|
เป็นครั้งแรกที่นัตสึกิได้อาบน้ำตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ เธอมาอยู่ที่ค่ายทหารได้ 7 วัน แผลของโควตะดีขึ้นมาก แม้เจ้าหนุ่มจะสำออยว่ามันเจ็บหนักก็เถอะ ที่แน่ๆ โควตะไม่รู้ข่าวที่เมืองไรโบเซ็นถูกยึดอำนาจเลยแม้แต่น้อย ซามะออกคำสั่งดำเนินการแทนเจ้าเมือง ยึดอำนาจทางทหารไว้เสียหมด ฝ่ายท่านแม่ทัพนั้นยังทำการนั่งเฝ้าหน้ากระโจมให้นัตสึกิอาบน้ำ แม้จะเป็นตอนกลางคืนเขาก็ไม่วางใจ โควตะคิดจะแอบดูให้ชื่นใจเหมือนกัน แต่ถ้าแลกกับการถูกท่านนัตสึกิตบ ล่ะก็อย่าทำเลยจะดีกว่า
โควตะเห็นท่าทีที่นัตสึกิแสดงออกเมื่อต้องการอาบน้ำเช่นเดียวกับซาไอเมื่อต้องการอาบน้ำ คือการโบกมือพัดตัวเองแล้วบ่นว่าร้อนๆ และยังจะทีท่าจะคลั่งเมื่อเห็นน้ำอีก โควตะที่คอยจัดการดูแลอะไรต่อมิอะไรแทบทุกอย่างให้ซาไอเมื่ออยู่ในกองทัพ จึงไม่แปลกเลยที่เขาสังเกตได้ง่ายมากเมื่ออยู่กับนัตสึกิ หญิงสาวใส่เสื้อผ้าแล้วสำรวจจนเรียบร้อยว่าไม่มีอะไรตกหล่นอยู่ โควตะดูเหมือนจะมีกึ๋นเรื่องนี้เป็นพิเศษ
"มีธุระล่ะสิท่า!!!" นัตสึกิเปรยอย่างรู้ทัน โควตะหันมายิ้มอย่างเกเรเล็กน้อย
"โกหกพวกทหารว่าหลับไปแล้วอย่าให้ใครมากวนข้าน้อย" โควตะเอ่ย เขาได้สั่งแกล้งจัดเวรแถวนี้ให้เบาบางเป็นพิเศษ เพื่อสะดวกในธุระที่เขาจะมาทำ
"อืม
" นัตสึกิพยักหน้า
"ให้ข้าน้อยเข้าไปได้ไหมขอรับ?" โควตะขออนุญาต นัตสึกิเลิกผ้าคลุมกระโจมให้เข้ามา ชายหนุ่มที่อยู่ข้างนอก เดินเข้ามาอย่างมากมารยาท ทั้งคู่ต่างนั่งเก้าอี้กันคนละตัว โดยมีโต๊ะอยู่ตรงกลาง โควตะสำรวจภายในกระโจม กลิ่นหอมของหญิงสาวเมื่อสักครู่ยังหอมฟุ้งไปทั่ว แสงที่มีมีเพียงเทียนไข 2 เล่มเท่านั้น สิ่งที่โควตะเห็นชัดกว่านั้นคือดวงตาสีดำมันขลับของหญิงสาว เขาเลี่ยงที่จะมองมันเผื่อเกินเหตุสุดวิสัย สายตาหันไปสนใจอย่างอื่นในกระโจมแทนและไปสะดุดกับ
"หมากรุก?" โควตะถาม นัตสึกิลูบต้นคอตัวเองก่อนที่จะตอบ
"ข้าขอเซรุมาน่ะ!!! ถ้าไม่ทำอาหารก็นั่งเฉยๆ น่าเบื่อออกจ๊ะ" นัตสึกิอ้างถึงนายทหารที่โควตะมอบหมายให้ดูแลเธอ
"แล้วเล่นคนเดียวหรือขอรับ?" โควตะถาม หญิงสาวพยักหน้าน้อยๆอย่างน่ารัก โควตะมองกล่องหมากรุกสักครู่ก่อนที่จะเดินไปหยิบมันมา
"เล่นกันเถอะขอรับ" โควตะพูดนิ่มๆ แล้ววางกล่องหมากรุกลง เขาหยิบกระดานกระดาษออกมาปู แล้วยกตัวหมากออกมา ทั้งคู่ลงมือจัดเรียงหมากลงบนกระดานก่อนที่จะเริ่มเดินมัน บรรยากาศนั้นดีอย่างบอกไม่ถูก ทั้งคู่ไม่พูดอะไรเลยจนเดินมาได้สักพัก
"พรุ่งนี้แล้วสินะ" นัตสึกิถอนใจ
"ขอรับ!!! คงเป็นโอกาสสุดท้าย" โควตะเดินม้าไปชิดริมกระดาน นัตสึกิยืดตัวตรงก่อนจะพูดอะไรต่อ
"รู้ไหม? ที่ข้าอยู่มาหลายวันนี้ ข้ามีความสุขมากเลย" นัตสึกิสารภาพ แน่ล่ะ!!! ที่ผ่านมาทหารในกองทัพก็พุงกางเพราะฝีมือการทำอาหารของนัตสึกิไปตามๆกันเหมือนกัน
"ใช่ขอรับ? ข้าน้อยก็มีความสุข.." โควตะนั่งมองนัตสึกิที่ก้มลงมองกระดาน แล้วเงียบไปสักครู่ก่อนที่จะเอื้อมมือไปจับปอยผมที่ร่วงลงมาของหญิงสาวไปทัดหูเหมือนเดิม
"ต้องเจรจากันแล้วล่ะขอรับเราสองคนนะ ชะตาของเมืองไรโบเซ็นจะเป็นยังไงก็ขึ้นอยู่กับท่านนัตสึกิกับท่านเจ้าเมืองแล้วน่ะขอรับ" โควตะเริ่มจริงจัง เขาประสานมือเอาไว้ใต้คาง นัตสึกิยืดตัวแล้วเม้มปากอย่างเครียดๆ
"ว่ามา!!!" หญิงสาวสวมบททูตตอบ โควตะลดตาไปมองที่ชายผ้าคลุมไหล่ของหญิงสาว ก่อนที่จะทำการเจรจาต่อ
"ข้า แม่ทัพโควตะ ขอทำสัญญาเดินผ่านเมืองไรโบเซ็น เดินทัพไปยังเมืองหลวง เพื่อกอบกู้บัลลังก์จากราชินีมิโดริ ให้สัญญาว่าจะไม่รังแกข่มเหงชาวบ้าน และจะไม่รบราฆ่าฟัน ขอเพียงแค่ผ่านไปเฉยๆ" โควตะพูด นัตสึกิมองมือตัวเอง
"ข้า นัตสึกิทายาทผู้ครองเมืองไรโบเซ็น ขอถือสาสน์นี้ไปแจ้งแก่เจ้าเมืองไรโบเซ็น ท่านวารางิบิดาของข้า" นัตสึกิรับคำ เธอเชื่อในคำพูดเขาว่าราชบัลลังก์ถูกยึดครองแล้ว เขาไม่โกหกแน่ หรือถ้าโกหก เรื่องที่ว่าราชินีมิโดริครอบงำบัลลังก์ก็สมควรถูกลงโทษ เธอไม่เชื่อหรอกว่า ราชินีฮิโตมิจะลอบปลงพระชนม์ โควตะและนัตสึกิไม่มีใครพูดอะไรเกี่ยวกับงานไปพักใหญ่ ทั้งคู่ได้แต่จ้องหน้ากัน เสวนาเรื่องส่วนตัวซึ่งกันและกัน โควตะเล่าเรื่องของซาไอให้นัตสึกิฟัง รวมทั้งความลำบากของพี่ชาย ที่ต้องคอยกีดกันทั้งสองให้อยู่ในกรอบประเพณี
"ท่านเป็นพี่ชายที่ดีจริงๆ!!!" นัตสึกิหัวเราะ
"ข้ามีน้องสาว 6 คน ทุกคนก็สวยงามทั้งนั้น จะว่าไปข้าไม่ได้ดูแลน้องเลยแม้แต่คนเดียว แม่เลี้ยงที่ตายไปเมื่อ 3 ปีก่อนเป็นคนจัดงานแต่งงานให้พวกนางน่ะ ส่วนข้าก็ถูกทิ้งให้อยู่คนเดียว
" นัตสึกิก้มหน้าอย่างอ้อยสร้อย โควตะลุกขึ้นจากเก้าอี้ แล้วตรงไปโอบกอดหญิงสาวอย่างอ่อนโยน
"ข้ารักท่านนัตสึกิ
" โควตะเสยปลายคางเธอด้วยปลายนิ้ว
"ข้าไม่แน่ใจว่าเราต้องทำสงครามกันอีกหรือเปล่า?" นัตสึกิเอ่ยแล้วซบหน้าลงบนอกของชายหนุ่ม
"ทำไมข้าต้องทำอย่างนี้เวลาอยู่ต่อหน้าท่านด้วยนะ! ข้าทำตัวไม่เป็นผู้ใหญ่เลยพออยู่ต่อหน้าท่าน โควตะ ท่านรั้งให้ข้าไปทำตัวเป็นเด็กสาวทุกที" โควตะดึงเธอขึ้นมาหอมแก้มฟอดใหญ่เหมือนเด็กๆ
"ท่านเป็นเด็กสาว ท่านนัตสึกิ!!! สดใสน่ารักมากในสายตาข้า เมื่อก่อนท่านทำตัวเกินอายุต่างหาก" โควตะเอ่ยพลางเล่นผมที่ลุ่ยออกมานอกมวยของนัตสึกิ นัตสึกิลอบหาว วันนี้เธอต้องนอนแล้วหรือนี่!!! เธอยังอยากตื่นอยู่ต่อ อยากฟังคำหวานที่เธอคิดว่าฟังมาจนเบื่อของผู้ชายคนนี้อีก
"ท่านนัตสึกิง่วงนอนเสียแล้ว" โควตะหัวเราะในลำคอ แล้วใช้มือลูบเปลือกตาของหญิงสาวเล่น
"นอนเถอะขอรับ!!!" โควตะพยุงนัตสึกิที่งัวเงียให้เดินมาที่เตียงนอน ขณะที่นัตสึกินั่งลงบนเตียงนอน ชายหนุ่มก็คุกเข่าลง แล้วจับขาของหญิงสาวเอาไว้ ก่อนที่จะถอดรองเท้าให้ทีละข้าง ก่อนที่จะลากถังน้ำอุ่นมาล้างเท้าให้
"โควตะ!!!" นัตสึกิอุทาน การที่ผู้ชายมาทำอย่างนี้ให้ผู้หญิงนับว่าเสียเกียรติมาก การล้างเท้าเป็นงานที่ต้อยต่ำ แม้แต่ผู้ชายด้วยกันยังไม่ทำให้เลย
"อย่างทำอย่างนี้เลย ได้โปรด!!!" นัตสึกิพยายามชักเท้าออก แต่แม่ทัพใหญ่ไม่ปล่อย จุ๊ปากเป็นเชิงให้อยู่นิ่งๆ พลางใช้ผ้าขาวลูบปลายเท้าให้อย่างนิ่มนวล นัตสึกิมองชายหนุ่มที่ปรนนิบัติตนอย่างลำบากใจ
"ท่านทำอย่างนี้กับซาไอด้วยหรือเปล่า?" นัตสึกิฉุกถามขึ้นเบาๆ โควตะส่ายหน้าก่อนจะตอบ
"ข้าบริการพิเศษให้ท่านนัตสึกิคนเดียวขอรับ!!! สำหรับเจ้านายคนพิเศษของข้า" เขามองปลายเท้าอย่างใคร่ครวญ แล้วใช้ผ้าแห้งเช็ดให้ ก่อนที่จะค่อยยกขาเรียวๆแต่ละข้างขึ้นไปวางบนเตียง นัตสึกิหน้าแดง เธอกลัวว่าโควตะอาจจะขึ้นมานอนข้างเธอเมื่อไรก็ได้ แต่เขาก็ยังปฏิบัติต่อเธออย่างสุภาพ โดยการห่มผ้าให้เหมือนกับนัตสึกิยังไม่โต แล้วกล่าวราตรีสวัสดิ์
"ราตรีสวัสดิ์ นายหญิงของข้า หลับให้สบายนะขอรับ" โควตะใช้มือใหญ่ๆของเขาลูบผ้าห่มจนเรียบ ก่อนที่จะเดินไปดับเทียนเล่มที่ 1
"ราตรีสวัสดิ์ โควตะ" นัตสึกิขดตัวบนที่นอน ขณะที่โควตะดับเทียนอีกเล่ม
"ถ้าคืนนี้หนาว ข้าน้อยอยู่กระโจมข้างๆ รอให้หนุนตักอีกครึ่งคืนน่ะขอรับ
"
"ตาบ้า!!!" เสียงตวาดแว้กดังตอบกลับมา โควตะหัวเราะแล้วเดินออกไปนอกกระโจม ปล่อยให้นัตสึกิหน้าแดงเป็นลูกตำลึงสุกในความมืดแห่งรัตติกาล
.
. . . . . .
วันนี้โควตะตื่นเช้าเป็นพิเศษ เขามีหน้าที่สำคัญที่จะต้องส่งนัตสึกิกลับเข้าเมือง นัตสึกิก็ตื่นแล้วเหมือนกัน เธอสั่งเสียเรื่องการทำอาหารให้พวกลูกมือที่จะขึ้นมาเป็นพ่อครัวเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะเดินรับลมใกล้กระโจมของตน เธอมองฟ้าที่พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้น แล้วสูดลมเย็นเสียเต็มปอด
"เมื่อคืนไม่หนาวหรือขอรับ?" เสียงแทรกดังขึ้น นัตสึกิหันไปมองเจ้าของเสียง
"หนาวสิ!!! โควตะ" เธอพูดพลางหัวเราะ เมื่อเห็นโควตะใส่ชุดเกราะไม่เต็มยศ ดูเหมือนยาจกยังไงพิกล ชายหนุ่มกางมือออกก้มดูสารรูปตัวเอง
"แล้วเมื่อคืนไม่มาหนุนตักล่ะขอรับ!!!" เขาถามอย่างเกเรหลังจากเงยหน้าขึ้น หญิงสาวหรี่ตามอง ดวงตาสีดำทอเป็นประกาย เมื่อเธอเอ่ยต่อ
"หนาวจนแข็ง ลุกไม่ไหว!!!! ก็ท่านเล่นดับเทียนหมดเลยนี่นา" หญิงสาวเหย้าแหย่ โควตะรู้สึกอยากแกล้งนัตสึกิขึ้นมาตะงิดๆ เขาเดินโอบศรีษะเธอจนมั่นแล้วขยี้ผมเล่น
"เงียบไปเลย แม่หนูดีที่รัก วันนี้ข้าจะพาท่านกลับแล้วนะขอรับ" โควตะใช้จมูกชนแก้มของหญิงสาวอย่างรักใคร่ นัตสึกิอดหัวเราะคิดคักไม่ได้
"อย่างเครียดไปนะขอรับ การเจรจาวันนี้ ไม่ว่าผลจะออกมายังไงไม่ใช่ความผิดของท่าน" โควตะย้ำอย่างเคร่งเครียด
"ถ้าสำเร็จก็ไม่ใช่ความชอบข้าใช่ไหม?" หญิงสาวเสริมอย่างงอนๆ ชายหนุ่มตบแก้มเธอเบาๆอย่างหมั่นไส้
"ความชอบของท่านเต็มๆเลยขอรับ" เขาว่า
"ไปเก็บของเถอะ!!! ข้าว่าเดี๋ยวก็ต้องออกเดินทางแล้ว" ชายหนุ่มตัดบทก่อนที่จะเดินออกไป ปล่อยให้นัตสึกิเดินเข้ากระโจมตัวเอง
..
พระอาทิตย์เริ่มโผล่พ้นขอบฟ้าแสงสุริยาส่องเพียงครึ่งธรณี ขบวนม้าหลายสิบตัวเดินส่ายสะโพกไปมา มันคงควบกันเป็นฝูงหากไม่มีภาระอันได้แก่อานและสัตว์ประเสริฐอันได้แก่คนนั่งอยู่ บังเหียนม้าตัวหนึ่งถูกกุมด้วยมือขาวนวล อีกตัวใกล้ๆนั้นผู้กุมบังเหียนได้แก่ชายผิวกร่ำแดด ร่างกายที่บึกบึนสมชาติบุรุษนั้นต้นคอปกคลุมด้วยผมสีม่วงมังคุด จอนที่แซมออกมายาวถึงคาง น่าแปลกที่นวดเคราที่ถูกโกนอย่างลวกๆ กลับเป็นสีดำ ริมฝีปากที่แดงจัดมองเห็นได้ชัดเมื่อจนน่าตกใจกลางผิวคล้ำ
สายตาทั้งคู่ของคนผู้นั้นจับจ้องไปที่เจ้าของมือขาวนวล ก่อนนี้ผมที่เกล้ามวยขึ้นเป็นทรงของหญิงที่แต่งงานแล้ว ถูกชายหนุ่มเปลี่ยนให้ใหม่ เป็นมวย 2 ข้างแล้วรวบเข้าไปติดกันข้างหลังอีกที ดูเป็นเด็กสาวขึ้นทันควัน เจ้าของมือนวลทอดนัยน์ตาดำขลับไปยังกำแพงเมืองที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ปากสีชมพูอ่อนจนถ้าไม่สังเกตก็มองไม่เห็นเม้มเข้า ทรวดทรงบางที่แทบลอยตามลมดูจรรโลงใจบุรุษยิ่งนัก เมื่ออยู่ในชุดรัดรูปของนายทหารที่ไม่ใส่เกราะเช่นนี้ โควตะไม่อยากจะละสายตาออกจากหญิงสาวเลย ทรวงทรงองค์เอวและสะโพกนั้น เมื่อไรเขาจะได้เป็นเจ้าของนะ? ชายหนุ่มหลบตาลงทันใด กลัวว่าหญิงสาวจะได้ยินสิ่งที่เขาคิด ทำไมเขาถึงได้คิดอะไรหยาบโล้นอย่างนี้นะ? โควตะคิดถึงซาไอ ท่านเซอิจิจะคิดอย่างนี้กับนางบ้างหรือเปล่า?
"ท่านนัตสึกิ!!!" โควตะเอ่ยขึ้น เมื่อหญิงสาวชายตาหันกลับมามอง เขามองอย่างสงสัย
"ส่งกันพันลี้ก็ต้องจาก" เธอถอนใจ
"ลาก่อน" นัตสึกิกล่าว แล้วเหยาะม้าออกไป โควตะนิ่งอึ้งอยู่สักครู่แล้วควบม้าตามนัตสึกิไป ชายหนุ่มฉวยมือนัตสึกิขึ้นมา
"ข้ารักท่านนัตสึกิ ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม
" โควตะเอ่ยก่อนที่จะจากกัน ทั้งคู่มองตากันอยู่พักใหญ่ นายทหารผู้หนึ่งทนรับสภาพไม่ได้ เกือบเอ่ยขัดจังหวะขึ้น แต่มาคุยกมือห้ามไว้ก่อน
"ดูไว้เป็นวิทยาธาร เอาไว้เจ้าจะไปเกี้ยวใครจะได้มีประสบการณ์" มาคุว่า นายทหารผู้นั้นถอยม้ากลับเข้าไปเป็นจังหวะเดียวกับที่นัตสึกิผ่อนมือออกจากโควตะ แล้วควบม้าจากไป โควตะมองจนเธอกลับเข้าไปเมือง เขานิ่งอยู่สักครู่ มาคุและเหล่านายทหารรู้สึกว่าเป็นส่วนเกินเหลือเกิน
"กลับกัน" โควตะเอ่ยขึ้นในที่สุด ก่อนที่จะควบม้าหันหลังไป
"แล้ว
." มาคุขัดขึ้น
"อีก 3 วันจากนี้เราจะมาฟังคำตอบว่าท่านเจ้าเมืองจะให้เราผ่านไปหรือไม่!!! เตรียมกองทัพให้พร้อมล่ะ สงครามจะมาหาพวกเราได้ทุกเมื่อ!!" โควตะพูดเข้มๆ แล้วกองม้าของบุรุษล้วนเกือบ 50 ตัวก็ตะลุยข้ามลาน กลับเข้าสู่ค่ายตน โดยทิ้งฝุ่นที่ฟุ้งตลบอยู่ข้างหลัง
. . . . .
นัตสึกิควบม้ามาถึงหน้าประตูเมือง เหล่าทหารเปิดประตูให้เธอตามปกติ แต่เธอมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีเอาเสียเลย
"ขอบใจจ๊ะ" เธอเอ่ยขอบคุณตามมารยาท เหล่านายทหารทำหน้าเศร้า บางคนทำท่าอยากจะบอกอะไรเธอสักอย่าง แต่เธอก็แปลไม่ออก ชาวเมืองที่ทำท่าเครียดผิดปกติทำให้เธอเอะใจ เด็กๆที่เคยวิ่งเข้ามาหาเธอหายไปไหนหมดน่ะ? เมื่อเธอเอ่ยถามขึ้นมาพ่อแม่เด็กๆก็บอกว่าพวกเขาป่วย เอ๋!!! ในเมืองเกิดโรคระบาดหรือ? เด็กเล็กบางคนร้องห่มร้องไห้ นัตสึกิมึนงงเป็นที่สุด เธอควบม้ามาจนเกือบถึงจวนเจ้าเมือง ง้าวที่ผูกติดกับอานม้าตกกระทบขาเธออยู่เรื่อย คงสบายมากขึ้นหากได้ลงจากม้าสักที ท่านพ่อ? จิโฮ? ยามาดะ? อังโคขุ? มิฮาโอะ? ไปไหนกันหมด ทำไมจวนเจ้าเมืองเงียบอย่างไรพิกล
"คุณหนูใหญ่นัตสึกิ" เสียงแปลกหน้าดังขึ้น นัตสึกิหันกลับไปมอง
"ท่านซามะ!!!" นัตสึกิอุทาน พลางคิดอยากต่อยหน้าชายคนนี้ที่บรรลุแผนไปทางอื่นโดยพละการ
"ท่านพ่อล่ะค่ะ?" เธอถาม
"ข้ามาก็เพื่อพาท่านไปหาท่านเจ้าเมือง
" ซามะพูดเรียบๆ นัตสึกิขมวดคิ้วอย่างไม่ไว้ใจ
"ทำไมท่านพ่อไม่มาหาข้าเอง?" นัตสึกิถามพลางถอยรนเพราะเห็นเหตุการณ์ไม่ชอบมาพากล นายทหารที่ซามะพามาเยอะจนผิดปกติ
"ท่านเจ้าเมืองไม่ค่อยสบาย!!! จึงให้ข้ามา" ซามะเอ่ยพลางผายมือออก
"งั้นทำไมไม่ให้พวกจิโฮมาล่ะ" นัตสึกิถาม พลางมองเหล่าทหารที่ไม่ชอบมาพากล เธอคว้าง้าวเข้ามาไว้ในมือ ซามะกลอกตาหาคำตอบ ทันใดนั้นนัตสึกิก็ได้ยินเสียงตะโกน
"อาจารย์หนีไปครับ!!! ซามะยึดอำนาจไว้หมดแล้ว" เสียงเล็กตะโกนมา นัตสึกิและซามะหันกลับไปมอง ซันจิและโชนิตะโกนโหวกแหวก ไอซาโน่ยืนลังเลอยู่ข้างหลัง
"อ้ายเด็กระยำ!!!" ซามะขบฟัน นัตสึกิฉวยจังหวะที่ซามะเผลอควบม้าออกไปทันที ประสาทของนัตสึกิไม่ได้ยินอะไรอีก เธอมุ่งหวังเพียงออกไปนอกประตูเมืองเท่านั้น ต้องออกไปนอกเมืองเพื่อไปหาโควตะ ม้ากระโจนออกไปข้ามหัวชาวบ้านไปเรื่อย อีกเพียงไม่กี่เมตรเท่านั้นจะถึงประตูเมือง นายทหารหลายคนเข้ามาขัดขวางทางที่เธอควบม้าไป เธอใช้ด้ามง้าวปัดป้อง แล้วพยายามตะลุยออกไปให้ได้ ในที่สุดมีนายทหารผู้หนึ่งใช้อาวุธจ้วงทำร้ายม้าของเธอ ม้ายก 2 ขา ส่วนคมอาวุธทะลุสะโพกของมัน ม้าพยายามตะเกียกตะกายอยู่สักครู่ก่อนที่จะล้มลงนอนตาย ผู้อยู่บนหลังม้าร่วงลงจากหลังม้าสู่พื้นดังบึก!!! ง้าวของนัตสึกิหลุดมือไปไกล ก่อนที่นัตสึกิจะคว้าง้าวกลับมาได้ ก็มีดาบมาจ่อคอของเธอเสียแล้ว สัญชาติญาณบอกให้นัตสึกิอยู่นิ่งๆ เธอเหลือบตาขึ้นมอง
"ซามะ เจ้าคนทรยศ!!" นัตสึกิตวาด ขณะที่ทหารหิ้วปีกเธอขึ้น
"
" ซามะยิ้ม
"จะทำอะไรข้า!!!" นัตสึกิถาม
"อยากได้แม่เสือต้องจับลูกเสือ อยากได้โควตะต้องจับนัตสึกิ" ซามะแยกเขี้ยว
"คนตาขาว!!! คนขี้ขลาด!!! ใช้แผนสกปรก" นัตสึกิตะคอกใส่หน้าซามะ เขายิ้มอย่างมีชัย ไม่ได้สนใจคำพูดของหญิงสาวแต่อย่างใด เสียงแช่งด่าของหญิงสาวดังขึ้นเรื่อยๆจนหายไป
"เอาไปขัง เตรียมใช้เป็นตัวประกัน" เขาสั่งนิ่มๆ กลบเสียงซุบซิบของชาวบ้าน เด็กเล็กๆบางคนร้องไห้โฮ ข้าวของที่หกเกลื่อนถูกเก็บกวาดไปโดยเจ้าของและยาจกอดอยาก ไรโบเซ็นที่เคยร่มเย็น ปั่นป่วนเสียแล้ว
ซามะก้าวกลับสู่จวนเจ้าเมือง เขาอาจหาญถึงขนาดนั้นบนเก้าอี้ของเจ้าเมืองอย่างโอหัง สบถอย่างอารมณ์เสีย เขาเกือบเสียแผนเพราะเจ้าเด็ก 3 คนนั้นแล้วเชียว ซามะตื่นจากภวังค์เมื่อนายทหารนำตัวเด็กสองคนเข้ามา
"อ้ายชั่ว บ้าที่สุด!!! ปล่อยอาจารย์นะ!!!" ซันจิตวาดใส่ซามะ เขามองเด็กทั้ง 2 คนอย่างรังเกียจ แล้วหันไปเปรยกับทหาร
"แล้วอีกคนล่ะ?"
"หนีไปได้ขอรับ!!!"
"พวกชั้นต่ำ แค่เด็กก็จับไม่ได้!!!" ซามะด่ารอดไรฟัน แล้วโบกมือให้นำตัวเด็กๆไปขัง หลังจากทุกคนออกไปจากห้อง ซามะลงนั่งบนเก้าอี้ของเจ้าเมืองแล้วประสานมือไว้ใต้คาง พระนางมิโดริทรงคิดจะทำลายล้างนากิไปช้าๆ ความโหดเหี้ยม ริษยาและความต้องการทางเพศออกไป พระนางทรงเป็นหญิงมากชู้เสียจริง ตอนนี้ระนางกำลังหลงระเริงกับอิจิว เจ้าโจรหน้าตาดีที่ช่ำชองกิจกรรมบนเตียงเสียยิ่งกว่าบุตรชายของพระนางเอง ในยามที่สวามีของพระนางอยู่คงมิได้ปรนเปรอความสุขให้เท่าที่ต้องการหรือ? ซามะลอบยิ้มเมื่อคิดไปว่าคงจะดีไม่น้อยหากเขาได้เสพสุขกับองค์ราชินีมิโดริบ้าง พระนางงดงามมาก งามเสียเสียจนไม่อยากจะเชื่อว่าพระนางมีประชนม์มายุ อ่อนกว่าพระนางฮิโตมิเพียงไม่กี่ปี แต่ยังมองดูเป็นสาว แม้จะไม่งามเช่นสาวน้อย แต่งามอย่างหญิงที่ผ่านโลกมามาก งามยั่วยวนความรู้สึกบุรุษเพศยิ่งนัก เขาเลียริมฝีปากตนเอง ซามะลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วก้าวย่างไปเปิดประตู
แสงตะวันส่องเข้ามาท้าทาย ได้เวลาแล้วที่เขาจะแสดงให้พระนางรู้ว่า เขาไม่สามารถซื้อด้วยเงินเพียงอย่างเดียว แต่ต้องซื้อด้วยร่างกายของพระนางด้วย!!
. . . . . .
เสียงสะอื้นร้องไห้ของเด็กน้อยดังเบาๆ เพราะเจ้าตัวพยายามใช้มือปิดไว้ หลังบ่อน้ำหลังสุสานแห่งนี้ไม่มีใครคิดจะเข้ามาหรอก แต่
ไอซาโน่ก็บ้ามากที่เข้ามา เสียงหยดน้ำจากเชือกขึงถังหยดติ๋งๆอย่างน่าสยดสยอง ใครๆก็เล่าว่า สุสานของเมืองไรโบเซ็นนั้น ผีดุติดอันดับ 1 ใน 3 ของอาณาจักรนากิอันกว้างใหญ่ ไอซาโน่ฟันกระทบกันเองดังกึกๆ พยายามมองในแง่ดีว่าท่านแม่ของอาจารย์ก็ถูกฝังที่นี่ นางคงเป็นคนที่ใจดีมากแน่ๆ เหมือนกับอาจารย์ไง
. อาจารย์? ใช่!!! อาจารย์ถูกจับไปแล้ว ซันจิกับโชนิก็ด้วย เหลือเขาคนเดียวเท่านั้นเอง ไอซาโน่ซบหน้ากับหัวเข่าตัวเอง ใช้มันเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมา เขาขี้ขลาดที่สุด ตอนที่ซันจิกับโชนิตะโกนเขาก็เฉย แล้วยังจะเรื่องที่เขาหนีมาอีกก็เถอะ อีก 2 คนต้องโกรธเขาแน่ๆ ทั้งที่สัญญาว่าจะเป็นเพื่อนตายกันแล้วแท้ๆ ไอซาโน่กังวลกับสิ่งที่เขาจะทำต่อไป เขาจะอย่างไรดี? ไอซาโน่ซบหน้านิ่งกับหัวเข่าเป็นเวลานาน เขาใคร่ครวญสิ่งต่างๆ หยาดน้ำตาแห้งไปแล้ว ไอซาโน่ทึ้งผมตัวเองอย่างใช้ความคิด
"อาจารย์
. ซันจิ
โชนิ คุ้มครองข้าด้วยน่ะ
" เขากระซิบอย่างแผ่วเบา
"ข้าจะไปหาทามะ
.เขาต้องช่วยเราได้เหมือนช่วยอาจารย์แน่นอน" เด็กน้อยรวบรวมกำลังขาลุกขึ้น แล้วเดินก้าวออกไป เดินอย่างเงียบเชียบ หลบพลางสังเกตการณ์ไปพลาง เดินอ้อมชายป่ามาเรื่อยๆ จนมาถึงคอกม้าของจวนเจ้าเมือง เทมบุที่เคยเฝ้าคอกม้าถูกเปลี่ยนตัวไปเป็นคนอื่น ชายที่มีแผลบากข้างแก้มช่างน่ากลัวนัก ไอซาโน่ไขว้นิ้วเป็นสัญลักษณ์ให้โชคดี ใช้ความกล้าหาญที่เขาคาดว่ารวบรวมมาชั่วชีวิต ใช้จังหวะที่คนเฝ้าคอกลุกขึ้นไปที่อื่น วิ่งไปที่คอกม้าก่อนที่จะเปิดมันออก แล้วจูงบังเหียนมันออกมา เจ้าม้ากินอิ่มนอนหลับ มันงัวเงียเล็กน้อยแต่ก็เดินมาอย่างว่าง่าย หลังจากไอซาโน่สวมอานให้มันเขาก็ขึ้นขี่
"ย้าก!!!" เขาตบสะโพกม้า แล้วเจ้าม้าก็ควบออกไป
|