[HOME] [สารบัญ] l 1 l 2 l 3 l 4 l 5 l 6 l 7 l 8 l 9 l 10 l 11 l 12 l 13 l 14 l 15 l 16 l 17 l 18 l 19 l 20 l 21 l 22 l 23 l 24 l 25 l 26
     l 27 l 28 l 29 l 30 l 31 l 32 l 33 l 34 l 35 l 36 l 37 l 38 l 39 l 40/1 l 40/2 l 41 l 42 l 43/1 l 43/2 l 44 l 45
     l 46 l 47 l 48 l 49/1 l 49/2 l 49/3 - fin l

บทที่ 18 อาเพศในราตรี


หลายวันที่ผ่านมา ซาไอเริ่มทำใจได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น รอยจ้ำที่เกิดขึ้นจางลงไปเพียงมาก เธอลงว่าราชการกองทัพในเช้าวันที่ 7 นัยน์ตาที่อิดโรยปนเศร้าตัดกันเหลือเกินกับน้ำเสียงและความเป็นแม่ทัพของเธอเหลือแสน เมื่อนายทหารรู้ว่าข่าวที่เกิดขึ้นกับเธอ จากข่าวที่ลือกันว่าเธอเคยเสียตัวเพิ่งหยุดไปหมาดๆ ข่าวของแม่ทัพคลุ้มคลั่งก็แพร่กระจายออกไปอีก มิใช่โดยฝีปากของผู้ใด ก็สาวๆรับใช้ของซาไอนั้นเอง

นารายะถึงกับกุมขมับเมื่อเจอกับเรื่องแบบนี้ ซาไอโอนถ่ายการทำบันทึกเสบียงมาให้เขาและแน่นอนเขาต้องต่อสู้กับคำถามเกี่ยวกับซาไอด้วย จะว่าไปกองทัพกว่า 20000 คน มาถามกันทีละคนก็ตอบกันเมื่อยทีเดียว

"วันละเกือบ 30 หนขอรับ" นารายะหัวเราะเหอะๆ เมื่อเล่าเรื่องข่าวโคมลอยที่เกิดขึ้นกับซาไอให้ฟัง ซาไอก็ไม่ได้ว่ากล่าวสิ่งใด นารายะรู้สึกผิดอย่างมากเมื่อซาไอยิ่งเงียบ ถ้าเขาไม่หลับนะ!!! เหตุการณ์นี่จะไม่เกิดขึ้น ถึงมันจะเป็นครั้งแรกก็เถอะ ซาไอเห็นสีหน้าของคนใต้บังคับบัญชาแล้วก็ปลอบใจ

"ข้าไม่ได้ว่าอะไรเจ้าหรอก นารายะ ข้าสบายดี การที่เจ้าหลับก็ไม่ใช่ความผิด นั้นเพราะเจ้าเหนื่อยอ่อน ถ้าเจ้าไม่ง่วงน่ะสิแปลก" ซาไอว่าแล้วก็ก้มลงอ่านพิชัยสงครามต่อไป แต่เดี๋ยวน่ะ!!! เธอคิด ถ้าในคืนนั้นมีคนไม่ได้นอนล่ะ ใครที่ไม่ได้นอน จากนั้นจิตใจของหญิงสาวก็ไม่อยู่กับพิชัยสงครามอีกเลย…..

ในยามเย็นซาไอออกมาเดินดูชัยภูมิ อีกไม่นานก็เข้าใกล้เมืองหลวงเข้าไปทุกที ชั่วขณะนั้นสายก็ขี่ม้าเร็วเข้ามาหา

"ท่านแม่ทัพ!!!"

"มีอะไร?" ซาไอหันกลับมาหา

"มีกองทัพฝ่ายนากิมาขอรับ!!!"

"ที่ไหน!!!"

"ทางป่าด้านตะวันออกขอรับ มี 40000 นายมากกว่าเราเกือบ 3 เท่าตัว เทนิราอุเป็นคนนำทัพมาขอรับ" สายตอบ ซาไอชักสีหน้า เทนิราอุศัตรูตัวร้ายของโควตะน่ะหรือ ตั้งแต่รู้จักกันไม่มีวันไหนที่เจอกันแล้วไม่หาเรื่องโควตะ ถึงกระนั้นความฉลาดเจ้าเล่ห์ก็ไม่แพ้ใคร

ซวยล่ะ!!! ซาไอคิด ขวัญทหารก็ไม่พร้อม กำลังก็น้อยกว่า เสบียงก็น้อยลง หากสู้ไปมีแต่แพ้

"ไม่ต้องห่วง" เธอพูดปลอบตัวเอง แล้วสะบัดมือให้สายออกไป ในฐานะที่เธอเป็นแม่ทัพที่มีชื่อนั้น เธอเชื่อว่าแม่ทัพเทนิราอุคงจะเกรงเธออยู่เช่นกัน แต่ก็ผิดตามที่คาดการณ์เอาไว้ ในระยะ 3 วันต่อมาทัพ 40000 ของเทนิราอุไม่ทีท่าว่าจะถอย ซ้ำยังจัดเตรียมกองทัพกันเป็นอย่างดี คาดว่าคงจะบุกมาอีกไม่นาน ฝ่ายเทนิราอุนั้นเขารอวันจะเอาชนะซาไอแห่งนากิมานานแล้ว ทัพที่พร้อมด้วยกำลังของเขาสมควรจะเอาชนะได้

จากที่สายรายงานทัพของซาไอกำลังระสับระส่ายด้วยข่าวซาไอคลุ้มคลั่ง ขวัญทหารย่อมอ่อนกำลังไปเป็นธรรมดา ที่จริงทัพของเทนิราอุไม่จำเป็นต้องบุกก็ได้ เพียงปล่อยไว้อีกฝ่ายก็ต้องถอยไปเองเป็นธรรมดาด้วยที่ขาดเสบียง แต่ด้วยนิสัยอยากเอาชนะ ซาไอก็คาดการณ์ได้ว่าร้อยทั้งร้อยเทนิราอุจะต้องบุกมาอย่างแน่นอน เพราะมั่นใจในกำลังตนเองว่าต้องเอาชนะได้อย่างแน่นอน และซาไอที่คลุ้มคลั่งไม่มีทางเอาชนะคนปกติอย่างเขาได้ หารู้ไม่ว่าข่าวนั่นเป็นข่าวโคมลอย ในคืนนั้นเองเทนิราอุก็ยกทัพมาในทันที กองทัพนายทหาร 30000 นายยกมาด้วยความเงียบเชียบ ทหารนั้นให้คาบไม้เอาไว้ไม่ให้พูด ม้าก็ผูกกลีบด้วยผ้า เมื่อมาถึงค่ายของซาไอก็บุกโจมตีค่ายทันที แต่ค่ายนั้นเป็นค่ายว่างเปล่า เพราะซาไอได้ย้ายค่ายถอยไประยะหนึ่งก่อนหน้านี่เพียงชั่วครู่ แล้วให้ทหารไม่ต้องรื้อค่าย ยังให้จุดไฟไว้ทั่วเหมือนมีคนอยู่ และให้คนของตนแต่งตัวเป็นคนในทัพของเทนิราอุที่แอบซุ่มอยู่ไปแจ้งเทนิราอุว่า ซาไอเอาทัพ 13000 ของตนซ้อนกลไปตีทัพของเทนิราอุที่เหลือหมื่นเดียว ให้เทนนิราอุกลับไปช่วยค่ายตนก่อนที่จะถูกยึด

และก็ให้อีกคนไปแจ้งที่ค่ายของเทนิราอุว่าถูกซาไอล้อมตีให้รีบยกกำลังเสริมไปช่วย ทั้งสองฝ่ายก็มุ่งหน้าเข้าหากันทันที

เมื่อฝ่ายเทนิราอุเจอกับกองทัพเสริมก็คิดว่าเป็นทัพซาไอที่ตีค่ายตนจนแตกแล้วกำลังยกกลับเนื่องด้วยความมืดจึงไม่เห็นตัว เห็นแต่เงาคนลางๆ จึงสั่งเข้าตีด้วยบันดาลโทสะและโอหังว่าทัพตนมีมากกว่า ฝ่ายกำลังเสริมก็คิดว่าเป็นทัพของซาไอที่ตีทัพเทนิราอุแตก และกำลังจะไปตีค่ายตนก็โกรธแค้นเป็นกำลังเข้าจู่โจมโดยไม่สนกำลังพลที่น้อยกว่า ทั้งสองฝ่ายรบกันอยู่นานกว่าจะรู้ว่าเป็นพวกเดียวกันก็ฆ่าฟันกันกว่าครึ่งกองทัพ

ส่วนซาไอนั้นใช้เวลาเพียงชั่วครู่ปลุกขวัญทหารเล่าเรื่องที่ตนวางแผนไว้กับทัพของเทนิราอุ ทำให้ทหารมีกำลังใจสู้รบมากขึ้นแล้วก็ยกทัพกองทัพ โดยใช้ชัยภูมิที่มีลักษณะเป็นป่าจุดไฟเผากองทัพของเทนิราอุ และหลังจากนั้นก็ใช้หมื่นกว่าคนของตนเข้าซ้ำกองกำลังที่เหน็ดเหนื่อยและเสียขวัญ ทำให้ได้รับชัยชนะโดยง่าย ซ้ำยังสามารถบุกยึดปราการเมืองด่านชั้นในของอาณาจักรนากิได้อีกในรุ่งอรุณ ทหารทั้งหลายต่างยินดีในชัยชนะ ขวัญและกำลังทหารกลับคืนมาอีกครั้ง ส่วนเทนิราอุนั้นเสียชีวิตในกองไฟ มาโซยะรายงานมาอย่างนั้นว่าพบรถศึกที่ไหม้เกรียมด้วยร่างที่ใส่ชุดแม่ทัพ ซาไอนั้นได้ฝากฝังให้มาโซยะช่วยทำการฝังศพไหม้เกรียมนั้นให้ ในฐานะแม่ทัพที่ปกป้องบ้านเมือง ส่วนข่าวโคมลอยที่เกิดขึ้นนั้นหมดไป แผนซาไอได้ทำการวางไว้อย่างรอบคอบ เธอประชุมกับแม่ทัพนายกองทุกคน ได้รับการเห็นดีด้วย หลังจากทั้งหมดแยกย้ายกันไปพักผ่อนในป้อมปราการใหญ่นั้น ซาไอก็หอบร่างที่หมดแรงของตนไปด้วยเช่นกัน เธอยอมรับว่าเวลาเพียง 1 วัน 1 คืนที่ผ่านมาทำให้เธอหมดแรงไปมากทีเดียว สถานการณ์ที่ตึงเครียด ประกอบกับความกดดันเรื่องความเสียเปรียบทางกองทัพ รวมทั้งความเคร่งเครียดส่วนตัว ยอมรับว่าเธอไม่เคยประมาทขนาดนี้เลยในชีวิต เกือบทำให้ตายกันทั้งกองทัพ เธอเหนื่อยอ่อนเหลือเกิน ชัยชนะนั้นทำให้เธอสบายใจพอที่จะนอนหลับให้เต็มตา ตอนนี้เธอรู้สึกเหมือนฝันอยู่ ทางเดินตามปราการมืดๆยิ่งอุปโลกน์ให้เหมือนฝันยิ่งขึ้น เธอเดินย่ำไปบนพื้น เท้าแทบจะพยุงตัวเองไม่ไหว เธอวาดภาพตัวเองได้นอนหลับอย่างสบายบนเตียง ซาไอเลียริมฝีปากแห้งผาด จู่ๆเธอก็ได้ยินเสียงเคลื่อนไหวตามมา ซาไอยืนด้วยตัวเองแล้วหันตามเสียงอย่างรวดเร็ว

"ใคร!!!" เธอรวบรวมแรงสุดท้ายตะโกนถามขู่ และหวังว่าผู้นั้นจะไม่ใช่ศัตรู เพราะเธอคงไม่มีแรงสู้ด้วย

"ข้า!!!" เสียงมาโซยะดังมา

"มาโซยะ!!" ซาไอยิ้มนึกยินดีที่ไม่ใช่ศัตรู

"มีข่าวมาบอก" เขาพูดพลางเดินเข้ามา ซาไอรีบถอยกรูออกมาด้วยสัญชาติญาณ

"อะไรหรือ?" เธอถามเมื่อวางใจว่าใช่มาโซยะจริงๆ

"เออ…ข้าขออรัมบทสักนิดจะได้ไหม?" มาโซยะถามอย่างไม่แน่ใจ

"เอ้า…เร็วๆสิ"

"เรื่องที่เกิดขึ้นกับเจ้าในวันที่เจ้าร้อง…"

"ซาไอ!!!" เซอิจิวิ่งเข้ามา ทำให้มาโซยะถอยออกไป

"ท่านเซอิจิ"เธอยิ้ม

"โอ๊ยตาย!!! ข้าขวางหรือเนี่ย ได้ๆข้าไปล่ะ" มาโซยะเดินจากไปเมื่อเห็นซาไอและเซอิจิเข้ามาหากัน แต่เมื่อลับตาเขาก็แอบซุ่มดูอยู่

"เวรยามพร้อม นายทหารตรวจตราพร้อม" เขาเอ่ยเรียบๆ ซาไอมีทีท่าผิดหวังเล็กน้อยที่เขาไม่สนทนาเรื่องส่วนตัว

"แผนที่เจ้าทำน่ะ ยอดเยี่ยมมากเลยน่ะ แม้มันจะโหดร้ายไปมากสักหน่อยก็เถอะ" เซอิจิวิจารณ์แผนอย่างตรงไปตรงมา เสียดแทงใจซาไออย่างมาก เธอไม่อยากจะคิดว่าเซอิจิจะว่าเธอเป็นคนโหดร้ายและเลิกรักเธอเสีย

"มันจำเป็นเพค่ะ ท่านเซอิจิ" ซาไอแก้ตัวสั้นๆ และไม่พูดอะไรอีกเมื่อเห็นสายตาเย็นชา ซาไออยากร้องไห้ทุกครั้งที่เห็นมัน

"ไปนอนเถอะ" เซอิจิผ่อนเสียงอ่อนลง แล้วหันไปมองที่อื่น เขาไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมต้องเย็นชากับคนที่เขารักด้วย ซาไอล้มตัวลงบนเตียงอย่างอ่อนเพลีย ตอนนี้เธอรู้สึกเจ็บปวด แค้น และหมดอาลัยตายอยาก

ท่านเซอิจิหมดรักในตัวข้าแล้วหรือ? เธอคิด ข้าไม่เหลืออะไรแล้ว ไม่เหลือแล้ว จากนี้ข้ามีตัวคนเดียว ข้าจะสู้คนเดียวอย่างที่เคยทำมา เพราะข้าคือ อัจฉริยะภาพแห่งนากิ ซาไอ แม่ทัพผู้เกรียงไกร!!!

แล้วเธอก็หลับไปพร้อมน้ำตากับสายตาเย็นชาที่เพิ่งประสบนั้น…

ต่อมาอีกไม่นานเสบียงก็มาถึง เป็นเรื่องน่ายินดีซ้ำซ้อน และที่นี่ซาไอได้ปกครองชาวเมืองอย่างดี ให้ทำมาหากินกันได้อย่างปกติ และได้อาสาสมัครเป็นทหารอีกเกือบ 500 นาย แต่สำหรับซาไอมันแย่ลงไปทุกทีเซอิจิเหินห่างออกไปทุกที ทุกครั้งที่อยากเจอเธอจะต้องอ้างเหตุทางงานเท่านั้น ไม่ว่าเซอิจิคิดอยากจะกระทำตนเป็นทหารที่ดีโดยการเยี่ยมเยียนราษฎร เขาก็ไม่พ้นจากการถูกสาวๆห้อมล้อม หลายคนนั้นมองดูงดงามอ่อนหวานกว่าซาไอนัก ทุกครั้งที่เธอมองก็จะถอนใจด้วยความเศร้า เซอิจิที่เคยอ่อนแอนั้นคงจะดีกว่าเซอิจิที่เย็นชาตอนนี้เป็นไหนๆ ซาไอตัดสินใจแล้ว เธอไม่มีใคร แต่ไม่เป็นไร เธอจะสู้คนเดียว เอาชีวิตมิโดริให้ได้……….

อีกไม่นานซาไอก็จะมุ่งหน้าเข้าสู่เมืองหลวงเพื่อไปรวมกับทัพของโควตะและโทงาริ และบุกเข้าตีเมืองหลวงเพื่อกอบกู้เอกราชต่อไป