|
แสงแดดที่ส่องเข้ามาต้องตาหญิงสาวในห้องในห้องนอน เธอลุกขึ้นจากโต๊ะและบันทึกเสบียง เสียงโห่ร้องของทหารที่ออกฝึกตอนเช้าทำให้เธอนอนต่อไม่ไหว คงเป็นเพราะเมื่อวานประชุมเสียงจนดึกทำให้รุ่งเช้ารู้สึกเพลียทั้งยังนั่งตรวจเสบียงอีกจนเกือบเช้าดันเผลอหลับเพลินเสียนี่!!! การเดินทางล่วงเลยมาได้เกือบ 1 อาทิตย์แล้ว ไม่ถึง 2 อาทิตย์ก็คงถึงนากิ
"โอ๊ย!!~ ตายสายแล้วนี่ ต้องประชุมกองตอนเช้าด้วย"
ซาไอรีบหยิบถังน้ำที่หญิงรับใช้ตักมาให้ ไปล้างหน้าและใช้ผ้าสีขาวซับหยดน้ำนั้นออก แล้วแต่งตัวในชุดแม่ทัพออกไปประชุมกองตอนเช้า ในกระโจมเหล่าแม่ทัพและขุนนางกำลังประชุมกองกันอยู่ ซาไอหอบแฮกๆแล้วเปิดผ้าคลุมกระโจม * พรึ่บ * เสียงนั้นทำให้สายตาทุกคู่หันมามอง
"ขออภัยอย่างสูงค่ะ ท่านแม่ทัพ" ซาไอก้มหัว
"ค
คือ
"
"ประจำที่ได้แล้วรองแม่ทัพใหญ่!!!" โควตะตวาด
"โทษคืออะไร ข้าจะลงโทษทีหลัง" เขาว่า ซาไอใจเสีย ตั้งแต่ประกบคู่กับโควตะเธอไม่เคยทำผิดกฎทหารเลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่ระเบียบคือระเบียบ
"ค่ะ" ซาไอรับเสียงอ่อยๆ พลางเดินเข้าไปประจำที่ข้างแม่ทัพปาปิยะ *ให้ตายเถอะ!!! เขาพูดถึงเรื่องอะไรกันแล้วนะ *เธอคิด
"ทางที่เราจะเดินไปในวันนี้ จะผ่านภูเขา 1 ลูก และแม่น้ำอีก 3 สาย ถ้าเราไปได้ไว อาจจะผ่านช่องเขาอีกด้วย.." โควตะพร่ำไปเรื่อยๆ ส่วนซาไอนั้น หูฟังก็จริงแต่ใจไปที่อื่นเรียบร้อยแล้ว หูของซาไอรับเสียงได้อีกก็ตอนที่โควตะตะโกนเรียกชื่อเธอ
"ซาไอ!!!"
"ค
ค่ะ"
"เนื่องด้วยเจ้ามาเข้าประชุมสาย ไม่รักษากฎของกองทัพ แถมยังเป็นถึงรองแม่ทัพ ฉะนั้นข้าขอลงโทษเจ้า พรุ่งนี้เช้าเจ้าจะต้องเป็นคนคุมกองทหารฝึกตอนเช้าเป็นเวลา 1 อาทิตย์ เข้าใจไหม!!!"
"รับทราบ!!!"
"ดีมาก
เลิกประชุม" ซาไอเดินคอตกออกจากที่ประชุม มันรู้สึกแย่พอสมควร และแย่มากขึ้นอีก เมื่อต้องเจอกับแสงแดดร้อน กับอานม้าที่ยังไม่ได้เช็ดโคลน แน่นอน!!! ในฐานะทหารนี่คือคนละเลยหน้าที่
เนื่องจากสายมากแล้วซาไอเลยไม่ได้สนใจไปเอ็ดเจ้าคนมีเวรดูแลม้าของเธอ การออกเดินทางจะเริ่มในอีกไม่นาน พร้อมกับเก็บอารมณ์เสียนั้นไว้ เธอกระชากเชือกผูกม้าเข้าสู่กองทหารที่เก็บสัมภาระเสร็จแล้ว เหลือแต่รอให้แม่ทัพใหญ่สั่งเดินทัพ ซาไอพ่นลมออกจากจมูกอย่างอารมณ์เสีย เธอขึ้นควบม้าให้มันเดินเหยาะๆ เข้าสู่กองทหาร
"อย่าพูดกับข้านะ กำลังหงุดหงิด บอกคนอื่นด้วย" ซาไอดักคอมาโซยะเมื่อเขาทำท่าอ้าปากจะพูดด้วย เซอิจิเลิกคิ้วอย่างสงสัย นายทหารหลายคนหลีกทางให้ให้แม่ทัพที่ควบม้าเข้ามาใหม่ เธอบังคับม้าให้แสดงถึงอารมณ์ของเธอได้ชัดเจน ม้าตัวโตสีดำทมิฬ มีแผงคอสวยงามตัวนั้นที่หลายคนอยากได้หนักหนา มันเป็นของซาไอเมื่อหลายปีก่อน เป็นข้าผู้ซื่อสัตย์ที่เข้าใจอารมณ์นายเป็นอย่างดี มันเดินกระทืบเท้าแสดงถึงเจตนารมณ์ของผู้ขี่ว่าอยากเตะใครสักคน และแน่นอนไม่มีใครกล้าขวางผู้ขี่อดีตม้าพยศตัวนี่แน่!!! ยกเว้นใครคนหนึ่งอยากตายแบบทรมาน
กองทัพออกเดินทางเมื่อตะวันตรงหน้า แดดร้อนส่องมายังกองทัพ ทำให้ซาไอไม่แน่ใจนักว่าตนเองวางแผนเคลื่อนทัพผิดเวลาหรือว่าเกิดอาเพศผิดฤดูกันแน่ กองทัพเคลื่อนทัพไปอย่างปกติจะมีก็แต่เสียงบ่นอู้อี้ของทหาร ทางผ่านภูเขานั้นมีฝุ่นตลบอบอวล ส่วนแม่น้ำนั้นเป็นช่วงที่ทหารจะได้พัก ดื่มน้ำกัน ตามแผนที่วางไว้และตามการคาดคะเนของซาไอน่าจะสามารถข้ามช่องเขาและไปถึงปลายทางได้ก่อนเวลาพลบค่ำ หากไม่มีอะไรผิดปกติเกิดขึ้น
"ข้าไม่ค่อยไว้ใจช่องเขานี่เลยนะ ซาไอ" โควตะพูด พลางมองช่องเขาที่เป็นทางคดเคี้ยว ที่มองไม่เห็นปลายทาง
"ใช่!!! มันเหมาะแก่การลอบโจมตี" ซาไอพิจารณา ก่อนที่จะมองบริเวณเหนือช่องเขา
"เอาไฟมาลง เราก็ตายหมด ถึงเราจะมีคนเป็นหมื่นก็เถอะ" ซาไอทำหน้าเบ้
"เข้าใกล้เขตศัตรู แล้วไหนจะโจรป่าอีก" โควตะลงความเห็น แล้วเรียกมาคุเข้ามา
"เอานายทหารสัก 50 นายไปสำรวจทางหน่อยจะดีกว่า" มาคุรับคำสั่งแล้วก็นำกำลังพลเข้าสู่ช่องเขา โควตะสั่งให้นายทหารพักได้ การจัดทหาร 50000 คนไม่ใช่เรื่องง่ายเอาซะเลย ใช้เวลานาน แต่ก็เป็นการฆ่าเวลาในการรอมาคุ ทั้งโควตะและซาไอและเหล่าทหารรอการกลับมาของมาคุจนพลบค่ำ แต่ก็ไม่มีวี่แววของมาคุเลย
.
"มาคุเป็นอะไรหรือเปล่า? ชักเป็นห่วงแล้วสิ" ซาไอเดินวนไปมา ลุกลี้ลุกลน
"คงไม่มั้ง อย่าห่วงมากเลย ทางมันอาจลำบากเสียหน่อย" โควตะนั่งเล่นหมากรุกกับมาโซยะ แต่ซาไอก็ยังไม่วางใจตามภาษาคนที่วางแผนแนบเนียน มันคล้ายกับเป็นผลข้างเคียง ทำให้เธอเป็นคนขี้ห่วง ขี้ระแวงไปด้วย เซอิจิยืนมองซาไอจนตาลาย เมื่อเริ่มมืดอากาศที่ร้อนอบอ้าวเมื่อตอนกลางวัน ตกเย็นมันกลับเริ่มเย็น แมลงก็ส่งเสียงร้องพร้อมกับบินว่อนไปหมด เซอิจิพยายามหยิบเสื้อคลุมขนมิงค์ที่เคยให้ซาไอจากเจ้าม้าปีศาจ มันหันมาพ่นลมใส่หน้าเซอิจิเต็มเปา
"ข้าไม่มีเล่นกับเจ้ามากนักหรอกนะ" เขาปรามอย่างอารมณ์เสีย ผิวสีขาวเปียกไปด้วยน้ำลายม้า เขาปาดน้ำออกจากหน้าอย่างเยือกเย็น แล้วจ้องมันอย่างเอาเป็นเอาตาย
"เจ้าคงยังไม่รู้ว่าเล่นกับใคร" เซอิจิขยับแขนเสื้อคลุมให้เทอะทะน้อยลง ม้าสีดำตัวนั้นเชิดหน้าอย่างท้าทายราวกับถามว่า แล้วใครล่ะ?
"ข้าคือกษัตริย์เซอิจิแห่งซูคัง เจ้านายเจ้าคือว่าที่ราชินีของข้าเข้าใจไหม?" เซอิจิคุยกับม้า ทหารหลายคนเริ่มสนใจ และเริ่มเงี่ยหูฟัง ม้ายักษ์สีดำทมิฬยังเชิดหน้าอย่างทระนงเช่นเดิม มันไม่ให้ใครมาแตะต้องตัวมัน นอกเสียจากซาไอแน่นอน
"และตอนนี้อากาศหนาว สิ่งที่ข้าต้องการจะทำคือเอาเสื้อคลุมบนตัวเจ้าไปให้นาง ข้าจะยินดีมากหากเจ้าจะยอมดีๆ" เซอิจิเชิดหน้าบ้าง ทหารหลายคนขมวดคิ้ว แต่เจ้าม้าส่ายหัวอย่างโกรธเกรี้ยว มันพ่นลมออกจากจมูกแล้วร้องขู่
"ตกลงว่าไม่ยอมดีๆ?" เซอิจิตั้งเสียงเป็นคำถาม เจ้าม้าพยักหน้าช้าๆ
"งั้นก็โทษข้าไม่ได้ล่ะนะ" เซอิจิก้มห้วช้าๆลงสำรวจพื้นที่ตนยืนอยู่แล้วกางขาออกพอประมาณ เจ้าม้ามองอย่างสงสัยแต่ก็ยังไว้ท่า เซอิรอจนเจ้าม้าเผลอเรอ เขาจึงถือโอกาสเหวี่ยงตนเองขึ้นหลังม้า เจ้าม้าตะลึงชั่วขณะ จนมันนึก มันยกขาหน้า พยศอย่างรวดเร็ว เซอิจิที่กำลังจะหยิบถุงใส่ผ้าคลุมได้รีบจับคอมันไว้ทันที นายทหารที่เฝ้าดูเหตุการณ์อยู่ลุกฮือกันขึ้น หลายคนทำท่าจะเข้ามาช่วย แต่เซอิจิยกมือห้ามไว้ เขาอยากจะชนะเจ้าม้านี่เหมือนที่ชนะหัวใจซาไอได้ด้วย เจ้าม้าพยศสุดชีวิต เขาก็เกาะมันสุดชีวิตเหมือนกัน เสียงแห่งความโกลาหลเริ่มดังขึ้นมากขึ้น โควตะละจากกระดานหมากรุก ซาไอละความสนใจจากช่องเขามาสนใจเสียงโกลาหลแทน มาโซยะนำหน้าไปอย่างรวดเร็ว ตามด้วยเสียงตะโกนถามของแม่ทัพใหญ่ เหล่าแม่ทัพน้อยใหญ่ที่สนทนาว่าด้วยเรื่องคลายเครียดลุกฮือตาม ภาพที่ทุกคนพบคือ กษัตริย์เซอิจิแห่งซูคังกำลังทรงม้าพยศของซาไอ แม้ซาไอจะมาถึงทีหลังเพราะอยู่ด้านหน้าสุดของทัพแต่ก็มาทันเหตุการณ์ ผู้ที่พบเห็นบ้างก็สบถ บ้างก็หัวเราะ แต่ไหนต่อไหนอีก
"ท่านเซอิจินี่ทรงม้าได้ยอดเลยนะขอรับ" ขุนนางผู้หนึ่งของนากิสัพยอกซาไอ แม่ทัพหญิงแสนจะงุนงงปนอับอาย ที่จู่ๆเซอิจิก็ขึ้นไปอยู่บนม้าของตน แล้วยังพยายามบังคับบังเหียนม้าที่ขึ้นชื่อว่าภักดีแต่ตนเท่านั้น และรู้ว่ามันอันตรายแค่ไหนหากตกม้าที่สูง 8 ศอก แล้วยังเป็นม้ายักษ์ที่พร้อมจะกระทืบเจ้าคนอวดดีที่บังอาจขี่มันด้วย
ซาไอถลาเข้าไปยังม้ากระโดดคว้าเชือกของมันอย่างรวดเร็ว และพยายามดึงให้มันสงบ
"ท่านเซอิจิรีบลงมาเร็วเพค่ะ" ซาไอตะโกน เซอิจิที่ยังงุนงงกับคำแนะนำแต่ก็ทำตามโดยการกระโดดลงมาทันที ก่อนที่เจ้าม้ายักษ์จะลงมือกระทืบเซอิจิ ซาไอก็ควบมันออกไปที่อื่นเสีย มันวิ่งสุดฝีเท้า คล้ายจะระบายโทสะ การขี่ก็ยากแล้ว การบังคับยิ่งยาก โดยเฉพาะ ม้ายักษ์จอมพยศบ้าดีเดือดที่กำลังโมโห ซาไอต้องปล่อยให้มันวิ่งตามอำเภอใจจนสมใจพอสมควร กว่าจะบังคับให้กลับกองทัพก็นานพอสมควร แต่รู้สึกว่าขากลับจะใช้เวลามากกว่าขามา ซาไอมองพื้นทรายที่ไกลสุดลูกหูลูกตา พลางถอนใจ
"แกไม่น่าวิ่งมาไกลอย่างนี้เลย" หญิงสาวแฝงแววตำหนิใส่ม้าที่เดินคอตกเพราะวิ่งตอนขามาจนแทบหมดแรงข้าวต้ม
"แล้วกลับยังไงละเนี่ย!!!" ซาไอใจเสีย ถึงเธอเป็นแม่ทัพ แต่มาหลงอยู่กลางที่ที่ไม่รู้จัก ในฐานะผู้หญิงก็อยากร้องไห้เหมือนกัน ม้าเดินท่อมๆไปกลางทราย การเดินทางโดยไม่รู้จุดหมายนั้นแย่มาก ทั้งอันตรายอย่างสูงหากจะเดินทางคนเดียวต่อไป ถ้ามีโจรดักปล้นระหว่างทางเธอต้องแย่แน่นอน ซาไอพยายามสลัดเรื่องร้ายออกจากหัวอย่างรวดเร็ว เธอไม่ต้องให้มีลางร้าย แต่มันก็เกิดขึ้น เมื่อมีเสียงฝีเท้าม้านับสิบวิ่งตะบึงเข้ามาใกล้ ซาไอยืดตัวขึ้นรับฟัง เสียงม้าจริงๆ! เธอฉุดคิดอย่างรวดเร็วและรีบลงจากม้า พื้นทรายช่างอ่อนยวบ เท้าของเธอจมไปเกือบครึ่งก่อนที่จะเริ่มเดินก้าวใหม่ได้ เธอดึงเชือกผูกม้าให้ตามเธอไป เจ้าม้ายอมเดินตามไปอย่างเชื่องๆ ลมแรงกลางทะเลทรายทำให้รู้สึกแย่พอดู เธอใช้ผ้าพันคออุดปากตัวเองเอาไว้เพื่อกันทราย โจร! เธอคิด พลางพาม้ายักษ์ไปยังกองหินสูงใหญ่เพื่อกำบังกาย มันยากที่จะต้องซ่อนทั้งม้าและคน และยากด้วยที่ต้องทิ้งม้าที่อยู่ด้วยกันมานาน
ซาไอสั่งให้ม้าอยู่นิ่งๆ เธอทำใจไม่ได้ที่ต้องเสียม้าแสนรู้ เมื่อมันจ้องตาเธอและพยักหน้ารับเป็นดิบดี ซาไอแทบจะร้องไห้ เธอคิดชั่ววูบได้ยังไงว่าให้ทิ้งมันไว้ที่นี่แล้วตัวเองหนีไป ซาไอหมอบลงหลังกองหินอย่างเงียบเชียบรอคอยการมาและผ่านไปของเหล่าผู้มาเยือนที่เธอคิดว่าไม่ใช่คนดีแน่นอน เสียงฝีเท้าม้าลากจนสะดุดลง มันคล้ายกับตามหาอะไรอยู่
"หายไปไหนของมัน" เสียงที่ดุดันดังขึ้น ซาไอแอบลอบมองไปก็พบชายร่างใหญ่ ใต้เสื้อคลุมดำทมิฬ ตาข้างหนึ่งเขาถูกปิดด้วยผ้าสีแดง ผมสีซังข้าวโพดยุ่งเหยิงถูกผูกอย่างลวกๆ คล้ายกับอารมณ์เจ้าตัวตอนนี้ ข้างกายมีบุรุษ 2 คนประกบอยู่ คนหนึ่งร่างแคระ ท่าทางเจ้าเล่ห์ อีกคนสูง ท่าทางเยือกเย็น
"นั้นสิครับหัวหน้า!!!" เสียงเล็กๆ แสดงถึงความประจบดังขึ้น มาจากชายร่างแคระที่มีฟันหน้าโตผิดปกติ ไม่แปลกใจที่เขาดูประจบประแจง เพราะหน้าตาก็บอกอยู่แล้ว
"กระผ้ม!! บอกเจ้าโอเบแล้วว่าให้ดูให้ดี อย่าให้หนีไปได้ แย่จริง!!!" ทีท่าประจบประแจงชักมาขึ้นอีก
"ข้าสั่งให้เจ้าดูแลมัน แต่เจ้าดันไปใช้เจ้าโอเบต่ออย่างนั้นเหรอ!!!" เสียงตวาดจาดชายร่างยักษ์ เล่นเอาทั้งชายร่างเล็ก และเหล่าชายฉกรรจ์ที่ตามมาสะดุ้งเฮือก ซาไอสงสัยนักเชียวว่าใครกัน?
"ป
เปล่าข
ขอรับ" ชายร่างเล็กปัดความผิด แต่สายไป ชายร่างใหญ่คว้าตัวเขาและทุ่มออกไปราวเจ็ดวาก่อนลงพื้น
"เจ้าพวก 50 คนนั้นมันจะหนีไปได้ยังไง!!!" ชายร่างใหญ่ตวาด
"มันกินพิษในเหล้าแล้วนี่นา แต่ยังมีหลุดไปได้ตั้งคน" เสียงตำหนิดุจอสุนีฟาด ทำเอาชายฉกรรจ์ที่ตามมาหัวหดเป็นแถว
50 คน? พวกมาคุหรือเปล่าน่ะ? ซาไอคิด
"พวกทหารพวกนั้นอาจเป็นพวกที่มิโดริส่งมาเพื่อหักหลังเราก็ได้!!!"เสียงตวาดอีก
ซาไองงๆ? มีมิโดริเกี่ยวด้วย? เรื่องอะไรกัน?
"ค้นเร็ว!!! ดูให้ทั่วเชียวนะ" เสียงนั้นสั่ง ซาไอรีบแนบตัวไปกับพื้นหิน เจ้าม้าก็เช่นกัน มันคงพยายามนิ่งเงียบเหมือนกัน แต่ก็เหมือนซาไอชะตาตก งูตัวหนึ่งเลื้อยออกมาจากก้อนหินพอดีมันเลื้อยไปพัวพันกับขาของม้า ตั้งแม่เบี้ยทำท่าจะฉก ม้ามีปฏิกริยาทันที โดยการง้างขาสูงร้องดังลั่นคล้ายคนที่กำลังตกใจ มันยืดตัวจนพ้นก้อนหิน เหล่ากองโจรที่อยู่แทบนั้นหันมาให้ความสนใจกับเสียงทันที
"อะไรน่ะ อะไรกัน" เสียงแห่งความโกลาหลดังขึ้น เท้าทั้งหลายสาวก้าวเข้ามาใกล้ที่เกิดเหตุ ชายร่างยักษ์มองอย่างรำคาญใจ นัยน์ตาดุร้ายของเขาทอดลงมา
"ใครกัน!!! ออกมาเดี๋ยวนี้" เขาตวาด
เงียบ!!!
"ออกมา!!! ข้ารู้ว่านะนอกจากม้ามีคนอยู่หลังก้อนหินอีก"
คนๆนี้สายตาแหลมคม ซาไอจับเชือกม้าที่ได้สติแล้ว พลางเดินออกมานอกก้อนหินอย่างหวาดๆ แต่ก็พยายามข่มความกลัวแล้วย่างออกไป สายตาทั้งหลายตรงเข้ามาที่คนในชุดทหารที่ไม่รู้แน่ว่าเป็นบุรุษหรือสตรี ร่างที่เล็กกะทัดรัดถูกจ้องมองด้วยสายตาของชายที่มีสายตาดุอย่างสัตว์ป่า
"เจ้าเป็นใคร!!!" เสียงที่แสนฟังดุร้ายดังขึ้น ซาไอกวาดตามองชายฉกรรจ์ที่มองตนอย่างให้ความสนใจ ริมฝีปากเผยอขึ้นแต่ลิ้นก็ปิดเสียงไว้เสียก่อน อันตรายหากพวกมันรู้ว่าเราเป็นผู้หญิง ซาไอไตร่ตรอง พลางกำเชือกจูงม้าแน่น
"ข้าถามว่าเจ้าเป็นใคร!!! เป็นใบ้หรือยังไง" เสียงที่น่ากลัวดังขึ้นอีก ซาไอได้แต่เชิดหน้าขึ้น มองเห็นได้แต่นัยน์ตาที่เด็ดขาด เธออ้าปากขึ้นแต่ก็ไม่ได้มีเสียงเล็ดลอดออกมาแต่อย่างใด บุรุษร่างยักษ์ควบม้าเข้ามาใกล้
"เป็นใบ้รึไง!!!" เขาตวาด ซาไอได้แต่ชายตามองบุรุษผู้นั้น เขายื่นหน้าเข้ามาใกล้ ม้าสีดำทมิฬของซาไอพ่นลมออกทางจมูกอย่างมีโมโห ไม่พอใจที่มีคนมาสั่งเจ้านายตน ชายผู้นั้นยื่นหน้าเข้ามาใกล้ แล้วทำหน้าและท่าทางประหลาด
"เอาตัวไปที่ค่าย!!" เขาตวาด พลางแยกเขี้ยวอย่างน่ากลัว เหล่าโจรง้างธนูขู่ให้ซาไออยู่นิ่ง เธอมองสำรวจไปรอบๆ พบเห็นโจรป่าเกือบร้อยคน ทุกคนมีอาวุธครบมือ ไม่ดีแน่หากจะสู้ ม้าก็เหนื่อยอ่อนยังไงก็หนีไม่รอด เธอจึงยอมอยู่นิ่งๆให้เหล่าโจรป่าพาตัวไปโดยดี พวกมันจูงม้าแสนพยศของซาไอไปอีกทาง เชือกป่านทั้งหยาบและฝืด ครูดไปตามเนื้อตัวของคนที่เหนื่อยอ่อนอย่างแรง ซาไอเดินไปตามพวกโจรอย่างช้าๆ หวังว่าจะมีใครสักคนออกมาตามหาเธอแล้วเจอพอดี
|