บันทึกเรื่องผี โดย โก๋กรุงเก่า...

ตอน... ผีอีกา...

     หลายคนคงจะนึกสงสัยว่านกอีกา ทำไมจึงมีสีดำ คำถามที่เป็นปัญหาโลกแตกอย่างนี้คงจะทำให้ผู้ถูกถามเกิดอาการคั่นเนื้อคั่นตัว อยากจะรีบลุกยืนมาเตะปากคนถามขึ้นมาก็เป็นได้ ความจริงสีของนกอีกาคงจะดำสนิทเป็นเช่นนี้มาช้านาน สาเหตุที่ถูกเรียกว่าอีกา ก็คงจะเป็นเสียงร้องของเขามากกว่า เพราะเวลาหิวเขาจะร้อง กา กา กาๆๆๆ แล้วบินไปเรื่อย ๆ อีกาเป็นนกที่มีความอดทนในความหิวสูงมาก จนมีการเปรียบเทียบว่าอดอย่าอีกา ถือว่าใช้ได้ เพราะแม้จะหิวสักเพียงใด อีกาก็ยังคงบินวนเวียนหาอาหารกิน อยู่ร่ำไป และที่สำคัญก็คือ บรรดาลูก ๆ ของมันที่รังนั่นเอง อาจจะมีเจ้านกกาเหว่ามาไข่ ไว้ให้ด้วยก็ไม่ทราบได้ เพราะเคยได้ยินว่า กาเอ๋ยกาเหว่าไข่ไว้ให้แม่กาฟัก แม่กาก็หลงรัก นึกว่าลูกในอุทร… ซึ่งได้ยินมาแต่สมัยเด็กจวบจนวัยได้เข้ารับการศึกษา

     อีกาเป็นสัตว์ปีกออกลูกเป็นไข่ ความฉลาดของอีกาทำให้มันสามารถดำรงเผ่าพันธุ์มาได้ยาวนาน สีของอีกาดำสนิท เคยมีคำกล่าวต่อว่าผู้หญิงผิวดำแล้วทาปากสีแดงว่า อีกาคาบพริก เนื่องจากสีแดงกับสีดำตัดกันมาก ๆ แถวสวนสัตว์ดุสิตซึ่งอยู่ตรงกันข้ามกับอาคารรัฐสภาผมได้เคยมีโอกาสไปเที่ยวบ่อย ๆ เพราะไปติดสาวแถวนั้นอยู่ช่วงหนึ่งปัจจุบันก็คือแม่บ้านจอมดุของผมเอง แต่เรื่องราวที่ผมจะเล่าให้คุณผู้อ่านฟังนี้ อาจจะไม่เกี่ยวกับสวนสัตว์ดุสิตหรืออาคารรัฐสภาไทยสักเท่าไร หากแต่เป็นการเกริ่นนำว่า นกอีกานั้นมีอุปนิสัยใจคอ และพบเห็นที่ใดได้บ้าง เคยทราบมาว่าอีกาถูกนำมาเลี้ยงที่ประเทศมาเลเซียจำนวนมาก เพื่อเอาไว้กำจัดศัตรูพืชพวกแมลงต่าง ๆ จนแพร่หลายมากมาย และบางส่วนได้ย้ายถิ่นฐานมาอยู่ในประเทศไทย โดยเฉพาะที่บริเวณสวนสัตว์ดุสิตก็มีให้เห็นอยู่จำนวนมาก

     สมัยเด็กผมมีนิสัยเกเรมาก ๆ ชอบยิงนกตกปลาเป็นประจำ โดยเฉพาะหนังสะติ๊กของผมนั้น หากได้ถูกปล่อยลูกกระสุนไปแล้วรับรองผลได้ว่า จะถึงเป้าหมายพร้อมกับเหยื่อร่วงลงมานอนสงบคาที่อย่างแน่นอนเกือบจะพันเปอร์เซ็นต์ ด้วยฝีมือการยิงที่เฉียบขาด ทำให้เป็นที่หวาดผวาของบรรดาสัตว์น้อยใหญ่ในระแวกป่าใกล้บ้านเป็นอันมาก ไม่ว่าผมจะเหยียบย่างกายไป ณ แห่งหนตำบลใด บริเวณแถบนั้นจะต้องเงียบสงบลงจนไม่มีแม้แต่เสียงนก เสียงกาให้ได้ยิน นี่คือความสามารถเฉพาะตัวที่มีเด็กน้อยคนนักจะทำได ้ ด้วยความเชี่ยวชาญชำนาญการยิงอย่างแม่นยำ ทำให้ผมเกิดความได้ใจ ไม่ว่าจะเป็นป่าละเมาะ หรือป่าลึก ผมไม่เคยหวั่นขอเพียงมีเพื่อนคู่ใจก็คือเจ้าหนังสะติ๊กนี่เอง

     มีอยู่วันหนึ่งด้วยความคึกคะนองผสมกับความระห่ำ ผมได้เดินท่องเที่ยวไปในป่าลึก ซึ่งเต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ปกคลุมมืดครึ้มสลัววังเวงดูน่ากลัวไม่น้อย ทำให้อดรู้สึก กลัว ๆ บ้างเหมือนกัน แต่ก็ยังอุ่นใจอยู่บ้างเพราะขณะนั้นเวลายังเป็นกลางวันอยู่หากจะมีเรื่องภูตผีก็คงจะไม่กล้าหลอกกลางวันหรอก นั่นเป็นสิ่งที่ผู้ใหญ่เคยเล่าให้ฟังว่า ผีนั้นมักจะหลอกตอนกลางคืน ผมเดินลึกเข้าไปเรื่อยด้วยความเพลิดเพลิน ความเงียบทำให้ผมอดนึกในใจไม่ได้ว่า วันนี้ทำไมเหยื่อมันหนีหายไปไหนหมด ปกติเดินเข้าป่าได้ไม่นานก็น่าจะมีอะไรล่อตาล่อเป้าให้ประเดิมความแม่นยำบ้าง แต่แล้วผมก็สะดุ้งสุดตัว กา ๆๆๆ เสียงนกอีการ้อง ดังสนั่นก้องป่าไปหมด ผมแทบช็อก หนอยเล่นกะใครไม่เล่นดันมาล้อเล่นกับเซียนหนังสะติ๊กเช่นเรา ให้มันรู้ดำรู้แดงกันไปเลย ผมนึกกระหยิ่มในใจที่จะได้ประลองฝีมือบ้างแล้ว หลังจากรอเวลามานาน

     ผมมองหาเจ้าของเสียง ผมถึงกับร้องอุทาน อุบ๊ะวันนี้เป้าใหญ่จริง ๆ อีกาตัวใหญ่ขนาดแม่ไก่ กำลังจับอยู่บนกิ่งต้นไม้ใหญ่ นึกสงสัยอยู่เหมือนกันว่าทำไมตัวมันถึงได้ใหญ่โตอะไรเช่นนั้น ด้วยความเป็นเด็กจึงมิได้เฉลียวใจ คิดว่านกที่อายุมาก ๆ มันคงจะตัวใหญ่ก็ได้ ดวงตาแดงแทบจะถลนคู่นั้นจับจ้องมายังร่างผมเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ อ้าวอย่างงี้ก็เหมือนท้าทายกันละซิ ด้วยความทะนงในฝีมือ ผมรีบนำลูกกระสุนใส่รังหนังวัว เหนี่ยวหนังสะติ๊กจนยืดยาวไปสุดแรง พร้อมกับเล็งไปยังร่างของอีกาจอมกวน และกำลัง เคราะห์ร้ายทันที ขณะที่ตาต่อตาประสานกันนั้น ยังมิทันที่ผมจะลั่นกระสุนดินที่ผมปั้นขึ้นมากับมือออกไป ผมก็ต้องสะดุ้งสุดตัวอีกครั้งหนึ่งเมื่อสิ่งที่ผมกำลังจ้องจะยิงอยู่นั้นมันไม่ใช่อีกาเสียแล้ว ร่างของอีกาได้กลับกลายเปลี่ยนร่างของคนรูปร่างแคระ ผมเผ้ารุงรังเอามือข้างหนึ่งโหนกับกิ่งต้นไม้จ้องมองมายังผมด้วยดวงดำแดงดั่งเปลวไฟครุกโชน บ่งบอกถึง ความอาฆาตเครียดแค้นจนสุดประมาณ แค่นั้นยังไม่พอยังแลบลิ้นปลิ้นตาหลอกหลอนผมจนสุดที่ผมจะหยุดกลั้นความกลัวไว้ได้ ท้ายที่สุดผมก็ต้องร้องออกมาอย่างสุดเสียง ผี ๆๆๆๆๆๆ ช่วยด้วย ๆๆๆๆๆๆๆๆ

     ผมวิ่งมานานเท่าไรก็ไม่ทราบได้จนหนีหลุดออกมาจากป่าด้วยตัวเปล่า ความหวาดกลัวทำให้ผมทิ้งทุกอย่างแม้กระทั่งเจ้าหนังสะติ๊กคู่ใจ รู้สึกเสียดายมากเหมือนกัน ผมไม่เคยห่างมันเลย แต่หนนี้เจ้าเพื่อนรัก คงต้องทิ้งแกไว้ในป่ากับเจ้าผีตัวนั้นก่อน แล้วก็คงไม่มีวันที่ย้อนกลับไปหาแกอีกอย่างหัวเด็ดตีนขาด ไม่เอาอีกแล้วยิงนกตกปลา หลังจากโดนผีนกอีกาหลอกครั้งนั้น ผมก็กลับตัวกลับใจเป็นเด็กดีมุ่งมั่นต่อการเรียนการศึกษา เอาเวลาว่างไปช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน จนได้รับรางวัลเป็นของขวัญที่ผมเห็นแล้วทำให้ผมต้องอดคิดถึงความสยดสยองในครั้งนั้นอีกไม่ได้ ก็ในเมื่อพ่อแม่เห็นผมไม่มีเจ้าหนังสะติ๊กคู่ใจ ท่านจึงซื้อให้ใหม่อีกหนึ่งคู่เมินสะเถอะที่ผมจะกลับไปจับมันอีก ใครจะไปรู้ได้ว่าเจ้าหนังสะติ๊กคู่นี้อาจจะนำผมไปพบกับความสยองขวัญเกินจะบรรยายอีกหรือเปล่า …ก็ไม่อาจ คาดเดาได้…ไม่เอาอีกแล้ว ผีอีกา….นัยน์ตาแดงกร่ำ….จ้องจะขย้ำกินเลือดกินเนื้อ........…หากแม้นผมขยับ ชีวิตอาจไม่เหลือใช่ผมจะเบื่อ แต่เพื่อรักษาสติสตางค์ไว้....…. ผมยังไม่เคยลืมภาพแห่งความสยดสยองนั้นเลย กลัวเกินจะลืมครับ คุณผู้อ่าน

สวัสดี

โก๋กรุงเก่า

|| ผีต่างดาว || คืนนี้ผีดุ || ผีต้นมะม่วง || ผีต้นหว้า || ผีทะเล || ผีไร้ญาติ || ผีอีกา ||
|| วิญญาณเมืองโบราณ || วิญญาณเมืองลับแล || ผีโรงหนัง || ผีโรงแรม ||
|| ผีเที่ยงคืน || ผีเจ้าเล่ห์ || ผีบ้านผีเรือน || ผีคุ้งน้ำ || ผีบ้านร้าง || ผียาบ้า ||