บันทึกเรื่องผี โดย โก๋กรุงเก่า...

ตอน... ผีทะเล...

     สุดสัปดาห์ของปลายเดือนกระผมและคณะที่ทำงานได้มีโอกาสไปเที่ยวทะเลด้วยกัน งวดนี้พวกเราหมายตาว่าจะไปเที่ยวทะเลที่จังหวัดตราด เพราะที่นั่นไม่ค่อยมีผู้คนพลุกพล่านมากนัก ธรรมชาติยังคงสมบูรณ์ที่สำคัญเรามีเพื่อนเป็นคนที่นั่นและช่วยนำทางให้ หลักจากจองบังกะโลไว้เมื่ออาทิตย์ก่อน ผมและคณะก็ออกเดินทางจากกรุงเทพ กว่าจะถึงชายหาดทะเลจังหวัดตราดก็บ่ายคล้อย ลมทะเลพัดแรงมาก ๆ อากาศเย็นสบาย ผมได้มีโอกาสไปเดินเล่นที่ชายหาดตามลำพัง มองดูคลื่นทะเลซึ่งกำลังเคลื่อนที่เข้าหาฝั่งคลื่นกระทบฝั่งเสียงดังซ่า ๆๆๆ ทำให้อดจะคิดถึงความหลังวันเก่า ๆ ในอดีตไม่ได้ มองดูเรือหาปลาค่อย ๆ เลือนหายจนลับตาพร้อมกับดวงตะวันที่ลดลงจนหายไปพร้อมกับคลื่นทะเล

     ผมเดินกลับที่พักซึ่งเป็นบังกะโลไม่ไกลจากชายหาดมากนัก ซึ่งมีเพื่อนร่วมงาน กำลังจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์กันเรื่องอุบัติเหตุรถยนต์ชนประสานงากัน ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก

     เพื่อนสนิทคนหนึ่งเล่าให้ผมฟังว่าหลังจากที่เราเดินทางผ่านบางปะกง ได้มีรถบัสคณะทัวร์ต่างประเทศชนกับรถสิบล้อ มีคนตายจำนวนมาก นึกสงสารคนต่างประเทศอยู่เหมือนกัน ที่พวกเขาอุตส่าห์เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลเพื่อจะมาพักผ่อนหาความสุขสนุกสนานที่เมืองไทย แต่ก็ต้องกลับมาจบชีวิต หรือได้รับบาดเจ็บที่ประเทศของเรา ซึ่งเต็มไปด้วยความไม่ปลอดภัยโดยเฉพาะบนท้องถนน เพื่อนยังเล่าต่ออีกว่า สงสัยคนขับรถสิบล้อจะเมายาบ้า แต่คนขับรถสิบล้อเป็นคนดีมาก เพราะหลังจากชนกันแล้ว แกไม่หนีไปไหนเลย ซึ่งผิดกับนิสัยคนขับรถประเภทนี้ เพราะเวลามีอุบัติเหตุชนกันจะเผ่นหนีไปตามระเบียบเกือบทุกราย แต่แล้วเพื่อนก็เฉลยให้ฟังว่า ที่คนขับรถสิบล้อไม่หนีก็เพราะตายคาที่กุมพวงมาลัยไว้นั่นเอง เพื่อนผมทิ้งท้ายพร้อมกับหัวเราะชอบใจ ผมเองก็ถูกใจมุกของเพื่อนอยู่เหมือนกัน

     หลังจากทานอาหารมื้อค่ำผ่านไปด้วยดี คืนนั้นผมก็มีความรู้สึกอยากจะออกไปเดินเที่ยวเล่นที่ชายหาด ซึ่งผิดกับเพื่อน ๆ ท่านอื่น ที่หาโอกาสนับจิบเบียร์คุยกันเป็นที่เพลิดเพลินเจริญปาก อากาศยามค่ำคืนนี้ช่างเงียบสงบดีจริง ๆ โล่งสบาย ไร้พรมแดน สูดกลิ่น ไอธรรมชาติท้องทะเล ฟังเสียงคลื่นซัดฝั่ง โอกาสอย่างนี้หาได้ยากมาก ๆ สำหรับคนทำงานในเมืองหลวงอย่างผม เมื่อมีโอกาสจึงต้องขอตักตวงให้เต็มที่ ชายหาดจังหวัดตราด ยามราตรีนี้ทำให้ผมรู้สึกสดชื่นอย่างประหลาด ขณะเดินเล่นอย่างเพลิดเพลินอยู่นั้น ฉับพลันผมก็ได้ยินเสียงผู้หญิงร้องให้ช่วย

     "ช่วยด้วย ๆๆๆๆ"

     ด้วยความตกใจ ผมรีบมองหาต้นเสียง ภายใต้แสงจันทร์ ทาบผ่านน้ำทะเลจนเกิดแสงระยิบระยับเป็นทิวคลื่น ได้ได้ เห็นคนกำลังจะจมน้ำ ผลุบ ๆ โผล่ ๆ อยู่ห่างจากฝั่งไปพอประมาณ ทำท่าจะจมน้ำ โดยมิได้ยั้งคิดผมรีบเดินลุยน้ำทะเลว่ายฝ่าเปลวคลื่นที่ซัดซาดอย่างรุนแรงออกไปช่วยเธอทันที ผมว่ายไปได้สักครู่ก็พบผู้หญิงคนนั้น ผมบอกให้เธอไม่ต้องตกใจผมจะพาเธอเข้าฝั่งเอง ผมรีบเข้าประคองเธอและพาเธอกลับเข้าฝั่งอย่างทุลักทุเล ขณะที่ผมกำลังพาเธอเข้าหาฝั่งอยู่นั้นด้วยความฉงนว่าร่างของเธอทำไมจึงดูเบานัก แทบไม่มีน้ำหนักเลย จึงเหลียวกลับไป มอง สิ่งที่ผมได้เห็นในความสลัวของค่ำคืน ทำให้ผมตกใจแทบช็อก คุณพระช่วย สิ่งที่ผมกำลังจะพาเข้าหาฝั่งนั้นมันไม่ใช่ผู้หญิงผู้เคราะห์ร้ายเสียแล้ว กลับกลายเป็นโครงกระดูกขาวโพลน อะไรกันนี่ผมหมดสติไปตั้งแต่บัดนั้น

     รุ่งเช้าหลังจากฟื้น ผมมองไปรอบ ๆ ผมกลับมาอยู่ภายในบังกะโลที่พัก เพื่อน เล่าให้ผมฟังว่า มีคนพบผมนอนสลบไสลอยู่ที่ชายหาด เคราะห์ดีที่ผมโดนคลื่นซัดเข้ามา เกยฝั่ง ไม่อย่างงั้นคงตายไปแล้ว เจ้าเพื่อนตัวแสบยังพูดเยาะ ๆ ให้ผมช้ำใจอีกว่าไม่มีที่ นอนหรือยังไงวะ ถึงไปนอนที่ชายหาด ผมจึงเล่าเหตุการณ์ที่ถูกผีทะเลหลอกให้ว่ายน้ำออกไปช่วยให้เพื่อนฟัง เพื่อนผมเมื่อได้ฟังถึงกลับนิ่งอึ้ง พูดไม่ออก นอกจากอุทานออกมาว่า เอาอีกแล้วมึง

     ทราบภายหลังว่าชายหาด ที่ผมไปนอนจับไข้หัวโกรนอยู่นั้น เมื่อเดือนก่อนมีผู้หญิงจากกรุงเทพมาเที่ยว แล้วออกไปว่ายน้ำ แต่เพราะคลื่นแรงมากจึงถูกซัดออกไปไกลฝั่งและจมน้ำตายในที่สุด เวลากลางคืนมีคนได้ยินเสียงผู้หญิงร้องให้ช่วยด้วย ๆ จนบริเวณชายหาดด้านนั้นไม่ค่อยมีใครกล้าเดินผ่าน ด้วยความกลัวผีนั่นเอง อะไรจะเฮี้ยน ขนาดนี้ ไม่เอาอีกแล้ว ผีทะเล…… รอดมาได้ก็บุญแล้วครับ….

สวัสดี

โก๋ กรุงเก่า  

|| ผีต่างดาว || คืนนี้ผีดุ || ผีต้นมะม่วง || ผีต้นหว้า || ผีทะเล || ผีไร้ญาติ || ผีอีกา ||
|| วิญญาณเมืองโบราณ || วิญญาณเมืองลับแล || ผีโรงหนัง || ผีโรงแรม ||
|| ผีเที่ยงคืน || ผีเจ้าเล่ห์ || ผีบ้านผีเรือน || ผีคุ้งน้ำ || ผีบ้านร้าง || ผียาบ้า ||