|
เมื่อท่านผู้อ่านได้อ่านตอนนี้ต้องขออภัยเสียหน่อยที่ว่า จะตึงเครียดเป็นพิเศษ ซึ่งไม่เป็นที่ปรารถนาเอาเสียเลย สำหรับกองทัพกู้ชาติ ซาไอนั่งเคาะโต๊ะอยู่ข้างๆโควตะ
"มีอะไร?" ซาไอและโควตะเอ่ยขึ้นพร้อมกันเมื่อทหารผู้หนึ่งก้าวเข้ามา
"พิราบสื่อสารขอรับ" ว่าจบทหารก็ส่งสารให้แก่โควตะ โควตะไม่รอช้ารีบกางสารออกอ่านทันที
"ว่าไงบ้าง?" ซาไอถาม
"เสบียงของเราถูกดักปล้นได้จริงๆ แต่เราจะเอามันคืน เพราะเสบียงจะถูกส่งกลับไปให้เมืองหลวง
"
"เมื่อไร?"
"ถูกขนส่งอยู่
ตอนนี้" โควตะตอบ
"เราจะไปไหนได้บ้าง ตอนนี้เราถูกโอบล้อมอยู่"
"ใช่
การออกไปเรารั้งแต่จะถูกดักซุ่มโจมตี"
"
" ทั้งคู่เงียบ แม้กระทั้งซาไอ หมากตานี้จนจริงๆ เธอดันวางแผนพลาดไปตาเดียว
"ข้าขอตัวน่ะ
" ซาไอเอ่ยพลาดลุกออกไป ความรู้สึกกดดันแพร่ซ่านไปทั่วร่างกาย เธอก้าวเดินออกไป มุ่งหมายไปยังต้นพุทรา
"จะไปจริงๆเรอะ! ที่ต้นพุทราน่ะ" เสียงหนึ่งถามขึ้น
"อือ
เอ๋ ว่าแต่เจ้ารู้ได้อย่างไร มาโซยะ!!" ซาไอหันกลับมา
"อ้อ
ข้าฉลาดเจ้าก็รู้นี่นา
เอาล่ะหิวข้าวจัง ไปกินข้าวดีกว่า" มาโซยะเอ่ย แล้วหายตัวไป ก่อนที่ซาไอจะพูดอะไรอีก
"เฮ้อ
" เธอถอนใจแล้วก็เดินไปยังต้นพุทราที่มากับท่านเซอิจิวันก่อน
เธอทรุดตัวลงนั่งคุกเขาแล้วไหว้ธูปที่ปักบนช่อดอกไม้
พลางนึกแผนที่จะใช้ฝ่าทัพออกไป สักครู่เสียงทุ้มต่ำก็ดังขึ้นอีก
"ซ
ซาไอ" ซาไอหันกลับไปมองอย่างรวดเร็ว
"ท่านเซอิจิ!!!" เธอมองร่างกษัตริย์ที่โชกเต็มไปด้วยเหงื่อ
"อ้าว!!! ไหนว่า
"
"
" ซาไอเลิกคิ้ว
"ม
มาโซยะบอกว่า
."
"เอ๋!" หญิงสาวเลิกคิ้วอีก ทั้งคู่จ้องหน้ากันสักพัก
"โธ่เอ๊ย!!! ข้าถูกเจ้านั้นหลอกหรอกรึ!!! เอาเถอะๆ" เซอิจิหัวเราะ ซาไอยิ่งงง
"อะไรหรือเพค่ะ?" ซาไอถาม เซอิจิได้แต่ยิ้มพลางโบกมือ
"ไม่หรอก
มาโซยะบอกข้าว่า
" เซอิจิหยุดหอบ
"เจ้าถูกเกวียนทับน่ะ
ที่นี่
ข้าไปเชื่อได้ยังไงน่ะ?" แล้วเซอิจิก็หัวเราะกับตัวเองอีก ซาไอชักยิ้มออก
"หรือเพค่ะ
" เธอพยายามกลั้นยิ้ม แล้วเชิดหน้า
"เออ
ขอโทษข้าลืมไปว่าเจ้ามีปัญหาเกี่ยวกับเสบียงอยู่" เซอิจิกล่าว
"ไม่เป็นไรเพค่ะ"
"แล้วเป็นอย่างไรบ้างล่ะ?" เซอิจิชวนคุย ซาไอได้แต่ก้มหน้า
"ไม่ได้เพค่ะ
." เธอบอก เป็นครั้งในรอบหลายปีที่เธอแก้ปัญหาไม่ได้ด้วยตัวเอง
"งั้นหรือ?" เซอิจิก้มตัวลงมาหาซาไอ
"ต้องหาทางฝ่าออกไปให้ได้ใช่ไหมล่ะ?" เซอิจิเอ่ยถามอย่างรู้ทัน
"ทรง
."
"แต่ยังหาวิธีไม่ได้ใช่ไหมล่ะ?" เซอิจิใช้ปลายนิ้วนวดขมับอย่างครุ่นคิด พลางมองไปรอบๆ
"เพค่ะ
"
"อืม.
แต่ข้าพอจะมีวิธีล่ะ"
"จริงหรือเพค่ะ?" ซาไอร้องขึ้นอย่างยินดี ไม่นึกว่าสิ่งที่เธอคิดไม่ออกเซอิจิจะคิดออก
"พระองค์ทรง
" เซอิจิยกมือห้ามไว้
"ข้ายังไม่แน่ใจว่าใช้ได้รึเปล่า
" เขาว่า
"ตามมาสิ" เซอิจิก้าวนำออกไป ซาไอรีบสาวเท้าตาม ทั้งสองเดินจากต้นพุทรามาไกลจนใกล้เขตป่า เซอิจิคว้าไม้ที่ตกอยู่ใกล้เขตป่าขึ้นมา ใช้มันปักลงบนพื้นดินที่ชื้นแฉะสักพัก ก่อนที่จะทรุดตัวลงหยิบเศษดินขึ้นมา ใช้ปลายนิ้วบดขยี้ แต่แล้วก็ทิ้งมันลงไป ใช้ไม้ในมือปักลงไปในดินอีก ซาไอเอียงคออย่างสงสัย
"ทรง
?" ซาไออ้าปากจะถาม แต่เซอิจิก็เงยหน้าขึ้นคล้ายได้ยินอะไร เอามือจับซาไอไว้พลางใช้นิ้วจรดริมฝีปากเป็นเชิงห้าม
"เสียง!!"
"ได้ยินเพค่ะ
เหมือนกับเสียงเสือ?
"
"ไม่ใช่"
"งั้นอะไรล่ะเพค่ะ"
"ไม่รู้!!! หนีไปก่อนเดี๋ยวข้าดูเอง"
"แต่
พระองค์"
"หนีไปเถอะ" เซอิจิออกแรงดันซาไอ เธอยังขัดขืนเล็กน้อย เสียงนั้นก็ดังขึ้นอีก เซอิจิกัดริมฝีปากตัวเอง แล้วจูงมือซาไอเดินออกไปอย่างแผ่วเบา การวางเท้าก็เงียบเชียบ หลบไปตามแมกไม้
"อีกแล้วหรือนี่?" เซอิจิพึมพำเบาๆ แล้วเสยผมตัวเอง
"อะไรหรือเพค่ะ?" เซอิจิหันกลับมากอดซาไอ
"ทำไมน่ะ!!! เวลาเจ้าอยู่กับข้าถึงได้มีเรื่องทุกทีเลย
.นั่งนิ่งๆน่ะ คราวนี้ข้าไม่ให้เจ้าเป็นอะไรเหมือนคราวสึกุบะหรอก
" ซาไอพยายามมองรอบๆ แต่เซอิจิก็เหมือนกับมองเห็นอะไร เขาล้มตัวลงนอน พรางหายไปในพุ่มไม้พร้อมกับตัวของซาไอด้วย
"เกิด
.?"
"หยุดพูดก่อนพวกมันมาแล้ว
" เซอิจิกระซิบ แล้วกอดเธอเอาไว้ในอ้อมอก ซาไอได้ยินเสียงอะไรบางอย่างที่คล้ายเสียงเสือ แต่พอฟังดูดีๆมันไม่ใช่ คล้ายกับเสียงเครื่องจักรกลไกอะไรสักอย่างมากกว่า เธอได้ยินเสียงล้อขับเคลื่อนไปพบพื้น ก่อนที่จะตามด้วยเสียงม้า แล้วก็เสียง
..คน ซาไอมองเห็นเท้าและล้อจากพื้น ทั้งสองนอนกอดกันอยู่บนพื้นดิน เสียงพูดคุยกันดังงึมงำเบาๆ ทั้งคู่นอนกอดกันอย่างเงียบเชียบ
จนกระทั้งเสียงคาราวานนั้นผ่านพ้นไป เซอิจิเป็นคนที่ลุกขึ้นก่อน เขามองไปรอบๆแล้วก็พบว่าไม่มีใคร
.
"ลุกขึ้นเถอะ!" เขาดึงซาไอให้ลุกขึ้น หญิงสาวรีบสลัดมือของตัวเองออกทันทีเมื่อลุกขึ้นได้ เธอเสียท่าไปมาก เขาจะมองว่าเธออ่อนแอรึเปล่าน่ะ?
"ขอบพระทัยเพค่ะ ท่านเซอิจิ!!!" ซาไอโค้งให้ทันทีที่สามารถยืนด้วยตนเองอย่างมั่นคง ก่อนที่เธอจะปัดเศษดินที่ติดชายเสื้อเสียอีก เซอิจิเบือนหน้าไปทางอื่น จ้องมองไปตามดิน แล้วทั้งสองก็ออกเดินมาจากป่าด้วยกันอย่างเลี่ยงไม่ได้
"ซาไอ
."
"เพค่ะ.."
"เจ้าคงรู้ทางหนีทีไล่ในป่าดีกว่าพวกอิจิวสิน่ะ!!! แม้พวกมันจะถนัดรบในป่ามากกว่าเจ้าก็ตาม"
"
" ซาไอหันมามองเซอิจิ
"หมายความว่า
."
"ดินที่นี้ไม่อ่อนไม่แข็ง เวลาเดินผ่านทำให้เกิดรอยได้เป็นอย่างดี ข้าลองสำรวจดูแล้ว รอยทางที่มันผ่านต่างซ้ำๆเดิมๆ แสดงว่าการลาดตระเวนของมันจัดตามที่กำหนดเอาไว้ ให้หาทางอื่นที
การตีออกไปควรเป็นทางที่โล่งเพราะเจ้าได้เปรียบมากกว่า แล้วเจ้าต้องใช้แผนการ
"
"ส่งเสียงบูรพา ฝ่าตีประจิม!!!"
"อืม
ใช่แล้ว! เจ้าเป็นคนฉลาด ข้าบอกแค่นี้เจ้าคงเข้าใจ
"
"ขอบพระทัยเพค่ะ! ท่านเซอิจิ ทรงพระปรีชายิ่งแล้ว"
"นั้นสิ!~ ทำไมเจ้าถึงนึกไม่ถึงล่ะ? แผนไม่ได้ซับซ้อนเลย"
"หม่อมฉันนึกไม่ถึงน่ะสิเพค่ะ โธ่!~ นึกว่าเสียเปรียบด้านป่าจะตัดออกไป ไม่นึกว่าจะนำมาใช้ในแผนได้" ซาไอแก้ตัวเป็นพัลวันอย่างโล่งใจ แล้วก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
"งั้นหรือ? ดีแล้วล่ะ" เซอิจิยิ้มอย่างอ่อนโยน พลางก้มลงปัดเศษดินที่แก้มหญิงสาว
"ซาไอ
"
"เพค่ะ
"
"ข้าเป็นเด็กหรือผู้ชาย?" เซอิจิถามด้วยน้ำเสียงเว้าวอน ทำเอาหญิงสาวใบหน้าร้อนผ่าว
"ทรงเป็น
." แล้วซาไอก็สะดุ้ง
"ห
หม่อมฉันคือ
.หม่อมฉันทูลลาเพค่ะ!" ซาไอผละออกไปอย่างรวดเร็ว เธออับอายเหลือเกินที่เผลอคล้อยอารมณ์ตามจนได้ ทั้งที่เธอสาบานว่าจะไม่คิดเรื่องอะไรนอกจากเรื่องช่วยชาติแล้วเชียว!
"เจ้าเป็นอะไรไปน่ะ?" โควตะถามเมื่อซาไอเดินกลับมา พร้อมกับใบหน้าแดงแจ๋ และเสื้อผ้าเปรอะดิน
"หกล้ม"
"ห๊า!!! ไปทำท่าไหนล่ะ? หน้าถึงได้แดงด้วย"
"โควตะ!"
"ได้ๆ ไม่ถามก็ได้"
"โควตะ"
"อะไรรึ?"
"ข้ามีวิธีฝ่าออกไปแล้ว!"
. . . . . .
แสงแดดส่องเข้ามากลางสนามฝึกของทหารฝ่ายอิจิว เขายืนผงาดอยู่บนเพิงสูง นายทหารคนหนึ่งวิ่งเข้ามาหา พลางคุกเข่าทำความเคารพ
"
.." อิจิวโบกมือเป็นเชิงให้พูด
"การขนเสบียงส่งไปแล้วขอรับ แต่ไม่มีการเคลื่อนไหวของฝ่ายศัตรูเลย" ทหารผู้นั้นรายงาน อิจิวยิ้มอย่างเยือกเย็น แล้วโบกมือเป็นเชิงให้ไป
ตรงตามแผน
. เขาคิด พลางใช้มือที่เหลืออยู่ข้างเดียวเสยไรผม
การส่งเสบียงออกไปครั้งแรกนั้น เป็นเพียงการส่งกองเสบียงปลอม แล้วปล่อยให้ข่าวรั่ว เพื่อหยั่งเชิงว่าฝ่ายซาไอมีปัญญาหาทางหนีออกมาปล้นเสบียงได้หรือไม่? นี่ก็คือตรงตามแผนอย่างที่เขาคิด
พวกซาไอถูกโอบล้อมเอาไว้ทุกที่ทุกทาง ที่เหลือก็แค่บีบเข้าไป กองกำลังกู้ชาติก็เป็นลูกไก่ในกำมือ
.
ไรผมตกมาปรกที่ใบหน้า พร้อมๆกับนายทหารที่ก้าวขึ้นเพิงมารายงาน
"ท่านแม่ทัพขอรับ
"
"หือ
"
"หน่วยลาดตระเวนไม่พบใครหลบหนีออกมาเลย
คาดว่าคงขวัญหนีดีฝ่อกันพอสมควรแล้วล่ะขอรับ"
"ดีมาก
ถ้าอย่างนั้นเห็นทีเราจะบุกมันได้แน่
.สั่งการลงไป เตรียมกำลังบุกแบบโอบล้อมกองกำลังกู้ชาติ
."
ยังไม่ทันขาดคำม้าเร็วอีกคนก็ก้าวขึ้นเพิงมาอย่างรีบร้อน
"ท่านแม่ทัพๆแย่แล้วขอรับ"
"อะไร!!!"
"มีการลักลอบพ้นสายตาพลลาดตระเวนได้ขอรับ ตอนนี้มีกองทหารกู้ชาติราว 1000 นายสามารถลักลอบออกจากป่า พ้นการล้อมของเราได้ขอรับ!!!"
"อะไรน่ะ? เป็นไปได้ยังไงกัน ทั้งๆที่
." อิจิวขมวดคิ้วอย่างไม่เชื่อหูตนเอง แต่แล้วเสียงโห่ร้องของกองทหารนับพันของกองกำลังกู้ชาติที่หนีรอดอุ้งมือของกองทัพ 2 แสนไปได้
"เสียงนั้นมัน!!!" อิจิวรุดไปยังด้านต้นกำเนิดเสียง สิ่งที่เขาเห็นคือนายทหารอยู่ไกลเกินพลธนูยิงกำลังโบกธงรบที่เขียนลงธงว่า 'เอกราชนากิ' อันเป็นธงของกองกำลังนากิอยู่
"ฉิบ
." อิจิวสบถ
"ใครเป็นคนนำทัพออกมา?" อิจิวหันไปถามพลทหารข้างหลัง
"โนทามากิโอะขอรับ!!!" เสียงพลทหารตอบ
"ถอนทหารจากส่วนอื่นออกไปเสริมที่เขตป่า นี้คือคำสั่งด่วน!!!"
. . . . .
"ตรงตามที่เจ้าคิด ตรงตามที่เจ้าพูด" โควตะที่เดิมควรจะตึงเครียดเริ่มมีสีหน้าที่มีสีเลือดมากขึ้น
"ต่อไปเราควรจะทำอย่างไร?" เขาไต่ถามต่อ
"อืม
" ซาไอที่นั่งพิงผนักเก้าอี้ยังกายช้าๆขึ้นมานั่งตัวตรง
"อิจิวใช้แผนตรงตามที่ข้าคิดจริงๆ การกระทำของเขาเข้าแผนของข้าแล้ว" ซาไอว่าอย่างเป็นต่อ
"ต่อไปเราเตรียมจัดกระบวนทัพตีฝ่าออกไปในด่านที่มีทหารน้อยที่สุด
."
"แล้วเราจะรู้ได้ยังไงล่ะ?"
"ฮึๆ ก็ไม่ยากหรอก เราจะแบ่งออกเป็นสี่สายนั้นล่ะ ไปกันคนละสายก็แล้วกัน ในเมื่อเราไม่รู้อะไรเกี่ยวกับศัตรูเลย
ก็ต้องลองเสี่ยงด้วยสัญชาติญาณดู
.สงครามครั้งนี้ข้าจะสู้กับอิจิวด้วยจิตวิทยาและความปั่นป่วน"
|