หลายคนคงจะนึกสงสัยว่านกอีกา
ทำไมจึงมีสีดำ
คำถามที่เป็นปัญหาโลกแตกอย่างนี้คงจะทำให้ผู้ถูกถามเกิดอาการคั่นเนื้อคั่นตัว
อยากจะรีบลุกยืนมาเตะปากคนถามขึ้นมาก็เป็นได้
ความจริงสีของนกอีกาคงจะดำสนิทเป็นเช่นนี้มาช้านาน
สาเหตุที่ถูกเรียกว่าอีกา
ก็คงจะเป็นเสียงร้องของเขามากกว่า
เพราะเวลาหิวเขาจะร้อง กา กา
กาๆๆๆ แล้วบินไปเรื่อย ๆ
อีกาเป็นนกที่มีความอดทนในความหิวสูงมาก
จนมีการเปรียบเทียบว่าอดอย่าอีกา
ถือว่าใช้ได้
เพราะแม้จะหิวสักเพียงใด
อีกาก็ยังคงบินวนเวียนหาอาหารกิน
อยู่ร่ำไป และที่สำคัญก็คือ
บรรดาลูก ๆ ของมันที่รังนั่นเอง
อาจจะมีเจ้านกกาเหว่ามาไข่
ไว้ให้ด้วยก็ไม่ทราบได้
เพราะเคยได้ยินว่า
กาเอ๋ยกาเหว่าไข่ไว้ให้แม่กาฟัก
แม่กาก็หลงรัก นึกว่าลูกในอุทร
ซึ่งได้ยินมาแต่สมัยเด็กจวบจนวัยได้เข้ารับการศึกษา
อีกาเป็นสัตว์ปีกออกลูกเป็นไข่
ความฉลาดของอีกาทำให้มันสามารถดำรงเผ่าพันธุ์มาได้ยาวนาน
สีของอีกาดำสนิท
เคยมีคำกล่าวต่อว่าผู้หญิงผิวดำแล้วทาปากสีแดงว่า
อีกาคาบพริก
เนื่องจากสีแดงกับสีดำตัดกันมาก
ๆ
แถวสวนสัตว์ดุสิตซึ่งอยู่ตรงกันข้ามกับอาคารรัฐสภาผมได้เคยมีโอกาสไปเที่ยวบ่อย
ๆ
เพราะไปติดสาวแถวนั้นอยู่ช่วงหนึ่งปัจจุบันก็คือแม่บ้านจอมดุของผมเอง
แต่เรื่องราวที่ผมจะเล่าให้คุณผู้อ่านฟังนี้
อาจจะไม่เกี่ยวกับสวนสัตว์ดุสิตหรืออาคารรัฐสภาไทยสักเท่าไร
หากแต่เป็นการเกริ่นนำว่า
นกอีกานั้นมีอุปนิสัยใจคอ
และพบเห็นที่ใดได้บ้าง
เคยทราบมาว่าอีกาถูกนำมาเลี้ยงที่ประเทศมาเลเซียจำนวนมาก
เพื่อเอาไว้กำจัดศัตรูพืชพวกแมลงต่าง
ๆ จนแพร่หลายมากมาย
และบางส่วนได้ย้ายถิ่นฐานมาอยู่ในประเทศไทย
โดยเฉพาะที่บริเวณสวนสัตว์ดุสิตก็มีให้เห็นอยู่จำนวนมาก
สมัยเด็กผมมีนิสัยเกเรมาก
ๆ ชอบยิงนกตกปลาเป็นประจำ
โดยเฉพาะหนังสะติ๊กของผมนั้น
หากได้ถูกปล่อยลูกกระสุนไปแล้วรับรองผลได้ว่า
จะถึงเป้าหมายพร้อมกับเหยื่อร่วงลงมานอนสงบคาที่อย่างแน่นอนเกือบจะพันเปอร์เซ็นต์
ด้วยฝีมือการยิงที่เฉียบขาด
ทำให้เป็นที่หวาดผวาของบรรดาสัตว์น้อยใหญ่ในระแวกป่าใกล้บ้านเป็นอันมาก
ไม่ว่าผมจะเหยียบย่างกายไป ณ
แห่งหนตำบลใด
บริเวณแถบนั้นจะต้องเงียบสงบลงจนไม่มีแม้แต่เสียงนก
เสียงกาให้ได้ยิน
นี่คือความสามารถเฉพาะตัวที่มีเด็กน้อยคนนักจะทำได
้
ด้วยความเชี่ยวชาญชำนาญการยิงอย่างแม่นยำ
ทำให้ผมเกิดความได้ใจ
ไม่ว่าจะเป็นป่าละเมาะ
หรือป่าลึก
ผมไม่เคยหวั่นขอเพียงมีเพื่อนคู่ใจก็คือเจ้าหนังสะติ๊กนี่เอง
มีอยู่วันหนึ่งด้วยความคึกคะนองผสมกับความระห่ำ
ผมได้เดินท่องเที่ยวไปในป่าลึก
ซึ่งเต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ปกคลุมมืดครึ้มสลัววังเวงดูน่ากลัวไม่น้อย
ทำให้อดรู้สึก กลัว ๆ
บ้างเหมือนกัน
แต่ก็ยังอุ่นใจอยู่บ้างเพราะขณะนั้นเวลายังเป็นกลางวันอยู่หากจะมีเรื่องภูตผีก็คงจะไม่กล้าหลอกกลางวันหรอก
นั่นเป็นสิ่งที่ผู้ใหญ่เคยเล่าให้ฟังว่า
ผีนั้นมักจะหลอกตอนกลางคืน
ผมเดินลึกเข้าไปเรื่อยด้วยความเพลิดเพลิน
ความเงียบทำให้ผมอดนึกในใจไม่ได้ว่า
วันนี้ทำไมเหยื่อมันหนีหายไปไหนหมด
ปกติเดินเข้าป่าได้ไม่นานก็น่าจะมีอะไรล่อตาล่อเป้าให้ประเดิมความแม่นยำบ้าง
แต่แล้วผมก็สะดุ้งสุดตัว กา ๆๆๆ
เสียงนกอีการ้อง
ดังสนั่นก้องป่าไปหมด ผมแทบช็อก
หนอยเล่นกะใครไม่เล่นดันมาล้อเล่นกับเซียนหนังสะติ๊กเช่นเรา
ให้มันรู้ดำรู้แดงกันไปเลย
ผมนึกกระหยิ่มในใจที่จะได้ประลองฝีมือบ้างแล้ว
หลังจากรอเวลามานาน
ผมมองหาเจ้าของเสียง
ผมถึงกับร้องอุทาน
อุบ๊ะวันนี้เป้าใหญ่จริง ๆ
อีกาตัวใหญ่ขนาดแม่ไก่
กำลังจับอยู่บนกิ่งต้นไม้ใหญ่
นึกสงสัยอยู่เหมือนกันว่าทำไมตัวมันถึงได้ใหญ่โตอะไรเช่นนั้น
ด้วยความเป็นเด็กจึงมิได้เฉลียวใจ
คิดว่านกที่อายุมาก ๆ
มันคงจะตัวใหญ่ก็ได้
ดวงตาแดงแทบจะถลนคู่นั้นจับจ้องมายังร่างผมเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ
อ้าวอย่างงี้ก็เหมือนท้าทายกันละซิ
ด้วยความทะนงในฝีมือ
ผมรีบนำลูกกระสุนใส่รังหนังวัว
เหนี่ยวหนังสะติ๊กจนยืดยาวไปสุดแรง
พร้อมกับเล็งไปยังร่างของอีกาจอมกวน
และกำลัง เคราะห์ร้ายทันที
ขณะที่ตาต่อตาประสานกันนั้น
ยังมิทันที่ผมจะลั่นกระสุนดินที่ผมปั้นขึ้นมากับมือออกไป
ผมก็ต้องสะดุ้งสุดตัวอีกครั้งหนึ่งเมื่อสิ่งที่ผมกำลังจ้องจะยิงอยู่นั้นมันไม่ใช่อีกาเสียแล้ว
ร่างของอีกาได้กลับกลายเปลี่ยนร่างของคนรูปร่างแคระ
ผมเผ้ารุงรังเอามือข้างหนึ่งโหนกับกิ่งต้นไม้จ้องมองมายังผมด้วยดวงดำแดงดั่งเปลวไฟครุกโชน
บ่งบอกถึง
ความอาฆาตเครียดแค้นจนสุดประมาณ
แค่นั้นยังไม่พอยังแลบลิ้นปลิ้นตาหลอกหลอนผมจนสุดที่ผมจะหยุดกลั้นความกลัวไว้ได้
ท้ายที่สุดผมก็ต้องร้องออกมาอย่างสุดเสียง
ผี ๆๆๆๆๆๆ ช่วยด้วย ๆๆๆๆๆๆๆๆ
ผมวิ่งมานานเท่าไรก็ไม่ทราบได้จนหนีหลุดออกมาจากป่าด้วยตัวเปล่า
ความหวาดกลัวทำให้ผมทิ้งทุกอย่างแม้กระทั่งเจ้าหนังสะติ๊กคู่ใจ
รู้สึกเสียดายมากเหมือนกัน
ผมไม่เคยห่างมันเลย
แต่หนนี้เจ้าเพื่อนรัก
คงต้องทิ้งแกไว้ในป่ากับเจ้าผีตัวนั้นก่อน
แล้วก็คงไม่มีวันที่ย้อนกลับไปหาแกอีกอย่างหัวเด็ดตีนขาด
ไม่เอาอีกแล้วยิงนกตกปลา
หลังจากโดนผีนกอีกาหลอกครั้งนั้น
ผมก็กลับตัวกลับใจเป็นเด็กดีมุ่งมั่นต่อการเรียนการศึกษา
เอาเวลาว่างไปช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
จนได้รับรางวัลเป็นของขวัญที่ผมเห็นแล้วทำให้ผมต้องอดคิดถึงความสยดสยองในครั้งนั้นอีกไม่ได้
ก็ในเมื่อพ่อแม่เห็นผมไม่มีเจ้าหนังสะติ๊กคู่ใจ
ท่านจึงซื้อให้ใหม่อีกหนึ่งคู่เมินสะเถอะที่ผมจะกลับไปจับมันอีก
ใครจะไปรู้ได้ว่าเจ้าหนังสะติ๊กคู่นี้อาจจะนำผมไปพบกับความสยองขวัญเกินจะบรรยายอีกหรือเปล่า
ก็ไม่อาจ คาดเดาได้
ไม่เอาอีกแล้ว
ผีอีกา
.นัยน์ตาแดงกร่ำ
.จ้องจะขย้ำกินเลือดกินเนื้อ........
หากแม้นผมขยับ
ชีวิตอาจไม่เหลือใช่ผมจะเบื่อ
แต่เพื่อรักษาสติสตางค์ไว้....
.
ผมยังไม่เคยลืมภาพแห่งความสยดสยองนั้นเลย
กลัวเกินจะลืมครับ คุณผู้อ่าน
สวัสดี
โก๋กรุงเก่า |