[HOME] [สารบัญ] l 1 l 2 l 3 l 4 l 5 l 6 l 7 l 8 l 9 l 10 l 11 l 12 l 13 l 14 l 15 l 16 l 17 l 18 l 19 l 20 l 21 l 22 l 23 l 24 l 25 l 26
     l 27 l 28 l 29 l 30 l 31 l 32 l 33 l 34 l 35 l 36 l 37 l 38 l 39 l 40/1 l 40/2 l 41 l 42 l 43/1 l 43/2 l 44 l 45
     l 46 l 47 l 48 l 49/1 l 49/2 l 49/3 - fin l

บทที่ 26 เผด็จศึกเมืองไรโบเซ็น(อารัมภบท)


โควตะเดินวนไปมาอย่างเป็นกังวลหน้าห้องกระโจมสำรองแห่งหนึ่ง เมื่อสักพัก หลังจากเขาไล่ความโศกเศร้าที่นัตสึกิจากไป ค่ายเงียบไปถนัด และหลังจากที่เขากำลังฝึกทหารอยู่ ทหารก็มารายงานว่า มีเด็กคนหนึ่งอยากพบเขาเป็นที่สุด

"ท่านไอซาโน่!!!" โควตะอุทานอย่างตื่นตกใจ เมื่อเห็นร่างเด็กสิบขวบที่ยืนร้องไห้อยู่ นายทหารผู้หนึ่งจูงม้าเข้ามา

"ท…ทามะ" ไอซาโน่สะอื้น โควตะรู้สึกมีลางสังหรณ์ไม่ดี

"เกิดอะไรขึ้นขอรับ?" โควตะจับไหล่เด็กน้อยเป็นเชิงปลอบโยน

*ตุ้บ!!! * เด็กชายหมดสติฟุบไปในอ้อมแขนของเขา

"มาคุ!!! พาเด็กไปดูที!!" โควตะตะโกน แต่นั้นคือเรื่องที่เกิดเมื่อสักครู่นี่…

โควตะคิดจะเข้าไปดูเสียหน่อย แต่มาคุก็ออกมาก่อน

"เป็นยังไง?" โควตะถามอย่างรีบร้อน

"หมดสติขอรับ คงเพราะขี่ม้ามาเกือบครึ่งวันก็เป็นได้ แล้วก็ตื่นตกใจ ให้พักสักครู่ก่อนดีกว่าขอรับแล้วค่อยเข้าไปเยี่ยม" มาคุเปรยเบาๆ ก่อนที่จะสั่งให้พ่อครัวทำอาหารมาให้เด็กชายทานเสียหน่อย การควบม้าครึ่งวันโดยไม่ทานอะไรและร้องไห้ไปด้วย คงเสียพลังงานมากทีเดียว

"ขอเข้าไปดูหน่อยได้ไหม?" โควตะถามอย่างจะเอาให้ได้ มาคุก็ยักไหล่ โควตะวิสาสะถือเป็นคำอนุญาตเข้าไปดูเด็กชายที่นอนตะแคงอยู่บนเตียง โควตะเดินเข้าไปหาอย่างเงียบเชียบ เขาไม่คิดจะปลุกเด็กน้อยแต่อย่างไร ชายหนุ่มลากเก้าอี้มาหาตัวช้าๆแล้วนั่งลง อาจารย์หรือ? คำที่เด็กคนนี้พูดเป็นครั้งสุดท้าย เกิดอะไรขึ้นกับนัตสึกิ? เขานั่งเป็นกังวลร้อนรนแต่ก็ไม่ได้รบกวนเด็กน้อย ไอซาโน่หลับตาปี๋ โควตะปัดผมออกจากหน้าเด็กน้อยเบาๆ

"ท่านนัตสึกิ…" โควตะพึมพำ

. . . . . .

อีกแล้ว….ฝันอีกแล้วหรือนี่ ฝันร้ายอีกแล้ว ไม่ฝันมานาน แต่ก็ไม่อยากฝัน อีกแล้วหรือนี่? เห็นอีกแล้ว เห็นตอนที่ไฟไหม้ เห็นตอนที่ตกจากสะพาน เห็นตอนที่จมน้ำ เห็นๆ…เห็นอะไรต่างๆนานา ตั้งแต่หลงป่า ไปจนถึงพวกพรานป่า ตอนที่มันใช้มีดกรีดขาเราตอนที่จะขโมยอาหารมัน มันกำลังจะเอาตัวเราไปแขวนคอ….ใช่!!! ตอนนั้นเรากำลังจะตาย รึว่า…เราตายไปแล้ว…ต…แต่…ไม่สิไม่!!

เรายังอยู่….เรารอดมาได้ยังไง…ใช่แล้ว…เห็น…เราเห็นอาจารย์ขี่ม้าเข้ามา…ใช้ง้าวฟาดพรานป่าพวกนั้น ขณะที่เราห้อยคออยู่ในบ่วงเชือก อาจารย์ควบม้าเข้าตัดเชือก ตอนนั้นดวงตาพร่ามัวไปหมด อาจารย์อุ้มเราขึ้นมา…อบอุ่น

หลับให้สบายนะ เด็กน้อย….อาจารย์พูดอย่างนั้น ครับ!! อาจารย์ เราหลับไป อาจารย์พาเรากลับไปที่จวน เราเจอซันจิ กับ โชนิ เราสัญญาว่าจะเป็นเพื่อนตายกัน แต่ทำไมข้าถึงได้ทิ้งพวกเขามาล่ะ….เพราะข้าต้องตามหาทามะให้ไปช่วยอาจารย์ ใช่!! ทามะ ทามะ ทามะ

"ทามะ!!!" ไอซาโน่ร้อง เหงื่อไหลโทรมเต็ม และเขาได้ตื่นขึ้น….

"ท่านไอซาโน่!!!" โควตะปราดเข้า ขณะกำลังคิดอะไรเพลินๆอยู่ เด็กน้อยลุกลี้ลุกล้น ปากเขาอ้าหุบอ้าหุบ ในหัวกำลังเรียงเรื่องราวที่จะเล่าให้ทามะฟัง

"มีอะไรขอรับ? ที่ไรโบเซ็นเกิดอะไร? ท่านนัตสึกิเป็นอะไร?" โควตะถามอย่างรีบร้อนแล้วฉวยมือไอซาโน่มาลูบปลอบ ไอซาโน่กลืนน้ำลายแล้วเงียบไปสักพักจึงตอบ

"ทามะ..เออ…ท่านแม่ทัพโควตะ"

"เรียกทามะอย่างเดิมเถอะขอรับ"

"ก็ได้…ทามะ"

"เกิดอะไรขึ้น?" โควตะถาม ไอซาโน่ปล่อยโฮก่อนที่จะพูดใดๆก็ตาม

"ร…ไรโบเซ็น..ถ..ถูกยึด ซามะเป็นคนทำ อ…อาจารย์ถูกจับเป็นต…ตัวประกัน ให้ท่านทำอะไรมัน…ม..ไม่..ได้" ไอซาโน่ร้องไห้สะอึกสะอื้น โควตะลูบหัวเด็กน้อย เขาพอจะจับความได้ โควตะปลอบให้เด็กชายเงียบและนอนพัก ส่วนตนเองก็เดินออกมา แล้วเรียกมาคุเข้าไปหาที่กระโจม

"แย่สิขอรับ!!!" มาคุเปรย พลางครุ่นคิดอย่างเคร่งเครียด เขารู้ว่าโควตะเครียดกว่าหลายเท่า นัตสึกินั้นสำคัญสำหรับโควตะเท่าไรไม่มีใครรู้ แต่รู้ว่าสำคัญมากสำหรับโควตะ แม่ทัพใหญ่ประสานมือคาดไว้ที่หน้าผาก ขบฟันแล้วหลับตาอันเป็นลักษณะทางประสาทของเขา มาคุเงียบไปพักใหญ่ เขาจ้องมองผู้บังคับบัญชาที่กำลังครุ่นคิดอย่างเคร่งเครียดของเขาอยู่ มาคุผู้แก่ด้วยประสบการณ์สมองตันไปหมด โควตะทำท่าเหมือนมีอะไรมาจุกที่คอ เครียดจริง เหมือนตอนที่เขาเคยแตกทัพเสียจริง รู้สึกเครียดเหมือนตอนที่ซาไอติดอยู่ในกองเพลิง แต่มันมากกว่า.. เครียดกว่าเดิมหลายแสนเท่า แต่ในที่สุดท้องไส้ที่บิดเกลียวก็ว่างเปล่าเมื่อเขาตัดสินใจ

"มาคุ"

"ขอรับ!!!" มาคุหันมารับคำอย่างรวดเร็ว โควตะเอนกายลงบนพนักเก้าอี้

"ข้าจะยกทัพไปหาเจ้าซามะ เพื่อช่วยท่านนัตสึกิ"

"แต่…"

"ไม่แต่หรอก" โควตะเอ่ยอย่างมั่นใจ เขาอาจจะคาดการณ์ไม่แม่นเหมือนตาเห็นอย่างซาไอ แต่เขาก็นับว่าเป็นคนทำอะไรไม่ค่อยพลาดคนหนึ่ง

"แม้จะถูกจับตัวเข้าไปมันก็คุ้มไม่ใช่หรือ?" โควตะยิ้มอย่างเยือกเย็น มาคุมองหน้าโควตะ โควตะมีแผนอะไรกันแน่!! แสงตะวันสาดส่องเข้ามาเริ่มอ่อนลงแสดงถึงยามเย็น

"แผนท่านคืออะไรหรือ? ท่านโควตะ" มาคุเอ่ยขึ้น โควตะหันกลับมา

"ไปตาม ซาโอะ!!! ให้ข้าที" โควตะเอ่ยถึงหลานของโทงาริ มาคุเลิกคิ้วคิดอย่างข้องใจ ทั้งคู่ไม่ค่อยถูกชะตากันแล้วท่านโควตะจะ…

"ไปตามมาสิ มาคุ" โควตะย้ำ

"ขอรับ" มาคุรับคำสั่งแล้วถอยออกไป พลางเดินเร่งไปหาซาโอะ หวังว่าซาโอะคงไม่ทำตัวไร้มารยาทต่อหน้าของโควตะหรอกนะ เพราะท่าทางโควตะพร้อมจะกระตุกเส้นอารมณ์ให้ขาดระเบิดออกมาได้ทุกเมื่อ

"แม่ทัพโควตะ!!!" ซาโอะทำความเคารพด้วยท่าทีอวดดีเช่นเดียวกับที่เขาชอบทำ

"เราอยู่ในหน้าที่การงาน เคารพข้าด้วย ซาโอะ!!" โควตะเอ็ด แต่ซาโอะยิ้มเยาะ

"แล้วท่านแม่ทัพออกไปสู้ก็เพราะคุณหนูนัตสึกิ เรื่องส่วนตัวมาปนกับเรื่องการงานได้อย่างไรขอรับ?" เขาพูดอย่างรู้ทัน โควตะหันมาขมวดคิ้ว จริงๆซาโอะก็เป็นคนฉลาด แต่ไม่เฉลียวเท่านั้นแหละ ปากร่าน กราดคำพูดไปเรื่อย ไม่รู้ที่สูงที่ต่ำ

"เฮอะ!!! แล้วข้าเป็นแม่ทัพนะ ไม่ใช่เจ้า!!!" โควตะหันมาเอ็ด ซาโอะยังยิ้มอย่างอวดดี

"นั้นสิ!! แต่แม่ทัพไร้ความสามารถก็ควรเปลี่ยน" เขาว่า โควตะมองซาโอะอย่างเหยียดหยาม เขาเป็นเสือไม่ควรไปกัดกับสุนัข แต่เสือก็ทนฟังคำพูดของสุนัขไม่ได้นานเหมือนกัน

"เจ้าชอบนัตสึกิใช่ไหม?" เขาถาม

"ใช่!!!" ซาโอะตอบอย่างเต็มปากเต็มคำ

"แล้วอยากแก้แค้นให้ลุงของเจ้าไหม? ท่านโทงาริน่ะ" โควตะถาม ซาโอะจ้องมองโควตะ เกรงว่ามันจะเป็นกลอะไรสักอย่าง

"ใช่…" เขาก้มหน้าอย่างข้องใจ ว่าจะมีกลอะไรในคำพูดนั้น

"ไม่แน่ใจเอาเสียเลย!"

"ใช่!!! ข้าอยากแก้แค้นให้ท่านลุง" ซาโอะแทบตะโกน โควตะยิ้มอย่างพอใจ แล้วหันลงไปนั่ง เด็กคนนี้พยศมาแต่ไหนแต่ไร ชอบทำตัวนอกคอกเสมอมา โควตะรินเหล้าลงจอก

"ดื่มสิ!" เขาเอ่ย ซาโอะรับไปดื่มตามมารยาท เขาไม่เคยฟังใครอยู่แล้ว แต่ถ้าไม่ดื่มโควตะจะว่าเขาขี้ขลาด ชายหนุ่มวางเหล้าลง

"มีอะไร?" เขาปาดริมฝีปาก ทีท่าอวดดียังคงอยู่แต่ก็น้อยลงเมื่อเห็นการยั่วโมโหไม่ได้ผลเท่าที่ควร โควตะหัวเราะ หึๆ

"อายุเท่าไรแล้วปีนี้น่ะ?" โควตะเอ่ยถาม ซาโอะเลิกคิ้ว

"ทำไม?"

"แม่ทัพถาม!! ตอบสิ!"

"26…." ซาโอะตอบเบาๆ โควตะยิ้มอย่างพอใจ

"เป็นหนุ่มแล้วสินะ.." โควตะพึมพำ ซาโอะหรือ? ใช่!!! เมื่อก่อนเจ้าเด็กจอมกวนที่ทำเอาทั้งราชสำนักระอาก็เด็กคนนี้แหละ… ผู้เป็นน้องของอำมาตย์โทงาริเป็นพ่อค้าภูมิฐานที่ยุ่งวุ่นวายกับธุรกิจของเขาจนไม่มีเวลาเอาใจใส่ลูกชายคนเดียว ซาโอะเริ่มเรียกร้องหาความสนใจ โดยการฝึกเป็นขโมย ย่องเบา ฝีมือเข้าขั้นสุดยอด สะเดาะกลอนและกุญแจ เข้าขโมยทรัพย์สินของชาวบ้านธรรมดาจนไต่เต้าไปเป็นขุนนางในราชสำนัก แต่เมื่อถูกจับได้ พ่อของซาโอะอับอายมาก ถึงกับส่งมาให้โทงาริดูแล โทงาริดัดนิสัยของเขาให้เลิกขโมยได้

แต่เหล่าขุนนางคนอื่นก็ยังมีอคติในตัวเด็กที่ฉลาดเฉลียวแต่ปากดีคนนี้ ไม่มีใครรักหรือเอาใจใส่ มีแต่โทงาริเท่านั้น ซาโอะทั้งรักและผูกพันธ์กับอำมาตย์ท่านนี้ โควตะยังจำได้ตอนที่เขาเข้าเป็นมหาดเล็กใหม่ๆ ซาโอะนั้นรังแกซาไอ เขาไปยืนถกเถียงกับเจ้าเด็กนี้ตั้งนานแต่ก็ไม่ชนะ จนต้องลงไม้ลงมือ ดีที่โทงาริมาขวางไว้ทัน ไม่งั้นคงมากกว่าหัวร้างข้างแตก จากนั้นพวกเขาสองคนก็มองหน้ากันทีไรเป็นหาเรื่องมาทะเลาะกัน แต่น่าแปลกที่วันนี้โควตะต้องมาขอร้องเจ้าเด็กคนนี้ให้ช่วยเหลือบางอย่าง

"นั่งสิ!! ซาโอะ" โควตะเชิญ ซาโอะมองอย่างไม่ไว้ใจ

"คงไม่เลื่อยเก้าอี้หรอกนะ?" เขาถามอย่างระแวง หลายปีก่อน โควตะกับเขาเคยมีเรื่องทะเลาะกันในหอนางโลมเพราะไปแย่งกิองคนเดียวกัน โควตะแกล้งชวนเขาคุยแล้วส่งเก้าอี้ขาหักให้เขานั่ง

"เรื่องแบบนั้นเด็กๆ" โควตะยิ้มเยาะ

"ถ้าข้าจะแกล้งเจ้า ข้าจะให้มือขวานสักคนอยู่ที่ประตูกระโจม แล้วฟาดขวานลงมาให้เจ้าตกใจเล่น" โควตะยิ้ม ซาโอะทำท่าใคร่ครวญ

"เป็นความคิดที่ดี ไว้ข้าจะเอาไปทำ เวลาท่านลุงเชิญท่านเข้าบ้าน!!!" ซาโอะยิ้มตอบ ทั้งคู่กำลังต่อสู้ด้วยวจี และค้นเรื่องความหลังขึ้นมาพูด เขาทั้งสองคล้ายมีอะไรเหมือนกัน มักทะเลาะกันเพราะแย่งผู้หญิงคนเดียวกันเสมอ

"ยังจำผู้หญิงที่ชื่อมามิโกะได้ไหม?" ซาโอะหัวเราะ

"ใช่ๆ นั้นทำให้เราแย่งกันจนแข่งกันประมูลผู้หญิงคนนั้นจนหมดตัว สรุปว่าหอบุปผาสวรรค์รวยไปหลายเดือนเลย" ทั้งคู่หัวเราะ โควตะรินเหล้าเพิ่ม

"สุดท้ายท่านก็ได้ไป!!!" ซาโอะบอก ด้วยความเศร้าสร้อย "สุดท้ายท่านก็ชนะ!!!" โควตะพยักหน้า

"ท่านทำอะไรกับนางน่ะ?" ซาโอะถาม

"ฆ่านางหรือ? ทำไมข้าไม่เจอนางอีกเลย" เขาถาม โควตะก้มหน้านิ่ง แล้วกินเหล้าเพิ่ม

"ข้าปล่อยนางไป…"

"ห๊า!! สวยออกอย่างนั้นน่ะ" ซาโอะตบโต๊ะอย่างเสียดาย โควตะพยักหน้า

"ข้ายอมรับซาโอะ บางครั้งที่แย่งผู้หญิงกับเจ้าก็เพราะอยากเอาชนะเจ้า ข้าเห็นเจ้าตอนนั้นแล้ว ข้าเสียใจ ซาโอะ ข้าไม่ทำอะไรนางให้รู้สึกผิดไปกว่านี้หรอก ให้เงินแล้วส่งกลับบ้าน แล้วก็ถูกพระนางฮิโตมิเอ็ดตะโรไม่ให้เข้าวังสามวันเจ็ดวัน" โควตะเอ่ย ซาโอะรินเหล้าให้ตัวเอง ดื่มเฮือกใหญ่แล้วทรุดหน้าลงกับโต๊ะ

"ข…ข้าไม่ร้องไห้นะ" เขาบอกด้วยเสียงเหมือนมีอะไรมาจุกที่คอ

"ข…ข้าแค่จำได้ ต..ตอนที่ท่านช่วยข้าเท่านั้นเอง" ซาโอะคร่ำครวญ โควตะนิ่วหน้า ช่วย? เอ๋? นี่เขาเคยช่วยเจ้าหมอนี่ด้วยเรอะ? เมื่อไร….อ้อ!!!

ตอนนั้นเขาเพิ่งได้ตำแหน่งแม่ทัพมาสดๆร้อนๆ ร้อนจริงๆ แล้วก็กำลังคึกตามภาษาหนุ่ม เดินโชว์ตำแหน่งแม่ทัพทั่ววังล่ะน่า!!! แต่ตอนนั้นเขาเห็น เห็นซาโอะ กำลังยืนรอที่หน้าต่างบานหนึ่ง…

ใบหน้าตอนนั้นไม่เหมือนซาโอะผู้อวดดีแม้แต่น้อย มันเป็นภาพของของชายหนุ่มที่กำลังลุ่มหลงคลั่งไคล้อะไรบางอย่าง ในมือของเขาถือดอกไม้กอใหญ่ มือเปื้อนดิน เป็นไปได้ว่าเขาลงทุนถอนมันขึ้นมา โควตะมองดูห่างๆ

'มาริ มาริ' ซาโอะออกเสียงเรียก เขายืนรออยู่นาน นางกำนัลนางหนึ่งชะเง้อออกมา

'อะไร?' เธอถามงงๆ

'ดอกไม้ หามาให้' ซาโอะกล่าวด้วยน้ำเสียงแห่งความหวัง นางกำนัลผู้นั้นย่นจมูก แล้วทำท่าจะรับดอกไม้มา แต่ก็หดมือออก

'เปื้อนดิน!!!' เธออุทาน ซาโอะยิ้มเห่ยๆ

'ก็…ข้าเด็ดมานะสิ' ซาโอะบอก พลางยื่นมันให้เธอ แต่นางกำนัลผู้นั้นส่ายหน้าแล้วเดินหายไป ซาโอะก้มลงมองดอกไม้ของตัวเองเศร้าๆ แล้วเดินจากไป… ตอนนั้นโควตะมองเฉยๆไม่รู้สึกอะไร แต่ต่อมาก็เกิดเรื่อง เมื่อซาโอะเกิดถูกกล่าวหาว่าบุกรุกไปในตำหนักนางกำนัล ในห้องของนางกำนัลที่ชื่อมาริ

'ข้าไม่ได้เข้าไป!!!' เขาร้อง

'ข้าไม่เคยย่างกายเข้าสู่ตำหนักเลย ข้าไม่ได้เจอมาริมาเป็นอาทิตย์แล้วน่ะ' ซาโอะร้อง มาริที่เสียตัวให้กับชายในความมืดสะอึกสะอื้น

'จะเป็นใครนอกจากเจ้า เจ้าตามจีบนางอยู่แต่นางไม่เล่นด้วย เจ้าเลยถือโอกาสบุกเข้ายามวิกาลใช่ไหมล่ะ? แล้วเจ้าก็มีเวรตรวจตราแต่เจ้าหายไป' มหาดเล็ดชั้นสูงคนหนึ่งตะคอก การทำเช่นนี้เท่ากับการหมิ่นพระเดชานุภาพขั้นสูง โทษคงไม่พ้นประหาร โทงาริก็อาจพลอยถูกลงทัณฑ์ไปด้วย โควตะที่ยืนอยู่ใกล้ๆนั้น มองเห็นท่านโทงาริมีทีท่าหนักใจ ขณะมองพวกมหาดเล็กคุมตัวซาโอะไปคุมขัง

'เสียใจหรือขอรับ ท่านโทงาริ' โควตะเอ่ยปลอบ โทงาริส่ายหน้า โควตะตกใจนิดๆที่โทงาริไม่เสียใจในการกระทำของหลานชายแท้ๆของตัวเอง

'ซาโอะไม่ได้ทำ!!!' โทงาริพูดอย่างหนักแน่น

'ทำไมล่ะขอรับ?' โควตะแปลกใจ เพราะโทงาริไม่เคยเข้าข้างใคร แม้แต่คนสนิทตนหากผิดจริง โทงาริเชิดหน้าขึ้น

'เด็กคนนั้นเคยลักเล็กขโมยน้อย ยังโอหังอวดดี แต่ไม่ใช่คนโกหก แล้วก็ไม่ใช่คนที่จะขืนใจหญิงสาวที่ไม่ได้รักตนด้วย เด็กคนนั้นมีเกียรติในตนเอง!!' โทงาริว่า โควตะอึ้ง ก็ใช่! ซาโอะเป็นคนหยิ่งในเกียรติ

'หมายความว่า…'

'ใช่!! อาจมีใครใช้เรื่องที่ซาโอะเกี้ยวมาริเป็นแผนก็ได้'

'แต่…'

'ใช่! ไม่มีใครยืนยันได้ว่าซาโอะไม่ได้อยู่ที่ไหนเมื่อคืน!! แต่เด็กคนนั้นไม่เคยโกหกข้า…แต่เขาก็ไม่บอกว่าเขาอยู่ที่ไหน?' โทงาริถอนใจ โควตะเริ่มเข้าใจในตัวซาโอะ….


ในวันสอบสวน ซาโอะถูกทรมานสารพัด แต่เขาก็ไม่เคยปริปากบอกเลยว่า เขาเข้าไปในตำหนัก เพราะเขาไม่เคยโกหก!!! โควตะทนดูไม่ได้แล้ว.. เขาเดินออกไป แต่ซาไอฉุดแขนเขาเอาไว้

'โควตะ?' เธอถามอย่างสงสัย

'ข้าจะจัดการอะไรนิดหน่อย' โควตะเอ่ย

'จะสารภาพไหม?' เสียงทหารตะโกนลั่น

'ไม่ๆ ข้าไม่ได้ทำ ไม่มีอะไรจะสารภาพ'

'หยุดก่อน!!!' โควตะตะโกน

'……' นายทหารหันมา

'เขาไม่ได้ทำ!!!' โควตะเอ่ย พวกนายทหารมีทีท่าตกใจ ไม่นึกว่าโควตะจะปกป้องศัตรูตัวฉกาจ ซาโอะก็มีทีท่าตกใจ

'ท่านโควตะ?'

'คืนนั้น!!! ข้าท้ามันเล่นหมากรุกทั้งคืนเลย….แล้วเจ้าก็แพ้ข้าทุกกระดานเลยใช่ไหม?' ประโยคหลังถามชายที่เป็นจำเลย ซาโอะอ้าปากค้าง ไม่นึกว่าโควตะจะช่วยเขา โควตะถือเอาอาการนั้นเป็นการตกลง

'สรุปว่าเขาไม่ผิดนะ ข้าเป็นพยานให้เขา ไปหาผู้ผิดคนอื่นเถอะ' โควตะเอ่ยแค่นั้นก็เดินออกไป ในครั้งนั้น ทำให้ซาโอะพ้นจากข้อหาต้องโทษประหาร และต่อมาก็จับคนร้ายได้ เป็นขันทีปลอมในวังนั้นเอง…

"ข้าอยากรู้จริงๆว่า จริงๆแล้วเจ้าไปไหน?" โควตะกลับมาสู่ปัจจุบันกาล เขาถามซาโอะที่นั่งอยู่ข้างหน้าเขา ซาโอะยิ้มเยาะ ถึงครั้งนั้นเขาจะไม่ได้ออกปากบอกว่าโควตะพูดจริงแต่เขาก็ไม่ได้เถียง เขายังรู้สึกผิดที่ทำให้ความกะล่อนของเขาก่อเกิดจากตรงนั้น


"อยากรู้เรอะ?"

"ใช่!!!"

"ดูดอกไม้!!!"

"ห๊า!!!"

"คืนนั้นลมแรงฝนตก จริงๆแล้วข้ามีเวร แต่ข้าไปดูดอกไม้ในสวน แล้วก็หาผ้ามาบังทั้งคืน ทำให้ไม่มีใครเห็นข้าว่าข้าไปไหน?" ซาโอะก้มหน้า โควตะหัวเราะเล็กน้อย หมอนี่จริงๆก็เป็นคนอ่อนโยนมาก

"แล้วมาริไปไหนล่ะ? ตั้งแต่ตอนนั้นก็ไม่เห็นอีก" โควตะถาม

"กลับบ้านไปแล้ว ทรงมีบำเหน็จปลอบขวัญ อนุญาตให้กลับบ้านไปได้" ซาโอะตอบ

"ตอนนั้น…เจ้ารักนางจริงๆหรือ?"

"อืม….ความรักที่คึกคะนอง ตอนนี้คงไม่แล้วล่ะ ข้าตัดใจไปแล้ว" ซาโอะเท้าหัว

"อืม…." โควตะทำเสียงตาม

"ข้ารักคุณหนูนัตสึกิ!!!" โควตะพูดลอยๆ ซาโอะมองหน้าโควตะ โควตะเงยหน้าขึ้นก่อนที่จะพูดซ้ำ

"ข้า-รัก-ท่านนัตสึกิ" เขาเน้นทีละคำ ซาโอะมองงงๆ เขาเคยทำสงครามแย่งผู้หญิงกับโควตะมาหลายคน แต่โควตะไม่เคยจริงจังถึงขนาดบอกว่ารัก อย่างมากก็แค่ชมว่าน่ารัก สวยดี หรืออาจหยอกล้อไม่จริงจัง แต่คนก็ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนมาทำให้เขานั่งเครียดได้ขนาดนี้ ยกเว้นซาไอผู้เป็นน้องสาว ซึ่งก็ไม่ค่อยสร้างเรื่องให้ปวดหัวนัก ส่วนมากซาไอต่างหากที่ต้องปวดหัวกับการตามหาพี่ชายที่หายตัวไปมา

"ข้ารักนาง ต่อจากนี้คงไม่มีใครไปแย่งหญิงสาวกับเจ้าอีกแล้ว เพราะข้ารักท่านนัตสึกิ ตอนนี้หัวใจข้าเป็นของนาง" โควตะเอ่ยเรียบๆ ซาโอะยิ้มเยาะ

"น้ำเน่าดีแท้…" เขาพึมพำ แล้วลุกขึ้น

"เลิกพล่ามเสียที มีอะไรก็รีบพูดๆมา รำคาญจริงเชียว" ซาโอะว่า

"นี่แม่ทัพใหญ่นะ ไอ้หนู เคารพหน่อย" โควตะเอ็ดอย่างไม่จริงจังนัก

"ขอราบบบบ ท่านแม่ทัพโควตะผู้ยิ่งใหญ่ เกรียงไกรไม่มีใครเกิน มีอะไรให้ซาโอะผู้ต่ำต้อยรับใช้" ซาโอะค่อมกายอย่างดัดจริตตน

"พอๆ เกิดมากเพิ่งเคยเห็นเจ้าพูดป้อยอขนาดนี้" โควตะสะบัดมือ

"เฮอะ! เกิดมาข้าก็เพิ่งเคยโกหกมากขนาดนี้เหมือนกัน" ซาโอะเถียง

"เจ้าหนูนี่นิ!!! เอาล่ะมาเข้าเรื่องดีกว่า" โควตะลุกขึ้นแล้วหันหลังให้

"เจ้ายังย่องเบาได้ดีเหมือนเดิมไหม?" เขาถาม ซาโอะตกใจนิดหน่อย

"อาจจะ… ทำไม? ถ้าจะให้ทำก็ขอซ้อมมือนิดหน่อย ไม่ได้ทำมานานตั้งแต่ท่านลุงบอกให้เลิก"

"นานเท่าไร?"

"2 ชั่วโมงก็เหลือเฟือ" ซาโอะตอบ

"งั้นดี!!" โควตะหันกลับมา

"ข้ามีงานให้ทำ!!!!"

. . . . . .

ในคุกที่ค่อยข้างอับชื้น ชาย 5 คนนั่งกันอยู่คนล่ะมุมห้องขัง คนแก่ที่สุดถูกจัดให้นั่งอยู่บนกองฟางที่อุ่นสบายที่สุดในห้องขัง แต่ก็ไม่พ้นความอับชื้นอยู่ดี อีก 4 คนนั่งอยู่บนพื้นที่แฉะๆ ซึ่งก็ไม่ได้แย่กว่าคนที่นั่งอยู่บนกองฟางซักเท่าไร น้ำหยดลงบนพื้น จิโฮที่เมื่อไม่กี่วันก่อนยังคลั่งอยู่ทะลายลูกกรงอยู่ หยุดและทรุดตัวลง เขานั่งเฉยอยู่ในที่คุมขัง วารางิคงคลั่งน้อยลงเล็กน้อยเมื่อทำใจได้ว่าลูกสาวของเขาได้เสียกับคนที่ตัวเองรักและผู้ชายคนนั้นก็น่าจะรักเธอด้วย ไม่ได้ถูกฉุดไปขืนใจเป็นนางบำเรอให้กับทหารทั้งค่ายแต่อย่างใด ถึงมันจะเป็นการขัดศีลธรรมที่ดีงามก็เถอะ!!! เขาจะต้องทนความอับอายไปนาน

"นี่!!! แกได้ยินหรือเปล่า?" เสียงพัสดีคุยกัน

"อะไร?"

"ก็เรื่องนัตสึกิลูกสาวเจ้าเมืองไง!!!"

"อะไรเหรอ!!!"

"กลับมาจากค่ายทหารแล้ว!!! เห็นว่าโควตะมาส่งด้วยน่ะเฟ้ย!!!"

"เฮ้ย!!! จริงง่ะ แล้วซามะทำไงล่ะ?"

"ก็จับตัวไว้สิ!! เมื่อเช้าสู้กันไม่รู้รึไง แต่นัตสึกิก็ถูกจับตัวได้เป็นตัวประกัน เอาไว้เป็นกันชนสำหรับโควตะไงล่ะ ไม่รู้ว่าโควตะมันโง่หรือบ้าเหมือนกัน"

"โอ้…ซามะนี่ดูเผินๆก็ดี ที่จริงเลวใช่เล่นเลยนะเนี่ย" พัสดีทั้งสองหัวเราะ จิโฮฟังแล้วตาค้าง ยามาดะลุกขึ้นยืน มิฮาโอะต่อยกำแพง อังโคขุที่เยือกเย็นที่สุด ก้มหน้านิ่ง วารางิซบหน้ากับตักตนอย่างเจ็บใจสุดซึ้ง

"ใครถูกกันแน่?" วารางิพึมพำ แสงเดือนส่องเข้ามาในง่ามกรงห้องขัง….

. . . . . .

อาชากล้าที่กินเสียสมบูรณ์ทุกอย่างกำลังเหิมศึก มันยกขาหน้าเตรียมออกวิ่ง ฝุ่นตลบไปทั่วเมื่อพวกมันกระแทกเท้าโดนธุลีดิน ม้าศึกหลายพันตัว ยังไม่รวมทหารราบอีก 10,000 คน กำลังเหิมศึกเพราะไม่ได้ออกศึกมานาน สถานการณ์ที่ได้เปรียบทำให้นายทหารทั้งหลายไม่เข้าว่าทำไมถึงไม่ให้รบเสียที โควตะออกตรวจตรากองทัพที่ประกอบด้วยทหารช่างบ่นที่นั่งเช็ดอาวุธพลางโอ้อวดไปตามภาษาคนเหิมศึกว่าจะจัดการศัตรูอย่างไร

"อย่าให้เหมือนคราวจิโฮล่ะ!!" โควตะเอ็ดเบาๆ กับทหารกลุ่มหนึ่งที่จับคุยกัน

"ไม่หรอกขอรับ!!!" พวกเขาตอบกันอย่างพร้อมเพรียง แล้วก้มลงเช็ดอาวุธต่อ โควตะส่ายหน้า เจ้าพวกนี้ไม่เคยเข็ดเอาเสียเลย เสียงดังตึงตังดังขึ้นในเวลาต่อมาไม่นานดึงโควตะออกจากห้วงความคิดของตน แม่ทัพนายหนึ่งเดินเข้ามา แล้วทำความเคารพ

"ทัพพร้อมแล้วขอรับ!!!" เขาเอ่ยขึ้นหลังจากทัพความเคารพเสร็จ โควตะยิ้มเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้แก่ตัวเอง เขาลุกขึ้นอย่างช้าๆ แล้วเดินตรงไปยังกองทัพอย่างสง่างาม แล้วขึ้นไปบนม้าที่นายทหารจัดเตรียมไว้ให้

"เคลื่อนทัพ!!!" เสียงที่ทรงเดชานุภาพดังกระหึ่มตามด้วยเสียงเฮของทหาร แล้วกองทัพอันเกรียงไกรเคลื่อนออกไป โดยมีจุดมุ่งหมายกำราบศึกเมืองไรโบเซ็น และจุดหมายของโควตะช่วยนัตสึกิ

. . . . . .

"มาแล้วขอรับ ท่านซามะ" นายทหารผู้หนึ่งลุกลี้ลุกลนไปหาซามะ ที่เฝ้ามองอยู่ริมกำแพงเมือง นัตสึกินั้นอยู่ใกล้กันนั้นเอง เธอเบิกตาโพล่ง

"ซามะ แกมันเลวไปแล้ว!!!" นัตสึกิตวาด ซามะหันมายิ้ม น้ำเสียงของนัตสึกิไพเราะสดใสเกินกว่าจะตวาดให้คนกลัว แต่ก็มีอำนาจเต็มที สมกับเป็นคุณหนูใหญ่

"ไม่ต้องห่วงหรอกท่านนัตสึกิ!!! ก่อนข้าจะฆ่ามันข้าให้ท่านกับมันอยู่ด้วยกันแน่นอน" ซามะหัวเราะอย่างสะใจ ก่อนที่จะสั่งให้ทหารยกร่างคุณหนูใหญ่ที่พันด้วยโซ่เส้นใหญ่ นำไปแขวนไว้หน้าประตูเมืองแล้วใช้ผ้าคลุมร่างของคุณหนูไว้

"ซามะ!!! โควตะต้องฆ่าเจ้า เขาไม่ทำอะไรให้กับเรื่องเล็กๆอย่างข้าหรอก!!!" นัตสึกิตวาด

"รอดูไปเถอะ" ซามะหัวร่อ แล้วก้าวย่างมายังกำแพง มองลงมายังกองทัพที่ยาดตราทัพเข้ามา โควตะจ้องเขม็งมายังกำแพงเมือง สิ่งที่เขาเห็นคือซามะที่ยิ้มเยาะอยู่ โควตะหยุดม้าที่หน้ากำแพงเมือง ม้าย่ำเท้าตัวเองอย่างเหิมศึก เสียงหยุดดังอยู่ข้างหลัง มีเสียงเอะอะเล็กน้อยอย่าง เฮ้!!แกเหยียบเท้าข้าทำไม หรือ ไอ้นี่!! จะหยุดก็ไม่บอกว่ะ แม่ง!!

"……" โควตะจ้องคนบนกำแพง พลางควงทวนของเขา จ้องมองอย่างช่ำชอง โควตะกราดตามองไปยังทหารที่อยู่บนกำแพงเมือง

"ข้ามาที่นี่!!! เพื่อฟังข้อตกลงที่ข้าได้มอบให้แก่แม่ทัพนัตสึกิเป็นทูตมาส่งข่าว จะยอมให้เดินผ่าน หรือจะให้บุกตะลุยเข้าไป!!!" โควตะตะโกน

"หากตกลงก็จงเปิดประตูเมือง หากไม่!!! ข้าจะบุกเข้าไปเดี๋ยวนี้" ซามะยิ้มเยาะบนกำแพงเมือง

"คำตอบคือ ไม่!!" เสียงตวาดกลับมา

"เจ้าแน่ใจแล้วนะ!!!"

"ใช่!!! แต่ก่อนเจ้าจะบุกเข้ามา ข้ามีบางอย่างอยากให้ดูเสียก่อน" เสียงซามะดังลงมา เล่นโควตะใจไม่ดี ผ้าที่ถูกคลุมปิดอยู่ถูกเลิกขึ้นช้าๆ โควตะอึ้งกับภาพที่เห็นไปชั่วขณะ นัตสึกิถูกผูกด้วยโซ่ ห้อยอยู่หน้าประตูเมือง เธอดิ้นน้อยๆ ก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมองไปข้างหน้า แดดที่ส่องลงมาอย่างร้อนแรงทำให้เธอมองเห็นไม่ชัด แต่เธอแน่ใจว่าคือโควตะ

"ท่านโควตะ" นัตสึกิร้องเรียกเบาๆ รู้สึกอึดอัดเพราะโซ่ที่พันตนไว้ ส่วนโควตะแทบคลั่ง

"ท่านนัตสึกิ!!!" เขาตะโกนสุดหลอดเสียง แล้วหันไปมองซามะที่ยืนเยาะบนกำแพงอย่างโกรธแค้น

"ไอ้ชั่วช้าซามะ!! แน่จริงลงมาสู้กันตัวต่อตัวสิว่ะ อย่างเอาผู้หญิงเป็นโล่กำบัง ไอ้หน้าตัวเมีย!!!" โควตะตวาดใส่ ทำให้ซามะยิ่งยิ้มอย่างสะใจ แล้วทำมือเป็นสัญญาบางอย่างทำให้ทหารปล่อยโซ่ที่พันตัวนัตสึกิให้ตกลงมาอย่างรวดเร็ว เสียงนัตสึกิร้องกรี๊ด แต่ก็ไปกระเด็นกระดอนก่อนถึงพื้น ทหารก็ดึงโซ่ขึ้นไปใหม่ โควตะยิ่งเดือดดาลมากขึ้น เมื่อซามะทำอย่างนี้

"ข้ามีเงื่อนไข หากเจ้ายอมแพ้ให้ข้าจับกุม!!! ข้าจะไม่ฆ่านาง แต่หากเจ้าดึงดันจะบุกเข้ามา ข้าจะฆ่านัตสึกิซะ!!!" ซามะเอ่ยขึ้น โควตะขบฟัน เหล่าทหารซุบซิบกันพักใหญ่ มาคุหันไปเป็นเชิงถามโควตะ โควตะได้แต่ก้มหน้านิ่ง เขาควรจะเลือกกองทัพ หรือหญิงที่เขารักดี?