View Web site : 800x600
Text Size : Larger (Font Cordia new)

 

 

 

 

 

 

 

 

 

"วิธีการจัดทำมา

15.ข้อคิด-แนวทางการปกครอง-บังคับบัญชา


ต่อไปนี้จะเปลี่ยนหน้านี้เป็นเรื่องการปกครองบังคับบัญชาจะเป็นข้อคิด หลักการสั้นๆ นอเหนือจากบทความใน Menu 12 แล้ว ก็มีหน้านี้อีกหน้า จะรีบนำเอาเนื้อหามาใส่ไว้ ในวันนี้จะพูดถึง การสร้างความพึงพอใจ หรือการสร้างขวัญกำลังใจ ประการแรกก็คือการให้รายได้ทางจิตใจแก่ลูกน้อง รายได้ทางจิตใจคืออะไร เนื้อหาและกรณีศึกษาต่างๆ(แม้จะบางท่านอาจเห็นว่าไม่ใช่ดีอะไรหนักหนา แต่ถ้าเข้าใจหลักการอย่างลึกซึ้งแล้ว แต่ละเรื่องสามารถเรียนรู้/อธิบายได้มากมาย จึงขอสงวนลิขสิทธิ์ ครับ

ต่อไปนี้ความเป็นจริง....ว่าไหม... 1 คนเราจะทำงานได้ดีก็ต่อเมื่อเขามีความ พอใจ เต็มใจ และตั้งใจ 2 คนเราจะพอใจ เต็มใจและตั้งใจ ถ้าเขาได้สิ่งที่เขาต้องการ 3 คนเราทำงานเขาต้องการ 2 อย่าง คือรายได้ทางตัวเงิน (Monetary Income) และรายได้ทางจิตใจ (Psychological Income) ในเรื่องรายได้ทางตัวเงินหัวหน้างานให้ไม่ได้มากมาย แต่ถ้าเป็นรายได้ทางจิตใจหัวหน้างานทุกคนสามารถให้ได้ไม่จำกัด ยิ่งเรียนรู้ที่จะให้ ก็จะยิ่งมีค่า และทำได้ง่ายขึ้น ต่อไปนี้คือรายได้ทางจิตใจที่ลูกน้อง อยากเห็น อยากได้จากหัวหน้าของเขา รายได้ทางจิตใจ : (Psychological Income)

  • ต้องการผู้นำที่มีประสิทธิภาพ
  • ต้องการมีโอกาสแสดงออกซึ่งความคิดเห็น
  • ต้องการได้รับการยอมรับว่ามีความสำคัญต่อหน่วยงาน
  • ต้องการอยู่ในหน่วยงาน/ฝ่ายงานที่มีประสิทธิภาพ
  • ต้องการให้หัวหน้างานปฏิบัติต่อเขาอย่างมีมนุษยสัมพันธ์
  • ต้องการได้รับรู้ผลการปฏิบัติงานในเวลาที่รวดเร็ว
  • ต้องการทำงานที่ท้าทายความสามารถของเขา
  • ต้องการได้รับตัวอย่างที่ดีในการทำงานจากผู้บังคับบัญชา
  • ต้องการได้รับความห่วงใยในฐานะคนคนหนึ่งจากหัวหน้า
  • ต้องการได้รับคำนิยมยกย่องบ้างถ้าเขาทำงานได้ดี
  • ต้องการทำงานในบรรยากาศของความเป็นเป็นทีมที่ดี
  • ต้องการได้รับรู้หากมีการเปลี่ยนแปลงในหน่วยงาน


กรณีศึกษาที่ 1
เรื่องต่อไป.... เรื่อง"จะเอาอย่างไรกันแน่"

เช้าวันหนึ่งขณะที่นายเติมวางกระถางต้นไม้ไว้ใกล้ประตู ตามคำสั่งของนายวิชัยซึ่งเป็นหัวหน้าแผนกสวนและตกแต่งอยู่นั้น นายสำเริงซึ่งเป็นผู้บริหารระดับสูงที่คุมแผนกนี้อยู่ด้วยก็เดินผ่านมา เห็นนายเติมวางต้นไม้ไว้ใกล้ประตูก็ถามว่า"นี่นายเติม..ใครให้เอาต้นไม้มาวางไว้ตรงนี้" "นายวิชัยครับ" นายเติมตอบ นายสำเริงเลยพูดและสั่งนายเติมว่า"ใครสั่งก็ชั่งเถอะ ผมว่าเอาไปไว้ที่มุมห้องจะดูดีกว่า" ว่าแล้วนายสำเริงก็เดินจากไปปล่อยให้นายเติมทำงาน นายเติมเห็นว่านายระดับเหนือสั่งก็ทำตามอย่างที่นายสำเริงสั่ง บ่าย วันนั้นนายวิชัยเรียกนายเติมเข้าไปพบ... ข้ออภิปราย เรื่องนี้มีความบกพร่องหรือผิดพลาดที่ใครบ้าง เพราะอะไร



ข้ออภิปรายที่มักจะพบ
1 บอกว่านายสำเริงบกพร่อง เพราะเป็นการสั่งงานข้ามขั้น
2 นายเติมบกพร่องที่ไม่บอกนายวิชัยก่อนที่จะทำ หรือ ไม่บอกนายวิชัยเมื่อ ไปแล้ว

(หรือผู้สอนบอกอย่างนี้)พอออกจากห้องอบรมหัวหน้างานจะมีอาการ"ของขึ้น" กลับไปเห็นว่าหัวหน้าบกพร่อง ลูกน้องบกพร่องไปหมด แล้วการอบรมก็ไม่ได้เสริมสร้างทักษะในการเป็นหัวหน้างานที่ดี
เรามองอย่างนี้ได้ไหม ถามว่านายสำเริงสั่งนายเติมได้ไหม

คำตอบคือว่าสั่งได้ ที่สั่งได้ เพราะว่า (1) สายการบังคับบัญชาจากนายสำเริงสามารถลากถึงตัวนายเติม (2) อำนาจที่นายวิชัยใช้อยู่นั้น เป็นอำนาจที่นายสำเริงมอบมาให้ นายวิชัยจึงสั่งนายเติมได้ วันดีคือดีนายสำเริงจะสั่งเองบ้างจะเป็นไรไป ถามว่าการสั่งงานอย่างนี้ใช้ได้ไหม ตอบว่าใช้ได้ไหมในการบริหาร ตอบว่าใช้ได้ บางครั้งจำเป็นด้วยซ้ำไป เพราะความรับผิดชอบของนายสำเริงครอบคลุมอยู่ หากมีอะไรผิดพลาดนายสำเริงก็เดือดร้อนเช่นกัน ดังนั้นถ้าเห็นว่าทีท่าจะไม่ดีแล้ว ก็คงต้องสั่งเอง ถามว่า ถ้านายสำเริงต้องลงมือสั่งงานเองอย่างนี้ นายวิชัยจะทำอย่างไร คำตอบอาจดูแปลกนะ ก็คือว่านายวิชัยต้องสำรวจตัวเองแล้วว่าทำงานอย่างไรจึงต้องทำให้ผู้บังคับบัญชาต้องลงมาเหนื่อย

ถ้าในการอบรมที่มีทั้ง Supervisors และ Foreman เรียนพร้อมกันจะอธิบายยาก ดังนั้นเราควรแยกอบรมเป็นระดับ ถ้าสอนระดับ Supervisors เราก็บอกว่าแม้จะสั่งได้ แต่ไม่ควรทำ เพราะจะทำให้นายวิชัยหมด ความน่าเลื่อมใส ลูกน้องจะไม่นับถือเท่าที่ควร แต่ถ้าสอนกลุ่ม Foreman เราก็บอกว่านายสำเริงสั่งได้ ซ. ที่ชี้ให้มาเป็นลำดับอย่างนี้ก็เพื่อให้เห็นว่า การอบรมต้องนำไปสู่การทำงานร่วมกันของทุกระดับอย่างสร้างสรรค์ แล้วทุกคนก็จะ "ไม่คิดแก้ไขใครทั้งสิ้นยกเว้น ตัวเองก่อน"

กรณีศึกษาที่ 2
เหตุเกิดเมื่อนายชื่นจิตไปอบรมความรู้เกี่ยวกับการเป็นหัวหน้างาน หรืออะไรนี่แหละ เมื่อกลับมาก็ให้ทุกคนตั้งมาตรฐานการทำงานกันยกใหญ่ นายเติมเองก็โดนเอาเหมือนกัน คือนายชื่นจิตบอกว่านายเติมต้องทำความสะอาดห้องน้ำอย่างน้อยวันละ 2 ครั้งและให้ห้องน้ำสะอาดตลอดเวลา นายเติมก็ทำตามนั้นโดยทำความสะอาดตอนเช้า ก่อนใครต่อใครมา แล้วทำตอนบ่ายโมงกว่าเมื่อทุกคนเข้าทำงานแล้ว ช่วงระหว่างวัน นายเติมก็เข้าไปดูบ้าง ไปทำงานอื่นบ้างเมื่อบ่ายวันนี้นายชื่นจิตได้เข้าไปดูห้องน้ำอย่างพินิจพิเคราะห์ แล้วกลับออกมาบอกนายเติมว่าห้องน้ำยังไม่สะอาดพอ นายเติมก็บ่นอย่างว่านั่นแหละครับ
ข้ออภิปราย จงวิเคราะห์กรณีศึกษานี้
(มีประเด็นให้มองได้ถึง 15-16 เรื่อง - หัวหน้างานค้นพบหมดหรือไม่)


ผมมีบทความเรื่องหัวหน้างานอยู่มาก จะทยอยลงในหน้าลิ้งค์ ต่อไปนี้

ลิ้งค์ไป...."หัวหน้างานต้องไม่พลาดเป้าหมายการทำงาน" 00151
ลิ้งค์ไป...."หัวหน้างานคือผู้เชี่ยวชาญ"00152
ลิ้งค์ไป..."หัวหน้างานมีความเชื่ออย่างไร" 00153
ลิ้งค์ไป..."หัวหน้าทำงานรายงานอย่างไรให้ถูกใจนาย" 00154