|
เวลา 7.30 น. วันที่ 2 ก.ย. เสียงร้องเพลงประจำชาติของนากิดังอยู่ร่ำไป ต่างคนที่มาจากที่ต่างๆกัน ใช้เวลาจัดของเป็นที่แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมไปโดยปริยาย
"ที่หมู่บ้านข้ามีต้นหม่อมสูงเสียดฟ้า
วันไหนอากาศไม่ดี
ใบหม่อมจะร่วงบอกเหตุด้วย"
"โธ่!!! หมู่บ้านข้าน่ะเจ๋งกว่า
มีต้นฝ้ายต้นใหญ่ยักษ์ คนโตๆ 3 คนไปนั่งบนกิ่งเดียวกันยังได้เลย" เสียงโอ้อวดบ้าง หัวเราะบ้าง ดังอยู่ทั่วบริเวณนั้น จนกระทั้งซาไอตบมือให้สัญญาณ
"ไปเถอะ
" เธอว่า "ได้เวลาแล้ว ไปกันเถอะ!!!" สิ้นสุดคำสั่ง
จะว่าเป็นคำสั่งก็ไม่ถูกนัก เป็นคำชวนจะถูกต้องมากกว่า
เหล่าทหารก็กรีฑาทัพ อันนี้ว่าเป็นกรีฑาก็ไม่ถูกอีก เป็นแบบที่ว่าเดินจับกลุ่มไปพร้อมกัน นับเป็นช่วงเวลาสั้นๆที่บรรยากาศไม่ตึงเครียด ทั้งหมดปีนขึ้นมายังฝายกั้นน้ำ อย่างยากลำบากกว่าเมื่อวานนิดหน่อย เพราะอุปกรณ์นั้นมีมากมาย
นายทหารนับร้อยคนที่ถูกเกณฑ์มาทำการณ์ครั้งนี้ ส่วนใหญ่แยกย้ายกันไปขนฟืนมา ในอากาศหนาวอย่างนี้ จุดไฟได้ยากยิ่งนัก ฝ่ายคนทำควันก็คลี่ผ้าออก แล้วสำรวจผ้าตามหน้าที่ของตน ส่วนคนจุดไฟนั้น ก็ช่วยกันก่อไฟอย่างยากลำบาก
"ไฟยังไม่ติดหรือ?"
"เจ้าลืมใส่ไต้หรือเปล่า?" "เปล่า
เจ้านั้นล่ะ ใส่ฟางรึยัง?" "โธ่โว้ย!!! ทำไมไม่ติดล่ะ" "ถ้าเก่งนักก็มาทำเองสิ!!!"
จากคำไตร่ถามเป็นการถกเถียง จากการถกเถียงก็เป็นการทะเลาะ หมู่จุดไฟเริ่มแบ่งออกเป็น 2 ฝัก 2 ฝ่าย เสียงถกเถียงเริ่มดังขึ้นจน นายกองต้องเข้ามาห้ามทัพกันยกใหญ่ แต่นายทหาร 2 คนก็ยังไม่ยอมกัน สุดท้ายมีทหารหัวใสเอาน้ำมันมาราดบนกองไฟกะว่าจะให้ไฟติดเร็วๆ ระหว่างที่ไม่มีใครสนใจอยู่นั้น นารายะผู้โชคร้ายก็เดินเข้ามาพอดี ด้วยความข้องใจ นารายะจึงก้มลงจุดไฟ และใช้ปล่องเป่าไฟโดยแรง
"จ๊าก!!!!! +@#+/#/@$%^&*(*&@#!!!!" เสียงร้องอย่างตกใจของนารายะ พร้อมคำสบถที่ไม่สามารถบรรยายได้ ส่งผลให้เหล่าทหารที่ทะเลาะกัน และคนห้ามทัพหันมาทันที ภาพที่เห็น
ไม่รู้ว่าเป็นภาพที่ดีหรือร้ายดี เพราะประการแรกคือ..ไฟติดแล้ว แต่ในทางกลับกัน นารายะกำลังถูกไฟลามอยู่
"เฮ้ย!!! ไปเอาน้ำมาหน่อย" เสียงตะโกนร้องขึ้น จากที่ทะเลาะกันเมื่อสักครู่ ก็ต้องกลับมาร่วมแรงร่วมใจกันดับไฟ
"เฮ้ย!!! อย่าราดลงกองไฟ" "ท่านนารายะอยู่นิ่งๆสิขอรับ อย่ากระโดด!!!" "ออกมาไกลๆกองไฟสิ อย่าราดน้ำใส่กองไฟน่ะเฟ้ย!!!" เสียงโกลาหลดังขึ้น ฝ่ายทหารบังคับควันที่อยู่บนฝายส่วนที่สูงกว่า ต่างมองภาพที่อยู่ต่ำกว่าอย่างงงัน
"พวกนั้นเขาทำอะไรกันน่ะ?" คนหนึ่งถามขึ้น
"ไม่รู้
เต้นรอบกองไฟมั้ง" อีกคนตอบ
"เออ
ข้าเพิ่งรู้น่ะ ว่าเจ้าพวกนั้นมีวัฒนธรรมเต้นรอบกองไฟตอนกลางวัน!!!"
"????" อีกคนนั่งทำตาปริบๆ
"อ้อ
ข้ารู้แล้ว!!!" คนหนึ่งร้อง "พวกเขาต้องซ้อมเอาไว้เล่นตอนกลางคืนแน่ๆเลย ^_^" คนนั้นสรุป
อย่างมีหลัก (มั่วๆ)
"อืม
." ทั้งหมดที่นั่งล้อมวงอยู่พยักหน้าอย่างเข้าใจ แล้วนั่งดูพวกที่ข้างล่าง(ซ้อม)เต้นรอบกองไฟต่อไป
เวลา 9.46 วันที่ 2 กันยายน ทุกอย่างนั้นถูกเตรียมไว้อย่างเสร็จสรรพ เหล่าทหารบังคับรูปควันปีนขึ้นเชิงเทินที่จุดไฟ ผ้าถูกส่งขึ้นตามไม่นานนัก ไฟยังถูกกองต่อไปเรื่อยๆอย่างไม่หยุดหย่อน หลังจากชุดบังคับรูปควันทุกคนขึ้นไปยืนเรียบร้อยแล้วทั้งหมดก็ล้อมวงและใช้ผ้าบังควันอยู่
"จุดพลุ!!!" ซาไอสั่ง นารายะจุดพลุดัง เฟี้ยว!!! ขึ้นสู่ท้องฟ้า "บังคับควันได้!!!" เสียงสั่งตามมา ควันรูปแรกถูกส่งขึ้นไปบิดๆเบี้ยว เสียงถอนใจดังมาทั่วทุกสารทิศ
"เอาใหม่!!! ตั้งใจหน่อย!!!" ควันรูปใหม่ถูกส่งขึ้นไปอีกครั้ง ครั้งนี้สวยกว่าเดิม ควันรูปต่างๆเริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นเรื่อยๆ ทหารที่นั่งอยู่รอบข้างบางคนลุกขึ้นปรบมือ และเสียงปรบมือก็เริ่มกระหึ่มขึ้น เมื่อควันแต่ละชุดขึ้นสู่ท้องฟ้า ทหารหลายคนถูกส่งขึ้นยอดฝายเพื่อความเปลี่ยนแปลงที่ค่ายของโควตะ
เวลา 9.46 น. วันที่ 2 กันยายน ณ ค่ายทหารกองทัพกู้ชาตินากิ ที่นำโดยโควตะ นายทหารตรวจยามผู้หนึ่งกำลังเป็นงงกับพลุที่จุดขึ้นมาไม่นานนัก และควันรูปประหลาดที่ลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า จึงไปตามมาคุขึ้นมาดู
"มันคืออะไรกัน?" มาคุถอนใจ "เอ
แต่ว่ามันคุ้นๆชะมัด" มาคุเกาเปีย "เหมือนข้าเคยเห็นที่ไหนน่ะ? เอาเถอะไปเรียนท่านโควตะหน่อย ว่าข้าเชิญมาที่นี่!!!"
โควตะตามมาในเวลาไม่นานนักต่อมา เขาขึ้นไปยังที่สังเกตการณ์
"มีอะไร?" โควตะถามมาคุแทนการทักทาย มาคุไม่ตอบได้แต่ชี้ให้โควตะมองควันรูปประหลาดมากมายที่ลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า
"ข้าคิดว่ามันคุ้นๆ
แต่จำไม่ได้ว่ามันเป็นอะไร
เอ๋
เหมือนว่าข้าเคยเห็นมันที่ไหนน่ะ?" โควตะมองควันพวกนั้นสักครู่แล้วยิ้ม
"ซาไอเอ๋ย! เยาะเย้ยข้ารึนี่!!!" เขาว่า
"อะไร
อะไรขอรับ?"
"ช่างมันเถอะ
" โควตะกล่าว "ไปสั่งจุดพลุเยอะๆเลย
สัก
สิบยี่สิบลูกเลยน่ะ เอาล่ะ
แล้วสั่งการลงไปว่า เราจะตีออกไปคืนนี้ และไปที่ฝายกั้นน้ำมาจิโบริ
"
พลุถูกยิงขึ้นนับสิบๆลูก เพื่อเป็นสัญญาณรับรู้ ทหารที่มีหน้าที่สังเกตการณ์ซาไอวิ่งลงจากฝายเพื่อไปแจ้งซาไอ
"ท
ท่านแม่ทัพ
พ
พลุ ขอรับ"
"ข้าเห็นแล้ว!!!" ซาไอกล่าวอย่างยินดี
"ดับไฟได้เลยทุกคน พวกที่เชิงเทินลงมาได้แล้ว
เอาล่ะข้าจะยังไม่ไปไหน!!! ไปบอกทางแม่ทัพคนอื่นว่าแผนที่ข้าบอกพวกเขาเมื่อวาน
ให้เริ่มได้!!!"
เวลา 14.23 น. ขณะที่พระอาทิตย์ในตอนบ่าย กองทัพถูกจัดเตรียมขึ้นเงียบๆ ตามคำบัญชาการศึกของโควตะ แม่ทัพสั่งเคลื่อนทัพออกไปเงียบๆ และรวดเร็วที่สุด ม้าศึกและทหารราบทุกเคลื่อนทัพออกจากค่ายโดยไม่มีการพูดคุยส่งเสียงแต่อย่างใด
.
ม้าศึกนับสิบนับร้อย และทหารราบอีกเป็นหมื่นเป็นพัน ออกกรีฑาทัพออกจากค่าย อากาศยามฤดูเหมันต์เริ่มเย็นขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีแสงแดดราวกับรับทราบว่าจะเกิดศึกในเวลาอีกไม่นาน แสงแดดจึงหายไปในกลีบเมฆ
"!!!????!!!" จู่โควตะก็ยกแขนเป็นเชิงห้ามทัพ ทหารทั้งหมดหยุดกะทันหัน แม่ทัพใหญ่เพ่งพินิจไปเบื้องหน้า พบแม่ทัพฟุขุที่อยู่เบื้องหน้าของตน
"มาหาความตายสิเจ้า
" เสียงเยาะเบาๆดังออกจากริมฝีปากแม่ทัพฝ่ายศัตรู โควตะยังคงเพ่งพิจบุรุษที่อยู่ตรงข้าม ม้าของโควตะเคลื่อนฝีเท้าไปตามพื้นดิน ทำเอาฝุ่นตลบ
โควตะก้มหน้าต่ำ และหรี่ตามอง และแล้ว
"ฆ่ามัน!!!!" เสียงดังออกจากปากแม่ทัพฟุขุ สิ้นเสียงกองทัพอันเกรียงไกรก็ควบตะลุยเข้าหากัน ราวกระแสชลพากระลงสู่พื้นดิน
"กระบวนทัพหัวหอก!!!" เสียงสั่งของแม่ทัพใหญ่!!! ทหารนับหมื่นก็ประสานแถวเข้าเป็นแถวเดียวคล้ายหอก เสียงฆ่าฟันและสายเลือดกระฉูดออกมาจากพลทหารราบที่โชคร้ายเป็นเป้านิ่ง!!!
"ป้องกัน!!! เร็วเข้า" แม่ทัพฟุขุออกคำสั่ง เหล่าทหารรวมตัวคล้ายโล่อย่างรวดเร็ว แม่ทัพเอซะทำท่าจะเข้ารบอย่างจริงจัง แต่โควตะตะโกนห้าม
"เน้นการทะลวง!!! ทะลวงออกไปอย่างเดียว!!!" โควตะตะโกน เอซะจึงชักม้าศึกแล้วชูดาบยาวของตนขึ้น "บุกไปอย่างหน้า!!! ไม่ต้องห่วงอะไร!!! ไปข้างหน้า ไปที่ฝายนั้นอย่างเดียว!!!"
"แม่ทัพเอซะ!!! นำทัพออกไปเลย ข้าจะคุมข้างหลังเอง!!!" โควตะร้องบอก เอซะตะลุยม้าออกไปข้างหน้า แล้วฟาดดาบลงบนทหารฝ่ายศัตรูจนเลือดซาดกระจาย "ตามข้ามา!!!" เขาควงดาบอย่างว่องไว แล้วบังคับม้าตรงไปที่ฝายกั้นน้ำ พร้อมด้วยเหล่าทหารที่ปฏิบัติตามคำสั่งแม่ทัพอย่างเคร่งครัด ฝุ่นตลบอบอวลไปทั่ว ทหารคนแล้วคนเล่าที่ล้มลงไป โควตะควงอาวุธของตนแล้วแทงลงไปยังทหารฝ่ายศัตรู เหล่าลิ่วล่อล้มโครมไป พร้อมกับศรีษะที่หลุดหายไป ม้าของโควตะเหยียบข้ามกองศพที่ไม่รู้ว่าของใครเป็นใคร นำทหารตะลุยออกมาได้สำเร็จ
"เร็ว!!!" เขาร้องให้กำลังใจ
"แค่ไปถึงฝายเราก็จะปลอดภัย จะได้พักแล้ว!!!" โควตะควบม้าออกไป เจ้าม้าก้าวข้ามศพอย่างทุลักทุเลเต็มที่
ทหารราบที่เหลือ รวมถึงทหารม้าตามแม่ทัพใหญ่มาอย่างรวดเร็ว!!!
"อย่าให้มันหนีไปได้!!! ตามไป!" เสียงแม่ทัพฟุขุสั่งการ!!! เหล่าทหารฝ่ายของฟุขุตะลุยตามมาอย่างไม่ลดละ ขณะที่ทัพของโควตะกำลังหนีไปยังฝายกั้นน้ำสุดชีวิต!!!
ทหารสังเกตการณ์ของซาไอวิ่งกระหืดกระหอบไปหานาย "ท่านแม่ทัพ!!!"
"เป็นไง?"
"มี 2 ทัพกำลังตรงมา ดูเหมือนจะเป็นทัพที่ไล่ล่า กับถูกไล่ล่า
"
"ดีมาก
" ซาไอยิ้มพลางยกมือเป็นเชิงให้ไป "เรื่องถอนฝายเป็นไงบ้าง!!!" ซาไอถาม นายกองที่ตนมอบหมาย
"เรียบร้อยแล้วขอรับ
เพียงแค่ถอนเสาอีกต้นเดียว น้ำก็คงทะลักออกมา
แต่เรายังไม่ถอนตามคำสั่งของท่านแม่ทัพ!!!"
"อือ
ดี
ไปบอกให้เตรียมให้พร้อม ฟังคำสั่งให้ดี อย่าให้คลาดสายตาไปแม้แต่นิดเดียว!!!" สิ้นคำสั่ง ซาไอก็ก้าวไปยังหน้าฝายเพื่อมอง 2 ทัพที่ไล่ล่า!!!
บัดนี้โควตะควบม้ามาถึงหน้าฝายแล้ว เขากำลังหันรี่หันขวางอยู่ ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อ
"แม่ทัพโควตะ!!!" เสียงเรียกจากแม่ทัพโนทามากิโอะ "ทางนี้ขอรับ!!!" แล้วเขาก็ควบม้าอย่างรวดเร็ว นำโควตะ โควตะรีบชักม้าตามไปทันที โนทามากิโอะพาโควตะลัดเลาะไปตามทางขึ้นฝาย ทหารทั้งหมดก็ตามมาอย่างรวดเร็ว เขาพาทหารนับหมื่นไปยังที่ซาไอจัดเตรียมไว้ให้ มันอยู่ไม่ห่างจากฝายมากนัก
"เออ
แล้วซาไอจะทำอย่างไงต่อ ท่านทราบไหม?" โควตะถามเมื่อทหารทั้งหลายทรุดตัวลงกับพื้นในอาณาบริเวณที่พัก ที่ซาไอจัดให้
"ไม่ทราบขอรับ
" โนทามากิโอะส่ายหน้า "แต่ท่านซาไอต้องเตรียมแผนเอาไว้แน่
"
กองทัพของแม่ทัพฟุขุเคลื่อนทัพใกล้มา ซาไอยิ้มอย่างเยือกเย็น เธอจ้องมองอย่างใจเย็น และเมื่อแม่ทัพฟุขุเข้ามาใกล้ได้ระยะหนึ่ง
เขาก็เงยหน้าขึ้นมาดูบนฝาย พบร่างของซาไอยืนอยู่บนนั้น
"ซาไอ!!!" แม่ทัพฟุขุร้องตวาด "เจ้าบังอาจมากที่ก่อกบฏ ราชาอิเอยาสึเมตตาเจ้าขนาดนี้
จงตายด้วยมือข้าเสียเถอะ"
"เจ้าต่างหาก ฟุขุ เจ้าไปเข้าข้างมิโดริ โทษเจ้าคือกบฏแก่คนนอกแผ่นดิน!!! จงรับโทษทัณฑ์ที่เจ้าไว้เสียเถอะ!!!"
"ฮึ!!! เจ้าอยู่บนฝาย ทหารก็ไม่มีจะมารบอะไรกับข้าได้
แน่จริงเจ้านำทหารลงมาสิ!!!" ฟุขุท้า
"ไม่ต้องหรอก
" ซาไอว่า "ยืนอยู่บนนี้ข้าก็ฆ่าเจ้าได้
"
"ฮึ
เจ้าจะทำอะไรข้าได้
" คนใต้ฝายกล่าวอย่างไม่เชื่อ แต่แล้วสายตาเขาก็ไปสะดุดกับสิ่งหนึ่ง
"ไม่น่ะ!!! ถอย!!! เราหลงกลมันแล้ว" แม่ทัพฟุขุสั่ง และชักม้ากลับอย่างรวดเร็ว แต่สายไปเสียแล้ว ซาไอให้สัญญาณพังฝายน้ำเสียแล้ว กระแสน้ำ แห่งแม่น้ำมาจิโบริที่ไหลเชี่ยวกราด ไหลทะลักรุนแรง ฟุขุและเหล่าทหารหนีกันอย่างอลหม่าน แม้ว่าม้าจะเร็วเพียงใด ก็ไม่ไวเท่ากระแสน้ำอันเชี่ยวกราดได้ ร่างทหารหลายร้อยนายจมหายไปกับกระแสน้ำ หลายพันนายหนีตายได้ แต่ก็ไม่รอดพ้นเงื้อมมือของทหารที่ซาไอให้ดักซุ่มไว้ที่ปากทาง การประอาวุธเริ่มขึ้น
"อ๊ากกกกกกก!!!" เสียงร้องของทหารเมื่อถูกฟาดฟันด้วยอาวุธ เลือดซาดกระจายออกเป็นทาง ฟุขุยังตะบึงม้าออกไป ยังใช้อาวุธของตนฟาดฟันทหารราบที่ก้าวเข้ามา
"ย้ากกกกก!!!" ฟุขุพยายามตีฝ่าวงล้อมออกไปให้ได้
เขาควบม้าข้ามเพื่อนร่วมรบที่ล้มหายตายจากไปทีละคน พร้อมๆกับตัดคอเหล่าทหารฝ่ายตรงข้ามด้วย ฟุขุตะบึงม้าหนี และเขาก็ถูกไล่ล่าด้วยลูกธนูหลายสิบดอก นายทหารที่นำด้วยนายกองผู้หนึ่งตามไล่ล่าไปสักครู่หนึ่ง
ก็หยุด แล้วตะโกนให้นารายะอยู่ในที่ซ่อนสานต่องาน
"ส่งต่อขอรับ!!!"
"รับทราบ
" นารายะโจนม้าพุ่งพรวด ตามด้วยทหารม้าอีกหลายสิบ แล้วไล่ล่าแม่ทัพฟุขุต่อไปทันที
ฝ่ายแม่ทัพฟุขุที่ตะบึงม้าหนีมาจนไกลพอสมควร ทหารตามเขามามีเพียงไม่กี่สิบคน และก็ต่างบาดเจ็บด้วยกันทั้งสิ้น บนแผ่นหลังทัพมีลูกดอกธนูปักอยู่มากมาย แม่ทัพเริ่มควบม้าช้าลงเมื่อเห็นว่าไม่มีใครตามมา ทหารไม่กี่สิบคนเดินตามแม่ทัพอย่างระห้อยใจ ฟุขุยังควบม้าต่อไป แต่ขณะที่เขากำลังควบม้า ฉับพลันก็มีดาบอันใหญ่พุ่งเสียบม้าของเขา ฟุขุรีบกระโดดลงจากม้า ร่างของม้าแหลกไปตามแรงดาบ และพุ่งถอยหลังไปปะทะกับทหารผู้โชคร้ายอีกคนตายคาที่ทั้งคู่!!!
"ใคร!!!" ฟุขุตวาดพลางชักอาวุธของตนออกมา ไม่ขาดคำร่างยักษ์ก็ก้าวออกมาจากที่ซ่อน
.
"เดเอคิ
แกทรยศเรอะ!!!" เสียงตวาดดังออกจากปากของฟุขุ แล้วตามด้วยการกระอักเลือด
"ทรยศรึ?..หึๆ ข้าทรยศมัน มันก็ทรยศข้าเป็นอันว่าเจ๊ากันแล้ว!!" เสียงตอบกลับมาด้วยความโกรธแค้นและเหี้ยมเกรียม
"หมายถึงท่านอิจิวรึ?
เขาไปทำอะไรแก!!!"
"แกไม่ต้องรู้หรอก
รู้แค่ว่าคนที่เกี่ยวข้องช่วยเหลืออิจิวต้อง ตาย!!! เท่านั้น" เดเอคิก้าวออกจะไปหยิบดาบจากต้นไม้ ทหารที่เหลืออยู่ในที่นั้นวิ่งเข้าจะทำร้ายเดเอคิ แต่ก็ถูกเดเอคิฟาดดาบใส่อย่างไม่ปราณี ตับไตไส้พุงของทหารเหล่านั้นไหลเละเทะออกมา บางคนถูกตรงๆ ร่างแหลกคาที่ จนชั่วพริบตาก็เหลือเพียงเดเอคิและฟุขุอยู่ในที่นั้น!!!
ฟุขุยกดาบขึ้นจะต่อสู้ และรวบรวมพละกำลังเฮือกสุดท้ายจู่โจมคนที่ตัวใหญ่กว่าสองเท่า
"ตายซะ!!!"
"กึก!!!" "!!!!?!!!!" เสียงเดเอคิใช้มือเปล่าจับดาบของฟุขุเอาไว้ ฟุขุมองอย่างตื่นตระหนก แต่ไม่มีเวลาแม้จะร้องครางแม้แต่คำเดียว
มือข้างที่เคยถือดาบเอาไว้ของเดเอคิ ก็ทิ้งดาบลงและเข้าบดขยี้ศรีษะของฟุขุด้วยมือเปล่า!!
"กร๊อบ!!!" ศรีษะของอดีตแม่ทัพ แหลกเหลวคามือของเดเอคิ เดเอคิเหวี่ยงร่างนั้นลงในระยะที่ไม่ไกลนัก
"ฮึ
ไอ้เลวอิจิว
ไม่ว่าใครที่ช่วยเหลือเจ้า ข้าจะฆ่ามันให้หมดสิ้น
รวมทั้งเจ้าด้วย
" เดเอคิพูดด้วยเสียงแผ่วเบา ก่อนเดินจากไป โดยทิ้งร่างตายอนาถหลายสิบร่างเอาไว้กับพื้น!!!
ไม่นานหลังจากนั้นนารายะก็ตามรอยเท้าม้ามาถึง สิ่งที่เขาพบเป็นภาพที่น่าสยดสยอง แต่ละศพที่อยู่ตรงนั้น ตายคาที่ ไส้พุงทะลักออกมา
นารายะกลืนน้ำลายเอื๊อก!!! เหล่าทหารร้อง อี๋!!! ไปตามๆกัน
"เอาเถอะ
" นารายะโบกมือทำใจ "ไม่รู้ว่าฝีมือใคร?
ช่วยกันดูหน่อยว่าศพไหนเป็นแม่ทัพฟุขุ เอาศรีษะมันไปให้ท่านแม่ทัพซาไอดู
"
"หมายถึงไอ้นี่หรือขอรับ?" ทหารที่มากับนารายะที่ลงไปด้อมๆมองๆสักครู่กล่าวขึ้น พร้อมจับศรีษะที่ไขสมองไหลทะลักและเยิ้มออกมาขึ้น อย่างขยะแขยงสุดๆ!!!
"ท่าจะใช่!!!" นารายะกล่าวเมื่อเห็นว่าทหารหยิบขึ้นมาจากศพที่ใส่ชุดแม่ทัพ
"เอาเถอะกลับได้แล้ว มันคงจะใช่
ไปเถอะ!!! ข้าไม่อยากอยู่นาน ถ้าเกิดเป็นฝีมือสัตว์ป่าขึ้นมา ข้าไม่อยากโดนแบบพวกมัน" แล้วทั้งนารายะและเหล่าทหารก็จากที่นั่นมาโดยยังไม่หมดอาการขนพองสยองเกล้า
ทางด้านซาไอกำลังตรวจตราความเรียบร้อยของทหาร ดูแลการทำแผลต่างๆ เซอิจิก็ได้มาช่วยในการทำแผล
"ต้องขอบคุณพระองค์ที่มาช่วย
" ซาไอกล่าวขอบคุณเซอิจิหลังจากการทำแผลเสร็จสิ้นลง
"ข้าไม่ได้ช่วยอะไร
มันเป็นหน้าที่ของข้าเท่านั้นเอง" เซอิจิตอบเรียบๆ ซาไอเลิกคิ้ว
"หม่อมฉันแปลกใจที่พระองค์ไม่ห้ามหม่อมฉันในศึกครั้งนี้
" ซาไอเอ่ย
"ข้าบอกแล้วว่าข้าจะไม่ห้ามอะไรเจ้า
แล้วก็ไม่ช่วยเหลือด้วย
ข้าแค่ต้องการยุติสงครามและเดินตามทางที่คิดว่าถูก
" เซอิจิกล่าว
"ว่าแต่เจ้าหายหวัดรึยังล่ะ?" พอจบคำถาม ซาไอก็ผละออกเมื่อเจอคำถามที่ไม่คาดฝัน
"หายแล้วเพค่ะ
"
"รู้รึเปล่า?" เซอิจิช่วยคุยต่อ "ข้ารู้สึกว่า
ศึกจะไม่จบแค่ศึกนี้
"
สิ้นคำของเซอิจิ ทหารผู้หนึ่งก็วิ่งกระหืดกระหอบเข้าไปหาโทงาริซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก
"ท
ท่านโทงาริ
ม
มีกองทัพอีกขอรับ
กองทัพ"
"ของใคร?" โทงาริถาม
"ไม่ทราบขอรับ!!!"
"
.." โทงาริเดินออกไปยังด้านหน้าฝายกั้นน้ำ พร้อมๆกับซาไอ เซอิจิและโควตะ ทั้งหมดมองพร้อมกัน
"อิจิว!!!!"
. . . . . . .
เวลา 18.41 น. ของวันที่ 2 กันยายน กองทัพของอิจิวกรีฑาทัพอย่างไม่ให้กองทัพกู้ชาติที่เหลือตั้งตัวเลยแม้แต่นิดเดียว!!!
"อิจิวมาแล้ว!!!" ซาไอครวญ "มันจะต้องฆ่าข้าให้ได้แน่
"
"วางใจเถอะ
ให้พวกเราออกไปสู้กับมัน ไม่ใช่เจ้าคนเดียว!!!" โควตะปลอบ
"แต่พวกเราเหนื่อย
."
"แต่ก็ต้องทำเพราะพวกเรา
" ยังไม่ทันขาดคำ
นายทหารอีกคนก็วิ่งเข้ามา
"ร
เราถูกโจมตี มันขึ้นมาบน
อ๊ากกกก!!!" ยังไม่ขาดคำร่างของทหารผู้นั้นก็ขาดออกเป็นสองท่อน
"มาแล้วจริงๆ
" เสียงพึมพำออกจากปากของซาไอ
"สั่งการลงไป!!! ศัตรูบุกมาแล้วสั่งการลงไปเตรียมรบ!!!" โควตะที่ตั้งสติได้สั่งการ แล้วการต่อสู้ครั้งใหม่ก็เริ่มขึ้นอีก
กองทัพถูกจัดอย่างรวดเร็ว เหล่าทหารของฝ่ายกองทัพกู้ชาติมาเผชิญหน้ากับกองทัพสายลมของอิจิว อิจิวมองหาซาไอด้วยความโกรธแค้น
แต่ซาไอไม่ได้อยู่ที่นั้น โควตะฝากฝังให้เซอิจิและมาโซยะค่อยคุมตัวเธอไว้ที่หลังกองทัพ ไม่ให้ออกมาบ้าหน้าทัพ!!!
อิจิวเพ่งมองกองทัพ และตวาดอย่างเดือดดาลออกไปว่า
"ซาไอ!!! มันอยู่ที่ไหน!!!!"
โควตะควงทวนของตนแล้วตอบกลับไป "ซาไอไม่อยู่
" เขากล่าว
"มาสู้กับข้าเถิด
อิจิว
รวดเร็วปานสายลม"
"ไม่ต้องบอกข้าก็ทำ!!!!" เสียงตะคอกอันเกรี้ยวกราดดังออกมาจากปากชายหนุ่ม แล้วสัญญาณบุกของฝ่ายอิจิวก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ทหารที่มีชื่อเรื่องไว เข้าห่ำหั้นกับกองทัพกู้ชาติโดยไม่ปล่อยให้ใครตั้งตัว!!!
"ฉัวะ!!!" "อ๊ากกก!!!" เพียงพริบตา ทหารราบแนวหน้าของกองทัพกู้ชาติก็ตายเป็นเบือเมื่อทหารฝ่ายตรงข้ามตะลุยเข้ามาอย่าไม่กลัวตาย!!!
"ฮึ่ม!!! ร้ายนัก" โควตะควบม้าเข้าหา แม่ทัพใหญ่ฝ่ายตรงข้าม พร้อมด้วย เอซะ และโนทามากิโอะ ทั้งสามคนจ้วงแทงอาวุธใส่อิจิวอย่างรวดเร็ว แต่อิจิวก็หลบอย่างรวดเร็วเช่นกัน พร้อมทั้งฟาดฟันอาวุธใส่เหล่าแม่ทัพ ทั้งสามหลบได้ก็จริง
แต่ม้าของแม่ทัพเอซะก็ต้องเป็นเหยื่อสังเวยคมศาสตราวุธของอิจิว
"แขนเดียวแล้วยังซ่าอีก
" โควตะพึมพำ
"แก..อย่าอยู่เลย!!!" อิจิวตวาดพลางฟาดดาบลงบนทวนของโควตะ โควตะหลบและสวนกลับ ทั้งคู่ผลัดกันลุกและรับ โดยมีโนทามากิโอะช่วยด้วยอีกแรง
. ดาบของอิจิวนั้นกวัดแกว่งไปมาอย่างไม่ซ้ำรอย สุดท้ายโควตะก็แผลกลับมาแผลหนึ่ง เป็นแผลที่ลากยาวจากไหปลาร้าขวาจนถึงอกซ้าย!!! อิจิวยิ้มและทำท่าจะแทงโควตะซ้ำแต่
. "เฟี้ยว!!!" เสียงอะไรบางอย่างแล่นฝ่าอากาศตรงมาสู่อิจิว เขาหันกลับไปปัด มันเป็นลูกธนูแหลมที่สามารถทะลวงกระดูกคนให้ทะลุได้เลยทีเดียว
อิจิวหันไปหามือธนูลึกลับสักครู่ก่อนที่จะหันกลับรับทวนของโควตะ และแล้วก็อาวุธลับก็แล่นเข้ามาอีกครั้ง
คราวนี้เป็นดาวกระจาย!!! อิจิวหันกลับไปปัดเช่นเคยแต่คราวนี้เขาพลาด
"เคร้ง!!!" "อั๊ก!!!" ดาวกระจายนับสิบดอกที่อิจิวปัดออกไปได้ มีดอกหนึ่งหลงเหลือและปักเข้าที่ไหล่
แขนข้างที่เขาใช้การได้ทันที
"ย้ากกกกก!!!" โควตะฟาดทวนใส่อิจิวอีก อิจิวรับทวนของอิจิว จนลืมโนทามากิโอะ ทำให้ได้รับแผลจากแผลทัพโนทามากิโอะเป็นแผลที่สีข้าง!!!
"หนอยยยย!!!" อิจิวเริ่มหาทางหนีออกไป
สุดท้ายอิจิวก็ชักม้าหันหลังกลับออกไป อิจิวควบม้าตะบึงออก แล้วฟาดฟันดาบใส่เหล่าทหารราบ เพียงดาบเดียวทหารราบก็ขาดเป็นสองท่อน
เหล่าแม่ทัพทำท่าจะตาม แต่ก็หันมาพยาบาลโควตะเสียก่อน
เพราะหลังจากที่อิจิวหันไป
โควตะก็ร่วงจากหลังม้าแทบจะในทันที
.
อิจิวควบม้าจากมาได้สักครู่ ก็พ้นรัศมีการตามล่าของเหล่ากองทัพกู้ชาติ เขาควบม้ามายังซอกเขาแห่งหนึ่ง อิจิวได้รับบาดเจ็บที่ต้นแขน อิจิวเอื้อมไปหยิบดาวกระจายออกจากหัวไหล่ พร้อมกับเชิดหน้า
"ฮึๆ
จะลอบฆ่ารึยังไง? คนที่หลบอยู่ซอกเขาน่ะ
" ชายหนุ่มเอ่ยเบาๆ อย่างไม่กลัวเกรงอะไร สิ้นเสียงอิจิวเดเอคิก็เดินออกจากซอกเขา มาเผชิญหน้ากับอิจิว
"มีอะไรล่ะ?
เดเอคิ..อ้อ..เมื่อวานข้ารู้ข่าวแล้วว่าเจ้าเปลี่ยนใจไปอยู่เซอิจิ
ไม่ต้องมาบอกลาข้าหร้อก
" อิจิวกล่าว
"ลงมา!!!" เดเอคิคำราม พลางเหวี่ยงดาบปักม้าของอิจิวดาบทะลวงอกม้าเสียจนทะลุ ม้าสิ้นใจตายตรงนั้น
แต่อิจิวนั้นเล่า? เขาดีดตัวจากม้าไปยันกับผาหินข้างๆ แล้วลงยืนบนพื้นอย่างปลอดภัย
"เจ้า
รัง-แก-โทะโดะ!!!" เดเอคิแค่นพูดอย่างโกรธเกรี้ยว
"รังแกรึ?" อิจิวทำหน้าไม่รู้ร้อน "ใครบอกเล่า? ข้าแค่มอบความสุขให้นางเท่านั้น
ข้าเก่งมากกว่าเจ้ามากน่ะ
ฮึๆๆ" เดเอคิขบฟันอย่างโกรธแค้น
"ทำไมล่ะ?
คงรังเกียจนางมากสิน่ะที่เสร็จข้าแล้ว
" อิจิวเลียปลายนิ้วตัวเอง "จะมาบอกยกให้ข้ารึ!!! ก็ดี
แต่ข้าไม่สนใจหรอก
เพราะข้าเห็นนางเป็นเครื่องบำบัดราคะเท่านั้น!!!"
"อ๊ากกกก!!! อิจิวตายซะเถอะ!!!" ด้วยความเดือดดาลอิจิวพุ่งเข้าหาอิจิวอย่างรวดเร็วด้วยมือเปล่า อิจิวเอี้ยวตัวหลบอย่างรวดเร็ว แล้วถีบตัวผ่านร่างยักษ์ไปอย่างง่ายดาย
"อย่าดูถูกคนเจ็บเชียวน่ะ
." อิจิวควงดาบ "เจ้ามันมีแต่กำลัง เดเอคิเอ๋ย
.เจ้าสู้ข้าไม่ได้หรอก
" อิจิวเยาะเย้ย
"ชิ
ถึงข้าต้องตายก็ต้องฆ่าเจ้าให้ได้!!!" เดเอคิลั่นวาจาพลางหยิบดาบจากซากม้า
"ตายซะ!!!..ไอ้เลว!!!" เขาตวาดก้อง แล้วกราดเข้าฟาดฟันอิจิว อิจิวหลบอย่างรวดเร็วแล้วใช้จังหวะหนึ่งแทงดาบเข้าไปในขาของเดเอคิ
"อึ้ก!!!" เสียงเดเอคิครวญ ก่อนที่จะล้มไปกองกับพื้น
ชายร่างยักษ์ตั้งท่าจะยืนขึ้นแต่
ถูกอิจิวเหยียบเอาไว้ และปลายดาบแหลมก็มาจี้ที่คอหอย อิจิวออกแรงกระทืบซ้ำเดเอคิอีกครั้งจนกระอักเลือด
"น่าสงสารเจ้าน่ะ
" อิจิวเอ่ยอย่างสมเพช
"ผู้หญิงของตัวเองก็รักษาไม่ได้ ชีวิตตัวเองก็เอาไว้ไม่อยู่
น่าสังเวชจริงๆ" อิจิวกล่าวพลางก้มไปหาเดเอคิ
"แต่ถึงเจ้าจะไม่ดียังไงข้าก็ต้องขอบคุณเจ้าน่ะ
ก็เจ้าน่ะ
" อิจิวลงไปกระซิบ
"สอนนางไว้ดีจริงๆ
." แล้วอิจิวก็เงยหน้าหัวเราะก้อง!!! ปล่อยให้เดเอคิฟังด้วยความเคียดแค้น
"ทำไมเจ้าต้องทำนางด้วย!!!" อิจิวเลิกคิ้ว พลางแสร้งทำตกใจ
"เจ้าก็น่าจะรู้นี่นา
ว่าอย่างพวกเรามันเหินห่างผู้หญิงนานมันเป็นอย่างไร
โดยเฉพาะคนที่เคยมีกินมีใช้สมบูรณ์อย่างข้า
หึๆๆ เอ้า!!! แค้นเข้าไป ต้องให้ข้าบอกอีกไหม? ว่าตอนนั้นนางเป็นยังไง
นางดิ้นเร้าๆเลยล่ะ ปากก็ร้องหาแต่เจ้า
ท่านเดเอคิ ท่านเดเอคิ"
"ข้าจะฆ่าเจ้า!!!!" เดเอคิตวาดพลางยึดขาของอิจิวที่เหยียบตนไว้ แต่อิจิวกลับใช้ดาบปักลงบนมือนั้น
"อ๊ากกกก!!!" เดเอคิร้อง
"น่าสงสารเจ้าน่ะ
ข้ารู้ว่าเจ้าจะสั่งเสียอะไร
ยกโทะโดะให้ข้าใช่ไหมล่ะ
เอาล่ะ
ข้าจะรับคำขอ
แล้วก็
"
อิจิวเงื้องดาบ
"ตายซะเถอะ!!!" เขาฟาดดาบไปหาร่างของเดเอคิ แต่ฉับพลันดาบจะถึงร่างอิจิวอิจิวก็กระโดดหลบลูกดอกธนูที่ยิงออก แล้วหันหลังกลับ
"
.?
." อิจิวอุทาน เมื่อเห็นโทะโดะยืนอยู่ตรงนั้น
"ฮึ
" เขากระแอม "เจ้าใช่ไหม? ที่ยิงธนูใส่ข้า!!!" เขาถาม
"ข้าเอง!!!" โทะโดะตอบ "และคราวนี้ข้าก็จะไม่พลาด" เธอง้างธนูจะยิงใส่อิจิว แต่อิจิวก็หวดธนูของหญิงสาวด้วยดาบ โทะโดะชักมีดที่อยู่ในเสื้อออกมาขู่ แต่ก็ถูกอิจิวฟันเสียตกไปอีก
"ตายซะ!!!" อิจิวตวาดพลางยกดาบจะฟันหญิงสาว แต่จังหวะนั้น เดเอคิเข้ารัดคอของอิจิว
"ฮึ่ม!!!" อิจิวขบฟันแล้วฟาดดาบลงบนแขนของเดเอคิ
"ข้ามีแต่แรง!!!" เดเอคิพึมพำ "แต่แรงนี้ล่ะที่ข้าภูมิใจ!!!" เขากล่าวพลางจับดาบของอิจิวเอาไว้ มันฝังคมลงบนมือเดเอคิ เดเอคิพยายามกดอิจิวลงบนพื้น ทั้งสองผลัดกันเสียเปรียบและได้เปรียบ ทั้งสองผลัดกันกดฝ่ายศัตรูลงพื้น!!! สุดท้ายอิจิวก็กดเดเอคิลงกับพื้นและจับดาบตัวจะแทงเดเอคิแต่ว่า ความเร็วของคน 2 แขนเร็วกว่า ดาบออกทะลวงร่างอิจิว ทะลุไปแผ่นหกลัง
"อึ๊ก!!!" เลือดพุ่งกระฉูดเต็มใบหน้าของเดเอคิ พร้อมกับร่างที่ร่วงลงทับเดเอคิ
ด้วยวาระสุดท้ายของจอมโจร
.
ผู้ที่ครั้งหนึ่งเคยขึ้นสู่ที่สูงสุด
.
แต่ก็ตายอย่างที่ไม่มีใครรู้เห็น
..
วาระสุดท้ายของอิจิว
.
หนึ่งแค้น
ของเดเอคิ
หนึ่งดับ
.อิจิว
หนึ่งอาภัพ
.เซอิจิที่ต้องขั้นระหว่างความแค้นที่กำลังจะเริ่ม
และอีกหนึ่งสู้สุดใจ
พระนางมิโดริที่ไม่เหลืออะไร
.
เวลา 20.03 ของวันที่ 2 กันยายน ทัพของกองทัพกู้ชาติที่มีมากกว่าได้รับชัยชนะอย่างเด็ดขาด แม้ว่ากองทัพสายลมจะมีน้อยกว่าเกือบ 6 เท่าแต่ก็สร้างความเสียหายให้กับกองทัพกู้ชาติมากมาย ที่สำคัญคราวนี้ไม่มีการจับเชลยเพราะทหารสายลมทุกคนสู้สุดตัวจนตาย
หลังจากนั้นไม่นานเหล่าทหารก็พบศพอิจิวที่ซอกเขาไม่ไกลนัก!!! เป็นผลมาจากลูกธนู อิจิวตายอย่างลึกลับไม่มีใครรู้ว่าใครเป็นคนยิงธนูดอกนั้น แต่อุปสรรคก็หายไปอีกขั้นหนึ่ง
ซาไอที่ไม่มีส่วนรบในครั้งนี้งอนไปนานสองนาน คนที่เดือดร้อนที่สุดคือเซอิจิ เพราะระหว่างการเฝ้านั้นเซอิจิเป็นคนเดียวที่เฝ้าซาไออยู่
ส่วนมาโซยะนั้นละทิ้งหน้าที่หายในสมรภูมิและกลับมาหลังศึกจบ ไม่มีใครรู้ว่า ดาวกระจายที่ขว้างออกไปเป็นฝีมือเขา!!!
เดเอคิได้รับบาดแผลกลับมา เจ้าตัวอ้างว่าได้รับแผลจากการเข้าร่วมรบ แต่นอกจากโทะโดะคงจะไม่มีใครรู้ว่าเดเอคิคือคนสำคัญในศึกนี้
ส่วนโทะโดะที่เป็นเจ้าของธนูปริศนานั้น ยังคงไม่เปิดเผยตัวต่อไป
เธอตัดสินใจจะหายสาปสูญไปในศึกเขาคุเรไน
โควตะนั้นได้รับบาดแผลไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต แต่ก็นอนเพ้อถึงนัตสึกิเพราะพิษไข้ไปหลายวัน
ส่วนฝายกั้นน้ำมาจิโบริที่พังไปเพราะศึก นั้นคงต้องรอให้จบศึกถึงจะซ่อมใหม่ได้
.
และสุดท้ายพระนางมิโดริ จากนั้นไม่นานข่าวอิจิวตายก็แพร่ไปถึงหูพระนาง ยังความโศกเศร้ามาให้พระนางยิ่งนัก และพระนางทรงลั่นวาจาว่า กองทัพกู้ชาติและพระนางจะอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้อีก
วันที่ 3 กันยายน ทุกกองทัพเตรียมโอบล้อมกำแพงเมือง
..
|