[HOME] [สารบัญ] l 1 l 2 l 3 l 4 l 5 l 6 l 7 l 8 l 9 l 10 l 11 l 12 l 13 l 14 l 15 l 16 l 17 l 18 l 19 l 20 l 21 l 22 l 23 l 24 l 25 l 26
     l 27 l 28 l 29 l 30 l 31 l 32 l 33 l 34 l 35 l 36 l 37 l 38 l 39 l 40/1 l 40/2 l 41 l 42 l 43/1 l 43/2 l 44 l 45
     l 46 l 47 l 48 l 49/1 l 49/2 l 49/3 - fin l

บทที่ 43 lady wars(สงครามนารี) เผด็จศึก / 2


มาโซยะหรือมาโซยุราโอะคว้าดาวกระจายที่ลับเสียจนคมกริบขึ้นมาเมื่อเข้ามาอยู่ในแดนศัตรู เขาก้าวเงียบๆแต่มีจังหวะที่รวดเร็วเข้ามาจนถึงเขตพระราชวัง มาโซยะหลบทหารที่เดินผ่านมาก่อนที่จะก้าวกระโดดขึ้นกำแพง แล้วเดินอย่างมั่นคง พร้อมกับระมัดระวังสิ่งรอบข้างไปพร้อมๆกัน

"ราชานินจา….มาโซยุราโอะ…" เสียงเรียกดังขึ้นมาจากข้างหลัง มาโซยะรีบหันกลับไปอย่างรวดเร็ว ตั้งท่าจะขว้างดาวกระจาย

"อ…อาเกกินารุซาวะ" มาโซยะเอ่ยอย่างตกใจเมื่อเห็นร่างสะโอดสะองของคุโนะอิจิสาว(นินจาหญิง)

"แหม…ตั้งท่าจะฆ่ากันเชียวรึ?" อากิโกะหรืออาเกกินารุซาวะเอ่ยขึ้น

"เจ้า…"

"อย่างเพิ่งพูด…ลงมาก่อน ตรงนั้นมันล่อหูล่อตาคน…" หญิงสาวกวัดมือเรียก มาโซยะลังเลสักครู่ก่อนที่จะกระโดดลงจากกำแพง เข้าสู่มุมมืด อนิจจาเมื่อเท้าของเขาต้องพื้นเท่านั้น หญิงสาวก็โจมตีใส่เขาทันที เธอโอบรอบคอของเขาและประกบริมฝีปากอย่างชำนาญ

"อ๊ะ!!! ทำอะไรเนี่ย!!!" มาโซยะร้อง เมื่อหญิงสาวผละออกไปพลางเลียริมฝีปากตัวเอง

"อุ๊ยตาย!!! ไม่รู้รึ? ว่าได้จูบราชานินจามันเป็นบุญแค่ไหน?" อาเกกินารุซาวะเอ่ย

"อากิโกะ สาวบริสุทธิ์เมื่อตอนนั้นหายไปไหนเล่า?" มาโซยะพยายามซ่อนใบหน้าของตัวเองไว้

"ข้าเป็นนินจาไม่คงที่หรอก…ตอนนี้ข้าเปลี่ยนโหมดเป็นสาวกิอง(หญิงงามเมือง)แล้วน่ะจ๊ะ…จะบอกให้…ชื่ออิงูจิ…อิงูจิจังไงจ๊ะ…เรียกสิ…พี่มาโซยะขา"

"ฮึ่ย!!! รู้แล้วน่า!!!" มาโซยะยังคงเช็ดริมฝีปากตัวเองด้วยแขนเสื้อ อาเกกินารุซาวะหรือตอนนี้คืออิงูจิมองมาโซยะอย่างแปลกใจ

"อุ๊ย! ดูท่าทางเจ้ากังวลจัง…เป็นจูบแรกรึยังไง?" อิงูจิถาม

"บ้า!!! ไม่ใช่" มาโซยะปฏิเสธ

"ว่าแต่เจ้ามาอยู่นี่ได้ยังไง?" มาโซยะเข้าเรื่อง อิงูจิทำหน้าเคร่ง

"เมื่อสองอาทิตย์ก่อน…ข้าคิดว่าคงตีนากิแตกแล้วแต่ไม่ใช่…เกิดศึกกับอิจิวเสียก่อน…ข้าจึงปลอมตัวเข้ามา มาเป็นนางกำนัล…"

"เดี๋ยวๆ เล่าช้าๆ เจ้าว่าปลอมตัว? แล้วมิโดริจำเจ้าไม่ได้รึ?" มาโซยะถาม

"ข้าปลอมตัวน่ะ!!! ราชินีจำข้าไม่ได้หรอก!!! อีกอย่างนางลืมแล้วว่าเคยจ้างข้า!!!" อิงูจิว่า

"เออ…ใช่เรื่องท่านซาไอน่ะ!!! เอ๋…หรือว่าจะเรียกว่าราชินีซาไอดีล่ะ เล่นหนีตามกันเลยนี่นา เอาเถอะ…ข้าจะบอกไว้นางกำลังมีอันตราย!!!" มาโซยะส่ายหน้า

"สายไปแล้วนางโดนของไปแล้ว..มีทางช่วยนางไหมล่ะ?" อิงูจิโคลงศรีษะอย่างน่าเอ็นดู

"มี!!! ข้าเพิ่งสืบมาได้…วิชาคุโรเคียวต้องให้คนทำเป็นคนแก้…อย่างเดียวเท่านั้น" อิงูจิว่า

"เออ…มีอีกอย่างที่สำคัญมาก!!!" อิงูจิกล่าว "โชคดีที่เจอเจ้า ข้ากำลังจะเผ่นออกไปหาเจ้าแล้วเชียว!!! ว่าแต่ท่านเซอิจิเป็นไงบ้าง?"

"ก็ดี…เก่งขึ้นมากทีเดียว"

"แหม…ท่าก็บอกแล้วว่าพระองค์ฉลาด…คิกๆ" "เข้าเรื่องต่อดีกว่า ราชินีเตรียมผู้หญิงคนหนึ่งเอาไว้ชื่ออะไรน่า?…อ้อ….ชิวาโนะ…รู้สึกจะมีความแค้นกับท่านซาไอเพราะไปฆ่าพี่สาวเขาอะไรนี่แหละ…แล้วราชินีมิโดริให้นางทำอะไรก็ไม่รู้ แต่รู้สึกว่าจะให้จัดการท่านซาไอเนี่ยล่ะ….เราต้องอย่าให้นางแตะต้องท่านซาไอได้!!!" อิงูจิบอก

"แล้วตอนนี้นางอยู่ไหนล่ะ?"

"โธ่! ก็เมื่อกี้ข้าได้ยินว่าพวกนางจะเอาทัพ 500 คนออกไปไหนก็ไม่รู้ แต่คงไม่ไกลจากที่นี่นักหรอก…หาๆไปเดี๋ยวคงเจอ!!!"

"พูดง่ายจริงๆน่ะ" มาโซยะประชด "แต่ก็ช่างเถอะ ไปกันได้แล้ว!!!" ว่าแล้วมาโซยะก็วิ่งนำออกไป

"อุ๊ย!!! รอด้วยสิค่ะ พี่มาโซยะขาาาา" ว่าแล้วอิงูจิก็วิ่งตามไป…


กองทัพของมิโดริที่นำพลเพียง 500 คนกับนางกำนัลอีกมากมายออกมาทรามกลางแสงจันทร์ หน้ากำแพงเมืองหลวง พระนางมิโดริอยู่บนรถทรงม้าสีขาว ม้าแต่ละตัววิ่งเหยาะๆไปข้างหน้าเรื่อย โดยมีหญิงผู้หนึ่งเป็นสารถี

"หยุด!" พระนางตรัสพลางจ้องมองออกไปข้างหน้า แล้วยิ้มอย่างยินดีเมื่อเห็นร่างหนึ่งอยู่บนม้าที่กำลังควบเข้ามา ผมที่ปล่อยสยาย นัยตาเลื่อนลอย คือซาไอนั้นเอง!!!

"ลงจากม้า!!!" ราชินีสั่ง ซาไอก็ลงจากม้าอย่างว่าง่าย พลางจูงม้าเข้าไปหาหน้ารถศึกราชินี

"ซาไอๆ ข้าอยากฆ่าเจ้าเดี๋ยวนี้เหลือเกิน!!!" พระนางขบฟัน "แต่จะฆ่าเจ้าให้ตายไปเสียเลยมันง่ายไป!!!"

"ข้าจะให้เจ้าทนทุกข์ทรมานยิ่งกว่าที่ข้าได้รับเสียอีก!!!" พระนางทรงยิ้มอย่างเหี้ยมเกรียม พลางวาดแขนไปยังทหารทั้ง 500 ที่อยู่ข้างหลัง

ซาไอโคลงศรีษะด้วยนัยตาเลื่อนลอยคล้ายรอฟังคำสั่งจากพระนางมิโดริ…

"ซาไอ…เจ้าจงเสพสมกับทหารเหล่านี้ทุกคน…." สิ้นคำสั่งเสียงฮือฮาก็ดังมาจากเหล่าทหาร จะว่าเป็นเสียงประท้องก็ไม่ใช่ เชิงว่าจะเป็นเสียงยินดีเสียมากกว่าเพราะทหารที่มาในครั้งนี้ส่วนมากไม่ใช่คนนากิโดยแท้!!!

"จงเสพสมจนกว่าจะครบทุกคน…" พระนางย้ำคำสั่ง พลางหันกลับไปหาเหล่าทหารที่ยืนอยู่ข้างหลัง

"วากิ!!" พระนางทรงตรัสเรียกชายหนุ่มหน้าสวยที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นคนสนิทของอิจิว ขายหนุ่มก้าวออกมาช้าๆอย่างสงวนท่าที

"รับบัญชา!!!"

"ในจำนวนคนที่มา…เจ้ามีความแค้นกับมันมากที่สุด รองจากข้าและชิวาโนะ…เจ้าเป็นคนแรก!!!" ราชินีมิโดริทรงบัญชา

"รับด้วยเกล้า!!!" วากิรับคำพลางก้าวออกไป เข้าไปหาแม่ทัพหญิงที่ตอนนี้แทบไม่มีสติใดๆอยู่กับตัวเอง วากิบีบกรามของหญิงสาวด้วยความโกรธแค้น ซาไอไม่ได้ตอบโต้ เธอยังมองใบหน้าของคนที่ปะทุร้ายเธอด้วยสีหน้าเลื่อนลอย

"พามันเข้าไปในป่า!!! แล้วจัดการมันตามใจของเจ้า!!!" เมื่อสิ้นเสียงราชินี วากิก็กระชากแขนของหญิงสาวให้ตามไป…




ฝีเท้าม้าควบตะบึงอย่างไปลดละ คุโระหยุดเป็นจังหวะเพื่อดมกลิ่นไปตามทาง แล้วมันก็วิ่งฉิวอีก ม้าอีก 2 ตัวที่บังคับโดยเดเอคิและจิเคตะตามมาอย่างกระชั้นชิด สุดท้ายทั้ง 4 ก็พบกับ…กองทัพที่ออกมาตั้งอยู่หน้าเมืองหลวง

ทันทีที่สายตาของเซอิจิและราชินีมิโดริประสานกัน ความแค้นในความรู้สึกของแต่ละคนก็ลุกโชนขึ้น ทั้งสองมองกันนิ่งไม่พูดไม่จากันอยู่พักหนึ่ง เซอิจิบังคับม้าให้อยู่นิ่ง… พลางนึกสรรพนามที่ควรใช้กับหญิงผู้นี้….

"เสด็จแม่!!!!" เขาร้องขึ้นด้วยน้ำเสียงดังกังวาน เขาตัดสินใจใช้คำพูดเหมือนที่เคยใช้ เผือว่าราชินีจะใจอ่อนช่วยเขาบ้างก็ได้

"โปรดคืนซาไอให้แก่ลูกด้วย!!!" ราชินีมอง 'อดีต' ลูกชายด้วยสายตาโกรธเกรี้ยว และรังเกียจไปพร้อมๆกัน

"ข้าไม่ใช่แม่เจ้า!!! และก็ไม่คืนเชลยของข้าให้เจ้าด้วย!!!" พระนางทรงตรัสอย่างเหี้ยมหาญไม่แพ้กัน

"จิเคตะ!!! เราไม่นึกว่าเจ้าจะไปอยู่ฝ่ายมัน!!!" พระนางทรงตำหนิจิเคตะอย่างรุนแรง

"โปรดประทานอภัยด้วยราชินี… ข้าพระองค์นับถือพระองค์ยิ่งกว่าสิ่งใด ที่มาในครั้งนี้มาเพียงเจรจาเท่านั้นเอง…หาได้มีจุดประสงค์ที่จะบังอาจสู้กับพระนางไม่!"

"ไม่มีวัน!!!" ราชินีตวาด "เราไม่นับเจ้าเป็นข้าราชบริพารของเราอีกแล้ว ไสหัวไป!"

"ราชินี…ท่านทำเพื่อซูคังหรือไม่? หากท่านทำ ข้าพระองค์คิดว่าควรพอได้แล้ว เราเสียทหารไปมากมาย อีกทั้งทรงทำไปเป็นชายาของราชาของนากินั้น เป็นการหมิ่นเกียรติขององค์โดราตะ!!!"

"หุบปาก!!! เรามีเส้นทางของเราเอง!!! หลังจากที่เราจัดการพวกเจ้าได้ เราจะตั้งตนเองขึ้นเป็นผู้ปกครอง!!! ไม่ต้องพึ่งคนทรยศอย่างพวกเจ้า!!!" เซอิจิเห็นจิเคตะเม้มปากอย่างอดทน ไม่แน่ว่าอีกไม่ช้าความอดทนเขาจะหมดลงเร็วๆนี้ ซึ่งเพียงคิด เซอิจิก็สยอง….

"ทรงหมิ่นเกียรติราชาโดราตะมากไปแล้ว…." จิเคตะพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ ที่น่ากลัวมาก….ก

"ก็ดี….ข้าพระองค์ไม่ใคร่อยู่กับพระนางแล้ว…จากนี้ไปหม่อมฉันจะเชิดชูราชาเซอิจิแห่งซูคังขึ้นครองราช…" จิเคตะพูดทีเล่นทีจริง แต่ราชินีมิโดริก็ยังไม่เกรงกลัว พระนางหัวเราะด้วยน้ำเสียงก้องกังวาน

"เอาซี!!!" พระนางว่า "เจ้าและเดเอคิมันแค่พวกมีแต่แรง…ซ้ำยังรับใช้คนอ่อนแออย่างเซอิจิอีก…คงไปรอดยังงั้นแหละ" พระนางเยาะเย้ย

"ข้าเกรงว่ายังไม่ทันไรท่านเซอิจิของพวกเจ้าก็คงจะฆ่าตัวตาย…โน้นแน่ะ! ข้าส่งนังตัวดีไปเสพสมกับวากิในป่าแล้ว!!! ดีไหมล่ะ? อ๊ะๆ ไม่ต้องห่วงหรอก…นางไม่ดิ้นรนให้เจ็บตัวเลยแม้แต่นิดเดียว ว่าง่ายเชียวล่ะ!!! หึๆ…" เซอิจิเบิกตาโพล่งและมองเข้าไปในป่าอย่างเจ็บปวด…

"จะมากไปแล้ว!!!" เซอิจิก้มหน้ามองต่ำ

"เร็วเถอะพะยะค่ะ…" จิเคตะกล่าวพลางดึงดาบออกจากฝัก "ไปช่วยแม่หญิงของพระองค์เถอะ…พวกหม่อมฉันจะจัดการทางนี้เอง!!! ขอจัดการนังหญิงร่านปากมากเสียหน่อย…" จิเคตะยิ้มเครียดๆ เซอิจิจึงถอยม้า แล้วควบเข้าป่า

"หึหึ…ได้สิ ถ้าเจ้าต้องการอย่างนั้น ฆ่ามันให้หมด!!!" สิ้นสุรเสียงของราชินี เหล่าทหารก็ตั้งท่าจะวิ่งออกไป… แต่อนิจจามีเหล่าทหารเกราะดำวิ่งนำหน้าออกไปเสียก่อน ทั้งหมดคำรามก้องราวกับสัตว์ป่า พลางตะลุยพลนับร้อยเข้าหา 2 ตัว 3 ร่างที่อยู่ข้างหน้า!!!

"แหม…ไม่ได้ออกกำลังเสียนาน…." จิเคตะเปรยอย่างสบายอารมณ์ แล้วม้า 2 ตัวก็เข้าห้ำหั้นกับฝูงทหารเกราะดำ!!!


ซาไอตามไปอย่างว่าง่าย วากิลากหญิงสาวผ่านแมกไม้ไปสักครู่จนลึกเข้าไปในป่าพอสมควร เขาดึงหญิงสาวมาข้างหน้าและผลักเธอจนล้ม

"ตุ้บ!!!" เสียงซาไอลงไปคลุกดิน ฝุ่นตลบอบอวลไปทั่ว แต่หญิงสาวก็ไม่ตอบโต้ เธอยังนั่งอยู่บนพื้น สายตาก็มองตามใบหน้าของบุรุษที่เข้ามาใกล้

"ขัดขืนสิ!!!" เขาคุกเข่าต่อหน้าเธอและกระซิบด้วยความโกรธแค้น ซาไอกระพริบตาอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว ชายหนุ่มเอื้อมไปจับไหล่ของเธอแล้วพลักไปชนต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ข้างหลัง

"……" ซาไอได้แต่อ้าปากแต่ไม่มีเสียงร้องออกมา

"เจ้าทำร้ายท่านอิจิว!!! พี่ของเจ้าฆ่าท่านอิจิว!!! เจ้าสมควรถูกหมิ่นยิ่งกว่านี้เสียอีก!!!" สิ้นคำพูดของชายหนุ่ม ริมฝีปากก็เข้าตวัดเลียไปทั่วใบหน้าสวยของซาไอ ตรงดิ่งเข้าไปยังซอกคอขาวเนียน วากิจับแขนของเธอข้างหนึ่งเอาไว้…แล้วเขาก็เห็นตัวอักษรบางอย่าง

"เซอิจิ…" ริมฝีปากเผยอช้าๆ พลางยิ้มอย่างสาแก่ใจ…

"เซอิจิของเจ้าต้องรู้สึกเหมือนตกนรกทั้งเป็น!!!" ชายหนุ่มกระซิบข้างหูหญิงสาว พลางโลมเลียอย่างถึงอารมณ์ ลมร้อนเป่าเข้าซอกคอหญิงสาวอย่างพิศวาสในความงาม….แกร่งกร้าวอย่างไรก็คือผู้หญิงอยู่ดี!….

มือข้างหนึ่งรั้งเสื้อของตนออก อีกข้างช่วยหญิงสาวเปลื้องเสื้อผ้าที่คลุมกายออก ผิวขาวนวลถูกเผยออกให้เย้ยแสงจันทร์ช้าๆ อย่างที่ผิวขาวๆของวากิยังต้องอาย ขณะที่เธอจะชอบใส่ชุดขุนพลนั้น ผิวขาวถูกหลบแดดเอาไว้ใต้เกราะ ชายผู้มาเพื่อย่ำยีเกียรติใช้มือจับผิวนวลอย่างแทบไม่เชื่อสายตา เขามองอย่างเสียดายเล็กน้อยก่อนดำเนินการต่อไป ชั้นในสีแดงเหมือนหญิงสาวทั่วไป เจ้าของมือสอดมือไปใต้หลังของหญิงสาวแล้วพยายามแก้เชือกที่พันธนาการทรวงอกแรกแย้มเอาไว้ เขาแก้มันออกและกำลังจะดึงมันออก

"ตายซะ!!!" เสียงดังมาจากข้างหลังของวากิ ชายหนุ่มรีบหันหลับไปทันทีก็พบว่าเซอิจิกำลังจะหวดดาบใส่หน้าตน เขาหลบคมดาบนั้นไปได้เพียงฉิวเฉียว เซอิจิยังตามเอาเรื่องอย่างไม่ลดละ วากิยังหลบอย่างใจเย็น

"โอ๊ะโอ๋!!! เจ้าชาย…" เขาเยาะเย้ย "แม้ทรงปรีชาบุ๋น…แต่วิชาการต่อสู้ของพระองค์ยังอ่อนหัดนักเมื่อเทียบกับกระหม่อม…" ว่าแล้ววากิก็ดีดตัวไปในด้านตรงข้าม แล้วลงยืนอย่างมั่นคง

"หนอย!!! ไวนักน่ะ!!!" กษัตริย์ขบฟัน

"หม่อมฉันจะฆ่าพระองค์…แล้วจัดการนังหญิงนั้นทีหลัง" ว่าแล้ววากิก็ซัดมีดสั้นออกมา มันฝ่าอากาศเข้าหาเซอิจิ ชายหนุ่มเอี้ยวตัวหลบได้อย่างหวุดหวิด พลางจ้องไปที่วากิและอาณาบริเวณรอบๆ

"ฮึ่ม!!!" เสียงวากิสบถออกมาเมื่อฝ่ายคนมีดาบโถมดาบเข้าหาตนอย่างไม่กลัวตาย

"คลิ๊ก!!!" เสียงมีดสั้นกระทบกับดาบที่เซอิจิถือ วากิชักมันขึ้นรับไว้เส้นยาแดงผ่าแปด เซอิจิที่ใช้ดาบนั้น เมื่อเห็นว่าการกดดาบไปที่ฝ่ายศัตรูไม่ได้ผล จึงดีดตัวใส่วากิอย่างรุนแรง ทำเอาคนหน้าสวยถอยหลังพรืดไปก้าวใหญ่!!!

"ร้ายกาจขึ้น…แต่ก็เล็กน้อยมาสำหรับกระหม่อม!!!" "เคร้ง!!!" พอวากิพูดได้จบประโยคเซอิจิก็หวดดาบใส่อีกครั้ง คราวนี้เร็วและแรงกว่าเดิม กษัตริย์ทรงใช้เวลาชั่วพริบตาแทงดาบใส่วากิอีก ซ้ายทีขวาที!!! ชายหนุ่มได้แต่หลบไปมาอย่างใจเย็นพลางถอยหลังไปเรื่อยๆ

"ฮึๆ…" เซอิจิหัวเราะบ้าง วากิขมวดคิ้วอย่างรำคาญ เมื่อถอยไปได้อีกก้าวหนึ่งเขาก็หยุดและจับมีดสั้นในท่าเตรียมสู้…

"หม่อมฉันคงเล่นกับพระองค์ไม่ได้แล้วล่ะพะยะค่ะ!!!" วากิเหยียดยิ้ม

"จงตายเสียเถอะ!!!" เสียงตวาดก้องพลางทะลวงมีดใส่เซอิจิอย่างรวดเร็ว เซอิจิเพียงแต่ยิ้มแล้วหลบอย่างรวดเร็วกว่า

"เคร้ง!!!" เสียงหวดดาบกลับหลังจากถูกโจมตีของเซอิจิเกิดขึ้นทันทีเมื่อหลบมีดได้ วากิต้องรีบกลับมารับดาบ เขาก้าวเท้าถอยหลังอีกครั้งหนึ่ง และแล้วก็เกิดเหตุการณ์พลิกพลันขึ้นเมื่อ…

"ฮวบ!!!"

"!!!!!" "อะไรกันนี่!!!!" วากิอุทานอย่างตื่นตระหนก เมื่อเท้าของเขาข้างหนึ่งลงไปแช่อยู่ในบ่อโคลน ซึ่งเขาไม่ทราบมาก่อนเลยว่ามันมีอยู่!!!

"ฮึๆ…." เซอิจิหัวเราะอย่างมีชัย "เรื่องบู๊เลือดอาบ ข้าอาจสู้เจ้าไม่ได้…แต่เรื่องใช้เล่ห์ข้าเรียนมาจากซาไอเยอะ!!! อ้อ…ข้ายังบอกเจ้าไม่หมด ไอ้บ่อนั้นเป็นโคลนดูดด้วยน่ะ จะบอกให้…"

"กรอด!!! ร้ายนัก!!!" วากิขบฟันพลางพยายามดึงเท้าของตนขึ้นจากบ่อ แต่ยิ่งดึงมันก็ยิ่งดูดลึกลงไป!!! เซอิจิเอาดาบจ่อที่ลำคอขาวของวากิ

"ข้าไม่ฆ่าเจ้า…เช่นเดียวกับที่ซาไอไม่ทำ…จงอยู่ในบ่อนี้ตามแต่บุญตามมีตามเกิดของเจ้าเถอะ!!!" ว่าจบเซอิจิก็ยันวากิลงไปหงายหลังอยู่ในบ่อโคลน!!!

"อย่างนี้ก็ไม่ต่างจากฆ่าข้าหรอกน่า!!!" เสียงตวาดดังขึ้นมาจากบ่อโคลน

"ใช่…" เซอิจิกล่าว "เพราะถ้าเจ้าขึ้นมาได้ซาไอก็มีอันตราย…ฉะนั้น ข้าจะไม่ฆ่าเจ้า แต่ก็ไม่ช่วย…จงดิ้นรนด้วยตนเองเถอะ!!!"

"ฮึ่ม! ท่านมันเลวมาก!!!"

"ใช่…" กษัตริย์ยิ้มอย่างเกเร "ก็ข้าไม่ใช่ผู้หญิงนี่นา…" ว่าแล้วพระองค์ก็เดินจากไปปล่อยให้ฟ้ากำหนดชะตาให้คน…


กษัตริย์หนุ่มเดินเข้าหาร่างของหญิงสาวที่มีนัยตาเลื่อนลอย เขาทรุดเข่าลงพลางโอบไหล่หญิงสาวที่ไม่มีทีท่าว่าจะขัดขืนขึ้นมา

"ซาไอ…รู้สึกตัวหรือเปล่า?" เซอิจิทรงใช้มือลูบแก้มสีขาวเพราะความหนาวเบาๆ "เย็นไปทั้งตัวเชียว…" ว่ากระนั้นกษัตริย์หนุ่มก็ทรงใช้มือจับแขนของหญิงสาวที่เย็นเชียบ พลางเอื้อมมือไปเหน็บสายปราการชิ้นสำคัญที่ถูกคนสารเลวเปลื้องออกมา เนื้อนวลขาวทำเอาใจบุรุษผู้สูงศักดิ์ผู้นี้หวาบหวามใจไม่ใช่เล่น… เซอิจิถอดเสื้อนอกของตัวเองออก แล้วห่มให้หญิงสาว ศรีษะของซาไอโงนเงนพาดลงบนไหล่ของกษัตริย์หนุ่ม… เซอิจิย่อตัวลงเพื่อช้อนเอาตัวหญิงสาวขึ้นมา แล้วเดินออกไป เจ้าคุโระที่ตามเซอิจิมาด้วยเดินเข้ามาก้มหน้ามองนายสาวที่นัยตาเลื่อนลอยอย่างสงสัยเต็มประดาว่านายตนเป็นอะไร! เซอิจิวางซาไอไว้บนหลังม้าก่อนที่จะหันมาหาเจ้าคุโระที่พยายามจะถามให้ได้ว่าซาไอเป็นอะไร!!!

"อย่าห่วงเลย…นายของเจ้าป่วยนิดหน่อยแต่นางจะหายดีแน่!!!" เซอิจิตบต้นคอปลอบม้าดำ พลางก้าวขึ้นม้าแล้วควบออกไปอย่างรวดเร็ว…


"บึ้กๆๆๆๆ แก๊ง!!!" เสียงของร่างทหารเกราะดำผู้หนึ่งซึ่งถูกเหวี่ยงใส่เพื่อนทหารคนอื่นโดยฝีมือของเดเอคิ เล่นเอาพวกทหารเกราะดำล้มลงไปนับสิบๆร่าง เขางอตัวลงหอบเล็กน้อย ก่อนที่จะดึงดาบในมือของทหารเกราะดำตัวหนึ่งขึ้นมาฆ่าฟันพวกของมันเอง

โทะโดะง้างธนู 10 ดอกบนคันธนูอันโตของเธอ แล้วแผลงออกไปปักหน้าและอกของทหารเกราะตายกันเป็นเบือ ร่างบางก้าวกระโดดขึ้นยืนบนกองศพทหารเกราะดำ พลางคว้าลูกธนูพิเศษที่มีความสามารถในการทะลวงของเธอออกมาดอกหนึ่งก่อนที่จะเล็งไปยังรถศึกของราชินี…

"ตายซะเถอะ!!!" ริมฝีปากบางกระซิบ "เจ้าเป็นคนพวกกับเจ้าเลวอิจิวที่ย่ำยีข้า ซ้ำยังส่งท่านเดเอคิไปตาย!!! ค่าของเจ้าไม่มีมากพอเป็นราชินี…" พอจะปล่อยคันง้างธนู จิเคตะที่เพิ่งพ้นจากการนัวเนียของพวกทหารเกราะดำนับร้อยๆร่าง ก็เข้ามาปัดคันศรนั้นอย่างรวดเร็ว!

"ช้าก่อน!!!" ด้วยความตกใจ โทะโดะยิงลูกศรพลาดไปโดนทหารเกราะดำ ลูกดอกเข้าทะลวงทหารเกราะดำ 3 ร่างรวดก่อนที่จะเข้าปักที่ต้นไม้

"ห้ามข้าทำไม!!!"

"อย่าเพิ่งฆ่านาง… เราต้องเก็บนางให้ถอนคำสาปให้ซาไอ!!!" จิเคตะพูดอย่างจริงจัง

"เอางั้นก็ได้!" ว่าแล้วโทะโดะก็หันไปยิงธนูใส่ทหารเกราะดำอย่างฉุนเฉียว ซึ่งโชคร้ายตกเป็นวัตถุระบายอารมณ์ของเธอ!!!

"ให้ตายเถอะ…อารมณ์โกรธง่ายเหมือนเจ้าเดเอคิเลย…เฮ้อ!" จิเคตะกระโดดเข้าไปกลางวงของทหารเกราะดำ

"ย้ากกกกกก!!! เพลงดาบพิฆาตพระยายม!!!"

"ฉัวะๆๆๆ" ลำดาบตรงฟาดฟันคอของเหล่าทหารเสกจากฟางอย่างไม่ลดละ จิเคตะพยายามเข้าไปทำลายพิธีให้ได้!

"ท่านเซอิจิ!!!" เดเอคิร้องอย่างยินดีเมื่อเห็นเซอิจิควบม้าดำออกจากป่า พร้อมมีซาไออยู่ในอ้อมแขน

"หนีไปเลยพระองค์!!! กลับค่ายไปซะ…อีกไม่นานก็สว่าง ไปบอกเจ้าหัวมังคุด(โควตะ)ให้ยกทัพมา ตีที่นี่ให้แตกไปเลย!!!" จิเคตะร้องจากระยะไกล เซอิจิควบม้าจะออกไป…แต่เหล่าทหารเกราะดำก็เข้ามาขวางเอาไว้ไม่ให้ไป พลางบุกโจมตีโดยไม่ให้ตั้งตัว มีดาบหนึ่งเข้าฟันสีข้างของเจ้าคุโระ เฉือนเนื้อของมันไปเล็กน้อย คุโระพ่นลมอย่างเกรี้ยวกราดก่อนที่จะกระโดดหลบเหยียบหัวทหารเกราะเหล่านั้น

"ทำไมมันเยอะอย่างนี้?" เซอิจิบ่นพึมพำพลางเปลี่ยนมือที่อุ้มซาไอเอาไว้ไปเป็นข้างเดียวกับที่จับบังเหียน แล้วดึงดาบที่แขวนไว้ข้างสะโพกม้า

"ฟ้าวๆๆๆ" เสียงดาบของกษัตริย์หนุ่มฉวัดเฉวียนไปมา เข่นฆ่าทหารเกราะดำไปได้จำนวนหนึ่ง แต่การรบบนหลังม้ามือเดียวนั้นลำบากยิ่งนัก ยิ่งต้องระวังไม่ให้ซาไอถูกดาบอีก เป็นที่ลำบากของกษัตริย์หนุ่มเป็นอย่างมาก!!! ขณะที่ฟาดฟันดาบเก้ๆกังๆอยู่นั้น มีทหารเกราะดำผู้หนึ่งแทงอาวุธยาวซึ่งดูคล้ายกับหอกเข้าใส่เซอิจิในอีกด้าน เซอิจิซึ่งกำลังรบกับกองทหารดาบอยู่นั้นไม่ทันเห็น อาวุธยาวนั้นจึงปักเข้าไปในขาของเขา

"อ๊าก!!! กร๊อด!!!" เซอิจิซึ่งถูกแทงที่ขาหันกลับมาและฟาดดาบเข้าที่ลำคอของทหารหอก แล้วฉวยหอกมาใช้เป็นอาวุธแทน!!! เขามองไปทางรถศึกของราชินีมิโดริ ก็ให้ปรากฏทหารชุดใหม่ก้าวเข้ามา ทหารเหล่านั้นตรงเข้ามาที่เซอิจิ โดยไม่สนใจ เดเอคิ โทะโดะ หรือจิเคตะ!!!

ขณะที่เหล่าทหารตั้งหน้าตั้งตาบุกเข้าหาเซอิจิ จู่ๆ ก็มีดาวกระจายนับสิบอันพุ่งเข้าหาทหารแถวหลัง ทำเอาเหล่านักรบสีดำล้มเป็นระนาวราวกับโดมิโน่!!!

"อุ๊ยต๊าย!!! เท่มากค่า~ พี่มาโซยะ!!!" เสียงอิงูจิร้องพลางตบมือชื่นชมยกใหญ่ให้กับท่าปาดาวกระจายของมาโซยะ พวกเขาสองคนหลงทางเพราะยายอิงูจิพาหลงตั้งนาน สุดท้ายก็ออกมาได้พร้อมพบภาพการรบอีรุงตุงนังอยู่ข้างหน้า พวกเขาต่างซ่อนอยู่บนกิ่งไม้ที่ลับตาคน เพราะมาโซยะไม่อยากให้ใครรู้ว่าเขาเป็นนินจา ส่วนอิงูจิก็ไม่อยากให้เซอิจิเห็นว่าอากิโกะอยู่ที่นี่ทั้งๆที่ควรอยู่กับญาติ…

"หยุดพูดแล้วมาช่วยกันหน่อย…" มาโซยะดุอย่างอารมณ์เสีย

"ได้เลยค่า~" เสียงอิงูจิร้องพลางขว้างดาวกระจายออกจากไปปักหลังเหล่าทหารเกราะดำอีก

"มันเยอะเหลือเกิน!!!" มาโซยะเอ่ยอย่างฉุนเฉียว

"มาโซยะ…"

"อะไร?"

"อีกไม่นานก็คงเช้า…รีบไปที่ค่ายเถอะ แล้วเอากองทัพมาจัดการให้เมืองหลวงแตกไปทีเดียวเลย!!!"

"เอางั้นรึ?"

"ใช่สิ! คิดว่าพูดเล่นรึไง? เอาเถอะรีบไปรีบมาล่ะ…ถ้าทำดี กลับมาจะให้หอมแก้มฟอดใหญ่ๆเลย ฮิๆ…"

"งั้นไปล่ะ!" มาโซยะกล่าวลาโดยไม่สนใจกันคำพูดเล่นของอิงูจิ เขาเร่งความเร็วในขีดสูงสุดเท่าที่เคยทำมาในชีวิตมุ่งตรงกลับไปยังค่ายพักของกองทัพกู้ชาติ…


แสงแรกของวันที่ 10 ก.ย. ส่องเข้ามาสู่ค่ายของกองทับกู้ชาติ…

ขอนิทราจงมาในคราบของราตรี…

เมื่อพ้นเวลาราตรีทำให้ต่างคนต่างลุกขึ้นเมื่อแสงแรกของดวงอาทิตย์ส่องเข้ามา โควตะที่ฟุ่บโต๊ะลุกขึ้นอย่างปวดคอ เขาหมุนคอไปมา พลางบิดขี้เกียจแล้วเมื่อลุกขึ้นได้ เขาก็มองตรงไปที่เตียงซาไอ!!!

ซาไอหายไปไหน! เขาคิดอย่างตื่นตระหนก พลางวิ่งเข้าไปคว้าเชือกที่เคยผูกซาไอ ไม่ได้ตัด…หรือมีใครแก้ออกไป…

เซอิจิ!!! เซอิจิก็หายไป!!! เขาวิ่งออกไปนอกค่าย แล้วตะโกนถามทหารทุกคนที่เขาพบว่ามีใครเห็นซาไอบ้าง.. ปรากฏว่าคำตอบที่ได้กลับมาช่างน่ากลัวเหลือเกิน เพราะทหารทุกคนต่างหลับไหลภายใต้ราตรีกัน

"ตามหาซาไอ!!!" เสียงสั่งออกจากปากของโควตะ เขาก้าวเข้าไปเพื่อเอาดาบ…สงสัยวันนี้เขาคงต้องรบอีก…

"ท่านโควตะ!" มาคุก้าวเข้ามา

"มีอะไร?"

"เดเอคิ จิเคตะไม่อยู่ขอรับหายตัวไป!!! มีรอยคุกถูกพังด้วย!"

"แล้วมาโซยะล่ะ?"

"ไม่อยู่เหมือนกันขอรับ…"

"หรือเจ้าพวกนั้นทรยศเรา!!!"

"ท่านเซอิจิเรอะ? ไม่มีทางหรอก" มาโซยะพูดเป็นเชิงพึมพำกับตัวเอง "รึว่าแค่ 3 คน? มาโซยะก็ช่วยซาไอตั้งหลายครั้ง…เดเอคินั้นก็ไม่เท่าไร มีแค่จิเคตะเท่านั้นแหละ…"

"ท่านโควตะ!!!" มีทหารผู้หนึ่งวิ่งเข้ามา ทั้งมาคุและโควตะหันกลับไปมอง

"มีอะไร?"

"มาโซยะขอรับ ท่าน…ม…มาโซยะ เพิ่งมาถึงเมื่อสักครู่…บอกว่ามีเรื่องของท่านซาไอ…ตอนนี้กำลัง แฮ่กๆ พักเหนื่อยอยู่ขอรับ…"

"จริงรึ?" โควตะยิ้มอย่างยินดี พลางเดินปนวิ่งตามทหารไปทันที พอเห็นร่างที่นั่งหอบอยู่บนเก้าอี้ที่มีทหารผู้หนึ่งยืนเฝ้าอยู่ เขาก็วิ่งเข้า ไปมาโซยะทันที!

"มาโซยะ…เจ้าบอกว่า…" มาโซยะรีบยกมือขึ้นห้าม

"อย่าเพิ่งพูดอะไร….ให้ข้าเล่าคนเดียวพอ…เอาล่ะ! ถูกต้องแล้วที่ข้ามีข่าวซาไอ รู้ด้วยว่านางอยู่ที่ไหน!!! ทีนี้ฟังข้าหน่อยห้ามพูดอะไรทั้งสิ้นเพราะข้าเหนื่อยมาก…" มาโซยะจับชายเสื้อของโควตะไว้แล้วเริ่มพูด

"ซาไอถูกมิโดริใช้ไสยศาสตร์ล่อออกไป….ท่านเซอิจิ…เดเอคิ จิเคตะและแม่สาวผมสีน้ำตาลอีกคนหนึ่งออกไปช่วยซาไอ…ส่วนข้านั้นอยู่คนละรอบกัน ข้าเห็นพวกเขากำลังเสียทีทหารฟางดังนั้นจึงมาให้ท่านยกทัพไปช่วย…เท่านี้แหละ…หากเราบุกตีในทีเดียวอาจจะตีเมืองหลวงแตกเลยก็ได้!"

"……" โควตะมองมาโซยะอย่างแปลกใจ แต่ในที่สุดเขาก็หันกลับไปสั่งเหล่าทหาร

"จัดทัพ!!! เราจะยกไปตีเมืองหลวง!!!"


ขณะที่เซอิจิกำลังยกทวนฟาดฟันไปยังทหารฟางที่กระหน่ำเข้ามานั้น แสงอาทิตย์แรกของวันก็เฉิดฉายขึ้นไปยังขอบฟ้า แสงอาทิตย์นั้นส่องแสงเข้าใส่นัยตาเลื่อนลอยของซาไอ ทำให้นัยตาหม่นๆของหญิงสาวเริ่มมีแววอีกครั้ง!

"แย่ล่ะ!!!" ราชินีมิโดริอุทาน พลางพยายามบันดาลหมอกควันลงมาปกคลุมเพื่อไม่ให้ซาไอรู้สึกตัว แต่สายไปเสียแล้ว ทันทีที่หญิงสาวต้องแสงอาทิตย์ สติก็เริ่มกลับคืน!!!

คุโรเคียว….โชคร้ายแห่งรัตติกาล

ถึงวิชานี้จะวิเศษแค่ไหน! แต่ก็มีกติกากำหนดเด็ดขาดไว้ว่าใช้ได้ในตอนกลางคืนเท่านั้น…ซาไอจะอยู่ในอาณัติของเธออีกต่อเมื่อไร้แสงตะวันเท่านั้น…

ซาไอยกมือขึ้นกุมศรีษะอย่างมึนงง ริมฝีปากเผยอเรียกชื่อของคนที่เห็นเป็นคนแรก!

"ท่านเซอิจิ…" เธอกล่าวเพียงแผ่วเบา แต่เท่านั้นก็เพียงพอแล้ว… เซอิจิหันมามองเธออย่างแปลกใจก่อนที่จะยิ้มให้หญิงสาวอย่างสดชื่น

"รู้สึกตัวแล้วรึ ซาไอ!"

"หม่อมฉัน…"

"อย่าเพิ่งพูดอะไรทั้งสิ้น…ตอนนี้เจ้านั่งเฉยๆไปก่อนน่ะข้าขอจัดการเจ้าพวกนี้ก่อน…" ครั้นพูดจบกษัตริย์หนุ่มก็แทงหอกใส่ทหารเกราะดำอีกตัว

"เจ้าถูกไสยศาสตร์ควบคุม…แต่ข้าช่วยได้…ไม่สิต้องบอกว่าพวกเราถึงจะถูก…ระหว่างนั้นก็มีเรื่องนิดหน่อย!…ทีนี้ไม่ต้องห่วง เกาะข้าแน่นๆล่ะ เราจะไปกันแล้ว!!!"

ซาไอโอบรอบลำตัวของเซอิจิไว้แน่นตามที่เจ้าตัวบอก เซอิจิจับบังเหียนพลางบังคับเจ้าคุโระให้วิ่งออกไปในทิศทางที่มุ่งตรงไปยังค่ายกองทัพกู้ชาติ แต่ขณะนั้นหมอกเริ่มลงเรื่อยๆ เซอิจิเริ่มมองเพ่งไปในอากาศฝ่าหมอกเหล่านั้น!

"บ้าจัง!" เขาสบถ แต่แล้วตาของเขาก็มองเห็นอะไรบางอย่าง

"……" เซอิจิเพ่งฝ่าหมอกไปอีกเพราะไม่เชื่อสายตาตัวเอง

"นั้นกองทัพของพวกเรานี่!!!" เขาร้อง พลางหวดหอกใส่กะโหลกของทหารเกราะดำตัวหนึ่งที่เข้ามาจุ้นจ้าน

"ซาไอ!!! ฟังน่ะ…" เขาหันมาพูดกับซาไอ

"จำไว้น่ะ…เจ้าต้องขี่คุโระไปหาโควตะให้ได้ แล้วจะปลอดภัย!!! เข้าใจไหม? ควบไปให้สุดเลย เข้าใจไหม?"

"เข้าใจ….แล้วพระองค์…."

"ถ้าคุโระรับน้ำหนักเรา 2 คนมันจะไม่เร็วพอ…ข้าจะอยู่ที่นี่ ส่วนเจ้าควบคุโระไป… ฝ่าหมอกออกไป…โชคดี" แล้วกษัตริย์หนุ่มก้มลงจุมพิตที่หน้าผากของหญิงสาว แล้วกอดเธอแน่น

"ที่ผ่านมาไม่ว่าข้าเป็นยังไง…แต่ใจของข้ารักเจ้าตลอดมา" เซอิจิกล่าว ก่อนที่จะลงจากม้าทั้งๆที่ขายังเจ็บ

"พระองค์….." ยังไม่ทันที่ซาไอจะพูดจบ เซอิจิก็ตบบั้นท้ายม้าให้มันวิ่งออกไป "ไปซะ!!! หมอกลงแล้ว!!!"

แล้วม้าก็วิ่งออกไปจนลับตา กษัตริย์หนุ่มหันหน้าเข้าสู่สนามรบอีกครั้ง

"เสด็จแม่…ท่านบังคับให้ลูกลุยเองน่ะ…ระวังเซอิจิ คนอ่อนแอไว้หน่อยล่ะ!!!"


ราชินีมิโดริที่ทรงประทับอยู่บนรถศึก ข้างกายพระนางคือหญิงสาวหน้าตาจิ้มลิ้มที่นามว่า ชิวาโนะ!!!

"เหตุการณ์เป็นอย่างไรแล้วบ้างเพค่ะ…ราชินี" หญิงสาวถามอย่างคาดหวัง ราชินีมิโดริชายตามามองก่อนที่จะเพ่งมองไปข้างหน้า

"วากิทำไม่สำเร็จ!!!…แต่ไม่เป็นไร…ดาวจิ้งจอกขาวร่วงแล้ว…ถึงนางไม่ตายก็มีเคราะห์ใหญ่!!!"

"เคราะห์ใหญ่แน่เพค่ะ" ชิวาโนะเสริม "ตราบใดที่หม่อมฉันอยู่นางไม่อยู่ดีแน่…" ริมฝีปากบางแค่นแต่ละคำด้วยความเคียดแค้น

"หม่อมฉันต้องทำอย่างไรบ้างเพค่ะ…." เสียงใสถามด้วยความสงบ ไม่ต่างจากสีหน้า….

ราชินีทรงหัวเราะในลำคอ พลางหันมากล่าวกับหญิงสาว

"จงขี่ม้าตัวนั้นไป…มันจะพาเจ้าไปหานาง…คงรู้หน้าที่ของเจ้าใช่ไหม? เพียงโลหิตเจ้าต้องตัวนาง…หน้าที่ของเจ้าก็จะสำริดผล…" ราชินีกล่าวพลางชี้ให้เห็นม้าสีดำทมิฬ ตัวใหญ่ราวกับหมียักษ์ ขนรุงรังเหมือนปีศาจในนิทานปรัมปรา ตาสีแดงดั่งใช้โลหิตอาบ เวลาหายใจ ลมหายใจลุ่มร้อนอุปมาได้ว่าร้อนน้อยกว่าเพลิงนรกอเวจีสักหน่อยหนึ่ง!

สาวน้อยชิวาโนะชายตามองอย่างสงบก่อนที่จะถวายคำนับพลางก้าวย่างออกไป จับบังเหียนแล้วควบม้าปีศาจออกไปอย่างไม่มีทีท่ากลัวเกรง!!!

ซาไอที่กำลังควบคุโระออกไปสุดแรงอย่างที่เซอิจิบอก เธอรู้สึกกลัวจับใจ กลัวที่จะต้องแยกจากเซอิจิ…เหมือนกลัวเรื่องที่ปวดหัวเมื่อคืน…

ตอนนี้หมอกลงหนาเสียจนมองอะไรไม่เห็น.. ถ้าจะมีอะไรขวางหน้าอยู่เจ้าม้าดำคงชนเข้าอย่างจัง…

"ฮ้าาาาาาา!!!!" ยังคิดไม่ทันจบดีก็มีเสียงคำรามร้องขึ้นหน้าเจ้าคุโระ เธอรีบชักม้าให้หยุด พลางลูบต้นคอปลอบขวัญมัน

"ค…ใคร?" ซาไอเอ่ยถามด้วยเสียงสั่นเครือ เสียงยังคงสั่นแม้ว่าเธอจะหยิบดาบออกมาเพื่อกลบเกลื่อนความกลัวก็ตาม!!!

"ฮึๆ…" เสียงหัวเราะดังขึ้นมาพร้อมกับเสียงกีบม้ากระทบพื้น ปรากฏให้เห็นร่างอรชรอ้อนแอ้น ใบหน้าจิ้มลิ้ม อยู่บนหลังม้าสีดำขนรุงรังที่ตัวโตกว่าคุโระที่ตัวใหญ่แล้วเกือบครึ่งหนึ่ง

"จ…เจ้า…" ซาไอพูดอย่างหวาดกลัว สักครู่เธอก็กลืนน้ำลาย "ป…เป็นใคร?"

"เจ้ากลัวเรอะ ซาไอ?…ฮึๆ ทำไมเจ้าไม่กลัวอย่างนี้ตอนที่ฆ่าพี่ของข้าบ้าง?" น้ำเสียงโศกเศร้าอย่างเห็นได้ชัด!

"ฆ…ฆ่า ใคร?" ซาไอขมวดคิ้ว หญิงคนนี้มาแก้แค้นให้ใคร?

"เจ้าจำไม่ได้รึ?….คงฆ่าคนมากจนจำไม่ได้กระมังว่าฆ่าใครไปบ้าง…ก็ได้จะบอกเอาบุญ…พี่ของข้าชื่อโชวโกะ!!!" คำสุดท้ายที่เอ่ยชื่อพี่สาวช่างเต็มไปด้วยความโศกเศร้าในอารมณ์เหลือเกิน! ซาไอเบิกตาทันที…ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเริ่มกลับคืนมาในความทรงจำ…

….โชวโกะ โชวโกะ!!! ฮือๆ โชวโกะ!!!

"ข…ข้าไม่ได้ตั้งใจฆ่านางน่ะ" ซาไอคร่ำครวญ "โธ่!"

"ข้าไม่รับรู้ใดๆ…เมื่อเจ้าฆ่าพี่ข้าแล้วก็จงฆ่าข้าด้วย!!!" นางผู้นั้นลงจากม้าปีศาจ เจ้าม้าปีศาจวิ่งเข้าชนคุโระ จนซาไอตกลงจากหลังม้า

"ตุ้บ!" เสียงซาไอตกจากม้า หญิงสาวลุกขึ้นช้าๆอย่างเจ็บปวด คุโระถูกกันออกไปโดยม้าปีศาจ

"ไม่หรอก!!!" เธอว่า "ข้าไม่ฆ่าใครถ้าไม่จำเป็น…ยิ่งเป็นผู้หญิงแล้ว ข้าไม่ทำ!" ว่าแล้วซาไอก็เชิดหน้า พลางเก็บดาบเข้าฝัก!

"แต่ครั้งนี้เจ้าต้องฆ่าแน่!!!" หญิงสาวกล่าวพลางหยิบดาบออกจากฝัก "เพราะข้ากำลังจะฆ่าเจ้า…" เธอยิ้มอย่างเหี้ยมเกรียมทำให้ใบหน้าสวยของเธอมองดูน่ากลัวไปถนัดตา เธอถือดาบแล้ววิ่งเข้าหาซาไออย่างรวดเร็ว

"เคร้ง!" เสียงดาบปะทะกัน ซาไอหยิบดาบของเธอขึ้นมารับ หญิงสาวตรงหน้าเธอโถมกายกดดาบใส่เธอโดยแรง ซาไอไม่กล้าบิดตัวออก เพราะเกรงดาบจะพลางถูกหญิงสาวตรงหน้า จึงยอมถูกกดอยู่อย่างนั้น… แล้วดูเหมือนจะมีเวทย์มนต์ แรงของสาวน้อยตรงหน้าเธอเพิ่มขึ้นมหาศาล ทำให้ซาไอถูกกดลงไปคุกเข่ากับพื้น!

"ฮี่!!!!" เสียงร้องอย่างเกรี้ยวกราดของคุโระดังขึ้น เมื่อเห็นเจ้านายเสียเปรียบ มันไม่สามารถเข้าไปยุ่งได้ เพราะเจ้าม้าปีศาจที่ดักทางมันไปเสียทุกทาง!!! ซาไอที่ถูกกดอยู่กับพื้นมองใบหน้าสวยอย่างตกใจ เมื่อหญิงสาวยื่นใบหน้าเข้ามาใกล้ดาบจนแทบจะแทงลำคอของเธอเอง

"จงรับคำสาปไปซะ! ซาไอ!!!" สิ้นคำของหญิงสาว เธอก็ใช้ดาบของเธอปาดคอตนเองจนเลือดสีแดงพุ่งกระฉูดใส่ซาไอเต็มๆ ซาไอแทบกรีดร้องออกมาหากแต่ไม่มีเสียง ภาพสุดท้ายที่เธอเห็นคือรอยยิ้มอย่างเปรมปรีดิ์ของคนที่ล้มลงไป ก่อนที่ซาไอจะรู้สึกเหมือนถูกทุบอย่างแรง เธอล้มลง แล้วสติก็หลุดลอยไป!!!!

"แฮ่!!!" เสียงคำรามของม้าปีศาจร้องขึ้นมาเหมือนจะบอกใครสักคนว่าเรื่องจบลงไปแล้ว…แล้วมันก็เดินลับหายในสายหมอก ปล่อยให้คุโระวิ่งเข้าไปหานายสาวที่ล้มอยู่อย่างตื่นตระหนก มันพยายามปลุกนายหญิงโดยการเลีย…แต่ซาไอก็ยังนอนอยู่ตรงนั้น…โดยไม่เคลื่อนที่ไปไหน…


"ในที่สุดก็เจอพระองค์…ท่านเซอิจิ" จิเคตะร้องขึ้นเมื่อเห็นเซอิจิเดินกระเผลกเข้ามา เซอิจิยิ้มพลางกุมขาข้างที่บาดเจ็บ

"พระองค์บาดเจ็บ…" เดเอคิปราดเข้าไปช่วยพยุง

"ขอบใจ…"

"แล้วแม่จิ้งจอกน้อยล่ะพะยะค่ะ?" จิเคตะถาม

"ข้าให้นางไปหาพี่ของนางแล้ว…ทีนี่เราจะได้หมดห่วง แล้วไปลุยกับเสด็จแม่ตรงๆซักที"

"แล้วทรงหาพวกเราเจอได้ยังไง?" โทะโดะถามขึ้นบ้าง เซอิจิได้แต่ยิ้มแล้วชี้ที่หมอก

"หมอกกั้นภาพแต่ไม่กั้นเสียง…พวกเจ้าเล่นคุยกันซะ เสียงยังกับฟ้าถล่ม จะให้ข้าตามไม่เจอได้ยังไง…."

"เป็นอันจบเรื่องไป…มาเข้าเรื่องกัน…แล้วจะให้เราหาราชินีเจอได้ยังไรพะยะค่ะ?" เดเอคิถาม

"ไม่ยากเลย…" เซอิจิตอบ "เสด็จแม่เป็นคนทำทหารเกราะดำพวกนี้ใช่ไหม?"

"ใช่…" ทั้งสามตอบ

"แล้วพวกมันจะเดินตรงมาหาพวกเราราวกับเห็นเลยใช่ไหม?"

"ก็ใช่"

"งั้นดี…เราแค่เดินสวนเจ้าพวกนี้ขึ้นไป แล้วก็จะเจอเจ้าพวกนี้เองนั้นแหละ!!!"

"โอ๋…แผนเยี่ยม!!!" เสียงชมอย่างภูมิใจในลูกศิษย์ดังมาจากจิเคตะ

"ขอบคุณ!!!…แต่ว่าเรารีบไปกัน…เพราะถ้าหมอกยังไม่หาย…พวกแม่ทัพโควตะบุกเข้ามาไม่ได้แน่!!!…เดเอคิข้าขาเจ็บ ขอขี่หลังเจ้าไปนะ…จะได้เร็วๆ!!!"

"เป็นเกียรติยิ่งนัก!!!" แล้วเซอิจิขึ้นขี่หลังเดเอคิ ทั้งสี่ออกเดินทางเข้าหารถศึกของราชินีมิโดริ!


ฝ่ายราชินีมิโดริยังคงร่ายมนต์ให้หมอกปกคลุมไปเรื่อยๆอย่างไม่ลดละ แม้จะสยบซาไอได้สำเร็จแต่ศึกยังไม่จบ ราชินีมิโดริยังคงเสกทหารฟางต่อไป และแล้วพระนางก็ได้ใช้แผนการเดิมอีกนั้นคือทหารฟาง! แถมยังมีเป็นสองเท่าของครั้งก่อนเสียอีก…ครั้งนี้กองทัพกู้ชาติจะต้องราบเป็นหน้ากอง!

"……." พระนางเริ่มต้นท่องคาถา

"โอม…." พระนางเตรียมจบมนต์ แต่…. "ปึ้ง!!!" ร่างหนึ่งกระโดดลงบนโต๊ะพิธี เล่นเอาเครื่องเซ่น ธงทวน กระถาง อาวุธ ต่างๆ แตกกระจาย!

"เจ้าเป็นใครน่ะ?!!!" ราชินีร้องถามอย่างโกรธเกรี้ยว คนที่กระโดดลงบนโต๊ะได้แต่ยิ้มหวาน

"ต๊าย!!!!…" คนลึกลับที่ยืนอยู่บนโต๊ะได้แต่ส่งเสียงแบบดัดจริตสุดๆ พลางกุมแก้มทั้งสองข้างไว้

"จำหม่อมฉันไม่ได้หรือค่ะ…ราชินีขา~" ร่างลึกลับเอ่ยพลางก้มหน้าลงไปหาราชินีที่ทำหน้าบูดเบี้ยว!!!

"เจ้า….!!! เจ้าเป็นใคร? เราไม่เคยรู้จักเจ้า!!!" ราชินีมองใบหน้าหญิงสาวข้างหน้า แล้วนึก… นังนี่เป็นใคร….

"อุ๊ย! ซิกๆ" หญิงสาวบนโต๊ะทำทีร้องไห้ "หม่อมฉันอิงูจิยังไงล่ะเพค่ะ!!! นางกำนัลของพระองค์!!!"

"อิงูจิ! อ้อ…เจ้านางกำนัลของเรา ทำอย่างนี้ทำไม?" ราชินีมิโดริถาม

"อย่าเพิ่งสรุปซีเพค่า~" อิงูจิร้อง "หม่อมฉันไม่ได้เป็นแค่นั้นน่ะสิเพค่ะ" แล้วอิงูจิก็ทำท่าขรึมลงทันควัน

"ยังจำพระนางยานางิพระราชมารดาแท้ๆของเจ้าชายเซอิจิได้ไหมเพค่ะ?"

"……" ราชินีมิโดริอ้าปากค้าง พระนางเนี่ยล่ะ เป็นคนฆ่าราชินียานางิกับมือ!!! และขึ้นเป็นราชินีแทน

"จ…เจ้าคงไม่ใช่!!!"

"แหม~ อย่าทำท่าตกใจสิเพค่ะ…หม่อมฉันไม่ใช่ผีพระนางยานางิหรอกเพค่ะ!!!" อิงูจิพูดติดตลก แต่ใบหน้าของเธอตรงข้ามกับน้ำเสียง หญิงสาว

"หม่อมฉันแค่มาแก้แค้นให้เจ้านายเท่านั้น…ไม่เอาถึงตายหรอก….แม้หม่อมฉันจะอยากฆ่าพระนาง!!! ฆ่าๆๆๆ คนอย่างเจ้าให้ตายไปเสียเลย!!!

"อิงูจิกรีดร้องใส่หน้าราชินีมิโดริราวกับเป็นบ้า

"อุ๊ย! ฮิฮิ…ขอโทษที…ใส่อารมณ์ไปหน่อย…" อิงูจิค่อยๆยืดตัวขึ้นจากใบหน้าตกใจของราชินีมิโดริ

"หม่อมฉันขอถวายพระพร…อย่าได้ทรงทำสำเร็จเลย!!!" อิงูจิยิ้มอย่างเหี้ยมเกรียม พลางหยิบไต้จากผ้าคาดเอวแล้วจุดไฟขึ้นอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะโยนมันลงบนกองตุ๊กตาฟาง ไฟลามขึ้นบนฟางอย่างรวดเร็ว ราชินีจ้องอย่างตะลึงงันไปชั่วครู่พลางหันไปทางอิงูจิ

"ไม่น๊ะ!!!" พระนางมิโดริกรีดร้องบ้างพลางใช้มือกุมกาบหู "เจ้าจะทำลายแผนข้า!!!" พระนางทรงตะคอกใส่อิงูจิที่ยังยืนอยู่บน 'อดีต' โต๊ะพิธี…ที่บัดนี้เป็นแค่โต๊ะไม้ธรรมดา…

"ขอบพระทัยเพค่ะ…ที่ชม" อิงูจิกล่าว "ขอทรงถูกจับโดยสงบ!!!" สิ้นคำอวยพรอิงูจิก็จะกระโจนออกไป แต่เหล่าทหารรอบข้างวิ่งใส่เธอตามสัญชาติญาณตัวประกอบ แต่คนอย่างอาเกกินารุซาวะไม่ได้มาแต่มารยา เธอมากับฝีมือด้วย เพียงไม่กี่ก้าวทหารเดิน ดาวกระจายก็พุ่งเข้าทำลายล้าง พร้อมๆกับร่างของอาเกกินารุซาวะก็หายไปด้วย!!!