[HOME] [สารบัญ] l 1 l 2 l 3 l 4 l 5 l 6 l 7 l 8 l 9 l 10 l 11 l 12 l 13 l 14 l 15 l 16 l 17 l 18 l 19 l 20 l 21 l 22 l 23 l 24 l 25 l 26
     l 27 l 28 l 29 l 30 l 31 l 32 l 33 l 34 l 35 l 36 l 37 l 38 l 39 l 40/1 l 40/2 l 41 l 42 l 43/1 l 43/2 l 44 l 45
     l 46 l 47 l 48 l 49/1 l 49/2 l 49/3 - fin l

บทที่ 30 ซาไอหายไป


ท่ามกลางแสงแดดยามเช้าที่โควตะคิดว่าเยี่ยมสำหรับการคิดวิธีรับมือกับกลุ่มสายลมนั้น พิธีกรรมทางศาสนาได้รับการจัดขึ้นอย่างสมเกียรติ และดีมากสำหรับสภาวะสงครามเช่นนี้ให้แก่แม่ทัพปาปิยะในคืนที่ผ่านมา บุตรชายของเขาได้รับเกียรติให้จุดกองเพลิง ไฟที่โหมมอดศพบิดา กระชากน้ำตาบุตรชายให้ไหลริน ในคืนนั้นโควตะเห็นซาไอที่มิได้อยู่ในแถวเช่นคนอื่นๆ เธอหลบมองกองไฟที่เผาผลาญผู้ร่วมชาติอย่างนิ่งๆ แสงเพลิงที่ส่องเข้าใส่ใบหน้างดงามถ่ายทอดอารมณ์ให้เห็นว่า ซาไอที่มีชื่อว่าอัจฉริยะคนนั้นกำลังจะเริ่มแผนการณ์ของตนขึ้น

'นางจิ้งจอก' คือคำที่เธอชอบใจมาก หากไม่เจ้าเล่ห์โหดเหี้ยมพอ จะชนะใครได้กันเล่า? ซาไอไม่รู้สึกอย่างนี้ตั้งแต่สามารถตีซูคังได้ ความรู้สึกฮึกเหิมลำพองในใจตนเริ่มคุกรุ่นขึ้นอีกครั้ง หญิงสาวไม่พยายามคิดถึงชายคนรัก เพราะมันจะทำให้เธออ่อนแอลง ทำให้ใจอ่อน ความอ่อนหวานมีในกุลสตรีทั้งปวง!!! แต่ไม่ใช่ตอนนี้สำหรับซาไอ หากไม่ฆ่าคงจะถูกฆ่าเธอคิดเช่นนั้น…

ขอโทษเพค่ะ ท่านเซอิจิ…. เธอนึกเศร้าๆก่อนที่จะเดินหายไปในความมืด

คงไม่มีใครคิดว่า… จะมีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น

"อะไรน่ะ?" โควตะลุกพรวดพราดขึ้น ดวงตาเบิกโตด้วยความตกใจ

"ขอรับ…ที่ไหนก็ไม่เจอ!!!"

"จะหายไปไหนได้? เมื่อวานก็ยังอยู่ไม่ใช่หรือ?" โควตะว่า พลางขบฟัน เหล่าแม่ทัพรอบๆพากันออกความคิดเห็นอย่างไม่เป็นทางการกระหึ่มไปทั่ว มาโซยะร้อนใจเป็นที่สุด เขาเป็นนิจจาที่ปลอมตัวมา แล้วเฝ้าติดตามซาไอตลอด หากเจ้านายเป็นอะไร เขาคงต้องปลิดชีพตนเอง แต่บัดนี้ซาไอหายไปไหนกัน? เขากลับไม่รู้

"ท่านเซอิจิล่ะ…อยู่กับท่านเซอิจิหรือเปล่า?"

"ไม่ขอรับ" ทหารรับใช้ตอบ

"ท่านซาไอ" มาคุถอนใจ ผู้หญิงหายตัวไปคนเดียว อันตรายยิ่งกว่าสิ่งใด

"ไปหาอีก!!! ไปหาอีกที" โควตะสั่งอย่างร้อนใจ ถ้าซาไอจะไปไหนต้องบอกเขาก่อนสิ แล้วนี้มันอะไรกัน? โควตะนั่งพรวดลง

"ท่านซาไอ!!!" นารายะคราง

"เมื่อคืนก็ไม่กลับมาขอรับ" เขาบอก

"แล้วทำไมไม่แจ้งข้า!!!" เสียงพี่ชายของคนที่หายไปตวาดแว้กเข้าให้

"ก…ก็ ท่านซาไอบอกว่าถ้าหายไปอย่าบอกใครจนกว่าจะเช้า…"

"บอกอะไร!!!"

ก่อนที่จะพูดอะไรต่อเซอิจิก็พรวดเข้ามา

"ซ…ซาไอ" เขาหอบ แขนข้างหนึ่งเท้าขอบประตูเอาไว้

"ห…หายไป?" กษัตริย์ที่หนีบัลลังก์มาถาม

"ใช่พะยะค่ะ" โควตะตอบอย่างร้อนใจ

"ไปไหนก็ไม่รู้" มาคุเสริม

"เมื่อไร?"

"ตั้งแต่เมื่อคืน.. ทรงมีเบาะแสอะไรไหมพะยะค่ะ" โควตะถาม

"มี…อืม…อาจใช่ เมื่อวานซาไอมาถามจิเคตะเรื่องของอิจิว" เขาตอบ มาโซยะเบิกตาโพล่งขึ้นอย่างตกใจสุดขีด

"ข้ารู้แล้ว" เซอิจิว่า

"ข้ารู้ว่าเพราะอย่างนี้นางคงไปหาอิจิวแน่ๆ แต่ไม่นึกว่าจะไปคนเดียว"

"ยายบ้า!!!" แม่ทัพใหญ่สบถ

"จะบ้ารึไง!!! นั้นมันคนกระล่อน เจ้าชู้ยักษ์ที่สุดเลยน่ะ ซาไอเกิดบ้าอะไรขึ้นมา จัดกองทหารเดี๋ยวนี้ ไปตามซาไอ!!!" โควตะวาดนิ้วสั่งแต่ก็ถูกนารายะรั้งปลายนิ้วไว้ก่อน

"……."

"ท่านซาไอบอกว่า ไม่-ต้อง-ตาม-เดี๋ยว-เสีย-แผน ขอรับ!!!" นารายะห้าม ทำเอาเซอิจิสะบัดตัวเดินตรงไปที่ห้องขังของจิเคตะทันที

"อารมณ์เสียหรือไง? ท่านลูกศิษย์" จิเคตะเงยหน้าจากกองฟางบนพื้นอย่างอารมณ์ดี

"ซาไอหายไป!!!"

"อ้อ…ใช่" จิเคตะสานมือไปที่หัว

"หายไป…ข้าได้ยินพวกผู้คุมคุยกันแล้ว กะแล้วว่าต้องเป็นอย่างนี้.. นางจิ้งจอกแน่จริงๆ" ผู้พูดเอนตัวลงนอน

"เจ้ารู้? หมายความว่าไง?"

"ใช่ข้ารู้ว่านางมาถามคนเดียว ต้องทำอะไรคนเดียวแน่ ก็เท่านั้น…."

"เจ้ารู้แต่ก็ยังบอกไปงั้นรึ!!!" เซอิจิตะคอก แต่จิเคตะส่ายหน้า

"อย่าส่ายหน้า อาจารย์ ถ้านางเป็นอะไรข้าเล่นเจ้าตายแน่"

"ไม่ตายหรอกข้าเนี่ย!!!" จิเคตะตวาดกลับอย่างเหี้ยมเกรี้ยม เซอิจินิ่งไป สายตาของจิเคตะตอนนี้เต็มไปด้วยรอยยิ้มที่พึงพอใจ

"ข้าเห็นนางครั้งแรกก็รู้ว่าเป็นคนฉลาด แต่ยิ่งได้คุยก็รู้ว่าเป็นจิ้งจอก ท่านคิดว่าจิ้งจอกจับนกไม่เป็นงั้นรึ?"

"…." ทั้งสองจ้องหน้ากันพักใหญ่ ก่อนที่จิเคตะจะพูดต่อ

"ข้าขอบอกท่านไว้เลยน่ะ!!! หญิงคนนั้นมีดวงตาของเทพมิบุ(เทพแห่งความอุดมสมบูรณ์) นางมีชะตาร่วมกับป่า โชคชะตาของนางจะไม่ตายในป่าเป็นอันขาด ซ้ำแล้วจะมีโชคเพิ่มหากสู้ในป่าอีกด้วย" เสียงของผู้ถูกพันธนาการหอบหลังจากพูด

"แล้วนางยังเป็นผู้มีชะตาดาวจิ้งจอกอีกด้วย.." เสียงของเขาเริ่มสั่นเครือ ทำให้เซอิจิเริ่มใจไม่ดี

"หมายความว่า…"

"ใช่…จิ้งจอกขาวจะลงมาปราบจิ้งจอกดำ" จิเคตะว่า เซอิจินิ่งไปชั่วครู่ เขารู้ว่าพระนางมิโดริมีชะตาเป็นดาวจิ้งจอกดำ…. บนฟากนั้นจะมีดาว 2 ดวงห่ำหั่นกันอยู่ฟ้า ดาวจิ้งจอกดำจะอยู่ทางทิศใต้ ส่วนดาวจิ้งจอกขาวจะอยู่ทางทิศเหนือ พลบค่ำจิ้งจอกดำจะขึ้น แต่พอใกล้รุ่งจิ้งจอกขาวจะโผล่พ้นฟ้า ขับไล่จิ้งจอกดำออกไป พระนางมิโดริมีชะตาเป็นจิ้งจอกดำ คือผู้ที่เอาชนะได้ทุกสิ่ง ก่อนที่ราชาโดราตะจะสวรรคต ทรงฝันไปว่า จิ้งจอกขาวไล่จิ้งจอกดำ พระองค์จึงเข้าไปกันจิ้งจอกดำเอาไว้ ทำให้ถูกจิ้งจอกขาวทำร้าย หลังจากนั้นพระองค์ก็สวรรคต

"จริงหรือ?"

"ข้าพระองค์เคยเรียนวิชาโหราศาสตร์" คนตรงหน้ากษัตริย์ยืนยัน

"แต่การมีวิชาการใช้อาวุธจะทำให้วิชาเสื่อม จะใช้ได้ก็นานๆที"

"ข้าเชื่อเจ้า"

"ขอบพระทัย"

"ซาไอต้องปลอดภัย" เซอิจิบอกแล้ววิ่งออกไป กระโดดขึ้นม้าเพื่อตามหาซาไอด้วยตัวเอง เป็นเวลาเดียวกับราชาแห่งนินจา มาโซยุราโอะ กำลังออกวิ่งไป….

. . . . . . .

แสงแดดตอนเช้าที่โลมเลียกองโจรพันคนที่นั่งอยู่กลางป่า

"ร้อนโว้ย!!! นี่เราจะไปบุกอ้ายพวกกองทัพกู้ชาติให้มันจบๆไปเลยไม่ได้หรือไง? จะได้กลับบ้านสักที" โจรคนหนึ่งบ่น

"สักเดี๋ยวสิว่ะ เอ็งจะไม่เชื่อมือท่านอิจิวรึไง?" อีกคนเอ็ดทั้งที่ยังโบกพัดเสื้อตนอยู่

"เสียงดังจังว่ะ" อีกคนเดินมาพร้อมกับน้ำที่โชกชุ่มเต็มหน้า

"คุยอะไรกันเนี่ย?"

"เรื่องท่านอิจิว" อีกสองตอบพร้อมกัน

"อ้อ…" ชายผู้นั้นนั่งลง

"ข้าได้ยินมาว่าพระนางมิโดริโปรดน่าดูเลยว่ะ!!!" เขากระซิบ

"เรื่องนั้นข้าก็รู้" โจรคนแรกมองซ้ายมองขวาก่อนจะพูดอะไร

"ก็ท่านอิจิว เก่งนักหนาล่ะเรื่องบนพระแท่น…หน้าตาก็ดี ฝีมือก็เจ๋ง อิจฉาฉิบเลยว่ะ" โจรคนเดิมพูด

"ถ้าข้าได้ความดีสักครึ่งของท่านอิจิวก็ดีซิว่ะ" อีกคนยืดอก

"สาวๆคงตอมหึ่ง"

"แต่ข้าว่าน่ะโว้ย!!!" คนที่สามพูดบ้าง

"เรื่องความหล่อน่ะ ท่านอิจิวสู้ เซอิจิไม่ได้ว่ะ"

"ใครว่ะ? เซอิจิ"

"อ้าว!!! ก็ลูกทรพีของพระนางมิโดริที่หนีตามแม่ทัพซาไอไปไง!!!"

"ถุย!!! หน้าตัวเมีย หนีตามผู้หญิง" แล้วโจรทั้งสามคนก็หัวร่อพร้อมกัน แต่ก็ต้องหยุดเสียก่อนเมื่อพบผู้ช่วยคนหนึ่งของอิจิวเดินเข้ามา

"ท่านวากิ!!!" คนทั้งสามลงคารวะชายผู้มาใหม่ เขาเพียงพยักหน้ารับก่อนที่จะพูดอะไร

"ท่านอิจิว สั่งมาว่าให้รีบเตรียมตัวให้พร้อม เดี๋ยวจะเคลื่อนที่เร็วเข้าใกล้กองทัพกู้ชาติ" ชายผู้ที่ถูกเรียกว่าวากิ กล่าว แล้วเดินจากไป ทั้งสามมองหน้ากันก่อนที่จะแยกย้ายกันไปเก็บข่าวเก็บของ การเดินทางของกองโจรเริ่มขึ้นเมื่อ อิจิวสั่งออกเดินทาง เขาอยู่บนม้าสีเกาลัด กล้ามเนื้อของมันเป็นมัดๆและดูคึกคักพร้อมทำงาน ไม่ต้องบอกเลยว่าใครก็คลั่งไคล้ในความสง่าและหล่อเหลาของชายผู้นี้ ผมที่เป็นสีสนิมเช่นเดียวกับตา ถูกรวบเป็นหางม้าเล็กๆไว้ด้านหลัง ผิวสีแทน รูปร่างบึกบึนสมชาติบุรุษยิ่งนัก

ริมฝีปากก็แดงฉานราวกับละเลงด้วยสีที่สกัดจากกลีบกุหลาบความบางเฉียบบอกได้ว่าคำพูดแต่ละคำของเขานั้นหวานหยดคมคายบาดใจหญิงแค่ไหน เหล่ากองโจรไม่แปลกใจเลยสำหรับอิจิวที่จะได้ตำแหน่งร่วมพระเขนยกับราชินีมิโดริผู้เลอโฉม แต่สิ่งที่พวกเขาแปลกใจคือ ชายร่างใหญ่สมชายเช่นนี้ ใยจึงเคลื่อนได้เร็วราวสายลม แทนที่คนที่เคลื่อนไหวได้เร็วน่าจะเป็นวากิ มือขวาคนสำคัญของอิจิวที่มีผิวขาวราวดอกจำปี ร่างโปร่งผอมบาง แม้ไม่ได้ชื่อว่ากวีผู้ดีดพิณ ก็สามารถเชื่อได้ว่าเขาน่าจะเป็นผู้เคลื่อนที่ราวสายลมที่เหมาะกว่าอิจิวเป็นแน่แท้!

กองทัพเคลื่อนที่ออกไปได้สักพัก เจ้านายของกลุ่มที่มีนามว่าอิจิวเป็นผู้บังคับม้าศึกตัวมหึมาสีเกาลัด เท้าของอาชานั้นกระทืบลงพสุธา ทำเอาผงธุลีดินกระจุยกระจาย ทั้งกองทัพผ่าดงหญ้า ต้นไม้ที่เปลือกไม้เลอะโคลนสีน้ำแดงแสดงให้เห็นถึงความชุ่มชื่นแข่งกันแกว่งใบกันร่ำไป กองโจรรู้สึกสบายตากับภาพที่เห็นทำให้ลืมจุดมุ่งหมายไปชั่วขณะ อิจิวที่ระแวดระวังการโจมตีของกองทัพกู้ชาติตลอดเวลา เนื่องด้วยได้ยินกิตติศักดิ์ของซาไอแห่งนากิเป็นอย่างดี เขากวาดตาไปทั่ว หวังจะสังเกตสิ่งแปลกปลอมที่เล็ดลอดมาในสายตา แต่สิ่งที่เขาเห็นหาใช่กองทหารไม่ แต่เป็นธรรมดาคนหนึ่งที่ซุกอยู่มุมต้นไม้อย่างน่าสมเพช อิจิวมองพลางเลิกคิ้วให้กับเสื้อคลุมสีขี้ม้าสกปรก แล้วนำกองทัพผ่านช้าๆ สายตาก็ยังเหลียวกับมามองคนที่พิงอยู่ข่างต้นไม้

"หรือจะตายแล้ว?" เขาพึมพำกับตัวเอง แต่น่าแปลก ถ้าตายก็ไม่มีแมลงวันตอมเลย แต่ก็นั่งนิ่งเป็นรูปปั้นไม่กลัวกองทัพเลย

"วากิ" อิจิวหันไปสั่งนายทหารคนสนิท คนสนิทหันมาก้มหัวรับคำสั่ง

"ไปดูไอ้หมอนั้นหน่อยสิ!!! นั่งนิ่งเป็นรูปปั้นอย่างนั้นน่ะ ตายหรือยัง?" อิจิวสั่ง วากิคนสนิทก้มหัวเล็กน้อยก่อนที่จะอ้อมม้าไปยังผู้นั่งนิ่งใต้เสื้อคลุมสีขี้ม้า ชายร่างโปร่งผิวสีจำปีมองคนสกปรกเล็กน้อย ย่นจมูกให้กับกลิ่นเหม็นจากกายคนผู้นั้นก่อนที่จะลงจากม้าแล้วทรุดกายสังเกตเบื้อง

"เฮ้!! เจ้า" วากิร้อง

"ตายหรือยังเนี่ย?" เขาเอื้อมมือจะไปเขย่าไหล่คนตรงหน้าแม้ว่าจะสกปรกอย่างไรก็ตาม

แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาต้องตรวจสอบเพื่อความถูกต้องก่อนนำไปรายงานเจ้านาย แต่ก่อนที่เขาจะแตะไหล่คนผู้นั้น ร่างก็ขยับเขยื้อน ริมฝีปากคนตรงหน้าเผยอขึ้นเล็กน้อยจับความจากเสียงอันน้อยนิดได้ว่า 'น้ำ' วากิรีบลุกขึ้นขึ้นม้าอย่างรวดเร็ว แล้วควบไปรายงานเจ้านาย

"ยังไม่ตายขอรับ ท่านอิจิว" ลูกน้องรายงาน "ให้ช่วยไหมขอรับ?"

อิจิวเมื่อได้ยินลูกน้องรายงานเขาใช้มือลูบคางอย่างครุ่นคิดก่อนสั่งการต่อไป

"อืม…ช่วยก็แล้วกัน เผื่อมันเป็นคนแถวนี้จะได้บอกเราได้ด้วยว่าสถานการณ์เป็นอย่างไรแล้วบ้าง!!!"

"ขอรับ!" วากิรับคำสั่ง แล้วหันไปกวักมือเรียกให้คนของตนช่วยกันหามร่างสกปรกไปด้วย