[HOME] [สารบัญ] l 1 l 2 l 3 l 4 l 5 l 6 l 7 l 8 l 9 l 10 l 11 l 12 l 13 l 14 l 15 l 16 l 17 l 18 l 19 l 20 l 21 l 22 l 23 l 24 l 25 l 26
     l 27 l 28 l 29 l 30 l 31 l 32 l 33 l 34 l 35 l 36 l 37 l 38 l 39 l 40/1 l 40/2 l 41 l 42 l 43/1 l 43/2 l 44 l 45
     l 46 l 47 l 48 l 49/1 l 49/2 l 49/3 - fin l

บทที่ 10 ซาไอกับความมืดที่เป็นฝัน หรือความตาย?


ภาพที่อยู่ข้างหน้าคือ ภาพประชาชนแน่นขนัด แต่ก็ยังมีช่องเล็กๆให้เด็กหญิงตัวน้อยมองลอดไป ภาพที่น่ากลัว ภาพของพ่อตนเองถูกตรึงบนไม้สี่เส้า เจ้าหญิงมาซาอิซาอิโกะ แทบกรีดร้องออกมา จู่ๆทุกอย่างมืดไปหมด เจ้าหญิงทรุดลงกันแสง แล้วก็มีมือหยาบกร้านเข้ามาแตะไหล่

"ไม่ต้องกลัวขอรับท่านซาไอ ยังมีพวกเรา" เจ้าของมือพูด ตัวซาไอโตขึ้น หันไปเจอ..

"ท่านฮิโตมิ มาคุ โควตะ" เธอพูด แล้วทั้งสามก็ไกลจากไปเรื่อยๆ

"รอด้วย!!!"ซาไอวิ่งตาม

"ข้าไว้ใจอากิโกะน่ะ มากว่าเจ้าเสียอีก!!!" เสียงของเซอิจิดังก้องไปทั่ว

"ท่านเซอิจิ" ซาไอตะโกน แต่ก็ไม่พบเซอิจิอากาศก็เย็นมาก ที่นี่ที่ไหน ไมใช่โบคิแน่ เพราะมันมืดไปหมด

"ที่นี่ที่ไหนนี่?" ซาไอขมวดคิ้ว ความตกใจจะทำให้ศัตรูโจมตีได้ง่าย ซาไอตั้งสติได้ เธอนั่งลงกับพื้น สานมือด้วยกัน แล้วคิด……

นิ้วหัวแม่มือวนไปมา ประสาททั้ง 5 ถูกเตรียมเอาไว้รับการจู่โจม ซาไอคิด แล้วก็คิดออก…..

"เราฝันอยู่นี่!!!" ซาไอว่า ใบหน้าตื่นเต้นและร่าเริงขึ้น

"แค่ตื่น….แค่ตื่นเท่านั้น" ซาไอว่า แต่จู่แขนก็เจ็บขึ้นมา ซาไอมองไปเห็นแผลที่ข้อมือและตัวหนังสือบนต้นแขนของตนเองที่เขียนเอาไว้ว่า 'เซอิจิ' เลือดพุ่งออกมา มันไม่เจ็บแต่น่ากลัว ซาไอกรีดร้องออกมาแต่ไม่มีเสียง…..

เธอตายแล้วหรือนี่?

"นี่!!เรา…ต….ตา…." ซาไอไม่กล้าพูดออกมา แต่ขาไม่มีแรง ริมฝีปากแห้งผาด เลือดยังพุ่งเป็นวงโค้ง จนไม่น่าเชื่อว่าในตัวซาไอมาเลือดมากขนาดนี้!!! น้ำตาไหลออกมา ยังนะ!!!ยังไม่อยากตาย ยังไม่ได้ทำสิ่งที่ชอบเลย ยังไม่ได้เอาเสื้อคลุมคืนให้เซอิจิ ถ้าเขาไม่รักเธอ เธออยากให้เขาเอาไปให้คนอื่นแทน ความรู้สึกกลัวปะปนไปกับน้ำตา ความเจ็บเริ่มปรากฎขึ้นเรื่อยๆ ซาไอก้มหน้าติดพื้นแล้วภาวนาให้กับตัวเอง แล้วก็มีเท้าคู่หนึ่งก้าวเข้ามา

"เจ้าจะร้องไห้อีกนานอีกไหม ท่านแม่ทัพ" เสียงขวานผ่าซากดังขึ้น มาโซยะนั้นเอง เขายืนมองด้วยสายตากวนๆ

"ช่วยด้วย….เรียกเซอิจิให้ที…อยากเจอ.." ซาไอร้อง

"ข้าไม่หวังอะไรแม่ทัพ แล้วอีกอย่างข้าเรียกเขาให้ท่านไม่ได้" มาโซยะกอดอก ซาไออ้าปากค้างอย่างตกใจ

"จะเปลืองน้ำลายทำไม ในเมื่อเขาอยู่หลังเจ้าแล้ว" มาโซยะชี้นิ้วออกไป ซาไอหันไปตามนิ้ว เธอเห็นสิ่งที่อยากเจอ เซอิจิที่ยืนถือผ้าคลุมอยู่

"โชคดีนะ!!!" มาโซยะวิ่งออกไป

"ท่านเซ…" ซาไอร้องอย่างดีใจ แต่คำพูดที่เหลือถูกกั้นเอาไว้ด้วยริมฝีปากอันอ่อนนุ่มของเซอิจิ เธอรู้สึกถึงมือที่สอดเข้ามาทางข้างหลังโอบกอดจนเข้าไปชิดกับตัวของเซอิจิ

"เจ็บไหม?" ชายหนุ่มถอนริมฝีปากออกแล้วกระซิบ พลางกอดศรีษะของแม่ทัพหญิงเข้าไปแนบกับหน้าอก

มือข้างหนึ่งจับมือข้างที่เป็นแผลไว้

"ตอนนี้….ไม่เจ็บแล้วเพค่ะ" ซาไอร้องไห้ให้กับสวรรค์ที่ส่งที่เธอรักที่ที่สุดมา

"เจ้า…เลือดออกน่ะ" เซอิจิว่าแล้วก้มลงเลียเลือดด้วยความอ่อนโยนจนหมด แล้วยกเสื้อคลุมที่ขาวสะอาดห่มให้พลางลูบผมออกจากหน้าผากซาไอ ประทับริมฝีปากเบาๆ หญิงสาวอยู่นิ่งๆอย่างว่าง่าย แต่………

"อากิโกะล่ะเพค่ะ" ซาไอผละออกจากอกชายหนุ่ม เซอิจิได้แต่ยิ้มแล้วร่างก็เลือนหายไปช้าๆ…..

"ท่านเซอิจิ" ซาไอเอื้อมไขว้คว้า แต่เซอิจิก็ยังหายไป ซาไอกัดฟันกำมืออย่างแน่นหนาไว้กับอก

"ท่านเซอิจิ!!!" ซาไอตะโกนก้อง แล้วซาไอก็ตื่น………

ซาไอสะดุ้งตื่นขึ้นมาด้วยความอ่อนแรง รู้สึกเจ็บแขนนิดหน่อย แต่เหงื่อก็ไม่รู้เอาแรงมาจากไหนมาไหลท่วมตัว ซาไอใช้มือลูบริมฝีปากตัวเอง ใช้มือเสยผมที่หน้าผาก แล้วใช้มือข้างที่ไม่เจ็บล้วงเข้าไปในเสื้อของตัวเอง ตอนนี้ซาไอรู้สึกปวดตัวไปหมด คงนอนนานไปหน่อย พระอาทิตย์ใกล้ตกดินแล้ว ซาไอนั่งกอดเข่าตัวเองมองไปรอบๆ ที่นี่มันห้องของเซอิจิ คงเป็นเพราะห้องของเซอิจิใกล้กับที่ที่ซาไอบาดเจ็บมากที่สุด

"ฟื้นแล้วหรือ" เซอิจิเดินเข้ามานัยตาแดงกล่ำคงเป็นเพราะร้องไห้

"เพค่ะ" ซาไอตอบรับ แต่ฝันยังวนเวียนไปมา

"ยังเจ็บแผลไหม?" เซอิจิถามด้วยความเป็นห่วง พลางจับแขนขึ้นมาเบาๆ

"ไม่…." ซาไอกระชากแขนกลับ สร้างความเจ็บปวดเข้าไปถึงในโสตประสาท ซาไอขบฟันทน

"นิดหน่อยเพค่ะ" เธอตอบ

"หลับไปตั้ง 3 วันน่ะรู้ไหม?" เซอิจิว่า

"อยากกินอะไรไหม?" เซอิจิเอาใจ

"ไม่…เพค่ะ" ซาไอพูดอย่างเฉยชา ทั้งที่ยินดีที่เซอิจิได้อยู่กับคนที่รัก และยินดีที่เขาดีกับเธอเสมอ แม้มันจะเป็นแค่การดีเพราะเป็นคนใกล้ชิดก็ตาม ทำไมน่ะ ทำไม!!

"ไม่เอาแน่หรือ" เซอิจิว่า

"ขออยู่คนเดียว!!" ซาไอพูดห้วนๆ เพื่อปิดเสียงสะอื้นในตอนสุดท้าย

"เอางั้นก็ได้ งั้นข้าไปรอข้างนอกน่ะ" เซอิจิพูดน้ำเสียงอ่อนให้

"มีอะไรเรียกน่ะ" เซอิจิบอก หลังจากเซอิจิออกไปซาไอนั่งร้องไห้เงียบๆคนเดียว…..

ซาไอยังนั่งบนเตียงอีกราวๆ 1 วัน วันต่อมาจึงออกมาเดินเล่น อากิโกะไม่มาให้เจอหน้า แต่เธอก็ยังอยู่ในวัง แต่ก็ไม่กล้ามาเจอหน้าซาไอ คงกลัวเธอฆ่าเอา เธอคิด จะว่าไปช่วงนี้ ซาไอคิดแต่เรื่องร้ายๆตลอด ตั้งแต่เรื่องฆ่าตัวตายจนถึงเรื่องฆ่าอากิโกะ มาโซยะไม่มาหาเลย จะมีแต่ก็เซอิจิที่ค่อยมาเปลี่ยนพันแผลให้ แต่ทั้งสองก็ไม่ได้คุยกันมากนัก ถ้าโควตะอยู่ก็คงจะดี ซาไอคิดขณะเดินเล่นคนเดียว แล้วพักเหนื่อยใต้ต้นไม้พักใหญ่

"จะแอบดูอีกนานไหม? มาโซยะ" ซาไอว่า

"รู้ได้ไง!!!" มาโซยะกระโดดลงมาจากต้นไม้

"ไม่รู้สิ คงเพราะใจนิ่งมั้ง" ซาไอมองนกบนท้องฟ้า

"เลิกพูดอะไรน่ากลัวสักทีสิ!!! พูดเหมือนเจ้าไม่เหลืออะไรในชีวิตแล้วน่ะ"

"ถ้าจะเหลือ ก็ท่านฮิโตมิ…"

"แล้วท่านเซอิจิด้วย" มาโซยะต่อ อย่างไม่สนความรู้สึกใครตามเคย

"ถึงแขนซ้ายข้าเจ็บ แต่แขนขวาข้ายังใช้การได้น่ะ มาโซยะ!!!" ซาไอขู่

"โธ่!! อย่าโกรธไปเลยท่านแม่ทัพ"มาโซยะกระโดดลงจากต้นไม้

"น่าจะเห็นตอนที่เจ้าล้มอยู่ ท่านเซอิจิร้อนใจแค่ไหน!!!"

"อย่าปลอบเลยเพื่อนรัก เจ้าคงร้อนใจเหมือนกัน ถ้ามีใครพยายามฆ่าตัวตายเพราะคำพูดของเจ้า"

"แต่…."

"มาเข้าเรื่องดีกว่า ตามข้ามาทำไม?"ซาไอถาม

"เออ….."

"เวลาข้าป่วยไม่เห็นไปเยี่ยม" ซาไอถาม

"เปล่า….แค่ข้าได้ปรับความเข้าใจกับท่านเซอิจิแล้วเท่านั้นแหละ"

"งั้นหรือ!!!" ซาไอว่า พยายามซ่อนความแปลกใจที่เกิดในน้ำเสียง

"เขาให้ข้ามาตามคอยดูแลเจ้าเองแหละ โธ่!!!ใจกว้างหน่อย พระองค์ไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เจ้าทำเรื่องบ้าๆนั้น แล้วยังออกหน้าขอโทษข้าอีก เอาน่า!!! ยอมๆให้เขาหน่อยเถอะ" มาโซยะบ่นยืดยาว

"ทำไมล่ะ ข้าไม่ได้ทำอะไรผิดแม้แต่นิด"

"แต่เจ้าผลักอากิโกะ"

"ใช่!!!" ซาไอลุกขึ้นยืน พลางมองมาโซยะด้วยสายตาที่ไม่สำนึกผิด

"ข้าไม่ชอบนาง ไม่สิ!!!ข้าเกลียดนางเป็นการส่วนตัว แต่ข้าเทิดทูนนางในฐานะว่าที่ราชินี อ้อ…แล้วฝากบอกเซอิจิด้วยน่ะถ้าเจ้าเจอเขา โปรดเกล้าแต่งตั้งราชินีโดยไวจะดีมาก" ซาไอกัดฟันเดินออกไป ปล่อยให้มาโซยะเดินตามคนเจ็บ

"ขี้งอน!!!" มาโซยะพูดตรงๆ

"ไม่!!! ไม่ได้งอน ข้าแค่ไม่มีเวลาแล้ว ข้าวุ่นมามากพอ ได้เวลาที่ข้าจะสำนึกซักทีว่าข้ามีอะไรต้องทำ!!!"

"ห๊า!!! จะไปแล้วเหรอ"

"พวกขุนนางคงพร้อมแล้ว เหลือแต่รอข้าไปสมทบ"

"แล้ว!!… เมื่อไรล่ะ"

"คงพรุ่งนี้ ย่ำรุ่ง" ซาไอเดินตัดสนามหญ้าโดยมีมาโซยะเดินตาม แล้วทั้งสองก็เจอคนที่ไม่อยู่ในแผน อากิโกะ!!!

"……" ซาไอแทบไม่ชายตามอง

"ท่านซาไอค่ะ ท่านเซอิจิตรัสเรียกเจ้าค่ะ" อากิโกะพูดตามแบบนางเอกเช่นเคย เธอไม่คิดอะไรมากกับเรื่องเกิดขึ้น เพราะเซอิจิบอกเธอแล้ว เขาไม่เปลี่ยนใจจากซาไอแน่นอน

"งั้นรึ!!!" ซาไอรับคำ ความรู้สึกอยากฆ่าผู้หญิงคนนี้อยู่ดีๆ มันก็หายไปหมด เหลือแต่ความรู้สึกที่ไม่สามารถบรรยายได้เข้ามาแทน ไม่ความตื้นตัน อิจฉา หรืออะไรทั้งสิ้น

"เรื่องอะไรล่ะ? งานแต่งงานของพระองค์กับเจ้าเรอะ!!~ ว่าที่ราชินี…" ซาไอประชดประชันอย่างเยือกเย็น อากิโกะรู้สึกเขินอายเล็กน้อย แต่ก็ไม่ทันเอ่ยอะไร ซาไอก็เดินผ่านไป

"ข้าน้อยไม่คิดจะแข่งกับท่านแล้วน่ะเจ้าค่ะ" อากิโกะกล่าวฉุนๆ

"นั้นสินะ!! ข้าแพ้เจ้าขาดเลย ข้าคงถนัดเรื่องการรบมากกว่า แต่ข้าก็คงไปร่วมงานมงคลสมรสเจ้าไม่ได้น่ะ ข้ามีงานต้องทำ ขอโทษด้วย" ว่าแล้วซาไอก็เดินจ้ำอ้าวไป โดยไม่ฟังอากิโกะพูดอะไรอีกเลย

. . . . . .

ในห้องหนังสือ ในพระตำหนัก ก็เหมือนเมื่อก่อน เซอิจิยังนั่งอยู่บนเก้าอี้ รีบลุกขึ้นมาเพื่อรับซาไอ เซอิจิอ้างให้ซาไอมาช่วยดูผังเมือง แต่ที่จริงเพื่อปรับความเข้าใจ ซาไอเพื่อแต่พยักหน้ากับเสริมนิดหน่อย เมื่อเซอิจิจะเฉไปเรื่องอื่น ซาไอก็เพียงเอ่ยดักไว้ว่า เขาควรตั้งเขื่อนเพิ่มที่ไหน แล้วชายแดนตรงไหนควรสร้างป้อมเพิ่ม จนล่วงเลยไปมืดค่ำ ซาไอก็เอ่ยเรื่องส่วนตัวออกมาเป็นคำเริ่มตั้งแต่เจอหน้ากันมาทั้งวัน

"ท่านเซอิจิเพค่ะ"

"อะไรหรือ!!!" เซอิจิตื่นจากภวังค์

"หม่อมฉันคิดว่า.."

"คิดว่า" เซอิจิทวน

"จะไปสมทบกับพวกโควตะที่เมียวบุง จะออกเดินทางจากนากิพรุ่งนี้" ซาไอบอกออกไป สร้างความตื่นตระหนกให้กับเซอิจิเป็นอย่างมาก

"จะไปแล้วหรือ"

"เพค่ะ"

"งั้นข้าไปด้วย"

"อย่าดีกว่า อยู่กับอากิโกะจะดีกว่า"

"อะไรกัน"

"มันอันตรายเพค่ะ!!!"

" งั้น!!ข้าไม่ให้เจ้าไป!!!" เซอิจิตวาดอย่างเกรี้ยวกราด ความเยือกเย็นแทบหมดไปในทันที

"หม่อมฉันต้องกอบกู้ประเทศ โปรดเข้าใจด้วย" ซาไอทูลนิ่งๆ

"ทำไมเล่า!! ข้าไปกับเจ้าไม่ได้รึไง"

"มันไม่ได้เกี่ยวข้องกับท่าน ซูคังสิ บ้านเกิดของท่าน"

"ไม่ได้เป็นบ้านเกิด แล้วข้าไปด้วยก็ไม่ได้หรือ! เจ้าเป็นของข้าแล้วน่ะ ที่แขนนี่!!!" เซอิจิจับแขนหญิงสาวเอาไว้

"มันมีชื่อข้า!!!" เซอิจิรัดตัวซาไอไว้แน่น เพื่อไม่ให้เธอหนีไปไหน จนกว่าเรื่องจะจบ

"งั้นหม่อมฉันจะตัดแขนทิ้ง จะได้หลุดจากพันธะของพระองค์" ซาไอกล่าวอย่างท้าทาย

"เจ้า!!!" เซอิจิตวาดอย่างโกรธกริ้ว นึกถ้อยคำจะเถียงต่อก็คิดไม่ออก หญิงอันเป็นที่รักของเขาจะไปที่อื่นโดยที่เขาไม่มีสิทธิที่จะเข้าไปยุ่งและนางกำลังท้าทายเขาอยู่ การที่เถียงไม่ออกทำให้เซอิจิเปลี่ยนจากการถกเถียงมาเป็นการใช้ริมฝีปากไล้จากต้นคอของหญิงสาวแทน

"อย่า!! อย่า!!" ซาไอร้องพลางดิ้นออกจากอ้อมกอดของชายหนุ่มแต่ก็ไม่สามารถสู้แรงได้อยู่ดี

"ปล่อยเถอะ ได้โปรด" แต่กษัตริย์แห่งนากิไม่ได้ทำตามคำขอร้องแต่ใด ยังใช้ลิ้นรุกไปตามใบหู มือข้างหนึ่งโอบลำคอ อีกข้างล้วงเข้าไปตามเสื้อผ้าไล่ไปจนถึงโค่นขา แม่ทัพหญิงที่ดิ้นเร้าๆเมื่อสักครู่ได้แต่ใช้มือดันร่างชายหนุ่มเอาไว้ และสะบัดหน้าออก เมื่อเซอิจิใช้ริมฝีปากลงมาประทับที่แก้ม และริมฝีปากจูบที่ปาก ใช้ลิ้นล้วงเข้าไปในปากหญิงสาว ซาไอขาอ่อนทรุดฮวบลงไปนั่งที่พื้น เซอิจิคุกเข่าลงแล้วใช้มือจับแขนข้างหนึ่งของซาไอไว้ เสื้อผ้าของหญิงสาวหลุดลุ่ย เซอิจิจูบเธอที่ต้นคอ จนในที่สุด เขารู้สึกว่าซาไอกำลังตัวสั่น และกลัวมากในสิ่งที่อาจจะเกิดต่อไป

"ข้ารักเจ้าน่ะ" เซอิจิพูดขณะที่วางร่างที่อ่อนระทวยนั้นไว้บนเก้าอี้ เขาหักห้ามใจไม่ให้ทำลายเกียรติหญิงอันเป็นรักของเขาไปมากกว่านี้ ในที่สุดก็พูดออกมาได้

"ถ้าท่าน….บอกว่า…รัก…หม่อมฉัน..เพราะไม่อยาก….ให้..หม่อมฉันไป…ล่ะก็..หม่อมฉัน…ขอ…ปฏิเสธ" ซาไอหอบอย่างหมดแรง แต่ก็หยุดพูดไปเสียงแค่นั้น เพราะกษัตริย์แห่งนากิมีทีท่าไม่พอพระทัย และใช้มือวางบนพนักเก้าอี้ ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ พลางลูบไรผม

"ข้าไม่สนว่าเจ้าจะว่ายังไง ข้าจะไปกับเจ้า" แล้วเซอิจิก็ใช้ริมฝีปากประทับที่ลำคอ แล้วทำรอยจุมพิตไว้บนลำคอ แล้วไล่ริมฝีปากขึ้นมาจูบที่ปากอีก

"พระองค์ โกหก"

"ข้ารักเจ้านั้นคือเรื่องจริง!!!" เซอิจิตวาด แล้วถอดเสื้อคลุมออก

"จะให้ข้าพิสูจน์มากกว่านี้ไหมล่ะ" เซอิจิเสยปลายคางหญิงสาวด้วยปลายนิ้ว

"……" หญิงสาวปัดมือนั้นออกแต่ก็ถูกจับไว้

"จะให้ทำยังไง" เซอิจิว่าเบาๆ พลางกอดซาไอไว้ในแขน หญิงสาวไม่มีแรงขัดขืนแต่อย่างใด

"…..."

"ถ้าเงียบ ข้าจะพิสูจน์ ด้วยวิธีของข้าน่ะ"

"ป่าเถื่อนที่สุด"

"งั้นหรือ!!!" เซอิจิทำท่าจะปลดเกราะอ่อนของฝ่ายหญิงออก ฝ่ายหญิงกลับมาขัดขืนอีกครั้ง

"ได้ๆ หม่อมฉันเชื่อ" ซาไอกล่าวอย่างไม่เต็มใจนัก

"ทีนี่ปล่อยได้รึยัง?" ซาไอทวงสัญญา

"ยังๆ เรายังไม่ได้คุยเรื่องอื่นๆกันเลย" เซอิจิลงนั่งลงบนเก้าอี้ พลางดึงซาไอมานั่งบนตัก ฉีกยิ้มที่มุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ คล้ายซาไอเวลาคิดอะไรออก

เขาคงเอามาจากนาง จากสัมพันธ์ที่มีด้วยกันเมื่อสักครู่

"จะให้ข้าไปกับเจ้าด้วยน่ะ" ราชาเซอิจิเปลี่ยนพระสุรเสียงออดอ้อน ไม่ใช่แบบที่เจอกันครั้งแรกแต่ซาไอรู้สึกได้ชัดว่าเป็นความจงใจ

"พระองค์ ไม่…." ซาไอเถียง

"ข้าไม่ได้รักอากิโกะ ข้าบอกนางไปแล้ว เจ้าน่าจะมองออกว่าที่ข้าพูดไปเป็นความคิดชั่ววูบเท่านั้น!!! โธ่! อย่าทำเป็นไร้เดียงสาไปหน่อยเลยซาไอ ข้าอยู่กับเจ้านานจนรู้ว่าเจ้ามีความสามารถในการพิจารณาคำพูดมากแค่ไหน"

เซอิจิใช้มือข้างหนึ่งโอบรัดซาไอเอาไว้ ขณะที่อีกข้างจับแขนซ้ายข้างที่มีชื่อตนอยู่

"พระองค์จะทำลายเกียรติหม่อมฉันมากเกินไปแล้ว!!! พระองค์จะชดใช้อย่างไร" ซาไอพยายามแกะนิ้วทั้งสิบออก

"ไม่ยาก!! ข้าก็จะแต่งงานกับเจ้าน่ะสิ" เซอิจิตรัสประโยคสั้นๆ แต่ทำให้ฝ่ายหญิงหน้าแดงไปเลยทีเดียว

"หลังจากที่เจ้าทำงานที่ซูคังเสร็จ ข้าให้สัญญาว่าจะให้คนไปสู่ขอเจ้าจากพระนางฮิโตมิแน่นอน" เซอิจิจุมพิตบนมือนางอย่างนิ่มนวล

"แล้วพระนางมิโดริล่ะเพค่ะ!!!" ซาไอฉุดคิด ขึ้นมาถาม นั่นทำให้เซอิจิคิดหนัก ท่าทางเซื่องซึมไปถนัดตา

"ข้าไม่มีเหตุผลที่จะสนใจ นางฆ่าแม่แท้ของข้า"

ซาไอก้มหน้าอย่างหนักใจ

"ข้าไปกับเจ้า เผื่อจะได้ช่วยอะไรได้บ้าง" พระองค์ทรงอ้อนวอน

"ตามพระทัยเถอะเพค่ะ" ซาไอกล่าวเช่นนั้น ที่จริงซาไอไม่ต้องการให้เสด็จตามไปนัก เพราะย่อมเหมือนนำตัวพระองค์ไปเป็นตัวประกัน และยังสร้างความหนักพระทัยให้เซอิจิ หากทางกองทัพจะทำอะไรพระราชินี แต่ความคิดนั้นก็หยุดลงแค่นั้นเมื่อกษัตริย์แห่งนากิตรัสแทรกขึ้นมา

"ซาไอ!!!"

"….." ซาไอหันไปหา

"ข้าสั่งคนไปจัดของเลยน่ะ"

"เพค่ะ" ซาไอรับคำ

"ถ้าอย่างนั้น.."ซาไอว่า

"ถ้าอย่างนั้น" เซอิจิทวนคำ ขณะที่ซาไอลุกออกจากตักของตน แต่มือข้างหนึ่งยังของหญิงสาวยังอยู่ในมือชายหนุ่ม

"หม่อมฉันไปนะเพค่ะ อยากไปขอโทษอากิโกะน่ะเพค่ะ" ซาไอกล่าว พลางถวายบังคมลาทำท่าจะออกไป

"เดี๋ยว!!!" เซอิจิจับมือข้างหนึ่งเอาไว้ ทั้งสองสบตากัน

"ข้ารักเจ้าน่ะ" เซอิจิพูดนุ่มๆ หน้าของเขาคล้ายลูกมะเขือเทศ ซาไอยิ้มเขินๆ แล้วเดินออกไปตามทางเดินเพื่อตามมาหาอากิโกะ เสียงแมลงร้องกันระงม เป็นสิ่งบอกได้ว่าใกล้มืดค่ำแล้ว การที่ซาไอยิ่งตามหาอากิโกะมันไม่ได้ทำให้มีวี่แววนางแต่อย่างใด

. . . . . .

ฝ่ายอากิโกะที่ซาไอตามหากำลังแบกสัมภาระและเดินออกจากวังทางด้านหลัง

"ไง…. จะไปไหนล่ะ" หญิงสาวสะดุ้ง หันกลับไปพบกับมาโซยะยืนพิงกำแพงอยู่ข้างหลัง

"เจ้านี่!!!ก็เก่งเหมือนเดิมเลยน่ะ สมกับนามที่กระเดื่องลือลั่น มาโซยุราโอะราชันแห่งนินจา" อากิโกะเท้าสะเอวพลางเอ่ยในท่าทีที่รู้กันดี

"นึกว่าจะไม่มีคนจำข้าได้แล้วสิ จากวงการไปในคราบพรานป่าเสียหลายปี" มาโซยะหัวเราะ ไม่ใช่อย่างมาโซยะคนเดิมแต่เป็นมาโซยุราโอะราชันแห่งนินจา

"ว่าแต่เจ้าคิดยังไงถึงได้ตามผู้หญิงคนนั้นมาล่ะ" อากิโกะถาม

"ทำไมข้าจะตามไม่ได้ล่ะ" มาโซยะหรือมาโซยุราโอะยกยาสูบมาคาบในปาก

"ในเมื่อตระกูลนินจาคาคาชิของข้าเป็นข้ารับใช้ราชวงศ์อุราซามุแห่งโบคิ ข้าจะตามคุ้มครองนายของข้า องค์หญิงมาซาอิซาอิโกะไม่ได้รึ" มาโซยุราโอะยิ้ม

"ว่าแต่เจ้าก็เหมือนกัน อาเกกินารุซาวะ คุโนะอิจิ(นินจาหญิง)ผู้เรืองนาม ที่ถนัดเรื่องการปลอมตัว ทำไมคราวนี้เล่นบทสาวบริสุทธิ์ไร้เดียงสาล่ะ ปกติเห็นรับแต่งานนักฆ่าหรือไม่ก็ปลอมเป็นกิอง(หญิงงามเมือง)ล่อใจชาย" มาโซยุราโอะตะแคงหน้าถาม

"เจ้าก็รู้ อาเกกินารุซาวะคนนี้รับงานตามความพอใจของตน" อาเกกินารุซาวะหรืออากิโกะว่า

"ใครบงการเจ้า?" มาโซยุราโอะเดินเข้าไปใกล้ พลางชักชูริเคน(ดาวกระจาย)ออกมาขู่

"ฮึ!!! ทำไมข้าต้องบอก" อาเกกินารุซาวะท้าทาย

"ก็เพราะว่าท่านมาซาอิซาอิโกะเป็นนายของข้า"

"เป็นคนรักนายดีน่ะ!!! บอกให้ก็ได้…. แต่ถึงข้าไม่บอกเจ้าก็รู้ มาโซยุราโอะ ในนามพรานป่าเจ้าคือยอดนักหาข่าว.."

"มิโดริ" มาโซยะพึมพำ

"เก่งนิ.. จะเก่งมากขึ้นถ้าทายถูกว่าทำไมข้าถึงมา!!!"

"มิโดริต้องการให้เจ้าเฝ้าดูท่านเซอิจิ" มาโซยะทาย

"ถูกต้อง.. และสั่งให้ข้า ฆ่าเขาได้ทันที เมื่อมีอะไรไม่ชอบมาพากล นางยอมสังหารบุตรของตนหากเขามีใจเป็นอื่น" อาเกกินารุซาวะยันสัมภาระขึ้นไปอีก

"แต่ข้าชอบท่านเซอิจิมากกว่าที่จะฆ่าเขา" อาเกกินารุซาวะกล่าวอย่างเรียบๆ

"ข้าก็เลยกีดกั้นนายของเจ้ากับท่านเซอิจิไงล่ะ" นางเดินออกไปเล็กน้อย

"จริงๆ เจ้าอาจไม่ได้ชอบท่านเซอิจิก็ได้ แต่น้อยคนที่จะรู้ว่าสำนักนินจาหญิงโกโมโรริ ที่อาเกกินารุซาวะยึดเป็นที่ศึกษา เคยได้รับการอุปถัมภ์จากพระนางยานางิ พระราชมารดาแท้ๆของเจ้าชายเซอิจิ ฉะนั้นท่านเซอิจิก็เหมือนนายเจ้าคนหนึ่ง เจ้าถึงได้ฆ่าเขาไม่ลง" มาโซยุราโอะหมุนชูริเคนเล่น ขณะที่อาเกกินารุซาวะยิ้มที่มุมปาก

"เมื่อข้าบอกเจ้าแล้ว ข้าก็จะไปซักที" หญิงสาวเดินออกไป

"จะไปไหน? ยังไม่ได้บอกข้าเลย"

"พเนจรไปเรื่อยๆ เหมือนเจ้าไง!!! อ้อ!!ไม่ต้องบอกเรื่องข้าน่ะ แล้วมาซาอิซาอิโกะเป็นคนฉลาดมาก คนที่ชำนาญมารยาหญิงอย่างข้าขอยอมแพ้" แล้วอาเกกินารุซาวะหรืออากิโกะก็เดินจากไป

"ลาก่อน!!!" มาโซยุราโอะหรือมาโซยะเอ่ย แล้วเดินกลับเข้าไปในวัง

"มาโซยะ" ซาไอร้องเรียก

"อะไร" เขารับคำ

"เห็นอากิโกะบ้างไหม?"

"อือ…." มาโซยะส่ายหน้า

"ว้า…."

"ซาไอ"

"เพค่ะ"

"ดูนี่สิ!!! จดหมายลาของอากิโกะ"

"เขียนว่าอะไรลองเปิดอ่านดูสิ" เซอิจิคลี่จดหมายออก

"หม่อมฉันอากิโกะ รู้สึกเป็นเกียรติมาในพระกรุณาของท่านเซอิจิ แต่หม่อมฉันได้พบกับญาติคนหนึ่งของหม่อมฉันที่เขาเดินทางผ่านมา หม่อมฉันจึงใคร่จะติดตามไป ขอประทานอภัยที่ไม่ได้แจ้งด้วยตนเอง ด้วยเขามีธุระเร่งรีบ จึงเรียนมาให้ทราบทางจดหมาย…"

"แย่จัง!! กะจะขอโทษสักหน่อย" ซาไอถอนใจ

"เอาเถอะ…. ข้าไม่เห็นรู้เลย เจ้าเห็นญาตินางบ้างไหม? มาโซยะ" เซอิจิถาม

"เห็นพะยะค่ะ เป็นพ่อค้าภูมิฐานทีเดียว มาพักเหนื่อยนิดหน่อยแล้วจะรีบไปทำธุระต่อ พักคุยกับอากิโกะเลยรู้ เขาไม่ได้กันเจอมานาน เลยจำไม่ค่อยได้ สุดท้ายก็ดีใจกันใหญ่!!!" มาโซยะปั้นเรื่อง

"ภูมิฐาน… นางคงไม่ลำบาก" เซอิจิถอนใจ

"ไปกันเถอะพรุ่งนี้เราต้องเดินทาง!!!" เซอิจิชวน แล้วจูงมือซาไอ มาโซยะเดินตามต้อยๆ

"ใช่!!! ต้องเดินทาง เจ้าก็ด้วยอาเกกินารุซาวะ" มาโซยะพึมพำกับตัวเอง…….