3. การกำหนดเขตเกษตรเศรษฐกิจสำหรับลำไย

3.3ปริมาณน้ำฝน	
       จากกรมอุตุนิยมวิทยา โดยแบ่งระดับปริมาณน้ำฝนออกเป็น 4 ระดับ คือ
(1) ปริมาณน้ำฝนที่เหมาะสมที่สุด อยู่ระหว่าง 1,000 - 1,400 มม.
(2) ปริมาณน้ำฝนที่เหมาะสมปานกลาง อยู่ระหว่าง 1,000 - 1,100 มม.และ 1,400 - 1,600 มม.
(3) ปริมาณน้ำฝนที่เหมาะสมเล็กน้อย อยู่ระหว่าง 1,600 - 2,400 มม.(4) ปริมาณน้ำฝนที่ไม่เหมาะสม อยู่ระหว่าง 2,400 - มากกว่า 4,000 มม.
การวิเคราะห์ข้อมูลดังกล่าวจะได้ผลลัพธ์ขั้นสุดท้ายคือ การแบ่งพื้นที่การเกษตร
ที่เหมาะสมสำหรับการปลูกลำไยออกเป็น 4 ระดับ คือ

- พื้นที่เหมาะสมมากที่สุด
- พื้นที่เหมาะสมปานกลาง
- พื้นที่เหมาะสมเล็กน้อย
- พื้นที่ไม่เหมาะสม
แผนที่แสดงความเหมาะสมสำหรับการปลูกลำไยและได้คำนวนค่าประมาณเนื้อที่ ความเหมาะสม
ที่สุด และเหมาะสมปานกลาง ของแต่ละอำเภอ และจังหวัด แสดงไว้ในภาพ
3.4
ข้อมูลปัจจัยทางเศรษฐกิจ ตัวเลขข้อมูลปัจจัยทางเศรษฐกิจและสังคมประกอบด้วยผลการศึกษาวิเคราะห์ในเรื่องหลัก ๆ ดังนี้
(1) การศึกษา วิเคราะห์ อุปสงค์และอุปทานของลำไยทั้งตลาดภายในประเทศและต่างประเทศ และกำหนดเป้าหมายการผลิตรวมของประเทศทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
(2) การศึกษา วิเคราะห์ และคาดคะเนแนวโน้ม ที่เกี่ยวกับราคาลำไย ต้นทุน การผลิต ค่าขนส่ง และผลตอบแทนต่อผู้ปลูก
(3)ข้อมูลแหล่งปลูกลำไยในจังหวัดและอำเภอต่างๆ รวมทั้งผลผลิตรวม และผลผลิตต่อไร่ (เฉลี่ย 3 ปี 2539-2541
1.หลักการ
เพื่อต้องการกำหนดพื้นที่สำหรับการปลูกลำไยให้สอดคล้องกับปัจจัยทางกายภาพ และปัจจัยทางเศรษฐกิจของพื้นที่
โดยคำนึงถึงปัจจัยหลักที่สำคัญ คือ
(1) เป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพที่เหมาะสมที่สุดหรือปานกลางต่อการปลูกลำไยโดยพิจารณาจากปัจจัยด้านกายภาพที่เกี่ยวข้อง
(2) เป็นพื้นที่ที่ปัจจุบันเป็นแหล่งปลูกลำไยอยู่แล้ว และผลผลิตลำไยเฉลี่ยต่อไร่อยู่ในระดับไม่ต่ำกว่าระดับเฉลี่ยทั่วไป

(3 )เขตเกษตรเศรษฐกิจสำหรับลำไยที่กำหนดนี้จะต้องคำนึงถึงศักยภาพที่สามารถเพิ่มผลผลิตต่อไร่ให้สูงหรือ
สามารถลดต้นทุนการผลิต รวมทั้ง
การกำหนดปริมาณผลผลิตลำไยให้พอเหมาะกับระดับความต้องการบริโภคในประเทศ
และการส่งออกไปจำหน่าย
ต่างประเทศได้

2.ระดับพื้นที่ที่จะกำหนดเป็นเขตเศรษฐกิจลำไย
จะพิจารณากำหนดเขตเศรษฐกิจสำหรับลำไยออกเป็นระดับอำเภอ
3.หลักเกณฑ์และวิธีการดำเนินงาน
3.1ข้อมูลปัจจัยทางกายภาพ แสดงเป็นข้อมูลเชิงแผนที่ และตัวเลขในระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS) ซึ่งประกอบด้วยตัวแปรเรื่องของ
(1) ชุดดิน
(2) ปริมาณน้ำฝน
(3) เขตชลประทาน
(4) การใช้ที่ดินทางการเกษตร
(5)ขอบเขตป่าไม้ตามกฏหมาย
(6)ขอบเขตการปกครอง
3.2
ชุดดิน จากกรมพัฒนาที่ดิน โดยแบ่งระดับความเหมาระสมในการปลูกพืชเป็น 4 ระดับ คือ
(1) ดินที่เหมาะสมที่สุด ได้แก่ ดินชุดกระบี่ กำแพงแสน กำแพงเพชร จัตุรัส ดอยปุย ท่าม่วง เพชรบุรี
ลือเสาะ ลำนารายณ์ ลำสนธิ วังสะพุงวังไห ศรีสัชนาลัย สีคิ้ว อ่าวลึก เพชรบูรณ์ ปากจั่น
(2) ดินที่เหมาะสมปานกลาง ได้แก่ ดินชุดเขาใหญ่ คลองท่อม คลองนกกระทุง ควนกาหลง โคกกลอย ฉลอง ชัยภูมิ เชียงของ เชียงใหม่ เชียงแสน ชุมพลบุรี โชคชัย ดอนไร่ ตราด ตรัง ท่าแซะ ท่าใหม่ ท้ายเหมือง ธาตุพนม นาทวี บึงชนัง บ้านจ้อง ปะทิว ปากจั่น ปราณบุรี ภูสะนา แม่แตง มาบบอน ละหาน ลำแก่น เลย ลำภูลา ศรีราชา สมอทอด สูงเนิน ห้างฉัตร หนองมด ห้วยโป่ง โอลำเจียก กาฬสินธ์ อัลลูเวียลคอมเพล็ก แม่อิง ปางไร่ อรัญประเทศ ปากช่อง ไทรงาม บ้านไร่ แก่งคอย บางสะพาน ธาตุพนม
(3) ดินที่เหมาะสมเล็กน้อย ได้แก่ ดินชุดเขาพลอง คอหงส์ โคราช คำบง- จันทึก ชุมพวง ดงตะเคียน ดงนางเอน ด่านซ้าย ดอยเจดีย์ ตาคลี ท่าพล ทุ่งหว้า นครสวรรค์ นาคู้ นาท่าม นาทอน น้ำพอง น่าน บ้าบึง ฝั่งแดง พังงา ภูเก็ต ไม้ขาว ยโสธร ยางตลาด ลี้ วาริน วิสัย สะเดา สตึก สุรินทร์ สันป่าตอง สายบุรี สรรพยา หางดง หินกอง หุบกระพง หลังสวน อุบล ท่าตะโก ตาขุน ยางคง ท่าฉาง พิจิตร หนองบอน ทับเสลา บางละมุง ลับแล บ้านไร่ ศรีสำโรง บ้านด่าน แม่ทา กิ่วลม ลาดยาว ภูพาน
(4) ดินที่ไม่เหมาะสม ได้แก่ ดอนชุดกลินทร์บุรี กันตรัง กาบแดง กุลาร้องให้ แกลง เกาะใหญ่ เขาขาด เขาย้อย คลองขุด คลองชาก คลองเต็ง โคกกระเทียม โคกเคียน ฉะเชิงเทรา เฉลีงลับ ชะอำ ชลบุรี่ ชัยนาท ชัยบาดาล เชียงคาน เชียงราย เชียรใหญ่ ช่องแค ชุมพร ชุมแสง ดงลาน ดอนเมือง เดิมบาง ดำเนินสะดวก ตะกั่วทุ่ง ตากใบ ต้นไทร ท่าขวาง ท่าจีนท่าตูม ท่ายาง ท่าเรือ ท่าลี่ ท่าศาลา ท่าอะเทน ทุ่งค่าย ทรายขาว ธนบุรี ธัญญบุรี นครปฐม นครพนม นราธิวาส น้ำกระจาย บาเจาะ บุรีรัมย์ บางกอก บางเขน บางนรา บางน้ำ-เปรี้ยว บางปะกง บางแพ บางเลน บรบือบ้านทอน บ้านหมี่ บุณฑริกปาดังเบซาร์ ปากท่อ โป่งตอง โป่งน้ำร้อน ผักกาด พะวง พะโต๊ะ พะเยา พาน พิมาย พานทอง พัทยา เพ็ญ พยอมงาม โพนงาม โพนพิสัย มะขาม มะโนรมย์ หมาโพธิ มูเนาะ แม่สาย แม่ริม มวกเหล็ก ม่วงค่อม ยะลา ยี่งอ ย่านตาขาว ระแงะ ระนอง ระยอง เรณู ราชบุรี ร้อยเอ็ด รังสิต ระงู ลพบุรี ลาดหญ้า ลำปาง วิเชียรบุรี วังชมภู วังตง วัฒนา วันเปรียง ศรีเทพ ศรีสงคราม สกล สตูล สะท้อน สระบุรี สมุทรสมคราม สมุทรปราการ สวีเสนา สีทน สุไหงโกลก สุไงปาดี สันทราย สัตหีบ สิงห์บุรี สงขลา สบปราบ หินซ้อน หาดใหญ่ หนองแก หนองคล้า หัวหิน หล่มเก่า หล่มสัก ห้อยยอด อยุธยา อุดร อุตรดิตถ์ อ้น องค์รักษ์ ทับกวาง บางประอิน ไชยยา เกาะขนุน บางคล้า พัทลุง หนองคอก ป่าสัก บางกล่ำ ระโนด บ้านโพด บางมูลนาก ตะพานหิน นาเฉลี่ยง งาว โคกสำโรง ปลายพะเยา อื่นๆ เช่นเหมืองแร่ , ชายหาด , ที่อยู่ , หินที่เกิดจากหินเชิร์ต
4. เงื่อนไขในการกำหนดเขตเกษตรเศรษฐกิจสำหรับลำไย
การพิจารณากำหนดว่าอำเภอเป็นเขตเกษตรเศรษฐกิจสำหรับลำไยนั้นมีปัจจัยในการพิจารณา
เรียงตามลำดับความสำคัญ คือ
4.1ในอำเภอนั้นมีพื้นที่ที่เหมาะสมระดับมากที่สุดหรือระดับเหมาะสมปานกลางกับการปลูกลำไยไม่น้อยกว่า 10,000 ไร่

4.2
ในอำเภอนั้นมีพื้นที่ที่มีการปลูกลำไยอยู่ในปัจจุบันแล้วขนาดพื้นที่
- ระดับที่ 1 ตั้งแต่ 5,000 ไร่ขึ้นไป - ระดับที่ 2 ตั้งแต่ 1,000 - 4,999 ไร่
4.3
พื้นที่ที่มีการปลูกลำไยอยู่นั้นมีผลผลิตต่อไร่
- ระดับที่ 1 ตั้งแต่ 750 กิโลกรัมต่อไร่ขึ้นไป

- ระดับที่ 2 ตั้งแต่ 650 - 749 กิโลกรัมต่อไร่

4.4
การกำหนดค่าถ่วงน้ำหนักเนื่องจากองค์ประกอบทั้ง 4 ประเภทดังกล่าวข้างต้น มีระดับความสำคัญที่จะนำมาพิจารณาไม่เท่ากัน ดังนั้น จึงได้กำหนดค่าถ่วงน้ำหนัก ขององค์ประกอบแต่ละประเภทคือ
- ปัจจัยที่ 1 พื้นที่เหมาะสมทางกายภาพ = 0.30
- ปัจจัยที่ 2 ขนาดพื้นที่ที่ปลูกในปัจจุบัน = 0.40
- ปัจจัยที่ 3 ผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่ = 0.30 รวม = 1.00
5. ผลการวิเคราะห์ในการกำหนดเขตเศรษฐกิจสำหรับการผลิตลำไย
ผลจากการวิเคราะห์การกำหนดพื้นที่ที่เห็นควรกำหนดเป็นเขตเศรษฐกิจ สำหรับการผลิตลำไย ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขดังกล่าวข้างต้นแล้ว ปรากฎผลดังนี้

 

ตารางที่ 1 สรุปจำนวน จังหวัดและอำเภอที่ควรกำหนดเป็นเขตเกษตรเศรษฐกิจสำหรับ ลำไย จำแนกเป็นรายภาค และทั้งประเทศ

พื้นที่ควรประกาศเป็นเขตเกษตรเศรษฐกิจสำหรับลำไย

ภาค

จำนวนจังหวัด

จำนวนอำเภอ

จำนวนอำเภอทั้งหมด

ศักยภาพระดับที่1

ศักยภาพระดับที่2

ตะวันออกเฉียงเหนือ

2

1

9

10

ตะวันออก

1

-

1

1

เหนือ

12

24

39

63

รวม

15

25

49

74

พื้นที่ความเหมาะสมที่สุดที่ประกาศเป็นเขตเกษตรเศรษฐกิจสำหรับลำไย(ไร่) 1)

เนื้อที่ปลูก (ไร่) 2)

ผลผลิตต่อไร่ (กก./ไร่/ปี) 2)

ภาค

ศักยภาพระดับที่ 1

ศักยภาพระดับที่ 2

รวมทั้งหมด

เหนือ

528,028

817,883

1,345,911

429,911

733

ตะวันออก

-

3,600

3,600

14,120

623

ตะวันออกเฉียงเหนือ

286,447

877,596

1,164,043

27,186

510

รวมทั้งประเทศ

814,475

1,699,079

2,513,554

471,217

696

ที่มา : 1) จากการคำนวนของส่วนระบบข้อมูลภูมิศาสตร์และดาวเทียม ศูนย์สารสนเทศการเกษตร สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร

 2) จากกรมส่งเสริมการเกษตร

รายชื่ออำเภอที่เห็นควรประกาศเป็นเขตเศรษฐกิจ สำหรับการผลิตลำไย จำแนกเป็นรายภาค

ภาคเหนือ มีทั้งหมด 12 จังหวัด รวม 63 อำเภอ ได้แก่
1)

จังหวัดเชียงราย มี 9 อำเภอ ดังนี้

  - ศักยภาพระดับที่ 1 ได้แก่ อำเภอเมืองเชียงราย(อ.แม่ลาว) อำเภอป่าแดด อำเภอพาน อำเภอแม่สรวย อำเภอเวียงป่าเป้า รวม 5 อำเภอ
  - ศักยภาพระดับที่ 2 ได้แก่ อำเภอเชียงแสน อำเภอเทิง อำเภอพญาเม็งราย อำเภอเวียงชัย (อ.เวียงเชียงรุ้ง) รวม 4 อำเภอ
2)

จังหวัดลำปาง ปี 4 อำเภอ ดังนี้

  - ศักยภาพระดับที่ 1 ได้แก่ อำเภอเมืองลำปาง รวม 1 อำเภอ
  - ศักยภาพระดับที่ 2 ได้แก่ อำเภอเกาะคา อำเภองาว อำเภอวังเหนือ รวม 3 อำเภอ
3)

จังหวัดพะเยา มี 7 อำเภอ ดังนี้

  - ศักยภาพระดับที่ 1 ได้แก่ อำเภอเมืองพะเยา (กิ่งอ.ภูกามยาว) อำเภอเชียงคำ(กิ่งอ.ภูซาง) อำเภอเชียงม่วน รวม 3 อำเภอ
  - ศักพภาพระดับที่ 2 ได้แก่ อำเภอจุน อำเภอแม่ใจ อำเภอดอกคำใต้ อำเภอปง รวม 4 อำเภอ
4)

จังหวัดเชียงใหม่ มี 17 อำเภอ ได้แก่

  - ศักยภาพระดับที่ 1 ได้แก่ อำเภอจอมทอง อำเภอดอยหล่อ อำเภอฝาง อำเภอพร้าว อำเภอสันป่าตอง กิ่งอ.แม่วาง รวม 5 อำเภอ
  - ศักยภาพระดับที่ 2 ได้แก่ อำเภอเมืองเชียงใหม่ อำเภอเชียงดาว อำเภอไชย-ปราการ อำเภอดอยสะเก็ด อำเภอดอยเต่า อำเภอแม่แตง อำเภอแม่อาย อำเภอสันกำแพง อำเภอแม่ออน อำเภอสันทราย อำเภอฮอด อำเภอหางดง รวม 12 อำเภอ
5)

จังหวัดลำพูน มี 7 อำเภอ ได้แก่

  - ศักยภาพระดับที่ 1 ได้แก่ อำเภอเมืองลำพูน อำเภอบ้านโฮ่ง อำเภอป่าซาง (กิ่งอ.หนองล่อง) อำเภอแม่ทา กิ่งอ.บ้านธิ รวม 5 อำเภอ
  - ศักยภาพระดับที่ 2 ได้แก่ อำเภอทุ่งหัวช้าง อำเภอลี้ รวม 2 อำเภอ
6) จังหวัดแพร่ มี 4 อำเภอ ได้แก่
  - ศักยภาพระดับที่ 1 ได้แก่ อำเภอเมืองแพร่ อำเภอสูงเม่น อำเภอสอง รวม 3 อำเภอ
  - ศักยภาพระดับที่ 2 ได้แก่อำเภอร้องกวาง(กิ่งอ.หนองม่วงไข่) รวม 1 อำเภอ
7)

จังหวัดน่าน มี 5 อำเภอ ได้แก่

  - ศักยภาพระดับที่ 1 ได้แก่ อำเภอเวียงสา รวม 1 อำเภอ
  - ศักยภาพระดับที่ 2 ได้แก่ อำเภอเมืองน่าน อำเภอท่าวังผา อำเภอบ้านหลวง อำเภอปัว รวม 4 อำเภอ
8)

จังหวัดอุตรดิตถ์ มี 2 อำเภอ ได้แก่

  - ศักยภาพระดับที่ 1 ได้แก่ อำเภอท่าปลา รวม 1 อำเภอ
  - ศักยภาพระดับที่ 2 ได้แก่ อำเภอน้ำปาด รวม 1 อำเภอ
9)

จังหวัดพิษณุโลก มี 2 อำเภอ ดังนี้

  - ศักยภาพระดับที่ 2 ได้แก่ อำเภอเนินมะปราง อำเภอวังทอง รวม 2 อำเภอ
10)

จังหวัดตาก มี 3 อำเภอ ดังนี้

  - ศักยภาพระดับที่ 2 ได้แก่ อำเภอบ้านตาก อำเภอแม่ระมาด อำเภอสามเงา รวม 3 อำเภอ
11) จังหวัดแม่ฮ่องสอน มี 2 อำเภอ ดังนี้
  - ศักยภาพระดับที่ 2 ได้แก่อำเภอปาย อำเภอแม่สะเรียง รวม 2 อำเภอ
12)

จังหวัดกำแพงเพชร มี 1 อำเภอ ดังนี้

  - ศักยภาพระดับที่ 2 ได้แก่ อำเภอกำแพงเพชร (กิ่งอ.โกสัมภี) รวม 1 อำเภอ
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มี 2 จังหวัด รวม 10 อำเภอ ได้แก่
1)

จังหวัดเลย มี 7 อำเภอ ดังนี้

  - ศักยภาพระดับที่ 1 ได้แก่ อำเภอวังสะพุง รวม 1 อำเภอ
  - ศักยภาพระดับที่ 2 ได้แก่ อำเภอเมืองเลย อำเภอด่านซ้าย อำเภอเชียงคาน อำเภอนาด้วง อำเภอปากชม อำเภอภูเรือ รวม 6 อำเภอ
2) จังหวัดขอนแก่น มี 3 อำเภอ ดังนี้
  - ศักยภาพที่ 2 ได้แก่ อำเภอภูผาม่าน อำเภอสีชมภู อำเภอชุมแพ รวม 3 อำเภอ
ภาคตะวันออกมี 1 จังหวัด รวม 1 อำเภอ ได้แก่
1) จังหวัดจันทบุรี มี 1 อำเภอ ดังนี้
  - ศักยภาพระดับที่ 2 ได้แก่ อำเภอโป่งน้ำร้อน รวม 1 อำเภอ
กลับไปหน้าสารบัญ พันธุ์ลำไย การปลูกและการดูแลรักษา การใช้สารโปรแตสฯเพื่อให้ออกดอก การแปรูปลำไย พฤษกศาสตร์และนิเวศน์วิทยา
มาตรฐานลำไยของประเทศไทย การผลิตทางการเกษตรที่ถูกต้องและเหมาะสม การตลาดลำไย ราคาและต้นทุนการผลิตลำไย กลยุทธ์การพัฒนาลำไย
ประโยชน์ของลำไย สถานการณ์ผลิตลำไยจังหวัดเชียงใหม่ เอกสารอ้างอิง ประวัติและถิ่นกำเนิดของลำไย