|
ไฟสงครามลุกโชกช่วง ในดินแดนของอาณาจักรซูคังที่เจริญรุ่งเรืองมากว่า 500 ปี บัดนี้ได้ถูกอาณาจักร นากิ เข้าโจมตี อาณาจักรซูคังที่เริ่มคลอแคลน ในที่สุดก็เสียเอกราชให้แก่อาณาจักรนากิ
วันที่ 13 เดือนธค. กษัตริย์โดราตะ ทำศึกเป็นครั้งสุดท้ายอย่างเด็ดเดี่ยวและจบลงโดยการถูกปักเสียบประจาน
วันที่ 15 เดือนเดียวกันกองทัพ 5 สายของนากิก็เข้ายึดเมืองหลวงได้และได้ส่งพระราชสารไปยังราชินีมิโดริให้ยอมแพ้เสีย แต่ก็มิได้รับคำตอบ
และในวันรุ่งขึ้น แม่ทัพโควตะ ผู้คุมทัพสายเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือและใต้ และแม่ทัพซาไอผู้คุมทัพสายใต้และตะวันตกบุกเข้ายึดวังหลวง และปลิดชีพขุนนางทั้งหมดกว่า 3000 ชีวิต จับเป็นนางกำนัลอีก 300 ชีวิต
และเวลาเที่ยงตรงแม่ทัพใหญ่ทั้งสองมาพบกันที่หน้าพระตำหนักกลาง ทั้งสองหาทางเข้ากว่า 2 ชม.แต่ปรากฎว่า
.หาพบทางเข้าไม่
..
"พวกพระราชินีต้องอยู่ในนี้แน่" แม่ทัพโควตะวัย 30 เศษ แต่ผ่านสนามรบมานับพัน ว่าอย่างมีโมโหแต่สงบอารมณ์ได้
"ข้าก็คิดก็คิดเช่นนั้น" แม่ทัพซาไอ วัย 18 ผู้ช่ำชองกลศึก กล่าวขึ้นอย่างเยือกเย็น
"จริงๆ เจ้าน่าจะเจ็บใจน่ะซาไอ" โควตะว่า
"หญิงที่มีส่วนล้มล้างราชวงศ์ของเจ้าทำให้เจ้าต้องมาอยู่นากิ ยังจับตัวไม่ได้" โควตะว่า
"เจ็บสิ แต่ข้าก็กำลังจะได้ตัวนางแล้ว"
"นั้นแหละปัญหา ว่ามันจะเข้า
.."
"แย่แล้วขอรับ" ทหารชั้นผู้น้อยคนหนึ่งลุกลี้ลุกลนเข้ามา พร้อมหอบอย่างเหนื่อยอ่อน
"ทหารของเราที่เดินตามทางรอบนอกตำหนัก ถูกลอบทำร้าย ด
.โดยหาผู้ร้ายมิได้ขอรับ" ทหารบอก
"หา!!!!!??!!" โควตะอุทาน "แสดงว่า
."
"โง่แล้ว" ซาไอกล่าวอย่างรู้ทัน ขณะยิ้มอย่างเยือกเย็น
"เร็วกว่าข้าอีกแล้วน่ะ ซาไอ" โควตะชม
"เข้าใจเร็วกว่าข้าอีกแล้ว ว่ามันจับตาดูเราจากข้างในตลอดเวลา พรสวรรค์เสียจริง"
"มิได้ ข้าเพียงแต่พบเหตุการณ์เช่นนี้บ่อยต่างหาก" ซาไอพูดขณะเดินไปตามกำแพง"
"นารายะ" ซาไอเรียกทหารคนสนิท
"ขอรับ"
"แบ่งกองทัพออกเป็น 8 กอง และให้เข้าไปตามทางเข้าทั้ง 8 ทหารกองไหนเหลือน้อยที่สุดให้รีบมารายงาน"
"ขอรับ"
"เจ้าคิดอะไรอยู่ซาไอ" โควตะกล่าวขณะเดินมาหา "แผนหรือ? เป็นยังกันแน่"
"ก็ไม่ยากโควตะ กำแพงเป็นทางทึบไม่มีทางเข้าหรืออก ตามการคาดคะเนของข้าหากทางเข้ายิ่งมากยิ่งทำให้คนข้างในเสี่ยงที่จะถูกเจอ คงมีทางเข้าเพียงทางเดียว และทหารถูกทำร้ายมิได้เป็นแบบกับดักหรือหลุมพรางแต่เป็นแบบคนทำร้ายแสดงว่าจะต้องมีคนเฝ้าหน้าทางเข้าเพื่อป้องกันเพราะฉะนั้น
.."
"เอาล่ะ ข้าเข้าใจแล้ว" โควตะว่า "และหาก
.."
"ย
.แย่แล้วขอรับ" นารายะกลับมา "ทหารทุกกองครบหมดยกเว้น สายที่ 5 ขอรับ ไม่มีใครกลับมาเลย"
"ดีล่ะ" โควตะทุบอกตนเอง "ไปกัน" โควตะชวนซาไอ
ตามที่ซาไอคาดหมาย ทางเข้าอยู่สาย 5 โควตะสั่งกองทัพทลายกำแพง พบห้องโถงขนาดใหญ่ พบนางกำนัลมากมาย และทหารจำนวนหนึ่ง
"ราชินีอยู่ไหน" โควตะกล่าว
"ห้องบรรทม" ซาไอตอบ
"รู้ได้อย่างไร!"
"นิยายส่วนใหญ่ก็เป็นอย่างนี้แหละ"
"ขำจัง"โควตะหัวเราะฝืดๆ
แต่ก็จริงอย่างที่ซาไอว่า พระราชินีมิโดริทรงสวมกอดเจ้าชายเซอิจิวัย 15ภายในห้องบรรมทม
"ถวายบังคมพะยะค่ะ ราชินีมิโดริ และไทจือเซอิจิ(ไทจือ=รัชทายาท)" โควตะและซาไอถวายบังคมราชนุกูลทั้งสอง
"ยังจะสุภาพ" ราชินีประชดประชัน "หากจะฆ่าก็จงฆ่าเราโดยเร็ว" พระนางกอดพระโอรสแน่นยิ่งขึ้น
"มิได้พะยะค่ะ ราชาอิเอยาสึ ทรงส่งกระหม่อมมาอัญเชิญ ราชินีและไทจือ ไปพำนักที่อาณาจักรนากิ"
"กระหม่อมได้รับคำสั่งให้มารับพระองค์เพค่ะ"ซาไอกล่าว
"ฮึ
เรามีสิทธิ์เลือกรึ"พระนางตรัสขณะลุกขึ้นอย่างสง่างาม โดยมีเจ้าชายเซอิจิตามไป
"เชิญพะยะค่ะ"โควตะพูด แต่ซาไอไม่มีคำพูดใด เจ้าชายเซอิจิช่างสดใสเหลือเกิน
"ไปได้แล้ว ซาไอ"โควตะค้อน
"เจ้าจะทำอะไร"เสียงกรีดร้องของราชินีดังขึ้น
"เสด็จแม่" เจ้าชายเซอิจิร้อง
"ทำอะไร" เสียงซาไอถามโควตะ
"แยกไง จะได้ไม่คิดทำอะไรได้ถนัดนัก" โควตะพูดอย่างภูมิใจ ที่ตนรู้ในสิ่งที่ซาไอไม่รู้ ขณะที่ซาไอมองเจ้าชาย
"อย่าสังเวช เจ้าชายนักเลย คนที่ถูกประคบประหงมมากก็งี้แหละ" โควตะพูด
"เด็กคนนั้นคล้ายข้าน่ะ" ซาไอว่า
"แต่เจ้าไม่อ่อนแอนี่น่า เอาน่า
.. ต่อให้เจ้าจะสงสารเด็กจนปล่อยนางแพศยาที่ทำร้ายเรา 2 คนได้ แต่ท่านอิเอยาสึไม่ปล่อยนางไว้แน่ๆ" โควตะมองไปตามทาง "ถือเอาว่า เป็นบาปที่นางทำไว้ ลูกของนางจึงอาภัพเช่นนี้" โควตะถอนใจและเดินไปตามทางออก ก่อนที่จะตะโกน "ซาไอ!!! ข้าจะค่อยดูแลราชินี ส่วนเจ้าจัดการเจ้าชายก็แล้วกัน โชคดี พวก
."
"โชคดี พวก" ซาไอกล่าวรับ เธอเดินไปตามที่เจ้าชายประทับ ปีนี้ข้าอายุครบ 18 แล้วหรือนี้ เธอคิด เกือบ 10 ปีแล้วสิน่ะที่ข้าเฝ้าคอยแก้แค้นหญิงคนนี้ คนที่พรากทุกสิ่งที่ข้ารักไป
ย้อนไปเมื่อ เกือบ 10 ปีที่แล้ว จะพบดรุณีน้อย ที่มีนามว่า มาซาอิซาอิโกะ ราชธิดาในกษัตริย์อุราซามุแห่งโบคิ นัยตาที่เขียวสดใสเป็นสัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์ เธอได้ชื่อว่าเป็นของขวัญของเทพมิบุ(เทพแห่งความสมบูรณ์) แต่อาณาจักรที่เป็นที่รักของเธอถูกยึดโดยราชาโดราตะโดยมีราชินีมิโดริเป็นผู้ผลักดันให้มายึด เพราะความอุดมสมบูรณ์ของดินแดนโบคิ แม้กระทั้งตอนพิธีประหารราชาอุราซามุ พระนางก็เสด็จมาร่วมพิธีด้วยตนเอง ซาไอยังจำรอยยิ้มยินดีที่มีคนตายได้อย่างดี หลังประชาชนที่คร่ำครวญให้กับกษัตริย์อันเป็นที่รัก ยังมี หนึ่งดวงตาที่โกรธแค้นอยู่ด้วย
ซาไอมาถึง ณ ที่ประทับของเจ้าชายแห่งซูคัง จึงต้องเข้าไปแสดงตนตามมารยาท เมื่อประแง้มออก
"ใคร?" พระสุรเสียงแสดงความตกพระทัย และสีพระพักตร์ขาวซีดยังไม่จางไป แสดงถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา
"กระหม่อม ซาไอ ขอประทานอภัยที่เสียมารยาท" ซาไอคุกเข่าลง
"เจ้าจะทำอะไร เรา
.." พระองค์ตรัส
"มิได้ หม่อมฉันเพียงเข้ามาแสดง
."
"หยุดพูดได้แล้ว!!!" เจ้าเซอิจิทรงลุกขึ้นจากเก้าอี้ และเสด็จโซเซมาหา และมองซาไอด้วยสายตาโกรธแค้น
"เจ้า!!! มันคนเลว" พระองค์ตะโกน
"เราทำผิดอะไร ท่านแม่ทำผิดอะไร ท่านพ่อทำอะไร ถึงฆ่า ห๊า!!!"
"บอกเราสิ บอกเรามา คนชั่ว!!!" เจ้าชายทรงเขย่าไหล่ซาไออย่างแรง
"ห๊า!!!"
"เพี๊ยะ" ซาไอตบเจ้าชายจนถอยห่างไป เล็บของพระองค์กรีดหน้าซาไอเป็นรอยที่แก้มขวา เลือดไหลออกมา พร้อมกับเลือดที่ไหลจากปากเจ้าชาย แต่
น้ำตาก็ไหลออกมาจากตาซาไอ
"ข้าจะบอกให้ ว่าแม่ท่านผิดอะไร" ซาไอพูดด้วยเสียงอันดังเกือบตะโกน และลืมมารยาทจนสิ้น
"พ่อแม่ท่านฆ่าพ่อแม่ข้า ฆ่าประชาชนแคว้นข้า ยึดแคว้นข้า ข่มเหงผู้หญิงแคว้นข้า แล้วก็ทำอย่างนี้เช่นกันกับอีกกว่า 10 อาณาจักร!!!" ซาไอเช็ดน้ำตา
"ส่วนท่าน!!! ผิดที่เป็นลูกพวกมัน ผิดที่กล่าวหาคนอื่น และ ผิดที่ยังไร้เดียงสากลางวง พ่อแม่ชั่ว อาณาจักรที่เลวอย่างไม่มีที่ติ ผิดที่เจ้าไม่รู้อะไรเลย!!!" ซาไอร้องไห้โฮ "ไม่รู้อะไรเลย" และก็ตั้งสติได้กระทันหัน "ประทานอภัยให้ด้วย" แม่ทัพเอ่ยอย่างหมดแรงและผลุดออกจากห้องอย่างรวดเร็วโดยที่เจ้าชายเซอิจิทรงตะลึงอยู่ข้างหลัง
ซาไอเดินไปตามทางขณะที่สะอื้นไปด้วย ขณะที่นารายะเดินผ่านมาพอดี
"ท่าน!" แต่ซาไอยกมือห้ามไว้
"จัดเวรยามระวังให้ดี แต่อย่ากดดันมาก ไทจือเป็นคนหุนหันอาจพังคอกมาเมื่อไร่ก็ได้"
ซาไอเช็ดน้ำตา "พาข้าไปหา โควตะที"
"อ้าว!!! ซาไอ" โควตะทักทายขณะที่ให้ทหารคุมตัวนางกำนัลไปยังที่ห่างจากราชินี
"อยากได้ซักคนไหม ข้าก็จะแอบแมบไว้สักคน สวยๆทั้งนั้น"
"บ้า!!!ข้าเป็นผู้หญิงน่ะ"
" 'โทษที อยู่กับเจ้านานจนนึกว่าเจ้าเป็นชาย มาหาข้ามีอะไรหรือ" โควตะถาม
" มาคุ
..มาคุคนสนิทของเจ้าอยู่ไหม?"
"ไม่อยู่ ข้าให้มันไปส่งสารให้ท่านอิเอยาสึ โอ้ว..ชู่" โควตะพูด พลางสั่งทหารให้ทำงานแทนตน แล้วจับแขนซาไอออกมานอกวง
"ข้าเพิ่งจะเห็น" โควตะหัวเราะ พลางใช่ฝ่ามือปาดคราบน้ำตาของซาไอ
"โดนเจ้าเด็กไม่สมดุลย์นั้น พูดอะไรใส่เล่า?"
"เขาถามว่าแม่เขาทำอะไรผิด!" ซาไอบอก
"อะไรน่ะ ข้าจะไปด่ามันเอง"
"ไม่ต้อง ข้าทำไปแล้ว"
"ฮะๆๆๆ เจ้านี่จริงเล้ย
." โควตะหัวเราะ "ถึงจะฉลาดแต่ก็ยังเด็กล่ะน่ะ ถึงข้าจะโอ๋เจ้าไม่เก่งเท่ากับเจ้าเฒ่ามาคุ แต่ก็ทำให้เจ้าหยุดร้องได้ใช่ไหม ฮึ!!!" โควตะกอดคอซาไอ และหน้าตาก็กลับมาเงียบครึมอีกครั้ง
"มีอะไรหรือ!!!"
"เปล่า"
"โกหก"
"วันนี้เราจะงานเลี้ยงที่ยึดเมืองได้สำเร็จ เพื่อสร้างขวัญทหารให้ฮึกเหิม แต่เกรงว่า
"
"ราชินี และโอรสอาจหลบหนีได้" ซาไอต่อ
"ใช่ๆ ข้าก็เลยคิดอยู่ว่าทำอย่างไรดี"
"หมองูยังตายเพราะงู ชายย่อมตายได้เพราะมารยาหญิง" ซาไอลูบคางและใช้นิ้วปาดข้างจมูกซึ่งเป็นวิธีใช้ความคิดของเขา แล้วพยักหน้า
"เอางี้สิ เอาพระนางเข้าร่วมงานด้วย" ซาไอว่า
"อะไรน่ะ ให้นังคนนั้นมาร่วมงานด้วยงั้นรึ" โควตะว่า แล้วหัวเราะ
"เอาล่ะ ตกลงๆ อยากรู้นักว่าจะทำหน้าอย่างไร"
"คนที่ผิดคือพระนาง ไม่สำนึกคือพระนาง พระนางสมควรรับสิ่งที่นางทำ"ซาไอว่า
"แต่ มีเรื่องจะบอก รับรองว่าสนุกแน่"
"หือ
." ซาไอกระซิบบอกแผนการที่ตนคิด
"ตกลงๆ ข้าก็คิดอยู่แล้วว่านางต้องคิดหนี"
"อ้อ
.โควตะมีเรื่องอยากบอกอีก"
"อะไร"
"อยากให้รับรองความปลอดภัยนางกำนัล"
"ห๊า!!!"
"โควตะ!!!" ซาไอพูดเสียงเข้ม "ถ้าเราทำอะไรพวกนาง เราจะเป็นพวกเดียวกับมิโดริ ยังไงก็เหลือแต่คนในวังหลวง อดหน่อยเดียวก็สบายแล้ว"
"อืม
เอางั้นก็ได้ แล้วเจ้าชายออเซาะล่ะ"
"ข้าไม่อยากเข้าใกล้เลย"ซาไอถอนใจ
"แต่อายุยังน้อยซื้อใจง่าย แต่ไม่สร้างความประทับใจล่ะก็
." ซาไอถอนใจอีก
"งั้นเจ้าก็สั่งนารายะไว้สิ"โควตะออกความเห็น
"นารายะเป็นคนฉลาด แต่ไม่ฉลาดพอที่จะ พูดจาซื้อใจใครได้"ซาไอกล่าว
"
" โควตะว่า
"สงสัยคงต้องเลื่อนไป
.จริงๆข้าไม่อยากเลื่อนน่ะ เผื่อถูกจูงใจตัดหน้า" ซาไอว่า เป็นอันตกลง ทำให้แผนเจรจากับเจ้าชายเซอิจิต้องเลื่อนออกไป
|