สมัยเด็ก
คุณแม่พาผมไปฝากไว้กับหลวงตาที่วัด
ซึ่งเป็นวัดบ้านนอกยังห่างไกลความเจริญมาก
สิ่งที่น่ากลัวของวัดคงจะไม่มีใครกล้าปฏิเสธก็คือป่าช้า
การเดินผ่านป่าช้าในเวลาค่ำคืนนับเป็นความน่าสะพึงกลัว
สยดสยองยิ่งนัก
เสียงนกฮูกร้องท่ามกลาง
ความเงียบสงบของป่าช้า
ทำให้สติแทบเตลิดเปิดเปิงไปไกลแสนไกล
ถ้ามีคนท้าให้ผมเดินผ่านป่าช้าวัดการ้องในยามค่ำคืนหรือแม้กระทั่งเวลากลางวันเสก
ๆ
ผมคงจะบอกขอผ่านเลยไปก่อนดีกว่า
ไม่ว่าสิ่งตอบแทนที่จะได้รับนั้นจะเป็นอะไรก็ตาม
ผมก็มิปรารถนาทั้งสิ้น
สิ่งที่ผมได้รับการถ่ายทอดจากพระในวัดและหลวงตา
ทำให้ผมหวาดผวาและกลัวจนขี้ขึ้นสมองอย่างที่เข้าเปรียบเปรยกันไว้
คุ้งน้ำด้านทิศตะวันออกของวัด
มักจะมีคน
เห็นของตกน้ำเสียงดังตูม ๆ
เป็นประจำ
ทั้งๆที่น้ำตรงนั้นนิ่งสนิทแทบไม่เคลื่อนไหว
ต้นตะเคียนคู่สองสามต้นที่สูงชะรูดทำให้บริเวณด้านล่างมืดครึ้มไปทั่ว
ไม่ว่าจะเป็นกลางวัน
หรือกลางคืน
โรงเรียนที่ผมเรียนก็ไม่ห่างไกลจากวัดที่ผมอาศัยอยู่มากนัก
เย็นวันหนึ่งขณะ
เรียนวิชาการเกษตร
ครูประจำวิชาได้ปล่อยให้นักเรียนผักผ่อนกันตามสบาย
หลังจากเหน็ดเหนื่อยจากการขุดดินทำแปลงผักการเกษตร
ตามประสาของเด็กวัดเช่นผม
คงจะผิดกับคนอื่น ๆ
อยู่บ้างก็ตรงที่เป็นเด็กซุกซนมีหรือจะหยุดพักให้เสียเวลาทำมาหากิน
ผมรู้ว่าแหล่งท่องเที่ยวที่ใกล้โรงเรียนมากที่สุดก็คือบริเวณป่าละเมาะถัดจากโรงเรียนก่อนถึงป่าช้าวัดของผมนั่นเอง
บรรยากาศตอนบ่ายคล้อยทำให้ผมระงับความหวาดกลัวไว้ได้บ้าง
ตอบกับตัวเองว่า
ไม่ใช่ในป่าช้านี่หว่า แค่เฉียด
ๆ
ไปเท่านั้นคงไม่มีผีออกมาอาระวาดหลอกเด็กวัดอย่างเราแน่นอน
หลังจากรวมอาสาสมัครพรรคพวกเพื่อนร่วมชั้นได้ประมาณ
4 คน รวมทั้งผมด้วย
เพื่อนของกระผมเป็นเด็กลูกหลานชาวบ้านในละแวกนั้น
ซึ่งแตกต่างกับผมอย่างสิ้นเชิงหลังจากแม่พามาฝากหลวงตาไว้ที่วัด
จึงต้องกลายเป็นเด็กวัดไปโดยปริยาย
"เฮ้ย
ไอ้โก๋
มึงแน่ใจนะว่า
ต้นหว้ามีลูกกำลังสุกจริง ๆ นะ"
"เออ
กูแน่ใจวะ
เมื่อสองวันก่อนไอ้เดี่ยวมันบอกกับกูว่ากำลังสุกดกเต็มต้นเลยนะมึง"
ไอ้เดี่ยวเป็นเด็กวัดสังกัดวัดการ้องเหมือนกันกับผมมาเล่าไว้
"เห็นมันบอกว่า
มันไปล่อมาสะพุงกางเลย
พูดแล้วน้ำลายไหลวะ"
ผมกล่าวต่อ
เพื่อเร่งตัณหาความอยากกินให้กับบรรดาสมาชิกแก๊งค์ได้ทราบ
"เออดี
งั้นพวกกูไปกับมึงด้วย
ไปเก็บลูกหว้ากินกันดีกว่า
ไปพวกเราลุย"
เพื่อนอีกคนหนึ่งยุส่งตามประสาเด็ก
ผมและคณะทัวร์ชมรมเด็กอดยากแห่งลุ่มน้ำแม่ลาการ้องต่างมุ่งมั่นเดินเลียบ
ผ่านชายคลองข้างโรงเรียนจนไกลออกไป
สักครู่ก็ถึงบริเวณป่าซึ่งเป็นที่หมายของพวกเรา
"โอ้โห
เฮ้ย
ดกเต็มต้นจริง
ๆ วะ"
ให้สมจิตมิตรแท้รีบอุทานออกมาอย่างทันทีทันใดหลังจากเห็นต้นหว้ามีลูกสีม่วงดกเต็มต้นไปหมด
ได้การแล้วงานนี้
ธรรมชาติจัดให้จริง ๆ
แด่น้องผู้หิวโหย
"เออจริงด้วย
อย่างนี้ต้องกินให้อิ่มเลยพวกเรา"
ไอ้สมชายเสริมต่อด้วยความยิ้มย่องผ่องใสสบายแฮ
"เฮ้ย
.พวกเรา
ลุย"
เสียงไอ้แกลบลูกภารโรงเพื่อนซี้อีกคนตะโกนเหมือนสั่งสมาชิก
และแล้วภาพบรรดาลิงค่าง..เอ๊ย
เด็กตัวน้อย
ๆ
แห่งโรงเรียนวัดการ้องต่างก็ห้อยโหนโจนทะยานขึ้นต้นหว้ากันอย่างครื้นเครงจนกิ่งก้านต้นหว้าสั่นไหวแทบจะหักโค่นเสียให้ได้
"โอ้โห
แม่งข้างบนนี้ยิ่งดกไปใหญ่เลยมึง
ซะใจโก๋ละงานนี้
เฮ้ยไอ้ชัยมึงมีถุงมารึ เปล่าวะ"
ผมตะโกนถามเพื่อนด้วยความละโมบ
"แม่งนิสัยเด็กวัดจริง
ๆ นะมึง
แดกแล้วยังเสือกจะเอาใส่ถุงกลับอีก
ไอ้หอกกินแค่อิ่มก็พอแล้ว
จะได้กลับกัน"
ความเอร็ดอร่อยกับการกินลูกหว้า
ทำให้พวกเราเพลิดเพลินกับการกินจนลืมสังเกตสิ่งผิดปกติรอบๆ
ตัว
เวลาผ่านไปนานเท่าใดก็ไม่อาจคาดคะเน
บรรยากาศในป่ายามเย็นได้มืดครึ้มลงเป็นที่น่าอัศจรรย์อย่างรวดเร็ว
เป็นไปได้อย่างไรกันนี่
พวกเราต่างตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดจนทำอะไรไม่ถูก
ฉับพลันนั้นพายุใหญ่ก็เริ่มพัดแรงขึ้นๆ
โหมกระหน่ำอย่างสุดแรงเกิด
จนทำให้ผมและเพื่อน ๆ
ต้องเกาะกิ่งและลำต้นหว้ากันไว้จนแนบแน่นที่สุดเท่าจะพอจะทำได้
"เฮ้ยอะไรกันวะนี่"
เสียงไอ้สมจิตจอมปอดแหกตะโกนขึ้นเป็นคนแรก
"เป็นไงกันบ้างวะ"
เสียงไอ้ชัยตะโกนผ่านความมืดสลัวของบรรยากาศ
ที่แปรปรวนและสายลมจนแทบฟังไม่ค่อยจะได้ยินถนัดนัก
"ไม่รู้เหมือนกันวะ
พายุอะไรวะนี่แม่งพัดแรงฉิบเลย"
ผมตะโกนออกความเห็น
"เฮ้ยรีบลงกันดีกว่า
เดี๋ยวต้นหว้าโค่นจะซวยกันหมด"
ผมตะโกนไป
พวกเราค่อย ๆ
ตะเกียกตะกายไต่กันลงมาด้วยความทุลักทุเล
พอลงมาถึงข้างล่างพวกเราก็ต้องแปลกใจเป็นยิ่งนัก
เหตุการณ์ต่าง ๆ ค่อย ๆ
กลับคืนสู่สภาพปกติ
เหมือนไม่มีอะไรเคยเกิดขึ้นเลย
"สงสัยผีหลอกแน่เลยวะ"
เอาอีกแล้วไอ้สมจิตจอมปอดแหกจุดชนวนขวัญกระเจิงเข้าให้แล้ว
การพูดประโยคนี้ของไอ้สมจิต
ดูเหมือนจะปลุกอะไรบางสิ่งบางอย่างในตัวผมและเพื่อน
ๆ ทุกคน
และท้ายที่สุดเหมือนกับจะนัดกันไว้ล่วงหน้า
"เฮ้ย
.ตัวใครก็ตัวมันโว้ย
.ผีหลอกๆๆๆๆๆๆ"
ส่วนประโยคหลังนี่ผมไม่แน่ใจว่าใครเป็นคนออกความคิดเห็น
เพราะผมไม่มีเวลาที่จะวิเคราะห์หาต้นเสียงอีกแล้ว
เนื่องจากหน้าที่หลักในฐานะเด็กวัดเช่นผมก็คือการนำสมาชิกแด่น้องผู้หิวโหยทั้งหลายเผ่นโผนโจนทะยานชนิดมีกำลังเท่าไหร่ใส่เกียร์เต็มที่
ภาพเด็กนักเรียน 4 คน
วิ่งกลับเข้าโรงเรียนด้วยความหวาดกลัวจนครูประจำวิชาการเกษตร
ซึ่งกำลังเครียดอย่างหนัก
เพราะเจ้าลูกศิษย์คิดไม่ซื่อได้อันตธานหายตัว
ไปอย่างไร้ร่องรอย
โดยไม่มีการบอกกล่าวเล่าสู่ว่าเจ้าทั้งหลายจะไปแห่งหนตำบลใดกัน
หลังจากนั่งบ้าง นอนบ้างหอบแฮ่ก
ๆๆๆๆ ด้วยความเหนื่อยล้า
"นี่พวกเธอไปไหนกันมาหา.
โรงเรียนใกล้จะเลิกแล้วนี่รู้ไหม"
ครูตะคอกใส่บรรดาลูกศิษย์จอมแสบทันที
"ผีครับครู
ผีหลอกกลางวันแสก ๆ
ที่ป่าโน่นแน่ะ"
ผมรีบรายงานชนิดปากคอสั่น
"ผีเผลอ
ที่ไหนกัน
อย่ามาแก้ตัว"
ครูตอบสวนทันควันทันทีทันใด
หลังจากโดนครูตีไปคนละ 2
ที
เพื่อเป็นการเรียกขวัญให้กลับคืนมา
ทำให้ผมจดจำได้จนบัดนี้
"ไม่คุ้มเลยวะ
ไอ้โก๋
คราวหน้ามึงอย่าเสือกชวนพวกกูไปกินลูกหว้าอีกนะ"
"แม่งโดนผีหลอกแล้วยังโดนครูตีอีก"ไอ้แกลบลูกภารโรงตัดพ้อกับผมทันทีหลังจากเจอหน้ากันในวันถัดมา
"กูก็ว่าอย่างงั้นแหละ
คราวหน้ากูพามึงไปกินกล้วยตานีในป่าช้าวัดดีกว่า
ฮ่า ๆๆๆๆๆ"
ผมพูดย้อนกลับไปบ้างแบบแก้เขินในความผิดพลาดอย่างร้ายแรงเมื่อวานนี้
"มึงไปคนเดียวเหอะ
เรื่องผีกับป่าช้ากูไม่ค่อยถูกกัน"
"ไอ้ห่าพวกมึงคุยเรื่องอื่นที่มันไกลๆ
เรื่องผีๆ หน่อยไม่ได้รึไง
กูกลัววะ"
ไอ้สมจิตจอมปอดแหกบ่นอย่างเสียว
ๆ
"มึงนั่นแหละตัวดี
ไอ้ห่าแม่งพูดออกมาได้ว่าผีหลอก
พวกกูก็เผ่นกันป่าราบนะซีคราวหน้ากูไม่เอามึงไปด้วยแล้ว
แม่งปอดแหกจริง ๆ มึงนี่"
ผมรีบได้ทีขี่แพะไล่หาผู้รับผิดชอบแทนทันที
"ก็กูกลัวนี่หว่า
ถ้าไม่ใช่ผีแล้วมันจะเป็นอะไร"
ไอ้สมจิตกล่าวแบบเชิงแก้ตัว
"ไหนมึงบอกว่าไม่ให้พูดเรื่องผีไง
ไอ้ห่าคุยกับไอ้โก๋เรื่องผีอยู่ได้
ไป ๆๆ ไปเต๊ะบอลกันกว่า"
ไอ้แกลบตัดบททันที
สำหรับตัวผมเองแล้ว
ผมคิดว่าการที่ผีต้นหว้าหลอกพวกเรานั้น
อาจจะเป็นสิ่งที่ดีก็ได้
เพราะการที่เรามัวแต่เที่ยวเตร่ซุกซน
จนไม่สนใจการเรียนจนเวลาล่วงเลยก็ยังไม่กลับโรงเรียน
การโดนผีหลอกทำให้เรานึกถึงโรงเรียนของเราและครู
ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีที่สุดปลอดภัยที่สุดที่เรามีอยู่
รึว่าผีต้นหว้าจะแอบช่วยเราเหมือนอย่างที่ผมคิดเจ้าประคู๊น
ต้องขอขอบคุณคุณผีต้นหว้าไว้ ณ
โอกาสนี้ด้วยจริง ๆ
ให้ดิ้นตายซิขอรับคุณผู้อ่าน..แต่ก็ยังอดกลัวและสยดสยองกับเหตุการณ์นั้นไม่ได้
ผมว่าลูกหว้าแม้รสชาติจะดียังไง
แต่ถ้ามีผีมาร่วมแจมด้วยคงตัวใครตัวมันดีกว่าครับ
ฮ่า ๆๆๆๆๆๆๆ
สวัสดี
โก๋กรุงเก่า |