|
"หิวข้าว!!!!" หลังจากนั้นราวๆวันครึ่ง หลังจากที่จัดการเรื่องทหารใดๆ เรื่องจวน และเก็บกวาด ซาโอะคนสำคัญก็ลุกขึ้นมาโดยที่ยังเจ็บแผล แต่เจ้าตัวก็กลบเกลื่อนโดยการร้องขออาหาร
"โว้ย!!! หิวข้าว หิวข้าว หิวข้าวโว้ย!!!" ซาโอะร้อง พลางเคาะเตียงตึงตังเหมือนเด็กเพื่อเรียกร้องความสนใจ สัญชาติญาณบางอย่างบอกเขาว่า เขาถูกทอดทิ้งให้อยู่คนเดียว ฉะนั้นเขาจะต้องเรียกร้องความสนใจ นัตสึกิที่มีหน้าที่ดูแลคนไข้นั่งอยู่ข้างๆโควตะที่นอนหลับเป็นตายหลังจากจัดการงานและการขอหมั้นสำเร็จ โควตะที่นอนอยู่นั้นแกล้งไม่ได้ยินเจ้าตัวปัญหาซาโอะร้อง นัตสึกิก็เช่นกัน พวกเขากำลังคิดถึงเรื่องที่เกิด
.
ในห้องว่าราชการของท่านเจ้าเมืองเป็นที่เดียวที่ไม่ถูกรุกราน หรือถูกรุกรานน้อยที่สุด ในห้องนั้นมีวารางิ และแม่ทัพทั้ง 4 กับนัตสึกิยืนอยู่เดิม เธอเล่าแทบทุกอย่างให้บิดาฟัง เป็นการยากที่จะปิดบังว่าเธอมีใจให้โควตะแค่ไหน โควตะ และมาคุเดินเข้ามาใหม่ โควตะค้อมกายให้วารางิ ซึ่งเขาชิงทรุดตัวขอขมาโควตะก่อนจะพูดอะไร
"ท่าน
"
"ข้าผิดไปเอง ผิดไปเองจริงๆ"
"อย่าเลยขอรับ ลุกขึ้นเถอะ" โควตะพยุงเจ้าเมืองขึ้นมา ท่านเจ้าเมืองยังค้อมกายอยู่
"ข้าน่าจะเชื่อท่าน ท่านแม่ทัพ ข้าน่าจะให้ท่านเดินผ่านเมืองไป.." เจ้าเมืองว่า โควตะลูบหัวตนเอง
"ไม่หรอกขอรับ หวังว่าท่านนัตสึกิคงจะส่งสาสน์ที่ข้าฝากมาแล้ว" โควตะค้อมกาย
"ใช่ๆ บอกแล้ว" ท่านเจ้าเมืองทำท่าคิด
"ข้าอนุญาตให้ท่านผ่านเมืองไปได้ อนุญาตให้กองทัพของท่านผ่านเมืองไรโบเซ็นไปได้" เจ้าเมืองพูด
"นั้นคือสิ่งที่ข้าหวังสูงสุด" โควตะค้อมกายอีกครั้ง
"ข้าต้องขอขอบคุณในความร่วมมือของท่าน เราจะนำกองทัพผ่านเมืองไรโบเซ็นในเร็ววันนี้" โควตะรับคำพลางกวาดตามองแม่ทัพทั้ง 5 ที่ไม่มีข้อโต้เถียงแต่อย่างใด สายตาของเขาไปหยุดที่นัตสึกิ ชายหนุ่มหันกลับมาที่เจ้าเมือง
"ข้าหวังว่าจะได้คุยกับท่านเจ้าเมืองเป็นการส่วนตัวเสียหน่อย" โควตะเอ่ยเรียบๆ วารางิมองกลับไปที่ส่วนเกินอีก 5 คน เขาส่ายหน้าเป็นสัญญาณให้ออกไป หลังจากประตูปิดลง จิโฮก็ออกปากเป็นคนแรก
"ขอนัตสึกิแน่ๆเลย" เขาป่วนเปี้ยนพลางคาดเดาอยู่แถบนั้น ผิดกับมิฮาโอะและยามาดะที่เอาหูแนบประตูไว้ อังโคขุพี่ใหญ่ส่ายหน้าอย่างระอา
"ระวังเถอะ ยังไม่เข็ดอีกหรือ?" อังโคขุบ่น แล้วหันไปขอความเห็นนัตสึกิ หญิงสาวทำไม่รู้ไม่เห็นแล้วหันไปหาดอกไม้แถบนั้นแทน
"พวกเด็กๆหลับไปแล้วใช่ไหม?" เธอออกนอกเรื่องโดยการคุยกับเด็กหนุ่มที่เดินผ่านมา เด็กหนุ่มพยักหน้า ทำให้เธอยิ้มอย่างสบายใจ
"อย่าออกนอกเรื่อง ขอร้องนัตสึกิ เจ้าจะขึ้นคานหรือไม่ลุ้นระทึกไว้เถอะ" พี่ใหญ่ตัวแสบอดเหน็บไม่ได้ หญิงสาวทำหน้าบึ้ง
"นั้นมันเรื่องของท่านแม่ทัพเขา" หญิงสาวแก้ลำเขินๆ จริงๆอายจนแทบอยากจะมุดดินด้วยซ้ำ
"ชู่!!!" สองหนุ่มที่เอาหูแนบประตูร้องพร้อมกัน
"เจรจาแล้ว"
"มีอะไรหรือ ท่านแม่ทัพ?" ท่านเจ้าเมืองแกล้งทำเป็นไม่รู้ ถามขึ้นอย่างนั้นแหละ
"คือ..เออ...." โควตะชักเริ่มไม่เป็น ขอผู้หญิงนี้เขาเริ่มกันยังไงหว่า?
"ขอตัวเดี๋ยวขอรับ!!!" โควตะวิ่งอ้าวออกไปอย่างรวดเร็ว ชนเข้าโครมใหญ่กับยามาดะและมิฮาโอะ เขาพึมพำขอโทษใหญ่แล้ววิ่งออกไปหามาคุที่ล้างหน้าล้างตาอยู่
"ท่านโควตะ" มาคุเอ่ย แต่ก่อนที่เขาจะพูดอะไร โควตะก็คว้าแขนมาคุไปเสียแล้ว
"ไปขอผู้หญิงให้ข้าที!!!" โควตะบอกแกมอาย แล้วลากมาคุโครมๆ เข้ามา ทรามกลางสายตางงงวยของคนหน้าห้อง
"เอาล่ะสิ!!! อย่างนี้ขอแน่นอน" อังโคขุสรุป สายตาทั้งสี่คู่หันมามองว่าที่เจ้าสาว ที่อายหน้ากระดาก ก่อนที่อังโคขุคนพูดน้อยจะก้าวออกไปอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
"จะไปไหนน่ะ?" จิโฮถาม
"ไปร้านของขวัญ เดี๋ยวมันจะแน่นเสียก่อนถ้าข่าวแต่งงงานแพร่ออกไป ใครจะไม่มาอวยพรคุณหนูใหญ่บ้างเล่า?" อังโคขุพูดเรียบๆ เล่นเอานัตสึกิยิ่งอายเข้าไปอีก มิฮาโอะหัวเราะก่อนที่จะทำท่าประมาณว่าขอไปด้วย เหลือแต่ยามาดะที่เอาหูแนบประตูอย่างเหนี่ยวแน่น
"ท่านเจ้าเมือง!!! ข้าเป็นพ่อสื่อของท่านโควตะ"
"อ้อ
ท่าน
"
"มาคุขอรับ"
"ท่านมาคุ"
"อาจเป็นการไม่สมควรเท่าไรน่ะขอรับเพราะว่าข้าก็ไม่เคยเป็นพ่อสื่อเหมือนกัน"
"ไม่เป็นไร เพราะข้าก็ไม่ถืออยู่แล้ว ลูกสาวข้า 6 คน พ่อสื่อแม่สื่อมาคนละแนวทั้งนั้น"
"
.." เสียงเงียบไปชั่วครู่
"มาคุเอ๋ย!!! ข้าพูดเองดีกว่า" เสียงโควตะเอ่ยปัด แล้วออกหน้าเอง
"คืออย่างนี้น่ะขอรับท่านเจ้าเมือง ข้าอยากจะขอ
.ท่าน
เอ๊ย!! นัตสึกิ คือเอาไงดีล่ะ นัตสึกิคือ
เป็นคนดีมากเลยน่ะขอรับ และข้า-รัก-นัตสึกิ
" โควตะพูดติดๆขัดแต่ก็จบได้อย่างดี เขากุมมือไว้ข้างหน้าอย่างสง่า พลางรอฟังคำตอบจากเจ้าเมือง วารางิทำท่าครุ่นคิดสักครู่ เขานั่งลงบนเก้าอี้เจ้าเมืองก่อนที่จะตอบอะไร ชายชราแหงนหน้ามองชายหนุ่มอีกครั้ง โควตะรู้สึกว่ารู้บีบคออย่างแรง เหงื่อแตกพล่าน
"ข้าสัญญาว่าจะดูแลนัตสึกิให้ดีที่สุด แม้ว่าข้าจะแต่งงานกับนางทันทีเลยไม่ได้เพราะติดพันทางการรบ แต่ข้าสัญญาว่าจะกลับมาหานางแน่นอน" โควตะสาบานอย่างแน่วแน่ ว่าที่พ่อตายิ้ม
"นัตสึกิว่ายังไง?" เขาแสร้งถาม
"ตกลงขอรับ"
"งั้นก็ตามใจนางก็แล้วกัน!!!" เจ้าเมืองผู้ชราตกลง โควตะถอนใจอย่างโล่งอกมาคุแทบจะกลั้นหายใจ เสียงโห่ร้องข้างนอกดังขึ้น จะเป็นใครเสียอีกนอกเสียจาก จิโฮและยามาดะ ทำเอาว่าที่เจ้าสาวที่นั่งฟังอยู่ห่างๆยิ้มร่า และทุกอย่างจบลงด้วยดี โควตะกลับมาสู่ปัจจุบันอีกครั้งเมื่อซาโอะร้องหาข้าว นัตสึกินั่งฟังสักพักก็ใจอ่อนจึงจะลุกขึ้น แต่โควตะใช้มือหยุดคู่หมั้นเอาไว้แล้วดึงให้เธอนั่งลง พลางยกหัวขึ้นหนุนบนตัก
"ปล่อยก่อนเถอะค่ะ
เดี๋ยวข้าเอาอาหารไปให้ซาโอะก่อน" นัตสึกิพยายามแกะมือบุรุษออก แต่โควตะก็ไม่มีทีท่าว่าจะยอมออกแต่อย่างใด
"ปล่อยมันเถอะ!!! ให้ร้องไปงั้นแหละดีแล้ว เดี๋ยวเหนื่อยก็หยุดเอง ให้เข็ดเสียบ้างเรียกร้องความสนใจดีนัก!!!" โควตะเอ่ยอย่างหมั่นไส้
"น่าสงสารออก" หญิงสาวว่า
"ช่างมันเถอะ" โควตะทำท่าไม่รู้ร้อน แล้วลูบแก้มหญิงสาวเล่นอย่างรักใคร่ เสียงลูกศิษย์ของนัตสึกิที่รู้สึกว่าจะรู้สัมมาคารวะวันนี้เป็นพิเศษ เอาแต่เล่นอยู่ข้างนอกดังจ๊อกแจ๊ก โควตะยกหัวขึ้นหมายจะหอมแก้มคู่หมั้นเสียหน่อยแต่
.
"เดี๋ยวน่ะ!!!" เขาเอ่ยกับนัตสึกิ แล้วลุกขึ้นเดินออกไป แม้จะโซเซเล็กน้อยแต่ก็ทรงตัวได้แล้วเปิดบานประตูออก นายทหารกว่ายี่สิบคนที่เป็นสายมาจากแต่ละกองที่กำลังใช้หูแนบประตูอย่างหมายมั่น หวังจะเอาข่าวไปเล่าสู่กันฟังที่ค่ายตนร่วงกรูลงมา พอตั้งสติได้ต่างคนก็ต่างเงยหน้ามองแม่ทัพใหญ่ที่จ้องมองลูกน้องตัวแสบอย่างเกรี้ยวกราด แล้วแสยะยิ้มอย่างโหดเหี้ยม
"วิดพื้นพันที แล้วพูดว่าจะไม่ทำอีกแล้ว ปฏิบัติ!!!" แม่ทัพใหญ่คำราม ทำให้ทหารยี่สิบนายที่โชคร้ายลงไปวิดพื้นอย่างไม่มีข้อกังขาใดๆทั้งสิ้น โควตะมองจนพอใจแล้วปิดประตูเข้า เขาพบว่านัตสึกิหายไปเสียแล้ว จึงเดินตามเข้าไปยังห้องพยาบาล พบว่านัตสึกิกำลังป้อนข้าวป้อนน้ำซาโอะปากเปราะอยู่ เจ้าตีนแมวที่ทำท่าเยาะเย้ยนั้นเป็นที่ขัดหางตาของโควตะเป็นอย่างมาก
"มา!!! ข้าป้อนเองดีกว่า" โควตะฉวยชามข้าวจากมือคู่หมั้นไป แล้วยัดใส่ปากย่องเบาทันทีด้วยความหมั่นไส้
"โอ๊ย!!! อ๋อนอ้อน!!!(ร้อน ร้อน)" ซาโอะร้องโหวกแหวก
"ว่าที่ฮูหยินข้าโว้ย!!! รู้ไว้เสียด้วย" โควตะขบฟันกระซิบใส่หูตีนแมวขณะที่นัตสึกิกำลังไปต้มยา
"แม่ง!!" ซาโอะสบถขณะที่กลืนอาหารลงกระเพาะจนแทบทำให้คอหอยพอง
"เอาเหอะว้า!!! ถือว่าหมดคู่แข่งจีบหญิงไปคน" ซาโอะลอยหน้าลอยหน้า นัตสึกิยกยาเข้ามา พลางทำท่าจะพันผ้าพันแผลให้ใหม่
"ไม่ต้องหรอกเดี๋ยวให้มาคุมาเปลี่ยนให้ดีกว่า" โควตะรีบดึงผ้าพันแผลออกจากมือนัตสึกิอย่างรวดเร็ว ซาโอะทำหน้าเบ้
"ว่าแต่แขนข้าเป็นไงบ้าง?" ซาโอะเรียกร้องความสนใจ นัตสึกิหน้าเศร้า
"เกรงว่าใช้งานได้ แต่คงไม่เหมือนเดิม เพราะเอ็นที่ข้อต่อไม่แข็งแรง แขนขวาคงทำได้แต่งานเบาๆ
" เธออุบอิบ ซาโอะเป็นช็อคไปนิดหน่อย แขนเขาจะใช้หนักไม่ได้อีก โควตะตบไหล่อย่างเห็นใจ
"ช่างเถอะ!!! อย่างน้อยก็ยังใช้ได้" เจ้าตัวมองโลกในแง่ดี
. . . . . .
หลังจากที่จัดการทุกสรรพสิ่งเสร็จ กองทัพก็พร้อมที่จะผ่านไรโบเซ็นออกไป การอำลานั้นไม่น่าจะเกิดขึ้นกับพวกเขา เจ้าเมืองนั้นออกมาอำลาโควตะโดยไม่มีนัตสึกิ
"นางไม่ยอมมา
" นั้นคือคำตอบที่เขาได้รับ โควตะยิ้มแล้วพยักหน้า กองทัพกรีฑาทัพออกไป
นัตสึกินั้นนั่งอยู่คนเดียวในห้อง เธอไม่ยอมออกมาตั้งแต่เช้าแม้รู้ว่าจะได้พบกันอีกแต่โอกาสเลือนลางเหลือเกิน เสียงเคาะประตูดังขึ้น นัตสึกิเดินออกไปเปิดประตู ไอซาโน่ตัวน้อยยืนอยู่ข้างหน้า
"อะไรหรือจ๊ะ?" นัตสึกิถาม ไอซาโน่ไม่ตอบ เขาค้นภู่หมวกสวยงามกับจดหมายฉบับหนึ่งให้
"ทามะฝากมาให้ครับ" ไอซาโน่ยื่นให้นัตสึกิ หญิงสาวรับภู่หมวก และจดหมายมาอ่าน
ถึง นัตสึกิ
ข้าไม่มีของสำคัญอะไรไว้ให้เจ้าดูต่างหน้า
เว้นแต่ ภู่หมวกทหาร ที่มีความสำคัญเช่นชีวิตของทหารผู้นั้น
ข้าถอดมันไว้ ฝากกับเจ้า ซึ่งดุจเป็นชีวิตของข้า
จงเก็บไว้ให้ดี มันอยู่กับข้ามาตั้งแต่เริ่มออกรบ
ปล. จะกลับมารับแน่นอน
โควตะ
.
หญิงสาวกอดจดหมายไว้กับอก น้ำตาแห่งความปลื้มปิติไหลรินออกมา ข้าเชื่อว่าท่านจะกลับมารับข้า โควตะ ว่าที่สามีของข้า
. . . . . .
กองทัพที่มีโควตะเป็นแม่ทัพใหญ่ใช้เวลาถึงเดือนกว่าจึงจะมาถึงเมืองหลวง นายทหารทั่วไปจนถึงมาคุอดสงสัยไม่ได้ว่าภู่หมวกของโควตะหายไปไหน? แต่ก็ไม่มีใครกล้าถาม จนกองทัพของโควตะมารวมกับอีก 2 กองทัพเพื่อกระทำศึกสุดท้ายที่เมืองหลวง กองทัพของโทงาริมาถึงเป็นคนแรก กองทัพของโควตะก็มาถึงถัดมาและซาไอก็ตามมาในอีกไม่กี่ชั่วโมง
นายทหารทั้งสามกองทัพเข้าไปรวมกัน และได้เวลาที่ทหารในกองทัพของโควตะจะแสดงแสงยานุภาพว่าการรบของตนดุเดือดแค่ไหน ไม่ต้องสงสัยเลยว่าข่าวเรื่องของนัตสึกิก้องขจรกระจายได้ในเวลาเพียงไม่กี่วัน หลังจากเหล่าแม่ทัพทั้งหลายมารวมตัวกันและหารือเสร็จ แยกย้ายไปเรียบร้อย ซาไอที่นั่งเครียดอยู่ก็สังเกตหมวกเกราะของโควตะ
"โควตะ ภู่ของเจ้าหายไปไหนล่ะ?" ซาไอชี้ ภู่หมวกนับศักดิ์เท่าศรีษะของนายทหารผู้นั้น หากถูกทำลายภู่หมวกเท่ากับหยามเกียรติอย่างสูง ฉะนั้นทหารถึงตายก็ไม่ยอมให้ภู่หมวกห่างตัว แต่โควตะเหลียวกลับมาแล้วยิ้ม
"เอาไปหมั้นสาวไว้เรียบร้อยแล้ว
" เขาตอบเรียบๆ กับท่าทีผงะของซาไอ
.
|