กรณีศึกษาที่
1
เรื่องต่อไป....
เรื่อง"จะเอาอย่างไรกันแน่"
เช้าวันหนึ่งขณะที่นายเติมวางกระถางต้นไม้ไว้ใกล้ประตู
ตามคำสั่งของนายวิชัยซึ่งเป็นหัวหน้าแผนกสวนและตกแต่งอยู่นั้น
นายสำเริงซึ่งเป็นผู้บริหารระดับสูงที่คุมแผนกนี้อยู่ด้วยก็เดินผ่านมา
เห็นนายเติมวางต้นไม้ไว้ใกล้ประตูก็ถามว่า"นี่นายเติม..ใครให้เอาต้นไม้มาวางไว้ตรงนี้"
"นายวิชัยครับ"
นายเติมตอบ
นายสำเริงเลยพูดและสั่งนายเติมว่า"ใครสั่งก็ชั่งเถอะ
ผมว่าเอาไปไว้ที่มุมห้องจะดูดีกว่า"
ว่าแล้วนายสำเริงก็เดินจากไปปล่อยให้นายเติมทำงาน
นายเติมเห็นว่านายระดับเหนือสั่งก็ทำตามอย่างที่นายสำเริงสั่ง
บ่าย วันนั้นนายวิชัยเรียกนายเติมเข้าไปพบ...
ข้ออภิปราย
เรื่องนี้มีความบกพร่องหรือผิดพลาดที่ใครบ้าง
เพราะอะไร
ข้ออภิปรายที่มักจะพบ
1
บอกว่านายสำเริงบกพร่อง
เพราะเป็นการสั่งงานข้ามขั้น
2 นายเติมบกพร่องที่ไม่บอกนายวิชัยก่อนที่จะทำ
หรือ ไม่บอกนายวิชัยเมื่อ
ไปแล้ว
(หรือผู้สอนบอกอย่างนี้)พอออกจากห้องอบรมหัวหน้างานจะมีอาการ"ของขึ้น"
กลับไปเห็นว่าหัวหน้าบกพร่อง
ลูกน้องบกพร่องไปหมด
แล้วการอบรมก็ไม่ได้เสริมสร้างทักษะในการเป็นหัวหน้างานที่ดี
เรามองอย่างนี้ได้ไหม
ถามว่านายสำเริงสั่งนายเติมได้ไหม
คำตอบคือว่าสั่งได้
ที่สั่งได้
เพราะว่า
(1) สายการบังคับบัญชาจากนายสำเริงสามารถลากถึงตัวนายเติม
(2) อำนาจที่นายวิชัยใช้อยู่นั้น
เป็นอำนาจที่นายสำเริงมอบมาให้
นายวิชัยจึงสั่งนายเติมได้
วันดีคือดีนายสำเริงจะสั่งเองบ้างจะเป็นไรไป
ถามว่าการสั่งงานอย่างนี้ใช้ได้ไหม
ตอบว่าใช้ได้ไหมในการบริหาร
ตอบว่าใช้ได้
บางครั้งจำเป็นด้วยซ้ำไป
เพราะความรับผิดชอบของนายสำเริงครอบคลุมอยู่
หากมีอะไรผิดพลาดนายสำเริงก็เดือดร้อนเช่นกัน
ดังนั้นถ้าเห็นว่าทีท่าจะไม่ดีแล้ว
ก็คงต้องสั่งเอง
ถามว่า
ถ้านายสำเริงต้องลงมือสั่งงานเองอย่างนี้
นายวิชัยจะทำอย่างไร
คำตอบอาจดูแปลกนะ
ก็คือว่านายวิชัยต้องสำรวจตัวเองแล้วว่าทำงานอย่างไรจึงต้องทำให้ผู้บังคับบัญชาต้องลงมาเหนื่อย
ถ้าในการอบรมที่มีทั้ง
Supervisors
และ Foreman
เรียนพร้อมกันจะอธิบายยาก
ดังนั้นเราควรแยกอบรมเป็นระดับ
ถ้าสอนระดับ
Supervisors
เราก็บอกว่าแม้จะสั่งได้
แต่ไม่ควรทำ
เพราะจะทำให้นายวิชัยหมด
ความน่าเลื่อมใส
ลูกน้องจะไม่นับถือเท่าที่ควร
แต่ถ้าสอนกลุ่ม
Foreman
เราก็บอกว่านายสำเริงสั่งได้
ซ. ที่ชี้ให้มาเป็นลำดับอย่างนี้ก็เพื่อให้เห็นว่า
การอบรมต้องนำไปสู่การทำงานร่วมกันของทุกระดับอย่างสร้างสรรค์
แล้วทุกคนก็จะ
"ไม่คิดแก้ไขใครทั้งสิ้นยกเว้น
ตัวเองก่อน"
กรณีศึกษาที่
2
เหตุเกิดเมื่อนายชื่นจิตไปอบรมความรู้เกี่ยวกับการเป็นหัวหน้างาน
หรืออะไรนี่แหละ
เมื่อกลับมาก็ให้ทุกคนตั้งมาตรฐานการทำงานกันยกใหญ่
นายเติมเองก็โดนเอาเหมือนกัน
คือนายชื่นจิตบอกว่านายเติมต้องทำความสะอาดห้องน้ำอย่างน้อยวันละ
2 ครั้งและให้ห้องน้ำสะอาดตลอดเวลา
นายเติมก็ทำตามนั้นโดยทำความสะอาดตอนเช้า
ก่อนใครต่อใครมา
แล้วทำตอนบ่ายโมงกว่าเมื่อทุกคนเข้าทำงานแล้ว
ช่วงระหว่างวัน
นายเติมก็เข้าไปดูบ้าง
ไปทำงานอื่นบ้างเมื่อบ่ายวันนี้นายชื่นจิตได้เข้าไปดูห้องน้ำอย่างพินิจพิเคราะห์
แล้วกลับออกมาบอกนายเติมว่าห้องน้ำยังไม่สะอาดพอ
นายเติมก็บ่นอย่างว่านั่นแหละครับ
ข้ออภิปราย
จงวิเคราะห์กรณีศึกษานี้
(มีประเด็นให้มองได้ถึง
15-16
เรื่อง
- หัวหน้างานค้นพบหมดหรือไม่)
ผมมีบทความเรื่องหัวหน้างานอยู่มาก
จะทยอยลงในหน้าลิ้งค์
ต่อไปนี้
ลิ้งค์ไป...."หัวหน้างานต้องไม่พลาดเป้าหมายการทำงาน"
00151
ลิ้งค์ไป...."หัวหน้างานคือผู้เชี่ยวชาญ"00152
ลิ้งค์ไป..."หัวหน้างานมีความเชื่ออย่างไร"
00153
ลิ้งค์ไป..."หัวหน้าทำงานรายงานอย่างไรให้ถูกใจนาย"
00154