[HOME] [สารบัญ] l 1 l 2 l 3 l 4 l 5 l 6 l 7 l 8 l 9 l 10 l 11 l 12 l 13 l 14 l 15 l 16 l 17 l 18 l 19 l 20 l 21 l 22 l 23 l 24 l 25 l 26
     l 27 l 28 l 29 l 30 l 31 l 32 l 33 l 34 l 35 l 36 l 37 l 38 l 39 l 40/1 l 40/2 l 41 l 42 l 43/1 l 43/2 l 44 l 45
     l 46 l 47 l 48 l 49/1 l 49/2 l 49/3 - fin l

บทที่ 37 วิกฤตการณ์แสงสุรีผ่าแมกเมฆา


เมื่อท่านผู้อ่านได้อ่านตอนนี้ต้องขออภัยเสียหน่อยที่ว่า จะตึงเครียดเป็นพิเศษ ซึ่งไม่เป็นที่ปรารถนาเอาเสียเลย สำหรับกองทัพกู้ชาติ ซาไอนั่งเคาะโต๊ะอยู่ข้างๆโควตะ

"มีอะไร?" ซาไอและโควตะเอ่ยขึ้นพร้อมกันเมื่อทหารผู้หนึ่งก้าวเข้ามา

"พิราบสื่อสารขอรับ" ว่าจบทหารก็ส่งสารให้แก่โควตะ โควตะไม่รอช้ารีบกางสารออกอ่านทันที

"ว่าไงบ้าง?" ซาไอถาม

"เสบียงของเราถูกดักปล้นได้จริงๆ แต่เราจะเอามันคืน เพราะเสบียงจะถูกส่งกลับไปให้เมืองหลวง…"

"เมื่อไร?"

"ถูกขนส่งอยู่…ตอนนี้" โควตะตอบ

"เราจะไปไหนได้บ้าง ตอนนี้เราถูกโอบล้อมอยู่"

"ใช่…การออกไปเรารั้งแต่จะถูกดักซุ่มโจมตี"

"……" ทั้งคู่เงียบ แม้กระทั้งซาไอ หมากตานี้จนจริงๆ เธอดันวางแผนพลาดไปตาเดียว

"ข้าขอตัวน่ะ…" ซาไอเอ่ยพลาดลุกออกไป ความรู้สึกกดดันแพร่ซ่านไปทั่วร่างกาย เธอก้าวเดินออกไป มุ่งหมายไปยังต้นพุทรา…

"จะไปจริงๆเรอะ! ที่ต้นพุทราน่ะ" เสียงหนึ่งถามขึ้น

"อือ…เอ๋ ว่าแต่เจ้ารู้ได้อย่างไร มาโซยะ!!" ซาไอหันกลับมา

"อ้อ…ข้าฉลาดเจ้าก็รู้นี่นา…เอาล่ะหิวข้าวจัง ไปกินข้าวดีกว่า" มาโซยะเอ่ย แล้วหายตัวไป ก่อนที่ซาไอจะพูดอะไรอีก

"เฮ้อ…" เธอถอนใจแล้วก็เดินไปยังต้นพุทราที่มากับท่านเซอิจิวันก่อน…เธอทรุดตัวลงนั่งคุกเขาแล้วไหว้ธูปที่ปักบนช่อดอกไม้

พลางนึกแผนที่จะใช้ฝ่าทัพออกไป สักครู่เสียงทุ้มต่ำก็ดังขึ้นอีก

"ซ…ซาไอ" ซาไอหันกลับไปมองอย่างรวดเร็ว

"ท่านเซอิจิ!!!" เธอมองร่างกษัตริย์ที่โชกเต็มไปด้วยเหงื่อ

"อ้าว!!! ไหนว่า…"

"……" ซาไอเลิกคิ้ว

"ม…มาโซยะบอกว่า…."

"เอ๋!" หญิงสาวเลิกคิ้วอีก ทั้งคู่จ้องหน้ากันสักพัก

"โธ่เอ๊ย!!! ข้าถูกเจ้านั้นหลอกหรอกรึ!!! เอาเถอะๆ" เซอิจิหัวเราะ ซาไอยิ่งงง

"อะไรหรือเพค่ะ?" ซาไอถาม เซอิจิได้แต่ยิ้มพลางโบกมือ

"ไม่หรอก…มาโซยะบอกข้าว่า…" เซอิจิหยุดหอบ

"เจ้าถูกเกวียนทับน่ะ…ที่นี่…ข้าไปเชื่อได้ยังไงน่ะ?" แล้วเซอิจิก็หัวเราะกับตัวเองอีก ซาไอชักยิ้มออก

"หรือเพค่ะ…" เธอพยายามกลั้นยิ้ม แล้วเชิดหน้า

"เออ…ขอโทษข้าลืมไปว่าเจ้ามีปัญหาเกี่ยวกับเสบียงอยู่" เซอิจิกล่าว

"ไม่เป็นไรเพค่ะ"

"แล้วเป็นอย่างไรบ้างล่ะ?" เซอิจิชวนคุย ซาไอได้แต่ก้มหน้า

"ไม่ได้เพค่ะ…." เธอบอก เป็นครั้งในรอบหลายปีที่เธอแก้ปัญหาไม่ได้ด้วยตัวเอง

"งั้นหรือ?" เซอิจิก้มตัวลงมาหาซาไอ

"ต้องหาทางฝ่าออกไปให้ได้ใช่ไหมล่ะ?" เซอิจิเอ่ยถามอย่างรู้ทัน

"ทรง…."

"แต่ยังหาวิธีไม่ได้ใช่ไหมล่ะ?" เซอิจิใช้ปลายนิ้วนวดขมับอย่างครุ่นคิด พลางมองไปรอบๆ

"เพค่ะ…"

"อืม.…แต่ข้าพอจะมีวิธีล่ะ"

"จริงหรือเพค่ะ?" ซาไอร้องขึ้นอย่างยินดี ไม่นึกว่าสิ่งที่เธอคิดไม่ออกเซอิจิจะคิดออก

"พระองค์ทรง…" เซอิจิยกมือห้ามไว้

"ข้ายังไม่แน่ใจว่าใช้ได้รึเปล่า…" เขาว่า

"ตามมาสิ" เซอิจิก้าวนำออกไป ซาไอรีบสาวเท้าตาม ทั้งสองเดินจากต้นพุทรามาไกลจนใกล้เขตป่า เซอิจิคว้าไม้ที่ตกอยู่ใกล้เขตป่าขึ้นมา ใช้มันปักลงบนพื้นดินที่ชื้นแฉะสักพัก ก่อนที่จะทรุดตัวลงหยิบเศษดินขึ้นมา ใช้ปลายนิ้วบดขยี้ แต่แล้วก็ทิ้งมันลงไป ใช้ไม้ในมือปักลงไปในดินอีก ซาไอเอียงคออย่างสงสัย

"ทรง…?" ซาไออ้าปากจะถาม แต่เซอิจิก็เงยหน้าขึ้นคล้ายได้ยินอะไร เอามือจับซาไอไว้พลางใช้นิ้วจรดริมฝีปากเป็นเชิงห้าม

"เสียง!!"

"ได้ยินเพค่ะ…เหมือนกับเสียงเสือ?…"

"ไม่ใช่"

"งั้นอะไรล่ะเพค่ะ"

"ไม่รู้!!! หนีไปก่อนเดี๋ยวข้าดูเอง"

"แต่…พระองค์"

"หนีไปเถอะ" เซอิจิออกแรงดันซาไอ เธอยังขัดขืนเล็กน้อย เสียงนั้นก็ดังขึ้นอีก เซอิจิกัดริมฝีปากตัวเอง แล้วจูงมือซาไอเดินออกไปอย่างแผ่วเบา การวางเท้าก็เงียบเชียบ หลบไปตามแมกไม้

"อีกแล้วหรือนี่?" เซอิจิพึมพำเบาๆ แล้วเสยผมตัวเอง

"อะไรหรือเพค่ะ?" เซอิจิหันกลับมากอดซาไอ

"ทำไมน่ะ!!! เวลาเจ้าอยู่กับข้าถึงได้มีเรื่องทุกทีเลย….นั่งนิ่งๆน่ะ คราวนี้ข้าไม่ให้เจ้าเป็นอะไรเหมือนคราวสึกุบะหรอก…" ซาไอพยายามมองรอบๆ แต่เซอิจิก็เหมือนกับมองเห็นอะไร เขาล้มตัวลงนอน พรางหายไปในพุ่มไม้พร้อมกับตัวของซาไอด้วย

"เกิด….?"

"หยุดพูดก่อนพวกมันมาแล้ว…" เซอิจิกระซิบ แล้วกอดเธอเอาไว้ในอ้อมอก ซาไอได้ยินเสียงอะไรบางอย่างที่คล้ายเสียงเสือ แต่พอฟังดูดีๆมันไม่ใช่ คล้ายกับเสียงเครื่องจักรกลไกอะไรสักอย่างมากกว่า เธอได้ยินเสียงล้อขับเคลื่อนไปพบพื้น ก่อนที่จะตามด้วยเสียงม้า แล้วก็เสียง…..คน ซาไอมองเห็นเท้าและล้อจากพื้น ทั้งสองนอนกอดกันอยู่บนพื้นดิน เสียงพูดคุยกันดังงึมงำเบาๆ ทั้งคู่นอนกอดกันอย่างเงียบเชียบ

จนกระทั้งเสียงคาราวานนั้นผ่านพ้นไป เซอิจิเป็นคนที่ลุกขึ้นก่อน เขามองไปรอบๆแล้วก็พบว่าไม่มีใคร….

"ลุกขึ้นเถอะ!" เขาดึงซาไอให้ลุกขึ้น หญิงสาวรีบสลัดมือของตัวเองออกทันทีเมื่อลุกขึ้นได้ เธอเสียท่าไปมาก เขาจะมองว่าเธออ่อนแอรึเปล่าน่ะ?

"ขอบพระทัยเพค่ะ ท่านเซอิจิ!!!" ซาไอโค้งให้ทันทีที่สามารถยืนด้วยตนเองอย่างมั่นคง ก่อนที่เธอจะปัดเศษดินที่ติดชายเสื้อเสียอีก เซอิจิเบือนหน้าไปทางอื่น จ้องมองไปตามดิน แล้วทั้งสองก็ออกเดินมาจากป่าด้วยกันอย่างเลี่ยงไม่ได้

"ซาไอ…."

"เพค่ะ.."

"เจ้าคงรู้ทางหนีทีไล่ในป่าดีกว่าพวกอิจิวสิน่ะ!!! แม้พวกมันจะถนัดรบในป่ามากกว่าเจ้าก็ตาม"

"……" ซาไอหันมามองเซอิจิ

"หมายความว่า…."

"ดินที่นี้ไม่อ่อนไม่แข็ง เวลาเดินผ่านทำให้เกิดรอยได้เป็นอย่างดี ข้าลองสำรวจดูแล้ว รอยทางที่มันผ่านต่างซ้ำๆเดิมๆ แสดงว่าการลาดตระเวนของมันจัดตามที่กำหนดเอาไว้ ให้หาทางอื่นที

การตีออกไปควรเป็นทางที่โล่งเพราะเจ้าได้เปรียบมากกว่า แล้วเจ้าต้องใช้แผนการ…"

"ส่งเสียงบูรพา ฝ่าตีประจิม!!!"

"อืม…ใช่แล้ว! เจ้าเป็นคนฉลาด ข้าบอกแค่นี้เจ้าคงเข้าใจ…"

"ขอบพระทัยเพค่ะ! ท่านเซอิจิ ทรงพระปรีชายิ่งแล้ว"

"นั้นสิ!~ ทำไมเจ้าถึงนึกไม่ถึงล่ะ? แผนไม่ได้ซับซ้อนเลย"

"หม่อมฉันนึกไม่ถึงน่ะสิเพค่ะ โธ่!~ นึกว่าเสียเปรียบด้านป่าจะตัดออกไป ไม่นึกว่าจะนำมาใช้ในแผนได้" ซาไอแก้ตัวเป็นพัลวันอย่างโล่งใจ แล้วก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่

"งั้นหรือ? ดีแล้วล่ะ" เซอิจิยิ้มอย่างอ่อนโยน พลางก้มลงปัดเศษดินที่แก้มหญิงสาว

"ซาไอ…"

"เพค่ะ…"

"ข้าเป็นเด็กหรือผู้ชาย?" เซอิจิถามด้วยน้ำเสียงเว้าวอน ทำเอาหญิงสาวใบหน้าร้อนผ่าว

"ทรงเป็น…." แล้วซาไอก็สะดุ้ง

"ห…หม่อมฉันคือ….หม่อมฉันทูลลาเพค่ะ!" ซาไอผละออกไปอย่างรวดเร็ว เธออับอายเหลือเกินที่เผลอคล้อยอารมณ์ตามจนได้ ทั้งที่เธอสาบานว่าจะไม่คิดเรื่องอะไรนอกจากเรื่องช่วยชาติแล้วเชียว!

"เจ้าเป็นอะไรไปน่ะ?" โควตะถามเมื่อซาไอเดินกลับมา พร้อมกับใบหน้าแดงแจ๋ และเสื้อผ้าเปรอะดิน

"หกล้ม"

"ห๊า!!! ไปทำท่าไหนล่ะ? หน้าถึงได้แดงด้วย"

"โควตะ!"

"ได้ๆ ไม่ถามก็ได้"

"โควตะ"

"อะไรรึ?"

"ข้ามีวิธีฝ่าออกไปแล้ว!"

. . . . . .

แสงแดดส่องเข้ามากลางสนามฝึกของทหารฝ่ายอิจิว เขายืนผงาดอยู่บนเพิงสูง นายทหารคนหนึ่งวิ่งเข้ามาหา พลางคุกเข่าทำความเคารพ

"….." อิจิวโบกมือเป็นเชิงให้พูด

"การขนเสบียงส่งไปแล้วขอรับ แต่ไม่มีการเคลื่อนไหวของฝ่ายศัตรูเลย" ทหารผู้นั้นรายงาน อิจิวยิ้มอย่างเยือกเย็น แล้วโบกมือเป็นเชิงให้ไป …ตรงตามแผน…. เขาคิด พลางใช้มือที่เหลืออยู่ข้างเดียวเสยไรผม

การส่งเสบียงออกไปครั้งแรกนั้น เป็นเพียงการส่งกองเสบียงปลอม แล้วปล่อยให้ข่าวรั่ว เพื่อหยั่งเชิงว่าฝ่ายซาไอมีปัญญาหาทางหนีออกมาปล้นเสบียงได้หรือไม่? นี่ก็คือตรงตามแผนอย่างที่เขาคิด…พวกซาไอถูกโอบล้อมเอาไว้ทุกที่ทุกทาง ที่เหลือก็แค่บีบเข้าไป กองกำลังกู้ชาติก็เป็นลูกไก่ในกำมือ….

ไรผมตกมาปรกที่ใบหน้า พร้อมๆกับนายทหารที่ก้าวขึ้นเพิงมารายงาน

"ท่านแม่ทัพขอรับ…"

"หือ…"

"หน่วยลาดตระเวนไม่พบใครหลบหนีออกมาเลย…คาดว่าคงขวัญหนีดีฝ่อกันพอสมควรแล้วล่ะขอรับ"

"ดีมาก…ถ้าอย่างนั้นเห็นทีเราจะบุกมันได้แน่….สั่งการลงไป เตรียมกำลังบุกแบบโอบล้อมกองกำลังกู้ชาติ…."

ยังไม่ทันขาดคำม้าเร็วอีกคนก็ก้าวขึ้นเพิงมาอย่างรีบร้อน

"ท่านแม่ทัพๆแย่แล้วขอรับ"

"อะไร!!!"

"มีการลักลอบพ้นสายตาพลลาดตระเวนได้ขอรับ ตอนนี้มีกองทหารกู้ชาติราว 1000 นายสามารถลักลอบออกจากป่า พ้นการล้อมของเราได้ขอรับ!!!"

"อะไรน่ะ? เป็นไปได้ยังไงกัน ทั้งๆที่…." อิจิวขมวดคิ้วอย่างไม่เชื่อหูตนเอง แต่แล้วเสียงโห่ร้องของกองทหารนับพันของกองกำลังกู้ชาติที่หนีรอดอุ้งมือของกองทัพ 2 แสนไปได้

"เสียงนั้นมัน!!!" อิจิวรุดไปยังด้านต้นกำเนิดเสียง สิ่งที่เขาเห็นคือนายทหารอยู่ไกลเกินพลธนูยิงกำลังโบกธงรบที่เขียนลงธงว่า 'เอกราชนากิ' อันเป็นธงของกองกำลังนากิอยู่

"ฉิบ…." อิจิวสบถ

"ใครเป็นคนนำทัพออกมา?" อิจิวหันไปถามพลทหารข้างหลัง

"โนทามากิโอะขอรับ!!!" เสียงพลทหารตอบ

"ถอนทหารจากส่วนอื่นออกไปเสริมที่เขตป่า นี้คือคำสั่งด่วน!!!"

. . . . .

"ตรงตามที่เจ้าคิด ตรงตามที่เจ้าพูด" โควตะที่เดิมควรจะตึงเครียดเริ่มมีสีหน้าที่มีสีเลือดมากขึ้น

"ต่อไปเราควรจะทำอย่างไร?" เขาไต่ถามต่อ

"อืม…" ซาไอที่นั่งพิงผนักเก้าอี้ยังกายช้าๆขึ้นมานั่งตัวตรง

"อิจิวใช้แผนตรงตามที่ข้าคิดจริงๆ การกระทำของเขาเข้าแผนของข้าแล้ว" ซาไอว่าอย่างเป็นต่อ

"ต่อไปเราเตรียมจัดกระบวนทัพตีฝ่าออกไปในด่านที่มีทหารน้อยที่สุด…."

"แล้วเราจะรู้ได้ยังไงล่ะ?"

"ฮึๆ ก็ไม่ยากหรอก เราจะแบ่งออกเป็นสี่สายนั้นล่ะ ไปกันคนละสายก็แล้วกัน ในเมื่อเราไม่รู้อะไรเกี่ยวกับศัตรูเลย…ก็ต้องลองเสี่ยงด้วยสัญชาติญาณดู….สงครามครั้งนี้ข้าจะสู้กับอิจิวด้วยจิตวิทยาและความปั่นป่วน"