เบื้องหลังการทดสอบ/การตรวจวินิจฉัยโรคทางห้องปฏิบัติการชันสูตร ตั้งแต่การได้รับตัวอย่างเลือด / ปัสสาวะ / สารคัดหลั่งต่างๆ
จนถึงการแปลผลการตรวจ
I ข่าวสารด้านสุขภาพอนามัย I ปัญหาและอาการของโรคต่างๆ I  สรีระ I   การดูแลสุขภาพและป้องกันโรค I ข่าวสารด้านสุขภาพอนามัย I ปัญหาและอาการของโรคต่างๆ I  สรีระ I   การดูแลสุขภาพและป้องกันโรค

cdlogo.gif (7928 bytes)
Healthcare & Diagnostic

winshop.jpg (4697 bytes)
HealthShop l ช็อปปิ้งเพื่อสุขภาพ


สนใจรับข่าวสารสุขภาพใหม่ๆ 
พร้อมประโยชน์อื่นๆ เชิญสมัครฟรี !

Home ] Up ] Endocrine ] Muscle/Skeleton ] Cardio ] Skin/Dermal ] Digestive ] Kidney/Urinary ] Tumor/CA ] Infectious ] CBC ] Sexual ] Respiratory ] Brain ] Accident ] HIV ] TropicalParasite ] [ BabyDisease ] Mental ]
ban3.jpg (13652 bytes)

 

Top       banner20.gif (26605 bytes)
โรคของเด็กๆแต่มักสร้างความวุ่นวายให้กับคุณพ่อคุณแม่ได้เป็นอย่างมาก ในหมวด
นี้คงจะผู้เป็นพ่อแม่เข้าใจวิธีเลี้ยงดูที่ถูกต้อง   ความรู้เรื่องโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ    และ
การป้องกันรักษา   คงจะช่วยลดความวิตกกังวลได้เป็นอย่างดี คำตอบปัญหาต่างๆได้
จากกุมารแพทย์ผู้มีความรู้ความสามารถและเชี่ยวชาญเรื่องเด็กโดยเฉพาะ   สำหรับ  ปัญหาอื่นที่ได้มีการสอบถามเข้ามาจะทยอยนำมาเป็นหัวเรื่องในโอกาสต่อไปครับ
baby1.jpg (5815 bytes)
baby2.jpg (6078 bytes)
baby3.jpg (5951 bytes)
baby4.jpg (5986 bytes)
baby5.jpg (5890 bytes)
baby6.jpg (6337 bytes)
กลับสู่เมนู - Back to menu กลับสู่ห้องโถง - To restpage การทดสอบโรค - Diagnostic test ผลิตภัณฑ์เสริมสุขภาพ - Healthcare












โรคภูมิแพ้

ดิฉันมีปัญหาที่จะปรึกษาคุณหมอ คือลูกสาวเป็นหวัดตั้งแต่ ครึ่งเดือนแรก - ช่วง 5 เดือน คุณหมอที่รักษาบอกว่าลูกเป็นโรคภูมิแพ้ พอเจอลมแรงแก
จะหายใจไม่ค่อยออก น้ำมูกไหล ต้องกินยาทุกวัน จนแกกลัวยาพอให้ทาน
ทีไรเป็นต้องร้องไห้ทุกที ดิฉันสังเกตุว่าแกดูซึมไปบ้าง กินนมน้อยลง แต่
ยังเล่นดี ซน แรกเกิดเป็นเด็กตัวใหญ่หนัก 3780 กรัม ซึ่งดูเป็นเด็กแข็ง
แรงดีต่อมาแกก็เจ็บคอตามมาไม่ยอมกินนม หมอก็แนะนำให้ทานข้าวหรือ
อาหารเสริมอย่างอื่นแทน 

ดิฉันมีข้อสงสัยข้อเรียนถามคุณหมอว่า   การกินยามากและกินทุกวันมา
โดยตลอด ไม่ทราบจะมีผลเสียต่อเด็กไหม
ตอบ
ลูกสาวมีน้ำมูกไหลตั้งแต่เกิดจนถึงอายุ 5 เดือน กินยาแก้แพ้เป็นประจำ กลัว

ว่าจะทำใหห้ลูกเบื่ออาหาร และซึมลงไหม
เด็กที่โดยลมแรงๆ แกจะคัดจมูก น้ำมูกไหล ต่อมาเป็นไข้ได้ค่ะ ทั้งนี้เพราะ
เยื่อจมูกของเด็กไวต่ออุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลง เมื่อมากระทบอากาศที่เปลี่ยน
แปลงก็ทำให้รู้สึก แน่นคัดจมูก น้ำมูกไหล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเช้าตรู่
ช่วงตื่นนอน ตอนค่ำๆก่อนเข้านอน หรือตอนดึกๆ ไม่จำเป็นต้องสัมผัสกับ
อากาศที่หนาวจัด เพียงแค่อากาศเปลี่ยนแปลง เด็กบางคนมีจมูกที่ไวอยู่แล้ว
ก็จะมีอาการเหมือนลูกคุณ
ความจริงอาการดังกล่าว จะทุเลาด้วยยาเช็ดจมูกที่แพทย์ให้ เพราะจะทำให้
เยื่อบุจมูกหดตัว อาการคัดจมูกจะทุเลาลง   ในเด็กๆหมอไม่อยากให้ยาแก้แพ้
ประเภทแอนติฮีสตามีนชนิดกิน   จริงอยู่ยานี้ช่วยทำให้อาการหวัดแพ้อากาศ
ทุเลา แต่มีผลข้างเคียงทำให้เด็กซึม   ง่วงนอน  มึนงงได้ ในกรณีลูกของคุณ
อาจต้องมีเหตุผลอื่นร่วมด้วยจึงได้ยาชนิดทานมาด้วย แต่อย่างไรก็ตามยาคง
ไม่ถึงกับทำให้เบื่ออาหาร น้ำหนักตัวไม่ขึ้น แต่คงมาจากสาเหตุของการเจ็บ
คอบ่อยมากกว่า   ถ้าแกเบื่ออาหารมากอาจลองให้อาหารเสริมแทนบ้าง แต่นม
จัดเป็นอาหารหลักของเด็กวัยนี้ จึงยังไม่อยากให้ ลด หรือ งด นมเลย พอ
อาการทุเลาจากการเจ็บคอก็จะทานได้มากขึ้นเองค่ะ

โรคภูมิแพ้ จะพอทุเลาเบาบางลงได้ตอนเด็กโต หากในครอบครัวไม่มีใครมี
ประวัติเป็นโรคภูมิแพ้ ก็ถือว่าไม่ได้เป็นรุนแรงอะไรก็ได้   พอโตขึ้นก็หายได้

ยาหยอดจมูกที่เราใช้เช็ดหรือหยอดจมูกวันละ 2-3 ครั้ง ใช้ประมาณ 3-4 วัน
ควรจะหยุดบ้างมิฉะนั้นอาการคัดและบวมจะเหมือนเดิม (ไม่ค่อยได้ผล) ควร
จะหยุดบ้าง เป็นระยะๆ ยอมให้ลูกมีน้ำมูกไหลนิดๆหน่อยๆ บ้างไม่เป็น
อันตรายอะไร
    
กลับด้านบน - Back to top กลับสู่ห้องโถง - To restpage การทดสอบโรค - Diagnostic test ผลิตภัณฑ์เสริมสุขภาพ - Healthcare











กลัวลูกเป็นหอบหืด

ดิฉันมีลูกสาวอายุย่างเข้า 2-3 เดือน แรกเกิดหนัก 3500 กรัม สุขภาพโดย
ทั่วไปปกติ มีปัญหาบ้างในตอนดึกๆเขาจะมีเสียงเหมือนเป็นหวัด คือมีเสียง
ครือคราดในลำคอหรือในจมูก แต่ไม่มีน้ำมูก หายใจแรง และท้องจะขึ้นๆ
ลงๆ แต่ในตอนกลางวันอาการเหล่านี้จะหายไป ดิฉันไปพบแพทย์ได้ยาป้าย
จมูกมา ก็ใช้ป้ายทุกครั้งที่มีอาการพร้อมใช้วาเป็กซ์หยดบนที่นอน อาการก็
ยังไม่หาย
ที่ดิฉันกังวลมากก็คือพ่อเด็กมีโรคประจำตัวคือ หอบหืด และตัว
ดิฉันเองก็แพ้อากาศ ลูกจะมีโอกาสเป็นโรคแพ้อากาศ หรือเป็นโรคหอบหืด
หรือไม่ และจะมมมีวิธีป้องกันได้อย่างไร
ตอบ
ชาวเมืองใหญ่นี่เราเห็นอกเห็นใจกัน    เพราะร่วมชะตากรรมเดียวกันคือ
ประสบกับปัญหามลภาวะ ที่หนักมากขึ้นทุกทีๆ   อาคารสูงมากขึ้น ต้นไม้
ลดลง ควันดำจากรถยนต์ เสียงฝุ่นจากโรงงาน   มีแต่มลภาวะทั้งนั้น โดย
เฉพาะอย่างยิ่ง ฝุ่นละอองเหล่านี้สะสมกันจนเป็นพิษต่อพวกเราทุกคนใน
ระยะยาว อีกหน่อยก็คงต้องมีขายอากาศบริสุทธิ์ใส่กระป๋องกัน คงต้องช่วย
กันสร้างจิตสำนึก รณรงค์ช่วยกันลดมลภาวะ   เพราะเจ้าตัวมลภาวะนี้ส่งผล
ต่อผู้เป็นโรคภูมิแพ้แน่เทียว ไม่ว่าตัวเล็กตัวน้อย ถ้ามีเชื้อสายภูมิแพ้อยู่ใน
ตัว เจอฝุ่นละอองเข้าไปหน่อยจะแพ้ง่าย   เด็กตัวเล้กๆหลอดลมคงเล็กกว่าใส้
ดินสอละมั้ง เวลาเกิดอาการก็จะดังครืดคราด เพราะมีเสมหะหรือเสลด  พอ
โตขึ้นหลอดลมขยายตัวมากขึ้นประมาณร้อยละ 30  หายได้เอง

การแก้ไข   พยายามหลีกเลี่ยงตัวปัญหาก่อน ถ้าอยู่ในบ้านแก้ไขสิ่งแวดล้อม
ฝุ่นละออง  เชื้อรา อากาศที่อับชื้น บางราบอาจแพ้ละอองเกษรดอกไม้เข้าให้
อีก   คนอื่นเตรียมกินมะม่วงกัน แต่บ้านนี้ต้องเตรียมยาแก้แพ้   หลายคนแพ้
ฝุ่นจะทำความสะอาดบ้านไม่ได้เลย จะคุมด้วยยาก็ง่วงนอน ต่อมาก็ใช้วิธี
กระตุ้นภูมิคุ้มกันที่เรียกว่า Hyposensitization โดยการทำการทดสอบ
ให้รู้ว่าแพ้อะไรไปเลย   เมื่อรู้ตัวต้นเหตุแล้วก็จะสกัดเอาสารที่ทำให้แพ้มา
ฉีด โดยการฉีดครางละเล็กละน้อยเพื่อเพิ่มภูมิต้านทาน แต่ต้องใช้เวลาพอ
สมควรละค่ะ หมอจะฉีดอาทิตย์ละ 2 ครั้งแล้วค่อยๆลดลงเดือนละครั้ง
อย่างน้อยก็สามารถทำความสะอาดบ้านได้ ไปไหนมาไหนสบายขึ้น ไม่มีน
งง หรือเป็นหวัดทั้งวันทั้งปี ส่วนโรคหอบหืดก็มีสมมติฐานเดียวกันเด็กๆยัง
เล็กอยู่ถ้าดูแลป้องกันดีๆก็จะลดปัญหาตอนโตได้
กลับด้านบน - Back to top กลับสู่ห้องโถง - To restpage การทดสอบโรค - Diagnostic test ผลิตภัณฑ์เสริมสุขภาพ - Healthcare













เป็นหวัด อาเจียน มีเสมหะ

ดิฉันมีลูกชายอายุย่างเข้า 4 เดือน แกเป็นหวัด ไอ มีเสมหะมากให้ยาลดน้ำมูก
แล้ว ก็ยังไม่ดีขึ้นคลำบริเวณปอดพบเสียงครืดคราดมาก ทั้งท้องเสียงและ
หวัดทำให้แกน้ำหนักตัวลดลงมาก บางครั้งระหว่างดูดนมอยู่ก็จะอาเจียน
ออกมาหมด   บางครั้งก็มีเสมหะออกมาด้วย จะเป็นอันตรายหรือไม่

ลูกเป็นหวัดบ่อยไปพบแพทย์กว่าจะหายได้ตั้ง 2-3 อาทิตย์ น้ำมูกไหลตลอด
เวลา แต่ไม่มีไข้ จะทำอย่างไรดี
ตอบ
โรคหวัดในเด็กส่วนมากเป็นแล้วหายได้เอง   ถ้าเป็นเรื้อรังมีเสมหะอาจมี
โรคแทรกซ้อนหรืออาจเกิดจากภูมิแพ้ ถ้าเด็กมีเสมหะออกมา ไม่ถือว่าผิด
ปกติมากนัก

การมีน้ำมูกไหลตลอดเวลา   ไม่มีไข้ เป็นประจำ   อาจจะต้องสงสัยว่าเป็น
เรื่องโรคภูมิแพ้   เพราะไม่ได้เกิดจากเชื้อโรคหรือไวรัส แต่อาจโดนเชื้อโรค
เข้าซ้ำเติมทีหลังเป็นครั้งคราวได้   ในเด็กโรคภูมิแพ้ควรพยายามเอาตุ๊กตา
ต่างทีเป็นตัวเก็บฝุ่นออกจากเตียง ทำความสะอาดที่นอน  ผ้าห่ม   ลดสภาพ
อับชื้น อาการอาจดีขึ้นได้

เป็นหวัดบ่อยอาจได้รับยา ไม่ควรหาซื้อยามาให้ลูกรับประทานเอง เพราะ
ยาส่วนใหญ่จะมีส่วนผสมแอนติฮีสตามีนผสมอยู่เพื่อลดน้ำมูก ถ้าได้รับมาก
ไปจะไปกระตุ้นสมองเด็กถึงกับชักได้   ในเด็กเล็กแพทย์ต้องรัมัดระวังเป็น
พิเศษ ถ้ามีน้ำมูกมากเรามักใช้ยาเช็ดจมูกประเภท Ephedrine เพื่อลด
อาการบวมของเยื่อบุจมูก เช็ดพอควรมากไปไม่ดี

ควรดูแลเครื่องนุ่งห่มอย่าให้ผ้าผ่อนหลุดกลางดึก ถ้าแพทย์ให้ยาทานทุก
4 - 6 ชั่วโมง ในช่วงกลางคืนถ้าเด็กหลับสบายก็ไม่จำเป็นต้องปลุกขึ้นมา
ให้ทานยา ให้นอนผักผ่อนสบายๆดีกว่า ถ้าตื่นมางอแงจึงค่อยจัดยาให้
กลับด้านบน - Back to top กลับสู่ห้องโถง - To restpage การทดสอบโรค - Diagnostic test ผลิตภัณฑ์เสริมสุขภาพ - Healthcare












ไข้เลือดออก

เด็กที่เคยเป็นไข้เลือดออกมาแล้ว จะมีโอกาสกลับมาเป็นได้อีกหรือเปล่า
ตอบ

เด็กที่เป็นไข้เลือดออกแล้วโดยส่วนใหญ่แล้วจะไม่เป็นอีก   นานๆจึงจะมีข้อ
ยกเว้น เพราะเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดโรคไข้เลือดออกมีนามว่า เดงกี่ (Dengue)
มีด้วยกัน 3 พี่น้องเรียกว่า เดงกี่ ชนิดที่ 1 / 2 / 3   ถ้าคนไข้เคยเป็นชนิดที่ 1
ก็อาจจะติดเชื้อชนิดที่ 2 หรือ 3 ได้อีก   แต่ส่วนมากเจอแค่ชนิดเดียวก็อ่วมแล้ว
แล้วจะไม่เป็นชนิดที่ 1 อีก
 
กลับด้านบน - Back to top กลับสู่ห้องโถง - To restpage การทดสอบโรค - Diagnostic test ผลิตภัณฑ์เสริมสุขภาพ - Healthcare












ท้องอืดเป็นประจำ

ลูกชายดิฉันอายุยังไม่ครบเดือนดี ให้ทานแต่นมแม่แต่ทำไมลูกยังท้องอืด
เป็นประจำล่ะคะ เวลาท้องอือท้องแกจะแข็งปั๋ง และร้องมากเลยค่ะ
ท้องอืดเกิดจากสาเหตุอะไรคะ
ตอบ

เรื่องท้องอืด กับเด็กอ่อนเป็นของคู่กันมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว คุณไม่ต้องไปวิตก
อะไรมากเป็นเรื่องของทางสรีรวิทยา เหมือนทำไมผู้หญิงต้องมีเมนส์ หรือ
ผู้ชายทำไมต้องมีหนวด อาการท้องอืดสามารถเป็นได้กับลูกใครๆได้ทั้งนั้น
ไม่ว่าจะเป็นลูกผู้ดีมีเงินหรือยากจนเข็ญใจก็ต้องเจอทั้งนั้น

เนื่องจากเด็กมีผนังท้องบาง ทำให้ดูว่ามีศีรษะโตและท้องป่อง แขนขาม้อต้อ
ส่วนกระเพาะอาหารยังมีขนาดเล็กอยู่ เมื่อเด็กดูดนมขวดมักจะดูดเอาอากาศ
ลมเข้าท้องไปด้วยจนท้องป่อง เป็นเพราะขนาดหัวนมขวดไม่พอดีกับปาก
เด็ก ยิ่งถ้ายกขวดนมไม่ถูกเทคนิคลมจะเข้าท้องได้มาก ไม่เหมือนการให้นม
แม่ซึ่งเด็กมักไม่ดูดลมเข้าไป นอกจากช่วงดูดนมแล้ว ช่วงร้องมากๆของเด็ก
ยังทำให้ลมเข้าท้องได้อีก ยิ่งร้องมากลมก็ยิ่งเข้าท้องได้มาก

ในผู้ใหญ่มีวิธีการไล่ลมโดยการเรอ   หรือผายลมออก แน่นท้องมากๆก็เดิน
สักพักพออาหารเริ่มย่อยค่อยนั่งดูทีวี แต่สำหรับเด็กๆยังเดินหรือนั่งก็ไม่ได้
พอท้องอืดไม่รู้จะทำอย่างไร ธรรมชาติประทานเสียงร้องมาให้เด็กๆ แกก็
ร้องลูกเดียวเป็นการประท้วงบอกว่า แม่ป้อนนมให้ไม่ถูกวิธี   แต่ยิ่งร้องมาก
ลมกลับยิ่งเข้าท้องมากขึ้นไปอีก นอนไม่ได้ก็ร้องอีก วนเวียนไปมาแบบนี้
บางรายก็อาจเจอทั้งวันทั้งคืน อาจทรมานคุณพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย จนเพลีย

วิธีแก้ท้องอืดที่ดีก็คือการจับให้เรอ ถ้าทำถูกวิธีก็ไม่ต้องทรมาน วิธีที่สดวกก็
คือการเอาลูกอุ้มพาดไหล่ซ้ายหรือขวาตามถนัด ให้คางแกจะเกยตรงไหล่เรา
ท้องและลำตัวจะแนบไปกับอกของเรา เอามือตบหลังเบาๆ จนได้ยินเสียง
เรอหรือผายลม ควรทำหลังมื้อนม ทุกครั้ง หรือในระหว่างดูดนมโดยจะมี
การหยุดให้นมและทำแบบนี้เป็นระยะๆ ท้องก็จะได้ไม่อืด
กลับด้านบน - Back to top กลับสู่ห้องโถง - To restpage การทดสอบโรค - Diagnostic test ผลิตภัณฑ์เสริมสุขภาพ - Healthcare











ลมเข้าท้อง

คนข้างบ้านบอกว่า ถ้าเด็กนอนแล้วไม่เอาผ้าปิดท้องเด็ก ระวังลมจะเข้าท้อง
จะทำให้เด็กปวดท้อง จริงหรือเปล่าค่ะ  (ช่วงอากาศร้อน ดิฉันจึงไม่สวม
เสื้อผ้าให้มาก กลัวแกร้อน )
ตอบ

ไม่จำเป็นต้องเอาผ้าปิดท้องเด็กนะคะ ให้ทำตามวิธีนี้คือ จับเรอแต่ใจเย็น
เลี้ยงลูกต้องใจเย็นๆ อย่างทำอะไรรุนแรง ให้ทำอย่างนุ่มนวลเสมอ รับรอง
แค่ 1-2 เดีอน อีกหน่อยก็ไม่อืดท้องแล้วค่ะ

สรุปอาการลมเข้าท้องเพราะนอนไม่ห่มผ้าที่ท้อง ทำให้ลมเข้าท้อง ไม่มี
เกิดจากอาการท้องอืด ทำให้ปวดท้อง ยกเว้นกรณีเปิดพัดลมจ่อใส่ตัวเด็ก
แก้ง่ายๆโดยการจับเรอ
กลับด้านบน - Back to top กลับสู่ห้องโถง - To restpage การทดสอบโรค - Diagnostic test ผลิตภัณฑ์เสริมสุขภาพ - Healthcare













ลูกเป็นหัดเยอรมันแต่กำเนิด

ลูกดิฉันอายุ 3 เดือน แรกเกิดน้ำหนัก 2.3 กิโล ทั้งๆที่ครบตามกำหนด ดิฉัน
ให้นมของตัวเอง แต่ลูกดูดนมไม่ค่อยแรง หายใจแรง ดิฉันพยายามให้การ
ดูแลอย่างดี สุขภาพดีทั้งแม่และลูก แต่ตอนที่ดิฉันท้องอ่อนๆ หลานที่บ้าน
เป็นไข้ออกผื่น แต่หลานก็ไม่ได้ป่วยหนักอะไร ยังเล่นได้ ดิฉันก็ช่วยเลี้ยง
หลาน แต่เพราะงานยุ่งท้องนี้เลยไม่ได้ไปฝากครรภ์
ดิฉัยไม่สบายใจที่ลูกอายุ 3 เดือนแล้วแต่ไม่เคยจ้องหน้าดิฉันเลย เลี้ยงเท่า
ไรก็ไม่รู้จักโต น้ำหนักไม่ถึง 3 กิโล อยากให้คุณหมดช่วยแนะนำด้วยว่าจะมี
ทางช่วยลูกได้อย่างไรบ้าง
ตอบ

น่าเสียดายที่คุณไม่ได้ฝากครรภ์ตั้งแต่ในตอนแรก เพราะอาจตรวจพบได้ว่า
คุณอาจได้รับโรคจากหลานแล้วติดต่อไปสู่ลูกของคุณในครรภ์ได้ เท่าที่ได้
รับข้อมูลหมอคิดว่าลูกของคุณอาจได้รับเชื้อโรคหัดเยอรมันได้ เพราะอาการ
ของหลานที่มีไข้ออกผื่น ไข้ต่ำๆ 3-4 วัน มีผื่นขึ้นทั่วไป มีต่อมน้ำเหลืองโต
บริเวณหลังใบหู ซึ่งเหล่านี้เป็นอาการของโรคหัดเยอรมัน ขณะนี้แพทย์กำลัง
ผจญกับโรคหัดเยอรมันแต่กำเนิด ซึ่งติดมาจากมารดาที่เป็นโรค

เด็กเล็กๆเหล่านี้ (เช่นหลานของคุณ) เมื่อเป็นโรคหัดเยอรมัน จะสามารถถ่าย
เชื้อไวรัสจากตัวเองไปสู่ผู้อื่นได้โดยเฉพาะผู้ใกล้ชิด
ในผู้ใหญ่ที่ได้รับโรคอาจมีอาการชัดเจน เช่น มีไข้ ปวดตามข้อ มีผื่น ท่าทาง
ไม่สบายจนอาจต้องไปพบแพทย์ แต่ผู้ใหญ่บางคนอาการไม่รุนแรง อาจแค่
รู้สึกไม่ค่อยสบายนิดหน่อย อาจคิดว่าไม่เป็นอะไรมาก จึงไม่ได้ไปตรวจ
(กรณีนี้อาจคล้ายกับคุณ) ทำให้เชื้อไวรัสหัดเยอรมันถ่ายทอดไปสู่เด็กใน
ครรภ์ได้   ในกรณีที่มีการฝากครรภ์ และเล่าอาการต่างๆให้แพทย์ที่ฝาก
ครรภ์ทราบ แพทย์อาจสงสัยว่าคุณจะติดโรคก็จะขอเจาะเลือดพิสูจน์ หาก
พบว่าคุณติดเชื้อจริงในช่วงท้องอ่อนๆ แพทย์จะแนะนำขอให้คุณทำแท้ง
เพราะทารกที่คลอดออกมามีโอกาสพิการสูง ลักษณะมีได้ดังต่อไปนี้
- เด็กเกิดมาตัวเล็ก เลี้ยงไม่โต   ลูกของคุณเกิดมาน้ำหนักก็น้อยนิดเดียว
แม้จะคลอดตามกำหนด เลี้ยงเท่าไรก็ไม่โตเพราะมีโรคซ่อนอยู่ในตัวมาก
- หัวใจพิการ   เด็กจะแสดงอาการหอบ เหนื่อยเวลาต้องออกแรง โดยเฉพาะ
เวลาดูดนม เด็กก็จะหายใจเร็วและแรง ดูดได้ไม่นานก็ต้องหยุดพัก ดูดได้ไม่
มาก บางครั้งอาจมีอาการปากเขียว มือเท้าเขียวไปเลย
- เด็กเมื่อโตขึ้น อาจมีอาการหูตึง หรือหูหนวกได้
- เด็กบางคนอาจสายตาพิการ อาจเป็นต้อกระจก ต้อเนื้อ ทำให้เด็กมองไม่
เห็น
- ตัวเหลือง ท้องป่อง เพราะตับและม้ามโต
- ซีด มีจุดเลือดออกตามตัว
- ปัญญาอ่อน
ถ้าเด็กท่านใดเป็นครบทั้งหมดก็หนักหน่อย บางครั้งในตอนแรกก็ดูปกติดี
ต่อมาจะค่อยๆมีอาการเช่นหูหนวก

ดังนั้นคนที่กำลังตั้งครรภ์   การฝากครรภ์ในช่วงแรกเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง นอก
จากการได้รับการตรวจเช็คสุขภาพและตรวจโรคแล้ว ยังได้รับการแนะนำ
สิ่งที่มีประโยชน์ในการดูแลรักษาตนเองอีกด้วย  
  
กลับด้านบน - Back to top กลับสู่ห้องโถง - To restpage การทดสอบโรค - Diagnostic test ผลิตภัณฑ์เสริมสุขภาพ - Healthcare











หัดเทียม

ลูกดิฉันอายุ 7 เดือนอยู่ดีๆวันหนึ่ง รูสึกว่าลูกตัวร้อน เลยพาไปหาหมอ พบ
ว่าไข้สูง ประมาณ 38.2 องศาและบอกว่าเป็นไข้ชนิดที่คนโบราณเรียกว่า
หัดเทียม และให้ระวังถ้าไข้สูงมากอาจชักได้   บอกว่าไข้จะสูงต่อราวๆ  3
วัน พอไข้ลดก็จะออกผื่นคล้ายออกหัด และก็จริงอย่างที่หมอว่า พอกลับถึง
บ้านขนาดคอยเช็ดตัวตลอดไข้ยังสูงราว 38.8 องศาเซลเซียส พอเข้าวันที่
สองไข้ลดลงเล็กน้อนประมาณ 37.8-38.5 แต่อาการอื่นเริ่มปรากฏขึ้นเช่น
ท้องเสีย ถ่ายเป็นน้ำเลย ที่สำคัญคือเจ็บคออีก มีตุ่มขาวเล็กๆขึ้นตามปุ่มทั้ง
2 ข้างในคอ (และปุ่มนี้ก็แดงแจ๋) แกเพลียมากเพราะไข้และก็เสียน้ำมาก
จากท้องเสีย พอดูดนมก็ร้องเพราะคงเจ็บคอและหิว ต้องคอยอุ้ทตลอด
แทบสลบทั้งพ่อและแม่เลย โชคดีที่เป็นอยู่ราว 2-3 วัน พอไข้ลด ผื่นก็ขึ้น
จากหน้าไล่ลงมาที่เท้า ผื่นขึ้นอยู่ราว 3 วัน ก็ค่อยๆจางไปโดยไม่ทิ้งร่องรอย

ดิฉันสงสัยว่าหมอทราบได้อย่างไรว่าเป็นหัดเทียม และเราจะแยกได้อย่าง
ไร ระหว่างหักแท้และหัดเทียม
ตอบ

เด็กตัวร้อน แพทย์ตรวจปุ๊บก็บอกได้เลยว่าเป็น หัดเทียม ทำให้คุณสงสัย
ว่าหมดยกเมฆหรือเปล่า ทำไมบอกล่วงหน้าได้เป็นฉากๆ อย่างกับหมอดู

ทั้งนี้เพราะการแพทย์จะสอนเราให้รู้หมดว่าถ้ามีไข้จะเป็นโรคอะไรบ้าง
อายุเท่านี้มีไข้ในฤดูกาลอย่างนี้จะเกิดจากโรคอะไรบ้าง ถ้ามีผื่นขึ้นอย่างนี้
ผื่นขึ้นเมื่อมีไข้ลดลงแล้วเป็นโรคอะไร และจะมีโรคแทรกซ้อนอื่นๆ เช่น
ไวรัสลงกระเพาะได้หรือไม่ พวกนี้แพทย์เราเรียนกันมา ยิ่งแพทย์ที่มี
ประสบการณ์มามาก เห็นโรคมาพอสมควร ก็จะสามารถบอกได้ราวตาเห็น
เพื่อความเข้าใจและไม่สับสน

หัดมีหลายชนิดเช่น หัดเยอรมัน  หัดแท้ หัดเทียม หัดกุหลาบ (Roseola)
หัดแท้ (Measles)   จะมีอาการรุนแรง ไข้ขึ้นสูงมาก ตาแดง ไอ มีน้ำมูก
มาก ตาแฉะ เบื่ออาหาร วันที่ 3-4 ไข้ยังไม่ลงดีก็จะมีผื่นขึ้นตามชายผม
ลามลงมาตามตัว ผื่นกระจายไปทั่ว เวลาผื่นหายจะปรากฏลายดำๆเหลืออยู่
เด็กจะเพลียมาก ผอมลง และมีโรคแทรก ควรได้รับวัคซีนป้องกันซะดีกว่า

หัดเยอรมัน ( Rubella) และหัดเทียมนั้น เด็กไม่เจ็บป่วยอะไรมากมายนัก
ไข้ก็ไม่สูงมาก แต่สำหรับหัดเยอรมันก็ควรจะระวังให้มากสำหรับหญิงที่
กำลังตั้งครรภ์อ่อนๆ เพราะเชื้อหัดเยอรมันสามารถถ่ายทอดสู่ลูกและมำให้
เกิดความพิการได้

หัดเทียมอาจเกิดได้จากไวรัสอื่นๆหลายชนิด อาจทำให้มีอาการท้องเสียได้
แต่มักไม่ค่อยมีอันตรายต่อเด็กมากนัก

ส่วนโรคโรซีโอล่า หรือมีผู้เรียกว่าหัดกุหลาบ มักมีไข้สูง เป็นกับเด็กวัย 8
เดือน - 1 ปี มีไข้สูงประมาณ 3-4 วัน ไข้ลดลงรวดเร็วพร้อมกับมีผื่นขึ้น
เด็กจะหายเลย ไม่โยเย
กลับด้านบน - Back to top กลับสู่ห้องโถง - To restpage การทดสอบโรค - Diagnostic test ผลิตภัณฑ์เสริมสุขภาพ - Healthcare















โรคบิด

ลูกชายดิฉันอายุ 4 เดือน กำลังท้องเสียและไม่ใช่ท้องเสียธรรมดาเพราะพบ
บิดมีตัว ขณะนี้ได้รับยาจากหมอแล้ว ตรวจไม่พบเชื้อแล้ว แต่ยังตรวจพบ
เม็ดเลือดแดงและเม็ดเลือดขาวบ้าง ซึ่งอาการท้องเสีย เริ่มตั้งแต่เป็นจนถึง
ขณะนี้เป็นเวลาร่วม 3 อาทิตย์แล้ว ยังคงถ่ายวันละ 3-4 ครั้ง  บางครั้งเขียว
บางครั้งเหลือง แต่ยังคงเหลวและมีมูกปนอยู่

อยากเรียนถามอาจาร์ยว่าอาการท้องเสียในเด็กเล็กๆ ถ้าเป็นนาน 3-4 อาทิตย์
จะถือเป็นท้องเสียเรื้อรังหรือไม่ เป็นอันตรายมากไหม และมีผลต่อไป
อย่างไร และควรจะแก้ไขอย่างไร
ตอบ

ลูกของคุณเป็นโรคบิดมีตัวค่ะ เราเรียกว่า Amebiasis หรือบิดอมีบ้า
เกิดจากการกินอาหารที่ไม่สะอาด ไม่ถูกหลักสุขอนามัย มักเกิดกับเด็กโต
ดูรายละเอียดของโรคเพิ่มเติม
หรือผู้ใหญ่มากกว่า ถ้าเด็กเล็กขนาดนี้เป็น น่าสงสัยว่านอกจากการปรุง
อาหารไม่สะอาดแล้ว อาจเนื่องจากคนเลี้ยงเด๊กอาจเป็นโรคนี้ด้วยก็ได้ ต้อง
ทำการรักษาให้ถูกต้อง มิฉะนั้นจะกลายเป็นเรื้อรัง แต่ลูกคุณยังถ่ายนาน 3-4
อาทิตย์ ทำให้สงสัยว่าอาจมีลำไส้อักเสบร่วมด้วย หรือลำไส้อาจทำงานไม่
ปกติหลังจากท้องเสียซึ่งต้องใช้เวลาในการฟื้นตัว

ยังมีบิดอีกชนิดเรียกว่าบิดไม่มีตัว หรือ Shigellosis พวกนี้เกิดจากเชื้อ
แบคทีเรีย พวกนี้มักมีไข้สูง ถ่ายมีมูกเลือด บางรายอาจมีการชักร่วมด้วย
เนื่องจากพิษของเชื้อแบคทีเรีย   แบบนี้รักษาถูกต้องให้หายขาดได้ง่ายกว่า

สรุปโรคบิดเป็นโรคที่ไม่ดีทั้งต่อเด็กและผู้ใหญ่ แต่สามารถรักษาให้หาย
ขาดได้ คิดว่าคุรควรพาเด็กกลับไปพบแพทย์อีกครั้ง สอบถามรายละเอียด
เพิ่มเติมจากหมอที่ทำการรักษาในตอนแรก

ที่สำคัญบิดมีตัว ถ้าดูแลให้ยาไม่ต่อเนื่องหรือสม่ำเสมออาจรักษาไม่หายขาด
และอาจจะกลายเป็นเรื้อรัง ทำให้การรักษายากมากยิ่งขึ้น
กลับด้านบน - Back to top กลับสู่ห้องโถง - To restpage การทดสอบโรค - Diagnostic test ผลิตภัณฑ์เสริมสุขภาพ - Healthcare

 












ลำไส้ตีบตัน

ลูยดิฉันน้ำหนัก 3030 กรัม วันแรกไม่มีปัญหาอะไร พอวันที่สองจะไปให้
ลูกทานนมแม่ พยาบาลบอกว่าเด็กท้องอืด เลยไม่ได้ให้นม พอวันที่สาม
พยาบาลบอกว่าเด็กซึม ท้องอืด ไม่ยอมกินนม จะพาไปห้อง ICU เอ็กซ์เรย์
ลำไส้ หมอบอกว่าเป็ฯลำไส้ตีบตัน ทำให้ถ่ายไม่ออก เลยไม่ยอมกินนมต้อง
ทำการผ่าตัด ต้องพักต่ออีกประมาณ 10 วันแล้งอีกประมาณ 4-5 เดือน
ค่อยมาผ่าตัดอีกครั้ง คือตอนนี้แกจะต้องถ่ายออกทางท้องน้อย เพราะยังไม่
ถ่ายออกทางทวาร หลังจากนั้นอีก 4-5 เดือนค่อยผ่าเก็บเข้าที่เดิม

ดิฉันอยากถามว่าทำไมเด็กแรกเกิดถึงเป็นได้ สาเหตุเป็นเพราะอะไร และ
โรคนี้เป็นกรรมพันธ์หรือเปล่า







ลำไส้กลืนกัน

อยากทราบว่าโรคลำไส้กลืนกันจะสามารถสังเกตุได้อย่างไรบ้าง
ไม่ทราบว่าสามารถเป็นได้ในเด็กอายุเท่าไร และมีโอกาสมากน้อยเพียงใด
ตอบ

จากรายละเอียดจากคุณทำให้การวินิจฉัยค่อนข้างชัดเจนมากคือ ท้องอืด
อาเจียน ไม่ดูดนม ไม่ถ่ายอุจจาระ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเป็นโรคลำไส้ตีบตัน
แน่นอน ฟังดูน่าตกใจว่าเกิดปุ๊บ ก็๋เป็นโรคปั๊บเลยทันทีเชียวหรือ   แท้จริง
ไม่ได้เป็นตั้งแต่แรกเกิด หากเป็นมาตั้งแต่อยู่ในท้องมารดาแล้ว
ขณะที่ลูกอยู่ในท้องอวัยวะต่างๆ ก็เริ่มจัดเข้าเป็นระบบต่างๆ กระเพาะ
อาหารและลำไส้ก็เริ่มเจริญ เตรียมตัวขนส่งอาหารเมื่อลูกคลอดธรรมดา
ระบบนี้จะมีรูเปิดออกส่วนบนจากปากลงสู่หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร
ลำไส้เล็ก ลำไส้ใหญ่ ออกทางทวารหนัก โดยมีการติดต่อถึงกันตลอด ส่วน
กลางจะกลวงเพื่อบรรจุอาหาร แต่ในบางรายบังเอิญเพราะอะไรไม่ทราบ
ลำไส้แทนทีจะกลวงเป็นอุโมงค์ มันกลับตีบตันเสียอย่างงั้นแหละ

ขณะเด็กอยู่ในท้องมารดาเด็กยังไม่เดือดร้อนเพราะได้รับอาหารผ่านทางรก
สายสะดือจากแม่มาสู่ลูก โดยที่ลำไส้ยังไม่ต้องทำงาน   พอคลอดออกมาลูก
ต้องรู้จักการดูดนมเอง อาหารจะไหลผ่านไปสู้ลำไส้เล็ก ลำไส้ใหญ่ และทวาร
หนัก ถ้าทุกอย่างเรียบร้อยดีลูกก็ไม่มีอาการ อาเจียน ท้องอืด ไม่ถ่ายอุจจาระ

หมอคิดว่าคุณโชคดีที่แพทย์ตรวจพบโดยเร็ว เพราะโรคนี้รักษาโดยการ
ผ่าตัดได้อย่างดี การที่ต้องทำหลายขั้นตอน คือ ครั้งแรกเปิดเอาลำไส้ใหญ่
ออกทางหน้าท้อง พูดง่ายๆคือให้ถ่ายอุจจาระออกทางหน้าท้อง พอเด็กเริ่ม
โตขี้นเขาก็จะแก้อีกครั้งโดยการปิดหน้าท้อง ผ่าตัด ตัดต่อลำไส้ใหญ่ เพื่อให้
กลับมาถ่ายอุจจาระเป็นปกติ ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดอะไร

โรคนี้เกิดได้ทั้งจากกรรมพันธ์และเกิดขึ้นได้เอง




ตอบ
โรคลำไส้กลืนกัน ( Intussusception)    มักพบได้ในเด็กชายมากกว่า
ในเด็กหญิงวัยต่ำกว่า 2 ปี พบได้บ่อยในช่วง 3 เดือน - 1 ขวบปี เป็นการ
พบใด้น้อย เด็กจะอ้วนท้วนแข็งแรงดี จู่ๆวันดีคืนดี ก็มีอาการปวดท้อง
อย่างรุนแรง ปวดจนตัวงอ กรีดร้องพร้อมกับอาเจียน และถ่ายอุจจาระมี
เลือดปนออกมาคล้ายเยลลี่สีแดงๆ ติดตามด้วยการมีไข้ และคล้ำพบก้อนใน
ท้อง   อาการปวดจะไม่ทุเลาจนกว่าลำไส้จะคลายตัว ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้แก้ไข
ให้ค่ะ
พบได้น้อยรายมากๆ




กลับด้านบน - Back to top กลับสู่ห้องโถง - To restpage การทดสอบโรค - Diagnostic test ผลิตภัณฑ์เสริมสุขภาพ - Healthcare



ลูกเป็น G6-PD

ดิฉันมีลูก 2 คน คนโตเป็นผู้หญิงแข็งแรงดี ลูกชายคลอดแบบปกติ น้ำหนัก 2800 กรัม พอคลอดได้ประมาณ 23 ชั่วโมงก็เริ่มมีอาการ
ตัวเหลือง   หมอเจาะเลือดไปตรวจผลเลือดได้ 13 แต่ดิฉันก็ไม่เข้าใจ
ทางโรงพยาบาลก็ให้รอดูอาการก่อนยังไม่ให้กลับบ้าน ตอนที่อยู่
โรงพยาบาลก็ดูดนมแม่ตลอด พอเจาะเลือดตรวจครั้งที่สอง ผลยังสูงอยู่
หมอเลยให้ฉายแสง ฉายแสงได้ 2 วัน ก็เจาะเลือดตรวจอีก ผลเลือดได้
เป็น 25 จึงต้องมีการทำการถ่ายเลือดและผลตรวจออกมาว่าเป็น
G6 PD def. ลูกชายมีเลือดหมู่ B   ดิฉันมีเลือดหมู่ AB ส่วนของสามี
เลือดหมู่ O ตอนฉายแสงหมอให้งดดื่มนมแม่บอกว่าจะทำให้ลูก
ตัวเหลืองมากขึ้น หลังจากถ่ายเลือดแล้ว ผลตรวจได้ค่าลดลงแต่พอวันรุ่ง
ขึ้นก็มีค่าสูงขึ้นอีก ต้องฉายแสงต่ออีก 3 วัน ตอนนี้กลับบ้านได้แล้วแต่ยังมี
อาการตัวเหลืองอยู่บ้าง

อยากเรียนถามคุณหมดว่าอาการที่ลูกเป็นจะมีผลต่อสมองเมื่อตอนโตขึ้น
หรือไม่อย่างไร
ตอบ

โรค G6 PD เป็นโรคที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม โดยการแอบแฝงเร้นมา
กับโครโมโซมเอ็กซ์ของมารดาเรียกว่า x- linked recessive แต่ไม่ต้อง
มาเถียงกันว่าลูกเป็นเพราะใครหรอกค่ะ ตั้งใจดูแลลูกให้ดีจะดีกว่า หมอเคย
พบเด็กที่ป่วยเป็นโรคนี้ในตอนเด็ก พ่อแม่วิตกกังวลเป็นอย่างมาก ปัจจุบัน
มาพบอีกครั้งกลายเป็นนายร้อยไปแล้ว สูงสง่าจนจำแทบไม่ได้

เมื่อแรกเกิดบางคนอาจมีอาการเม็ดเลือดแดงแตกจึงทำให้เกิดอาการตัวเหลือง
โชคดีที่คุณหมอรับไว้ในโณงพยาบาล แล้วรีบเปลี่ยนถ่ายเลือดให้ ผลการ
ตรวจที่ว่าจะหมายถึงการตรวจระดับของ บิลลิรูบิน (Billirubin) การถ่าย
เลือดและการฉายแสงก็เพื่อลดระดับของสารตัวนี้ในเด็ก เพราะถ้าปล่อยให้มี
ค่าสูงเกินไป จะมีผลต่อสมองของเด็กได้ แต่ระดับของลูกคุณถือว่าสูงพอควร
ดังนั้นแม้กลับบ้านแล้วควรจะนำเด็กมาตรวจตามนัดอย่างสม่ำเสมอด้วย
เพราะจะมีการตรวจสอบผลต่อสติปัญญาของสมองด้วย

สารที่ควรระวังสำหรับเด็กหรือคนที่เป็นโรค G6 PD def. เหล่านี้คือ
ลูกเหม็นที่เราใช้กันแมลง   ถั่วปากอ้า   ยารักษาโดรมาลาเรียบางชนิด ยาใน
กลุ่มซัลฟาและอื่นๆ   ถั่วปากอ้ มีสารบางตัวที่ทำให้เม็ดเลือดแดงแตกง่ายได้
ถ้ามาตรวจที่โรงพยาบาล แพทย์ผู้ดูแลเขาจะมีการ์ดประจำตัวให้ ไว้บอกให้
ระวังยาตัวใดบ้างที่จะใช้ทานตอนเจ็บป่วย พร้อมกับให้หมอที่จะรักษาได้
ทราบและระมัดระวังในการจ่ายยาให้ ผู้ป่วยก็จะปลอดภัย

โอกาสที่จะเกิดในลูกกชายคนต่อไปจะมีโอกาสประมาณร้อยละ 25
สำหรับลูกสาวนั้นไม่มีปัญหาอะไร แต่เมื่อแต่งงานแกอาจมีโอกาสมีลูกชาย
เป็นโรคนี้ได้ ถ้าลูกสาวเป็นพาหะของโรค G6 PD อยู่ บางคนก็ไม่เป็นพาหะ
ก็จะไม่เป็นปัญหากับโรคนี้เลย
กลับด้านบน - Back to top กลับสู่ห้องโถง - To restpage การทดสอบโรค - Diagnostic test ผลิตภัณฑ์เสริมสุขภาพ - Healthcare



หัวใจรั่ว

ขณะนี้ลูกสาวอายุได้ 10 เดือนแล้ว ตอนประมาณเดือนกว่าๆที่ผ่านมา หมอ
ตรวจพบว่าการเต้นหัวใจของลูกไม่เป็นปกติ จึงได้เอ็กซ์เรย์ดู และบอกว่ามี
รูรั่วระหว่างผนังกั้นห้องหัวใจซ้ายขวาล่าง แต่รูรั่วนี้นี้สามารถปิดเองได้

คำถามคือลูกสาวเป็นโรคหัวใจพิการหรือเปล่า รูรั่วนี้จะปิดได้เองหรือไม่
มีวิธีการใดบ้างที่จะช่วย และจำเป็นต้องผ่าตัดหรือไม่

ตอบ

หมอที่ตรวจบอกว่าเด็กเป็นโรคหัวใจ แต่ตัวหมอยังสบายใจว่าจากราย
ละเอียดคงยังไม่เป็นรุนแรงมากค่ะ เพราะเด็กไม่มีอาการหอบเหนื่อยหรือ
ไม่มีแรงดูดนม

โรคหัวใจที่มีรูรั่วของผนังกั้นห้องซ้ายและห้องขวา เราจัดเป็นโรคหัวใจ
พิการแต่กำเนิด อแต่ไม่ต้องตกใจมากกับชื่อนี้ เพราะมีความแตกต่างกันได้
มากในเด็กแต่ละราย บางร้ายเกือบไม่มีอาการอะไรเลย นอกจากบังเอิญตรวจ
พบเข้า ที่มีอาการน้อยก็เพราะรูรั่วมีขนาดนิดเดียว บางรายก็สามารถปิดรู
รั่วได้เอง บางรายที่มีรูโตมากหน่อยอาการก็จะมีมากขึ้นจนถึงหอบเหนื่อย
ไม่เติบโตและมีอาการหัวใจวาย แบบนี้ถ้าไม่ได้รับการผ่าตัดก็แย่ ไม่มีทาง
รอด

อยากทราบเรื่องเพิ่มเติมคลิก

โรคหัวใจแต่กำเนิดหรือ Congenital Heart Disease มีมากมายหลาย
ชนิด มีตั้งแต่อาการน้อยๆจนกระทั้งอาการหนักมาก บางชนิดมีรูโหว่ที่ผนัง
หัวใจ บางชนิดลิ้นหัวใจตีบตัน   สาเหตูเกิดได้มาก
- เชื้อไวรัส   โดยเฉพาะหัดเยอรมันที่แม่เป็นตอนตั้งครรภ์อ่อนๆ เชื้อนี้ทำให้
เกิดโรคหัวใจรั่ว หรือปัญญาอ่อน ตาเสีย หูพิการได้ วิธีป้องกันรณรงค์ให้มี
การรับวัคซีนเพื่อตัดไฟแต่ต้นลม แกจะไม่เป็นตอนโตค่ะ
- พันธุกรรม บางครอบครัวมีญาติที่เกิดลูกหลานเป็นโรคนี้ การจะถ่ายทอด
ไม่ชัดเจน อย่างเช่นโรคปากแหว่ง เพดานโหว่
- ไม่ทราบสาเหตุ พบได้บ่อย อาจมาจากโภชนาการของแม่ตอนตั้งครรภ์
อาจเกิดการเชื้อแบคทีเรียสเตร็ป กลุ่ม เอ เป็นต้น

กลับด้านบน - Back to top กลับสู่ห้องโถง - To restpage การทดสอบโรค - Diagnostic test ผลิตภัณฑ์เสริมสุขภาพ - Healthcare



กลับด้านบน - Back to top กลับสู่ห้องโถง - To restpage การทดสอบโรค - Diagnostic test ผลิตภัณฑ์เสริมสุขภาพ - Healthcare




wpe5.jpg (2165 bytes)
ThaiL@bOnline - Crystal Diagnostics
Tel (02) 803-7310-11  803-6704   Fax. (02) 803-9-6705 ext 0
Email : vichai-cd@usa.net