กรุงเก่า

|| ผีต่างดาว || คืนนี้ผีดุ || ผีต้นมะม่วง || ผีต้นหว้า || ผีทะเล || ผีไร้ญาติ || ผีอีกา ||
|| วิญญาณเมืองโบราณ || วิญญาณเมืองลับแล || ผีโรงหนัง || ผีโรงแรม ||
|| ผีเที่ยงคืน || ผีเจ้าเล่ห์ || ผีบ้านผีเรือน || ผีคุ้งน้ำ || ผีบ้านร้าง || ผียาบ้า ||