|
ในเมืองไรโบเซ็นมีกลุ่มคนจนอพยพภัยสงครามเข้ามาอยู่ ระหว่างที่ก้าวเข้ามา ชาวบ้านมิได้กีดกั้น แต่ก็มิได้ต้อนรับ โควตะนั้นแอบซ่อนอยู่ในขบวนนั้น เขากระโดดหย๋องแหย๋งไปตามถนนเมื่อแยกกลุ่มออกมา
"วะ ฮ่าๆๆๆ เจ้ามาคุเอ๋ย คิดห้ามข้า สุดท้ายข้าก็เผ่นออกมาจนได้" เสียงชายพเนจรเอ่ยขึ้น ภายใต้ชุดเก่าขาดเกรอะด้วยโคลน ภายในโควตะซ่อนอยู่ภายใน เขาหัวเราะอย่างสะใจที่หนีเข้าเมืองได้ โควตะเดินท่อมๆไปเรื่อยๆจนมาได้ยินเสียงขลุ่ย ที่น่าสนใจคือมีผู้มุงดูอยู่มากมาย โควตะเกิดความสนใจขึ้นทันที
"ให้ตายเถอะ โชว์อะไรกันมองไม่เห็น" เขาสบถพลางพยายามมุงดูจนท้อใจจึงหันมาถามคนข้างๆแทน
"พี่ชายๆ ขอโทษเถอะ เขาดูอะไรกัน" โควตะถาม
"เขาดูกันที่ไหน?" ชายหนุ่มค้อน
"เราฟังกันต่างหาก" ผู้นั้นตอบ พอดีมีคนเดินออกไป โควตะจึงแทรกเข้าไป เขาพบหญิงผู้หนึ่งนั่งเป่าขลุ่ยอยู่ มีเด็ก 7-8 คนล้อมวงเต้นรำ เขาจ้องมองไปที่หญิงผู้นั้นเธอสวมชุดทหาร ปากเป่าขลุ่ย เขานึกไปว่า ที่นี่มีทหารหญิงเยอะดีเหลือเกิน
"แล้วนั้นใครน่ะพี่ชาย?" โควตะถาม ชายผู้เดิมหันมาเลิกคิ้ว
"เจ้าไม่รู้จักหรือ?" เขาเอ็ด
"ไปอยู่ไหนมา คุณหนูใหญ่นัตสึกิไงล่ะ ต้องบอกเจ้าด้วยไหม? ว่านางคือบุตรสาวคนโตของท่านเจ้าเมืองวารางิ" แล้วชายคนนั้นก็เดินจากไปด้วยความรำคาญ โควตะตะลึง แล้วทั้งพิศทั้งมองหญิงสาวที่เป่าขลุ่ย คนอะไรเป่าขลุ่ยเก่งเหลือเกิน!!! เขานึกชม ใจก็เคลิ้มตามเสียง หารู้ไม่ว่ามีทหารเฝ้ารักษาเมืองตามล่าเขาอยู่ เพราะสงสัยว่าเป็นผู้สอดแนม
"เจ้าน่ะ!!!" ทหารผู้หนึ่งรวบตัวไว้
"ไปกับเราเสียดีๆ ไปสอบสวน" อีกคนหนึ่งทำท่าจะลากตัวโควตะไป โควตะเกือบออกแรงต่อสู้กับเจ้าสองคนนี้แต่ก็นึกขึ้นได้ เขาแสร้งรีบคลานผ่าวงล้อมเข้าไปหานัตสึกิทันที ฝูงชนแตกฮือออก นายทหารไล่ประชิดเข้า โควตะแกล้งลงไปทรุดอยู่เบื้องหน้าหญิงสาว ปากก็เล่นมารยาทันที
"ช่วยด้วยขอรับ คุณหนูนัตสึกิ พวกนี้จะจับข้า" โควตะในคราบคนพเนจรร้องตะโกน
"เกิดอะไร?" นัตสึกิส่งเสียงที่มีอำนาจออกมา ทหารหยุดชะงักโดยอัตโนมัติ จนโควตะนึกชื่นชม
"เราเกรงว่าเขาจะเป็นคนสอดแนมขอรับ" ทหารตอบ นัตสึกิปาดตาแลลงมา โควตะรีบมารยาเพิ่มโดยการคลานคุดคู้ไปกอดแทบเท้าหญิงสาว สีหน้าของนัตสึกิอ่อนลง
"ข้าจะจัดการกับเขาเอง ขอบใจพวกเจ้ามาก ปฏิบัติงานได้ดีเยี่ยม" เธอตบไหล่นายทหารทั้งสองที่อ่อนเยาว์กว่า ฉับพลันก็ชักดาบขึ้นมาจ่อที่คอทั้งสอง พวกเขาหลบแทบไม่ทัน
"ประสาทนักรบต้องตื่นตัวตลอดเวลา หนุ่มน้อย" เสียงกังวานเคร่งขึ้น พลางเก็บดาบเข้าฝัก
"พวกเจ้ามีพื้นฐานประสาทดี ฝึกอีกหน่อยได้อยู่ในชั้นแนวหน้าแน่" นัตสึกิชมทหารทั้งสอง ทำเอาพวกเขายิ้มแป้นก่อนที่จะก้มโค้งแล้วลาไปทำหน้าที่ต่อไป
"เป็นอะไรไหม หนุ่มน้อย" นัตสึกิหันมาสนใจกับโควตะในคราบคนพเนจร
พูดเหมือนว่าอายุมากกว่าผู้ชายทั้งโลกนี้งั้นแหละ!! โควตะประชด แต่ก็แอบปลื้มใจกับคุณหนูผู้ใจดีคนดีไม่ได้
"ไม่เป็นไรขอรับ" โควตะเงยหน้า นัตสึกิมีทีท่าแปลกใจเล็กน้อย ก่อนที่จะพูดต่อไป
"ท่าทางจะไม่ใช่หนุ่มน้อยแล้วสิ เจ้าคงอายุมากกว่าข้านะ พ่อหนุ่ม!!! ข้าอยู่กับคนอายุน้อยกว่าจนชินเสียแล้ว" เธอยิ้ม โควตะนึกชอบนัยน์ตาสีดำคู่นั้นจนเกือบยกมือขึ้นลูบ แต่นึกขึ้นได้ว่าเขาเป็นคนพเนจรอยู่ เขาชอบน้ำเสียงที่เหมือนเสียงพิณนั้น มันไม่เบาหรือดังเกินไป ฟังได้เรื่อยไม่รู้เบื่อ นัตสึกิลุกขึ้นพลางก้มหน้าลงถามอย่างใจดี
"เจ้ามีเงินไหมพ่อหนุ่ม? คงไม่มีแน่ถ้าเดินท่อมๆในเมืองอย่างนี้" นัตสึกิเอ่ย โควตะไม่ต้องการเงิน เขาอยากอยู่ใกล้ผู้หญิงคนนี้เสียหน่อย เธอท่าทางอันตรายกว่าแม่ทัพคนใด เพราะเธอเป็นผู้หญิงนั้นเอง!!! โควตะแสร้งทรุดตัวลงอย่างรวดเร็ว เขาโขกหัวกับพื้น
"ท่านนัตสึกิขอรับ ได้โปรดรับข้าเป็นข้ารับใช้ด้วยขอรับ ข้าไม่มีที่ไป เป็นคนพเนจร เป็นคน
"
"เอาล่ะๆ" นัตสึกิถอนใจอย่างใจอ่อน แววตาอ่อนโยนส่อประกายมา
"ได้สิตามมา พ่อหนุ่ม" เธอขึ้นม้า ขณะที่โควตะเดินตามไป พวกเขาเดินไปด้วยกัน โควตะเห็นขลุ่ยที่อยู่บนตักเธอ
"ชื่ออะไร? เจ้าน่ะ" เธอถามอย่างใจดี โควตะคิดว่าเธอเป็นคนมีมารยาทมาก เธอจะมองหน้าทุกครั้งที่จะพูดกับใครก็ตาม เป็นการให้เกียรติอย่างยิ่ง โควตะเหลือบตาก็ที่จะตอบ
"ทามะขอรับ" เขาตอบ พลางยิ้มกลบเกลื่อน
"ทามะหรือ?" นัตสึกิทำท่าครุ่นคิด
"เรียบง่ายดีน่ะ" เธอชม โควตะยิ้ม เป็นผู้หญิงที่มองโลกในแง่ดีเหลือเกิน แทนที่จะพูดว่าชื่อโหล่เหลือเกิน กลับพูดว่า เรียบง่าย
ดีน่ะ
ประทับใจจริงๆ
. . . . . . .
"เจ้าไปเอาใครกลับมาอีกฮึ!!! นัตสึกิ" ชายชราเอ็ดตะโร พลางชี้โบ๋ชี้เบ้ไปที่ทามะหรือโควตะ
"ข้าจะมีคนสนิทไม่ได้หรือค่ะ? ท่านพ่อ" นัตสึกิพูดเรียบๆ พลางหันหลังกลับ ชายชราถอนใจอย่างอ่อนใจ
"ไปเถอะ ทามะ!!!" หญิงสาวหันกลับมาเรียก ชายชราเงยหน้ามอง
"ให้เขาคุยกับพ่อก่อน!! นัตสึกิ" ชายชรากล่าว หญิงสาวอ้าปากจะเถียง แต่ก็ตัดใจก้มหัวแล้วเดินออกไป หลังจากฝีเท้าเงียบลง ชายชราก็เอ่ยปากถามโควตะทันที
"เจ้าอยากได้อะไร?" ชายแก่กล่าวเสียงเข้ม
"..?.." โควตะงง เขาแค่อยากรู้จักนัตสึกิเท่านั้น
"ข้า
" โควตะอ้ำอึ้ง
"อยากเป็นลูกเขยข้า เพราะอยากได้สมบัติ ข้าให้เจ้าได้น่ะ
แต่อย่ามาหลอกลูกสาวข้าเล่นเลย" ชายแก่ทำท่าเคร่ง
"ข้าไม่ได้สนอะไร ข้าแค่ไม่ที่ไปเท่านั้น
ท่านเจ้าเมือง
แค่ให้ข้าวกินข้าก็พร้อมทำงานทุกอย่าง" โควตะว่า
"คงปากแข็ง" ชายแก่พูด โควตะนึกสงสารคุณหนู
"งั้นข้าจะเล่าให้เจ้าฟัง จะได้สงสารข้าบ้าง" ชายแก่ทรุดตัวลงบนเก้าอี้ ปากเม้ม
"นัตสึกิเป็นลูกสาวคนโตของข้า ในวงลูกสาว 7 คน
นางเป็นคนที่ดื้อรั้นที่สุดในวงลูกสาว 7 คน และเป็นคนที่ฉลาดที่สุดด้วย" ชายแก่ก้มหน้า กุมมือตัวเองอย่างสะกด
"นางเป็นลูกสาวคนเดียวของเมียหลวงข้า ถึงได้ฉลาดเหมือนแม่ เมื่อแม่นางตายอีกปีข้าก็แต่งงานใหม่ขณะที่นางอายุได้ 5 ขวบ เมียข้าคนใหม่นั้นเป็นคนสวย นางถึงเรียกนัตสึกิว่า อัปลักษณ์ นางถึงได้ทำตัวดื้นรั้น และข้าก็ไม่สนใจนาง แต่พอโตมา คนที่คอยดูแลข้าก็คือนาง"ชายแก่ลุกขึ้น
" นัตสึกิเป็นทายาทครองเมืองใครๆก็อยากแต่งงานด้วย แต่ไม่มีคนจริงใจกับนางแม้แต่คนเดียว นางจึงตัดสินใจไม่แต่งงาน เจ้าอย่าทำให้นางเจ็บช้ำกว่านี้
ถือว่าข้าขอร้องเจ้าหนุ่ม ไปเสียเถอะ
ข้าจะให้เงินเจ้า ไปซะ" เขาบอก โควตะแข็งขืน
"ข้าเพียงต้องการงานขอรับ" เขาบอก
"แค่นั้น?
." ชายแก่ทวน โควตะพยักหน้า ชายแก่ถอนใจให้กับความใจแข็ง
"งั้น
นัตสึกิอยู่ที่สวนท้อ สอนลูกศิษย์ของนางอยู่" ชายชราบอกอย่างระอา โควตะทำความเคารพก่อนที่จะเดินออกไป เขาเดินไปได้ถูกทางเพราะเสียงขลุ่ย เขาลัดเลาะไปตามทางก็พบหญิงสาวเป่าขลุ่ยให้ลูกศิษย์ตัวน้อยๆ 3 คนที่เกาะตักของเธอฟังอยู่ เสียงขลุ่ยหยุดลงเมื่อโควตะมาหยุดอยู่ริมประตู เด็กๆหันมามองตาแป๋ว
"นั้นไงจ๊ะทามะ" เธอลูบหัวเด็กๆอย่างเอ็นดู เด็กวิ่งเข้าห้อมล้อมโควตะส่งเสียงกันใหญ่
"สวัสดีขอรับ" โควตะคุกเข่าให้เด็กๆ นัตสึกิเอ็ดเด็กๆให้ทำตัวให้เรียบร้อย
"นี่
ซันจิ โชนิ ไอซาโน่" เธอแนะนำเด็ก โควตะก้มหัวให้
"ท่านคือทามะ?" เด็กที่ท่าทางขี้อายหลบอยู่หลังนัตสึกิเอ่ย โควตะยิ้ม
"ขอรับ ข้าคือทามะ"
"เขาคือสหายคนใหม่ของข้า พาเขาไปดูห้องสิ..โชนิ" เธอสั่งให้เด็กชายคนหนึ่งที่หลบอยู่ข้างหลัง เขาวิ่งออกไป ทามะก็เดินตามไป
"ถึงแล้วครับ" เด็กน้อยเอ่ย ไม่ทีท่าดูถูกคนพเนจร ช่างสอนมาดี!!! โควตะคิด เมื่อมาถึงห้องหนึ่ง โควตะเดินเข้าไป โชนิเดินตามเข้ามา
"ทามะครับ" เขาเรียก
"ข..ขอรับ ท่านโชนิ" โควตะหันกลับมา เด็กน้อยมีท่าทีขัดเขิน
"ไม่ต้องเรียกข้าว่าท่านก็ได้
" เด็กน้อยบิดตัวไปมา แล้วทำท่าจริงจังขึ้นมา
"ท่านจะมาหลอกอาจารย์หรือเปล่า?" เด็กน้อยทำหน้าบึ้ง โควตะเลิกคิ้วอย่างงงงวย
"ถ้าท่านมาหลอกอาจารย์
ข้าไม่ต้อนรับท่านหรอกน่ะ ไม่อยากเห็นอาจารย์ร้องไห้" เด็กน้อยกล่าว
"ทำไมหรือขอรับ? ทำไมท่านนัตสึกิต้องร้องไห้?" โควตะถามเด็กน้อย เด็กน้อยทำท่าเป็นผู้รู้ เขาร้องขาดๆแต่โควตะก็พอจะต่อเรื่องได้
"ก็มีผู้ชายมาหลอกอาจารย์ เอาของมาให้ มาพูดหวานๆ แล้วก็ไปพูดลับหลัง เรียกอาจารย์ว่า นังอัปลักษณ์" โชนิรีบหุบปากเหมือนพูดหยาบคายออกไป แล้วรวบรวมความกล้าพูดต่อ
"พวกเขาอยากได้สมบัติท่านเจ้าเมือง พออาจารย์รู้ก็ไล่ไป แล้วก็มาร้องไห้" โชนิพูด
"แล้วก็กอดพวกเรา
หมายถึงข้า ซันจิ แล้วก็ โอซาโน่ แล้วก็บอกว่าคนที่รักอาจารย์มีแต่พวกเราเท่านั้น" โชนิยื่นหน้าเข้ามา
"ข้ารักอาจารย์ ถ้าท่านจะมาหลอกอาจารย์ ข้าก็เกลียดท่าน" โชนิขมวดคิ้วใส่เป็นเชิงถาม โควตะทรุดกายอุ้มเด็กน้อยขึ้น
"ข้าน้อยไม่ทำอย่างนั้นหรอกขอรับ.." โควตะบอก โชนิลายคิ้วออกข้างหนึ่ง
"แล้วก็
ข้าคิดว่าท่านนัตสึกิเป็นผู้หญิงที่สวยมากคนหนึ่งเลยขอรับ" เด็กน้อยยิ้ม
"ข้าก็คิดว่าอาจารย์สวยที่สุดในโลกเลย" โชนิกางมือ แล้วทั้งสองก็ออกไปด้วยกัน
.
. . . . . . .
ค่ายทหาร ทหารวิ่งกันวุ่น เนื่องจากแม่ทัพโควตะหายตัวไป มาคุสบถแล้วสบถอีก เขากุมขมับเมื่อนึกขึ้นได้ว่าโควตะอาจแอบเข้าไปในเมือง
"ท่านโควตะน่ะท่านโควตะ!!!" เขาขบฟัน
"บอกว่าไม่สวยก็ไม่เชื่อ กลับมาเมื่อไรได้บ่นยาว" เขาบ่น พลางเดินไปเดินมาอย่างหัวเสีย นายทหารคนหนึ่งพลุกเข้ามาในกระโจม มาคุหันไปหา
"มีอะไร?"
"เจอพิราบสื่อสารขอรับ" เขาบอกพลางหอบแฮกๆ มาคุรีบรับมาคลี่ออก ในใจคิดว่าเป็นจดหมายขอความช่วยเหลือจากไรโบเซ็นเช่นเดียวกับที่เคยดักจับได้กว่า 10 ฉบับเมื่อไม่กี่วันมาแต่
"ท่านโควตะ!!!" มาคุอุทาน พลางอ่านจดหมายจากโควตะจนจบแล้วถอนใจ แล้ววิ่งไปนอกกระโจม!!!
"เฮ้!! พวกเจ้าไม่ต้องหาแล้ว ท่านโควตะเข้าไปสอดแนมจนถึงจวนเจ้าเมืองศัตรูแล้ว!!! ท่านเขียนมาบอกในจดหมาย" มาคุตะโกน นายทหารแทบทุกคนหันมาดู บางคนหยุดการค้นหา บางคนซุบซิบกัน บางคนตะโกนถาม
"ท่านโควตะเขียนว่าอย่างไรล่ะท่าน?" นายทหารถามขึ้น หลายคนพึมพำเห็นด้วย มาคุขมวดคิ้วพลางมองข้อความในจดหมาย แล้วถอนใจก่อนที่จะอ่านให้นายทหารฟัง
"เจ้าบ้ามาคุ!!! นัตสึกิอัปลักษณ์ตรงไหน? น่ารักจะตาย ไอ้จอมโกหก!!!" ท่านโควตะน่ะท่านโควตะ
|