[HOME] [สารบัญ] l 1 l 2 l 3 l 4 l 5 l 6 l 7 l 8 l 9 l 10 l 11 l 12 l 13 l 14 l 15 l 16 l 17 l 18 l 19 l 20 l 21 l 22 l 23 l 24 l 25 l 26
     l 27 l 28 l 29 l 30 l 31 l 32 l 33 l 34 l 35 l 36 l 37 l 38 l 39 l 40/1 l 40/2 l 41 l 42 l 43/1 l 43/2 l 44 l 45
     l 46 l 47 l 48 l 49/1 l 49/2 l 49/3 - fin l

บทที่ 22 ศึกบนหลังม้าที่เปรียบดั่งลมพัดมาบอกล่วงหน้า


หลังจากนั้นไม่นาน ทัพของเมืองไรโบเซ็นที่มีน้อยกว่าก็เริ่มป้องกันเมือง โควตะเห็นหนทางชนะที่ง่ายดาย ทั้งกำลังทัพกับกำลังใจทหารพร้อมประจันกับไรโบเซ็น แต่เขาไม่ยักอยากจะสู้เสียเลย การสู้กับไรโบเซ็นเหมือนกับการกัดกร่อนใจไปทีละน้อย ไม่นานนักทัพของไรโบเซ็นก็นำทัพปกป้องเมืองเฝ้าอยู่แต่ในตัวเมือง การออกมานั้นเหมือนการฆ่าตัวตาย ทำได้เพียงเฝ้าในเมือง ผิดกับกลยุทธแรกๆที่ออกมาลุยกับโควตะ โดยยึดหลักไม่ชำนาญยุทธภูมิและทหารเหนื่อยอ่อนจากการเดินทาง แต่ก็แพ้กลับไปยับเยิน แต่ครั้งนี้การตั้งรับ ถือเป็นการตั้งรับอย่างแข็งแกร่ง เพราะปราสาทเมืองไรโบเซ็นทำจากหินแกร่ง ฉะนั้นการทะลวงเข้าไปนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย การที่จะเอาชนะได้มีทางเดียวคือ ต้องล่อกองทัพของไรโบเซ็นออกมาสู้ด้วยให้ได้….

ในตอนแรกๆนั้นไรโบเซ็นป้องกันเมืองอย่างแข็งขัน ไม่มีทหารนายไหนกล้าย่างออกมาสู้กับโควตะเลย แต่ด้วยฝีมือการล้อเลียน และเหยียดหยามของมาคุ ในที่สุดยามาดะก็ทนคำหยามไม่ไหวขัดคำสั่งเจ้าเมืองควบม้ากับกองทัพ 2500 คน มาด้วยอาการไม่เต็มร้อย(เมาแอ๋นั่นเอง!!!) มาเจอกับโควตะ ทั้งสองตะโกนข่มขวัญกันสักครู่ แล้วก็เข้าประอาวุธกัน ทวนของโควตะนั้นแม้จะเสียเปรียบเล็กน้อยแต่ด้วยประสบการณ์ของเขายังสู้ยามาดะได้ ทั้งสองประอาวุธตัวต่อตัวกันถึง 30 กว่าเพลงก็ยังไม่มีใครพ่ายแก่ใคร ทวนของทั้งสองผลัดกันสาดใส่คู่ต่อสู้ไปมาพร้อมกับหลบทวนคู่ต่อสู้ด้วย เลือดนั้นออกพอๆกับเหงื่อเลยทีเดียว โควตะรู้สึกร้อนภายใต้เสื้อเกราะเหล็ก แสงแดดร้อนทำให้โควตะยิ่งเดือดพล่าน เขาโกรธตัวเอง หลายครั้งที่เขาเผลอเหม่อมองในขณะสู้รบไปที่กำแพงเมืองและหวังให้นัตสึกิออกมาดูการรบครั้งนี้ สักครั้งหนึ่งที่เขาจะได้เห็นหน้าหญิงสาว นั้นทำให้เขาถูกโจมตีโดยไม่มีการป้องกัน เขานึกโกรธที่ยามาดะโจมตียามเขาเผลอ ยามาดะยิ้มยั่ว

เขาคิดว่าการทำให้โควตะโกรธจะยิ่งทำให้โควตะยิ่งวู่วามโจมตีโดยไม่มีการป้องกันยิ่งขึ้น แต่เขาคิดผิด ด้วยแม่ทัพโควตะแม้จะเป็นคนชอบทำอารมณ์อยู่บ้างซึ่งเป็นหายนะอย่างหนึ่งในตัวเขาเมื่อไม่มีซาไอคอยปราม แต่…ครั้งนี้เขาเยือกเย็นภายใต้ความโกรธ ทั้งที่อยากจะระเบิดออกมาให้ได้ อยากสาดเพลงทวนใส่ศัตรูตรงหน้า แต่เขาก็ทนรับเพลงทวนของยามาดะ เขาตัดกำลังโดยไม่โต้ไปเรื่อยจนยามาดะได้ใจ ปลดความระวังป้องกันลงเรื่อยๆ จนไร้กาดป้องกัน ยามาดะลงทวนอย่างรวดเร็วและในใจคิดเพียงว่า"เอาชนะ" โดยไม่ได้คิดว่าโควตะจ้องเล่นงานเขาดู ในที่สุดเมื่อเริ่มเพลงทวนที่ 55 โควตะเห็นจุดโหว่ของยามาดะ คือรอยแยกของเสื้อเกราะที่สีข้างขวานั้นเอง

ยามาดะแทงทวนมาเฉียดตาขวาของโควตะไปเพียงนิดเดียวโควตะใช้ช่วงเวลานั้นแทงไปยังรอยแยกอย่างแม่นยำ เป็นผลให้ยามาดะร่วงจากม้าทันที ฝุ่นตลบไปชั่วครู่แล้วยามาดะก็ทำท่าจะคว้าทวนขึ้นมาสู้ ขณะแขนซ้ายยังกุมแผลอยู่ การลุกอย่างทุลักทุเลถูกหยุดด้วยปลายทวนของโควตะ ช่วงเวลานั้นโควตะคาดว่าจะได้ยินเสียงโห่ร้องยินดีของทหารของตน แต่ประสาทของเขาคงไม่รับรู้ เมื่อเขาชี้ไปที่คอของโควตะ สิ่งแรกที่เขาทำต่อจากนั้นคือ…การเงยหน้ามองไปที่กำแพงเมืองเพื่อมองหานัตสึกิ โควตะเห็นนัตสึกิ เธอมองอย่างเศร้าๆลงมา แล้วรีบกลับเข้าไปทันทีเมื่อเขามองขึ้นไป แค่นั้นก็พอแล้ว… โควตะหันกับมามองยามาดะอีกครั้ง

"ข้าจะไม่ฆ่าเจ้า เพราะเจ้าแพ้แล้ว…" เขาหอบ

"จงนำกองทหารของเจ้ากลับเข้าเมืองไปซะ และยอมให้เราผ่านไปแต่โดยดี ไม่เช่นนั้นข้าจะลุยถล่มเมืองเจ้าซะ ไป!!!" โควตะตวาด ยามาดะพยุงตัวขึ้นด้วยทวน มีทหาร 2-3 คนมาช่วยเขาขึ้นม้า ทัพนั้นถอยเข้าเมืองอย่างง่ายดาย แต่ก่อนที่ยามาดะจะถอยเข้าสู่ประตูเมือง

"หยุดก่อน!!!" ยามาดะหันกลับมา โควตะที่ควบมาเข้ามาหอบ

"ฝากบอกท่านนัตสึกิด้วย…ว่าข้าขอโทษ" โควตะเอ่ย ยามาดะยิ้มเยาะใส่

"แล้วจะบอกให้…."เขาทิ้งท้าย แล้วทั้งกองทัพเมืองไรโบเซ็นก็หายเข้าไปประตูเมืองอย่างสมบูรณ์

"ท่านโควตะ!!!" มาคุควบม้ามาหา โควตะมองหน้าอย่างรู้ทัน

"จริงอย่างที่เจ้าจะพูด มาคุ ถอยทัพ!!!" โควตะสั่ง

"ข้าคงต้องทำแผลเสียหน่อย…." เขาพูด พลางมองกำแพงเมื่อก่อนที่จะควบม้าออกไป

. . . . . .

ต่อจากนั้นหลายวันยามาดะที่โดนเข้าสาหัสพอสมควรออกมาเดินเหินได้อย่างปกติ วารางิเอ็ดตะโรเขายกใหญ่ที่ทำตามอำเภอใจ และหันมาเปรยว่า อาจเป็นทางออกที่ดีที่จะให้กองทัพของโควตะเดินผ่านไป เพราะเป็นการไม่สูญเสียทางทรัพย์สินและสถานการณ์ทางเมืองหลวงอาจดีขึ้น ซึ่งซามะคัดค้านสุดขีด เพราะเขารับสินบนมาจากมิโดริแล้วนั้นเอง วารางิฟังแล้วก็ส่ายหน้า หันมาถามเรื่องสู้แทน

"เท่าที่ข้าสู้กับเขา ข้าเห็นว่า…เขาเป็นคนดีพอสมควรเลยล่ะ" ยามาดะว่า อังโคขุ มิฮาโอะ พยักหน้าเห็นด้วย แล้วต่างคนก็จิบเครื่องดื่มหน้าตน นัตสึกิเดินเข้ามาพอดี จิโฮที่ยืนอยู่หน้าประตูหลีกทางให้ เธอถือถาดน้ำชาเข้ามาด้วย

"น้ำชาค่ะ!!!" นัตสึกิวางน้ำชาลงแล้วรินส่งให้เจ้าเมืองเป็นคนแรก

"ท่านซามะลองชิมน้ำชาของนัตสึกิดูสิ รสเลิศที่สุดในเมืองเชียว… แม้ร้านน้ำชายังสู้นางทำไม่ได้เลย" วางาริส่งน้ำชาให้ขุนนางลับ เขารับไปดื่ม ส่วนนัตสึกิก็ส่งน้ำชาให้แต่ละคน ยามาดะทำท่านึกขึ้นได้

"นัตสึกิ… เจ้าแม่ทัพโควตะมันฝากมาบอกว่า…ขอโทษเน่ะ" ยามาดะพูดแล้วจิบน้ำชา นัตสึกิเงยหน้าอย่างเย็นชา

"ข้าไม่รู้จักเขาแล้ว.." เธอพูดช้าๆแล้วเก็บถาดน้ำชาออกไป จิโฮตบบ่าของยามาดะที่ร้องโอย

"นัตสึกิเพิ่งหยุดร้องไห้ได้แล้วเชียว…อย่าไปพูดถึงอีกล่ะ" จิโฮเอ็ด

"เฮอะ…ทีร้องเจ็บใจคนอื่นล่ะไม่ถึงวินาที ทีไอ้หมอนี่ล่ะร้องเป็นอาทิตย์เชียว!!!" มิฮาโอะพูดอย่างขบฟัน

"ของมันช่วยไม่ได้นี่นา" อังโคขุว่า วารางิถอนใจเฮือก ซามะกลอกตามองทุกคนในห้อง ไม่มีใครรู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่….

หลังจากนั้นไม่นานมีแนวโน้มว่า โควตะจะบุกเข้ามาจริงๆ ทำให้เจ้าเมืองวิตกว่าเขาจะบุกเข้ามาได้ เพราะด้วยกำลังทัพ และแผนการของโควตะที่ประเมินแนวไม่ได้ ทำให้การท้ารบของมาคุเป็นผลอีกครั้ง เมื่อไรโบเซ็นได้ลงมือวางแผนปล้นค่ายยามดึก ทำให้ฝ่ายของโควตะอลหม่านเป็นอย่างมาก ทหารเสียขวัญโกรธแค้น ในวันรุ่งขึ้นก็ส่งจิโฮและกำลังทัพที่เหลือเพียง 6000 จาก 7000 ออกบุกค่ายของโควตะอย่างที่ไม่ทันได้ตั้งตัว ส่งผลให้โควตะพ่ายแพ้ที่ไม่ถึงกับยับเยิน เพียงแต่เสียทีเท่านั้น โดยไม่ต้องกล่าวถึงคนร่างยักษ์คนนั้น โควตะเพิ่งเคยเห็นคนที่มีพละกำลังมากขนาดที่แหกทหาร 100 คนที่ยืนขวางได้สบายๆ จิโฮนำทหาร 6000 นายตะลุยเดียวทหาร 30000 โดยมิทันตั้งตัว อย่างไปหวังผลชนะเลย โดยการใช้ทหารน้อยกว่าบุกตรงๆอย่างนี้ แต่ก็ทำให้ฝ่ายโควตะสับสนได้เป็นอย่างดี นายทหาร 30000 นายถอยร่นไปหลายกิโลเมตร จิโฮนั้นยิ่งซ้ำกระหน่ำเข้ามาอีก คนร่างยักษ์ที่ชื่อจิโฮนั้น...

โควตะก็อยากรู้เหมือนกันว่าจะแกร่งสักเพียงใด เขากระโจนขึ้นม้าเพื่อลองเข้าไปขัดตาทัพชั่วคราว แล้วก็ให้มาคุพาทหาร 20000 หนีไป ส่วนเขาใช้ทหาร 10000 เข้าตะลุมบอนกับจิโฮ นายทหารของเขาเข้าสู้กับทหารของจิโฮและเขาก็สู้กับจิโฮเพียงตามลำพัง พละกำลังที่แข็งแกร่งปานช้างสาร เล่นเอาโควตะเกือบโดนหักกระดูกไปหลายรอบ ทั้งสองสู้กันเป็นเวลานาน ซึ่งโควตะเป็นฝ่ายเสียเปรียบเล็กน้อยเพราะมวลของร่างกายนั้นน้อยกว่ามาก จิโฮหวดขวานลงบนทวนของโควตะ จนทวนแทบหักเป็นสองท่อน โควตะจึงฉุกคิดว่าหากสู้ต่อไป เขาจักเป็นฝ่ายแพ้แน่ เพราะตื่นตอนเช้ายังงัวเงีย ร่างกายก็ยังไม่ได้ฟิตซ้อม จึงใช้เล่ห์แสร้งรบพลางถอยพลางล่อให้จิโฮควบม้าตามมายังหลุมพรางที่เขาสั่งให้ทหารขุดเอาไว้ เพราะคาดการณ์ว่าต่อไปคนที่จะมารบด้วยคือจิโฮ จึงให้ทหารขุดหลุมเอาไว้ดัก แต่ไม่นึกว่าตนเองจะเป็นฝ่ายถูกโจมตีกะทันหัน แต่ช่างเถอะ… ใช้เร็วกว่าเวลานิดหน่อยคงไม่เป็นไร

โควตะคิดดังนั้นจึงแกล้งล่อให้จิโฮมาถึงหลุมที่ขุดล่อเอาไว้ ด้วยน้ำหนักตัวที่เบากว่า เขาสั่งให้ม้ากระโดดข้ามหลุมพรางได้อย่างสบายๆ แต่จิโฮนั้นไม่ได้ เพราะน้ำหนักตัวมากเกินไป และความมุ่งมั่นที่จะรบกับโควตะท่าเดียว ทำให้ไม่ได้สังเกตสิ่งผิดปกติรอบตัว

"กลับมาเจ้าโควตะขี้ขลาด!!!" จิโฮตวาดร้องขณะตะลุยม้าแล้วชูขวานร่าเตรียมตัดหัวอีกฝ่าย ใจหนึ่งก็สั่นเครือเมื่อเห็นภาพเพื่อนในวัยเด็กเช่นนัตสึกิร่ำไห้กอดศพผู้ชายคนนี้ ใจหนึ่งก็แค้นที่บังอาจมาหลอกเพื่อนรักให้ร้องห่มร้องไห้เป็นสามวันเจ็ดวัน ม้าควบเข้าไปหาร่างที่อยู่ข้างหน้าหมายตาจะเอาอาวุธจี้คอแล้วถามให้มันรู้เรื่องไปเสียเลย แต่จิโฮวู่ว่ามไป การใจร้อนเป็นบ่อเกิดแห่งพิบัติทั้งปวงของนักรบ เพียงพริบตา ม้าของเขาก็ร่วงตกไปในหลุมพร้อมกับเจ้าของ ด้วยมิหวังจะฆ่าแต่ประการใด หลุมจึงเป็นเพียงหลุมลึก ลึกเพียงคาดมิให้คนร่างใหญ่ปีนขึ้นมาได้เท่านั้น

"ไงล่ะ!!! ท่านแม่ทัพ….จิโฮสินะ!!!" โควตะเอ่ยหยัน แต่สีหน้าหาได้ปรากฏบนสิ่งนั้นเลย

"โควตะ!!! ไอ้หน้าตัวเมีย!!! แน่จริงมาสู้กันตัวต่อตัวสิฟ่ะ!!! ไอ้กลับกลอก!!!" จิโฮตะโกนลั่น โควตะมองอย่างไม่ยี่หระ พลางสะบัดหัวคล้ายจะสลัดคำพูดเหล่านั้นไปให้พ้น

"คนที่หน้าตัวเมียมันน่าจะเป็นฝ่ายเจ้ามากกว่านะ…. แม่ทัพจิโฮ" โควตะเอ่ยช้าๆ เขาคิดถึงนึตสึกิทันทีที่เห็นหน้าจิโฮ ก็ในหมู่แม่ทัพอีก 4 คน จิโฮสนิทกับนัตสึกิที่สุดนี่นา

"ส่งคนมาลอบปล้นค่าย…จนฝ่ายข้าแทบแพ้หมดรูป" โควตะว่า จิโฮถ่มน้ำลายอย่างขมขื่น ม้าที่ตกลงไปโอดครวญอย่างเจ็บปวดอยู่ก้นหลุม เมื่อมันหล่นลงมาในหลุม ร่างใหญ่ของเจ้านายมันหล่นทับมันอีกทีจนมันเกือบช้ำในตายในทันที แม้ม้าจะเป็นสัตว์ที่แข็งแกร่ง แต่การที่ถูกของที่หนักเกือบเป็นเท่าตัวหล่นทับจากที่สูงเกือบสิบเมตร ก็ทำให้มันกระอักได้เหมือนกัน แม้ว่าร่างของเจ้านายมันจะมีแต่กล้ามเนื้อก็เถอะ…

"แล้วยังส่งเจ้ามาโจมตีมนขณะที่เราไม่พร้อมอีก…ใครคิดแผนละเนี่ย…ล้ำลึกดีชะมัด" โควตะประชด จิโฮกัดฟันกรอดๆ เขานึกเจ็บใจเมื่อสมัยโควตะยังเป็นทามะคนโปรดของนัตสึกิ แม้จะไม่สนิทกันนัก แต่ถ้ารู้ เขาจะฆ่ามันตั้งแต่แรก ฉับพลันทั้งคู่ก็ได้ยินเสียงโห่ร้องยินดีของฝ่ายกองกำลังกู้ชาติพวกเขาหันไปตามเสียงที่มาตามกระแส จิโฮก้มตาขมวดคิ้วแล้วหันมามองโควตะที่ยังมองไปตามทิศเสียงอยู่ สักครู่ผู้ยืนเหนือหลุมก็หันกลับมา เขาเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม นายทหาร 4-5 คนควบม้ามาหา พลางแย่งกันรายงานสถานการณ์

"ท่านแม่ทัพ!!!"

"เราชนะขอรับ!!!"

"ฝ่ายโน้นราบเป็นหน้ากลอง!!! จับเป็นได้ทั้งนั้นเลยขอรับ"

"ท่านมาคุย้ายค่ายสำเร็จ!!!"

ต่างฝ่ายต่างรายงาน โควตะยกมืออย่างเข้าใจ แล้วสั่งให้นายทหารเข้าจับกุมตัวจิโฮ นายทหารต่างชี้หน้าตัวกันกราว แต่ไม่มีใครทำตามแม้แต่คนเดียว โควตะขมวดคิ้วแล้วเอ่ยขึ้น

"เข้าใจล่ะ!!! งั้นไปตามทหารมาอีกสัก สองสามร้อยคนล่ะกัน เผื่อหมอนี่จะกัดใครเข้า" โควตะว่า นายทหาร 2-3 คนทำความเคารแล้วควบม้าออกไป

"เจ้าต้องเสียใจที่ไม่ฆ่าตรงนี้ โควตะ!!!" จิโฮแยกเขี้ยว โควตะทรุดลงคุยกับมนุษย์ในหลุมพรางที่ปากหลุม

"จะฆ่าเจ้าทำไม?" โควตะถามอย่างกันเอง จิโฮขบฟันอย่างหาเหตุผลไม่ได้

"ข้าจะฆ่าเจ้าน่ะสิ" จิโฮตอบในที่สุด

"แต่ข้าไม่ชอบเรื่องยุ่งยาก!!!" โควตะตอบ จิโฮเลิกคิ้วอย่างสงสัย

"เรื่องอะไร?" จิโฮถาม โควตะยิ้มด้วยมุมปากก่อนตอบ

"ไม่อยากให้ใครบางคนไม่สบายใจ…" โควตะลอยหน้าลอยตาตอบ จิโฮยิ้มเหมือนรู้ลับลมคมใน

"เจ้าปล่อยข้าไป พร้อมส่งข้อความไปให้นัตสึกิแบบทำกับยามาดะหรือเปล่า?" จิโฮค่อน อีกฝ่ายยิ้มอย่างยินดีที่อีกฝ่ายรู้ทัน

"ไม่!!! คราวนี้ข้าจะรีดความลับ" โควตะบอกเรียบ จิโฮมีสีหน้าตกใจ

"ข้าไม่มีวัน…." จิโฮตวาดแต่โควตะยกมือห้ามไว้เสียก่อน

"ข้าไม่ได้ถามข้อมูลเมือง แต่จะถามเรื่องนัตสึกิ.." โควตะว่า

"…สบายดีหรือ?" เสียงโควตะขาดห้วง น้ำเสียงอ่อนโยนยิ่งนัก จนจิโฮไม่อยากเชื่อว่าเป็นแม่ทัพโควตะ เขาพยักหน้า

"อืม…ดีแล้ว" โควตะตัดบทเมื่อนายทหาร ยกขบวนมาเป็นร้อยเพื่อมาจับจิโฮคนเดียว เสียงพูดจอกแจก ประกอบกับเสียงฝีเท้าม้าใกล้เข้ามา มาคุเป็นผู้นำทัพมา พล 200 ของเขาคุยฟุ้งกันว่าจะทำยังไงกับจิโฮดี แรกๆก็ฮึกเหิมอยู่หรอก แต่พอมาเห็นเจ้าตัวคนที่พูดถึงก็ขี้หดตดหายไปตามๆกัน

"ใครคุยฟุ้งว่ะ เมื่อกี้นี้" โควตะนึกค่อนในใจ แล้วสั่งให้นายทหารที่กลัวๆกล้าๆ แล้วทำท่าไหว้ขออโหสิจากจิโฮก่อนเข้าใช้เชือกมัด หลังจากนั้นที่อีกเกือบ 50 คนจะเข้ากันตะลุมบอน ช่วยกันทั้งมัดทั้งทึ้งคนร่างยักษ์แต่นั้นก็ไม่ทำให้คนร่างยักษ์สะท้านไปสักเท่าไร โควตะสั่งให้นำตัวเชลยทั้งหมดเข้ามา เขาต้องการเกลี้ยกล่อม เสียงตะโกนด่าโควตะอยู่ร่ำๆ เขากระแอมเพื่อบดบังเสียงที่ร้องว่า "ข้ามาสู้เพื่อชาติ" และอะไรอีกต่างๆนานา แม้เขาจะพูดจากล่อมใครไม่เก่งเท่าซาไอ แต่ก็มีเชื้อมั้งแหละน่า!!!

"พวกเจ้าทราบหรือไม่? ว่าพวกเจ้ามารบเพื่ออะไร?" โควตะถาม ทหารก็ตอบกันเกรียวว่าเพื่อปกป้องเมือง

"ถ้างั้นหากเกิดข้าไม่ทำลายเมืองล่ะ แค่ขอเดินผ่านไปเฉยๆ" โควตะถาม เหล่าทหารที่ถูกจับตัวมองหน้ากัน แล้วหันไปหาจิโฮเป็นเชิงถาม

"ข้าก็ไม่ให้เจ้าไปกองทัพกบฏ!!! เพื่ออาณาจักรนากิ" จิโฮตะโกน พร้อมกับเสียงเชลยที่เฮลั่น โควตะเลิกคิ้ว

"พวกเจ้านั้นล่ะกบฏ พวกเจ้ารู้หรือเปล่า? ว่าตอนนี้เมืองหลวงเป็นยังไง? ราชาอิเอยาสึถูกยึดอำนาจโดยราชานีมิโดริแล้ว" โควตะเอ่ย เสียงของเชลยซุบซิบกันทันที แต่จิโฮชิงตะโกนขึ้นมาก่อน

"เจ้ามีเหตุผลอะไร?"

"ไม่ยาก!!" โควตะตะโกน

"ถ้าราชาอิเอยาสึยังอยู่สงบดี ทำไมแม่ทัพอย่างข้าจะต้องออกมาตะลอนให้เหนื่อยด้วยเล่า? แล้วหากข้ากบฏจริง ทำไมจะต้องออกมาข้างนอก ทำไมไม่ยึดอำนาจมันไปเสียเลยตั้งแต่อยู่ในเมืองหลวง?" โควตะถามพร้อมผายมือออก ทหารเริ่มเชื่อ แต่มีบางเสียงตะโกน

"เจ้าหลอกเราได้ เจ้าปลอมเป็นทามะไปสอดแนมในจวนเจ้าเมือง ครั้งนี้ก็หลอกเราได้!!!" เชลยซุบซิบกันอีก เป็นไปได้เหมือนกัน!!! โควตะยิ้ม

"ยิ่งเป็นไปไม่ได้!!! ข้าอยู่ในจวน ข้าใกล้กับเจ้าเมือง ทำไมข้าไม่ฆ่าเขาเสียล่ะ เมืองนี่จะได้แตกๆไปเสีย ไม่เปลืองทหารด้วย? แล้วข้าน่าจะฆ่าพวกเจ้าซึ่งเป็นทหารส่วนใหญ่ของเมืองทำไมข้าไม่ฆ่า มานั่งถกกับเจ้าให้เมื่อยปากทำไม? แม่ทัพจิโฮ ข้าก็สามารถฆ่าได้แต่ข้าก็ไม่ฆ่า รวมทั้งแม่ทัพยามาดะ มิฮาโอะ และแม่ทัพอังโคขุด้วย ทำไมข้าไม่ฆ่า หือ? ก็เพราะข้าไม่อยากทำร้ายคนเชื้อสายเดียวกันน่ะสิ พวกเราเป็นชาวนากิเหมือนทำไมต้องฆ่ากันด้วย? สิ่งที่ข้าต้องการเพียงเดินผ่านไปกำจัดราชินีมิโดริที่เมืองหลวงเท่านั้นแหละ? ข้าอยากให้พวกเจ้าคิดดูให้ดี และข้าขอบอกว่าข้อมูลของข้าไม่โป้ปดแน่นอน พวกเจ้าน่าจะรู้ความร้ายกาจของราชินีมิโดริดีนี่ นางทำอะไรราชินีฮิโตมิอันเป็นที่รักของเรา ห๊า!!!" โควตะถาม ส่วนใหญ่พยักหน้าเห็นด้วย หลายคนเต็มใจจะให้กองทัพที่บัดนี้เขาเรียกว่ากองทัพกู้ชาติผ่านเข้าไปในเมือง โควตะมองอย่างพอใจ….

"ข้าจะไม่บังคับ และจะไม่ฆ่าพวกเจ้าด้วย ข้าจะปล่อยพวกเจ้ากลับไปสู่เมือง ไปหาพี่น้องของพวกเจ้า พวกเจ้ามีสิทธิ์ตัดสินใจเอง ข้าไม่บังคับ แต่เรื่องการตัดสินใจของเจ้าเมืองเจ้าเป็นอีกเรื่อง หากเราไม่สามารถเข้าไปได้ เราคงต้องบุกเข้าไปด้วยความจำเป็น และเป็นทางสุดท้ายที่เราจะทำ!!! แต่เราจะไม่ทำร้ายประชาชนแน่นอน จงไปใคร่ครวญมา!!" โควตะให้สัญญาณส่งเชลยกลับ ส่วนจิโฮนั้นเขาให้ขึ้นม้าตัวอื่นไป เพราะม้าตัวเดิมของเขาคงต้องเกษียณไปชั่วชีวิต

"แม่ทัพจิโฮ!!!" โควตะเรียก จิโฮหันมา

"สารนี่…ไปส่งให้ท่านเจ้าเมืองด้วย" เขายื่นให้ จิโฮรู้สึกชอบโควตะ และคิดว่านัตสึกิเลือกไม่ผิด จิโฮรับไปเก็บ ก่อนที่จะเอ่ยลาด้วยคำแปลกๆ

"แม่ทัพโควตะ… ข้าลาก่อน และสาบานว่าจะกลับมาแก้มือกับเจ้าแน่ ตราบใดที่นัตสึกิเลิกรักเจ้าแล้ว" เขาตะบึงม้าออกไป เขาไม่แปลกใจเลยที่แม่ทัพคนอื่นไม่คิดอยากรบกับโควตะอีก เป็นเพราะไมตรีที่เขามีให้นั้นเอง….

โควตะมองคนร่างยักษ์ที่ลับตาหายไปก่อนที่จะถอนหายใจ

"ถึงเวลาแล้วสิน่ะ….ข้ากลัวเหลือเกินที่จะต้องสู้กับเจ้า…นัตสึกิ"