|
'เจ้าไปไหนมา!' เสียงเอ็ดตะโรของอิจิวดังแว้ดมาที่ข้าทันทีเมื่อเขาเห็นหน้าข้า เมื่อข้าลอดช่องแมวกลับมาประจำที่โต๊ะตนเองได้ทันเวลา มันทำให้ข้าโล่งใจที่เขาไม่เอะใจอะไรมากมายเกี่ยวกับที่ข้าหายไป ขณะที่เขาเดินเข้ามาใกล้ข้า ข้าก็ปาดเหงื่อที่ไหลโทรมเต็มหน้าผาก
ใช้มือลูบกางเกงที่เปียกน้ำจากลำธาร ที่ข้าลงไปล้างดินระหว่างทางมา เป็นการยากเหลือเกินที่ข้าจะปิดพิรุธ อิจิวเดินเข้ามาใกล้ ข้าตกประหม่าอย่างมาก เกรงเหลือเกินว่าแผนที่ข้าวางมาจะเสียหมดเพราะเหตุการณ์นี้ ข้ามองซ้ายมองขวา สายตาไปสะดุดกับไหเหล้าไหหนึ่ง ข้ายกมันขึ้นและกรอกใส่หน้าตัวเอง ทันเมื่ออิจิวเดินมาหาข้าพอดี
'เจ้าทำอะไร?' เขาตวาดข้าอย่างฉุนเฉียว
'เจ้าต้องเฝ้าราชินีน่ะ!!!! แล้วเจ้าทำอะไรกับชุดของเจ้า เดี๋ยวพระนางจะมาแล้ว' เขาจ้องมาที่ข้าราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ ข้าทำหน้าหงอยๆ และอิจิวก็ถามคำถามต้องห้ามกับข้า
'เจ้าไปไหนมา?' เขาถาม ข้าสะดุ้ง ไม่รู้ควรจะตอบประการใด แต่ปากของข้าก็หลุดออกไป
'ข้าก็อยู่ตรงนี้ล่ะ' ข้าบอก พลางมองหน้าเจ้าโจรด้วยกริยาใสซื่อที่สุด
'เผอิญเมื่อสักครู่ข้าหายไปข้างนอกมานิดหน่อย คือ
ตรงนี้มันอึกทึกน่ะ ท่านก็รู้ว่าข้าชอบที่ใดก็ตามที่มันเงียบๆหน่อย
' ข้าว่า อิจิวยังจะจ้องหน้าข้าเหมือนเดิม เขาไม่เชื่อข้า แต่ไม่มีเหตุผลที่เขาจะเถียงว่ามันเป็นเรื่องโกหก
'แล้วเจ้าคนที่ข้าให้มาดูแลเจ้าล่ะ
หายไปไหน?' เขาถามข้าอย่างตั้งใจจับพิรุธเต็มที
'ตอนข้าออกไปข้างนอกเผลอไปหกล้มบนกองดินทับท่านผู้นั้น
ท่านดูสิ' ข้าชี้ให้เขาดูรอยน้ำ
'ข้าเลยไปล้างดินออก แล้ว
ท่านผู้นั้นก็ขอตัวไปเปลี่ยนเสื้อผ้า..' ข้าบอก อิจิวเลิกคิ้วสูง เขากำลังเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง หลังที่เราจ้องหน้ากันสักพัก เขาก็พึมพำให้อภัยข้าแล้วสบถด่านายทหารผู้นั้นที่ไม่ทำตามหน้าที่ แล้วเดินจากไปหาแขกในงาน ข้ามองอาหารตรงหน้าข้า เกรงว่าจะมีใครเอามีดออกไป ข้าใช้ตะเกียบเขี่ยปลาเล็กน้อยเห็นเพียงปลายมีด ข้าจึงวางใจ ในใจข้านั้นเต้นระทึก ไม่นานนักเสียงประโคมดนตรีด้วยเพลงเถลิงชัยของชาติก็ดังกระหึ่มมาแต่ไกล ข้าจึงรู้ว่าเวลาของข้าใกล้เข้ามาทุกที เหล่าคนในงานคุกเข่า ข้าก็เข้าร่วมด้วย ข้าคุกเข่าอยู่ที่โต๊ะของตัวเอง ในเวลาเพียงไม่นานเมื่อเสียงของคนที่อยู่ในงานเงียบลง ขบวนเสด็จก็เดินเข้ามา ประกอบด้วยราชองรักษ์ นางกำนัล และ
เกี้ยวอีกหลายเกี้ยว ล้วนประดับด้วยพู่งามสีต่างๆ คลุมด้วยผ้าราคาแพงหลายชนิด ข้าสอดส่องสายตาไปยังเกี้ยวนับสิบนั้น พยายามหาเกี้ยวผ้าแพรสีแดง
.
สมาธิของข้าถูกขัดลงหลายคราด้วยเสียงถวายพระพร เสียงซุบซิบต่างๆนานา แต่ในที่สุด ข้าก็พบเกี้ยวผ้าแพรสีแดง ใจข้าลิงโลดยิ่งกว่าสิ่งใด เกี้ยวนั้นคือเกี้ยวที่มิโดริอยู่ ข้าใช้ปลายนิ้วเล็ดมีดจากตัวปลา แล้วค่อยๆใส่มันไว้ในแขนเสื้อ แล้วลอบโรยยาพิษร้ายแรงประจำตัวของข้าไว้บนปลายมีด ระวังหนักหนาไม่ให้มันโดนตัวเอง เมื่อเกี้ยวทั้งหลายถูกวางลง เหล่าขุนนางชั้นสูง รวมถึงนางสนองพระโอษฐ์ลงมาจากเกี้ยวจนหมดสิ้นแล้วนั้น ก็แหวกทางให้กับเกี้ยวสุดท้าย แต่กระนั้นข้าก็ยังไม่ลงมือ
จนกระทั้งมือเรียวขาวเอื้อมออกมาเปิดชายผ้าแพรที่ถูกซ้อนจนแทบทึบแสง เพียงเห็นแขนเสื้อข้าก็ตระหนักรู้ว่า เป็นสตรีชั้นสูง
ขณะนั้นในห้องโถงเงียบสนิท เงียบจนน่ากลัว ข้าเพียงแต่มองเกี้ยวสลับกับอิจิว อิจิวจ้องเกี้ยวไม่วางตา เขาอยู่ใกล้เกี้ยวมาก มากจนสามารถป้องกันมีดที่ข้าจะซัดออกไปได้ ข้าภาวนาให้อิจิวสนใจสิ่งอื่นสักเพียงวินาที
ในที่สุดอิจิวก็เบนความสนใจไปยังเสียงอึกทึกนอกห้องโถงกะทันหัน!!!
และฉับพลันนั้นเองข้าก็ซัดมีดสั้นออกไป!!! ปักคอสตรีที่อยู่ในเกี้ยวทันที!!! นางร่วงออกมานอกเกี้ยว ไม่แม้จะได้กรีดร้อง นางสิ้นใจตายทันที ทุกคนในห้องโถงตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก นางกำนัลผู้หนึ่งวิ่งเข้าไปประคองร่างของนางผู้นั้น แล้วร้องไห้
.
'โชวโกะ โชวโกะ!!! ฮือๆ โชวโกะ!!!' นางกำนัลผู้นั้นสะอื้น ข้ารู้สึกร้อนผ่าวไปทั่วตัว โชวโกะหรือ? ข้าฆ่าผิดคนหรือเช่นไร? ข้าวิ่งเข้าไปหาศพนางทันที เพ่งพิศที่ใบหน้าของหญิงผู้นั้นชัดๆ ใบหน้างามริมฝีปากซีดเผือก ไม่ใช่!!! นางไม่ใช่ราชินีมิโดริ ข้าฆ่าผิดคนไป
ในขณะที่ข้าสิ้นสติไปชั่วครู่ ข้าไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง... ต่อมาข้ารีบตั้งสติอย่างรวดเร็วและก้าวเท้าหนีทันที แต่..ข้างหลังข้า คือทหารมากมาย พร้อมกับอิจิวที่ประคองนายทหารที่เขาใช้ให้เฝ้าข้า นายทหารผู้นั้นหอบแล้วชี้หน้าข้า พลางพูดด้วยเสียอันแสนเบาแต่ชัดเจนว่า
'น
นางคือ ซาไอ!!!' อิจิวมองข้าด้วยสายตาโกรธแค้นอย่างเต็มที่ เขามองข้าไปทั่วตัว ด้วยสายตาที่ข้าไม่อาจบอกได้ว่าเขาคิดอะไรอยู่
'ซาไอ
เจ้าหลอกข้าเสียนาน แต่สุดท้ายเจ้าก็แพ้เสียเอง
นี้หรือ? อัจฉริยะขุนพล' มันกล่าว แล้วทำทีจะสั่งให้ทหารเข้ามาจับกุมตัวข้า แต่แล้วก็มีน้ำเสียงหนึ่งดังขึ้น และไม่รู้ว่าข้าโชคดีหรือร้าย
ที่นางมาขัดจังหวะ
'เกิดอะไรขึ้น? จะจัดงานเลี้ยงมิใช่หรือ? แล้วทำไมเสียงมันถึงได้อึกทึกอย่างนี้ อ้อ
แล้วนั้นเอาทหารมาทำไม
' พระนางมิโดริก้าวเข้ามา ด้วยกริยาสง่างามเช่นที่พระนางชอบทำเสมอ เมื่อพระนางเข้ามา อิจิวผงกหัวให้เป็นการคารวะ และชี้ให้ดูข้า ราชินีมิโดริเพ่งพิศข้าสักครู่แล้วร้องขึ้น..
'ซ
ซาไอ ' สุรเสียงทั้งตระหนก รังเกียจ เยาะเย้ย และเหยียดหยาม
'ใช่แล้วพะยะค่ะ
เจ้านี่คือนิชิโตะที่กระหม่อมพูดถึง ที่แท้มันคือซาไอ มันปั่นหัวพวกเราอยู่นาน
' อิจิวกล่าว
'ฆ่ามันเสียเลย
อิจิว' พระนางมิโดริรับสั่ง
'เป็นอย่างไรบ้างล่ะซาไอ
โดนเข้าตัวเองบ้างรู้สึกอย่างไร?' ทรงเยาะเย้ย ข้าไม่พูดอะไรเลย เพียงแต่มองหาทางหนี ราชินียังทรงถากถางไปเรื่อยๆ ข้าไม่ได้ฟัง ข้ามองไปที่พระนางและเห็นว่าเป็นทางหนีที่ข้าควรเข้าไปที่สุด เช่นการจับพระนางเป็นตัวประกัน
เพียงชั่วครู่ข้าก็ทรุดตัวลงในทันที แล้วไอโกรกครั้งใหญ่ บางคนมองข้าอย่างตะลึง แต่ข้ายังไม่เลิก ข้ายังไออยู่เรื่อยๆ มิโดริมองข้าอย่างตกใจแล้วชี้ให้นายทหารคนหนึ่งเข้ามาดูข้า นายทหารผู้นั้นลังเลสักครู่ก่อนที่จะเข้ามาดู เขาใช้มือคว้าแขนข้าไว้แล้วทำท่าจะลากตัวออกไป แต่ในชั่วพริบตา ข้าก็ขโมยดาบของมันออกมาจากฝัก แทงไปที่เจ้าหมอนั้น แล้วตรงไปที่มิโดริทันที มันเกิดขึ้นเร็วมาก จนไม่มีใครตั้งตัวได้ทัน ข้ายกดาบขึ้นทำท่าจะจ้วงแทงไปที่มิโดริ แต่
อิจิวมีสติ เขาคว้าดาบเข้ามากัน แล้วซัดข้าออกไปทันที ความรู้สึกที่ข้าจำได้ตอนนั้นคือข้าลอยไปราวสามเมตร ตกลงกลางโต๊ะอาหารและนางกำนัลทั้งหลาย นั้นทำให้ข้าได้แผลแรกมา คิ้วขวาข้าแตก หลังจากที่ข้าตั้งสติได้ก็ลุกขึ้น แล้วเข้าสู้กับอิจิวอีก
อิจิวตะโกนให้พวกทหารอารักขาพระนางมิโดริ แล้วหันมาสู้กับข้า เราสู้กันได้สักพัก ข้าก็ล่อมันออกมาจากห้องโถง มาที่อุทยานที่ข้าล่อวากิออกมาเมื่อสักครู่ ข้าได้แผลเพิ่มอีก 2 แผล แต่ก็พยายามล่ออิจิวออกมาที่วากินอนอยู่ เมื่ออิจิวเห็นวากิเขาชะงักไปช่วยครู่ ข้าไม่ปล่อยให้เวลานั้นสูญเปล่า ใช้ดาบของข้าฟันแขนมันทันที มันกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดแล้ว ยกดาบจ้วงแทงที่ไหล่ข้า แต่ก็โดนเพียงเฉียวๆ การที่ข้าทำเช่นนี้ทำให้ข้ายิ่งเสียเปรียบ มันยิ่งโถมกำลังดาบลงมา ข้าได้แต่รับ แล้วมันก็ซัดข้าด้วยเข่า ข้ากระอักเลือดแต่ก็ทนไว้ เราสู้กันสักพัก สักครู่ต่อมาทหารเกาทัณฑ์กองพลหนึ่งเคลื่อนพลเข้ามา ข้าเห็นว่าสู้ไม่ได้ ส่วนอิจิวนั้นยิ้มและกำลังจะใช้ดาบฟันข้า มันหัวเราะและพูดพึมพำว่า ต่อให้มันคนเดียวก็เอาชนะข้าได้
ข้าอาศัยจังหวะที่มันเผลอพ้นเลือดใส่หน้ามันแล้วจึงใช้ดาบฟันแผลเดิมที่แขนมัน หลังจากนั้นก็วิ่งหนีไปกระโดดลงบ่อน้ำที่ขุดลอกขึ้นเพื่อกันขโมย เลือดนั้นเข้าตาข้ามองเห็นแต่เพียงลางๆ แต่ข้าก็เห็นได้ว่าแขนข้างที่ข้าฟันอิจิวตกอยู่ข้างตัวมันและมันกำลังมองข้าด้วยความโกรธแค้น มันไม่ได้วิ่งตามเพียงแต่สั่งให้พลเกาทัณฑ์ยิงธนูใส่ข้า ข้ากระโดดลงน้ำแล้วว่ายออกไป สักครู่ข้าก็รู้สึกเจ็บแปลบที่สีข้าง ข้าใช้มือจับดูก็พบว่ามีเกาทัณฑ์ปักอยู่ที่สีข้างของข้าเป็นที่ลำบากเมื่อข้าจะว่ายน้ำ
ข้าออกแรงดึงมันออกอย่างใจเย็นแล้วใช้นิ้วกดไว้เพื่อไม่ให้ใครรู้ว่าข้าอยู่ไหนโดยดูรอยเลือด
ข้ารู้ทางหนีในบ่อนี้ รู้ว่ามันต่อไปยังนอกราชวังในป่าทึบข้างวัง ข้าดำน้ำไปโผล่ใต้กอบัว ขณะนั้นเรื่องซาไอบุกวังดังไปทั่วแล้ว ทหารวิ่งวุ่นเพื่อหาตัวข้า ข้าได้ยินเสียงอึกทึก แต่ข้าไม่มีเวลาว่างมากพอ ข้ารีบหักกิ่งอ้อมาทำท่อหายใจแล้วว่ายออกไปตามทางที่วางไว้ทันที เลือดของข้ายังไหลอยู่
ข้าได้แต่ใช้เถาวัลย์ที่ราอยู่ในน้ำพันไว้ มันสีกับแผลของข้าขณะว่ายน้ำเจ็บปวดจับใจ
ในที่สุดข้าก็ไปโผล่นอกวัง ในป่าชื้นข้างราชวัง ข้าโผล่พรวดแล้วหอบอย่างเหนื่อยอ่อน ข้าเหน็ดเหนื่อยมาก ข้าก้มหน้ามองพื้นที่เป็นตม น้ำหยดจากผมของข้า ข้าสูดหายใจแรงๆแล้วใช้แรงเฮือกสุดท้ายออกเดินไป จนได้พบกับมาโซยะ ข้าโล่งใจมากและรู้สึกว่าตัวเบาดังปุยนุ่น แล้วข้าก็ไม่รู้สึกอะไรอีกจนฟื้นขึ้นมา
." ทั้งกระโจมเงียบเสียงเมื่อซาไอเล่าจบ
"นั้นคือที่เกิดทั้งหมด
" เธอเสริม บางคนกระซิบกระซาบกันอย่างคาดการณ์ไปต่างๆนานา ซาไอได้แต่นั่งนิ่ง ชายตามองโควตะ
โควตะมองกลับมา ก่อนที่จะตบโต๊ะให้เหล่านายกองเงียบ
"เตรียมกองทัพให้พร้อม
"
"มิโดริต้องมาแก้แค้นเราแน่นอน!!!"
. . . . . .
ซาไอย่างออกมาจากมี่ประชุม เพื่อตรงกลับสู่ที่พักของตน
"ขอคุยด้วยหน่อยได้ไหม? " ซาไอเงยหน้าขึ้น เซอิจินั้นเอง!!! เขายืนอยู่ริมทางข้างหนึ่ง
"เพค่ะ!!" ซาไอตอบนิ่งๆ แต่ในใจนั้นร้อนผ่าว เซอิจิหลบคนไปที่ใต้ต้นไม้ ซาไอเดินตามไปและโค้งให้เมื่อมาอยู่ข้างหน้า
"มีสิ่งใดที่ใคร่รับสั่งแก่หม่อมฉัน
เพค่ะ" ซาไอกล่าว เซอิจิจ้องหญิงสาว
"เจ้าทำอย่างที่เจ้าพูดจริงๆหรือ
" เขาถาม ซาไอนิ่งไปชั่วครู่ไม่รู้จะตอบอย่างไรดี
"เพค่ะ" เธอกล่าวด้วยท่าทีภาคภูมิ อย่างทหารแท้ๆทีเดียว
"เจ้าพอใจอย่างนี้แล้วหรือ? นี่คือใจของเจ้าจริงๆหรือ?" เซอิจิถามอย่างอ่อนโยน ซาไองุดหน้าลง รู้สึกเหมือนโดนพระนางฮิโตมิดุทีเดียว
เธออยากจะตอบเซอิจิว่า ไม่เลย! เธอไม่ได้อยากฆ่าคนเลยแม้แต่คนเดียว
เธอทำเพื่อประชดตัวเอง ประชดเขาเท่านั้น แต่กระนั้นความเป็นทหารของเธอก็ตอบว่า
"เพค่ะ
นี้คือความภาคภูมิของหม่อมฉัน เพื่อชาตินั้นหม่อมฉันมีความจำเป็นต้องทำได้
แม้ใครคิดหักหาญกำลัง หม่อมฉันก็ไม่ยอม!!!" ซาไอดักคอ เซอิจิถอนใจ
"เอาเถอะ
ตามใจเจ้า ขอบใจมากที่มาคุยด้วย" เซอิจิเอ่ยเบาๆ ซาไอโค้งแล้วจากไป เซอิจิมองดูหญิงสาวจากไปช้าๆ
"ตามใจเจ้าเถอะ อยากทำอะไรก็ทำ
.แต่สิ่งที่จะทำให้เจ้าเป็นอันตราย ข้าจะขวางให้เต็มที่ทีเดียว
"
|