|
หลังกลับมาได้ราว 3 เดือนเกิดเรื่องลางร้ายขึ้นในราชสำนักคือ
1.ราชาอิเอยาสึหลงเสน่ห์ ไปเสพสุขกับมิโดริได้ทุกวัน จนงดออกว่าราชการได้ราว 2 เดือนแล้ว ลำบากเสนาบดีเนโอมารุมากๆ
2.มิโดริสั่งห้ามมิให้เซอิจิเจอซาไอ และจัดหญิงงามมาให้เซอิจิแทบทุกวัน ส่วนเซอิจิก็เอาแต่เก็บตัวในห้อง
3.เมื่อราชินีฮิโตมิทรงเสด็จตรัสห้าม ราชาอิเอยาสึทรงพิโรธและสั่งกักให้พระนางอยู่แต่ในตำหนักใน
ซาไอก็ซึมไปถนัดตา คงเป็นเพราะไม่มีใครให้สอนอะไร ทั้งที่ตอนกลับมาใหม่ๆ เธอคุยเรื่องของเซอิจิให้ราชินีฮิโตมิฟังได้ทุกวัน ลำบากโควตะและมาคุที่ต้องมาชวนไปเที่ยวเพื่อให้ซาไอสบายใจขึ้น
"ทำไมมาเที่ยวล่าสัตว์ มันไม่สนุกรึไง ไม่ได้มาล่าเซอิจิซักหน่อย" โควตะดักคอ
"ฮึ
"
มาคุลากโควตะออกมานอกวง "ท่านโควตะขอรับ"
"เหอ
ทำไม" โควตะสะบัดตัว
"ท่านซาไอชอบท่านเซอิจิรึเปล่าขอรับ?"มาคุถาม
"หา!!จะเป็น
. เออ..มีสิทธิ์เป็นไปได้"โควตะว่า ใจหนึ่งก็คิดน้องสาวสุดที่รักของเขาน่ะหรือจะไปรักอ้ายเชลยต๊อกต๋อย แต่เฮ้อ
เขาผิดเองที่ให้คู่นี้อยู่ด้วยกัน
"หาทางให้คู่นี้เจอกันเถอะขอรับ" มาคุพูด
"เฮ้อ
สมที่เป็นคนสนิทของข้า แจ๋วๆ เอางั้นก็ได้"
"ซาไอ"
"เหอ
"
"อยากเจอไทจือไหม"
ปึ้ด!!! "ทำไมข้าต้องไปเจอเขาด้วย"
"ไม่ไปรึ นึกว่าอยากเจอ ไม่เอาก็ได้"
"ไปๆ"
ตกดึกคืนนั้น ซาไอ โควตะและมาคุ ลักลอบเขาไปในเขตที่เซอิจิอยู่
"ท่านเซอิจิ"ซาไอร้องเรียกจากต้นไม้นอกหน้าต่าง
"ซ
.ซาไอ" เซอิจิร้อง แล้ววิ่งมาที่หน้าต่าง
"เป็นยังไงบ้างเพค่ะ ข้างนอกเสียงดังเชียว" ซาไอทัก
"พวกสาวๆน่ะ รำคาญจริงเชียว เที่ยวมาออดอ้อนออเซาะ" เซอิจิว่า
"ทำไมล่ะเพค่ะ"
"ก
ก็ข้าไม่ใช่พระอิฐพระปูน มาเที่ยวจับนู้นโยงนี้ให้ เดี๋ยวข้าตายพอดี" เซอิจิพูดอย่างเบื่อๆ และถูกกลบด้วยเสียงหัวเราะของซาไอ
"เจ้าสบายดีหรือเปล่า?"
"ก็เบื่อๆน่ะเพค่ะ แล้วพระองค์ล่ะ ทำไมราชินีมิโดริไม่ให้ไปหาหม่อมฉัน"
"ก็เสด็จแม่ ไม่ชอบที่ข้าพูดถึงเจ้า ก็เลยไม่ให้ไปยุ่งกับเจ้า"พระองค์ตรัสกล่าว
"พระนางไม่ชอบ แล้วมีสิทธิ์อะไรมาสั่งพระองค์" ซาไอว่า พลางกระโดดเข้าไปในห้องของเซอิจิ
"คือ
.ข้า..ข้าต้อง
" เซอิจิอึกอัก ขณะที่ซาไอจับเสื้อคลุมให้เข้าที่ให้
"ช่างเถอะ กระหม่อมไม่อยากให้ท่าน เอากระหม่อมไปเปรียบกับราชินีมิโดริหรอกเพค่ะ" ซาไอกล่าว
"กระหม่อม ทูลลา" แล้วซาไอปีนออกไปนอกหน้าต่าง
"ซาไอ" เซอิจิร้องเรียก "เพค่ะ"
"พรุ่งนี้มาอีกน่ะ"
"จะพยายามเพค่ะ" แล้วซาไอก็ปีนต้นไม้ออกไป เซอิจิมองเธอจนลับตา
"กระหม่อมลาล่ะพะยะค่ะ หวังว่าราชินีมิโดริจะไม่ร้ายกับพระองค์นัก" โควตะกล่าว
"แล้วก็ หวังว่าพระองค์จะไม่คิดอะไรเกินเลยกับซาไอ" โควตะปีนต้นไม้จากไป
"คิดอะไร?" เซอิจิทวนอย่างงงๆ
ทั้งสองปีนต้นไม้ลงมาข้างล่าง ลมพัดแรงในวันนี้ ฝุ่นตลบอบอวลไปทั่ว แต่อารมณ์ของซาไอกลับตรงข้ามกับบรรยากาศ
แต่สิ่งที่อันตราย ก็จะเกิดในวันรุ่งขึ้นเช่นกัน
การประชุมของเสนาอำมาตย์เริ่มขึ้น นับเป็นที่น่ายินดีที่ราชาอิเอยาสึมาว่าราชการเป็นครั้งแรกในรอบ 2 เดือน แต่ที่เป็นที่ครหากันคือ พระองค์ นำพระนางมิโดริมาด้วย แล้วยังให้นั่งบนที่ด้านขวาอันเป็นที่ของราชินีฮิโตมิแห่งนากิ
"ถวายบังคม ขอจงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน"
"ลุกขึ้น"
"ตอนนี้บ้านเมืองเป็นเช่นไรบ้าง ท่านเนโอมารุ"
"บ้านเมืองสุขสงบดี แต่มีเรื่องการชลประทานที่อยากให้พระองค์
"
"เอาล่ะบ้านเมืองสงบดี ก็ดีแล้ว"
"เมื่อที่ผ่านมาอาณาจักรนากิที่ยิ่งใหญ่ของเราได้เข้าทำการเข้าอารักขาอาณาจักรซูคังที่อ่อนแอเพื่อให้พ้นจากภัยอาณาจักรอื่น และได้เชิญราชินีมิโดริกับเจ้าชายเซอิจิ ราชนุกูลทั้งสองแห่งซูคังมาพำนักที่นี่" พระองค์ขยับไปมา
"และที่สามารถส่งพระนางให้ปลอดภัยได้ก็เพราะความดีของแม่ทัพโควตะ และแม่ทัพซาไอและทหารอีก 5หมื่นนาย กับกองหนุนแม่ทัพปาปิยะ แม่ทัพเอซะ แม่ทัพโนทามากิโอะ และทหาร 2หมื่นนาย เราจะทำการบำเหน็จรางวัลโดยประสงค์จากเราและมิโดริ" เกิดเสียงเซ็งแซ่ ไปทั่วท้องพระโรงที่ราชาอิเอยาสึยอมทำตามคำของราชินีแห่งซูคังเป็นลางร้ายของอาณาจักรแต่ทุกคนก็รอดูเหตุการณ์ไปก่อน
"เงียบๆหน่อย!!" เสียงขันทีร้องตะโกน ทั้งท้องพระโรงเงียบลงอีกครั้ง
"แม่ทัพ โควตะและซาไอก้าวออกมา" ทั้งสองก้าวออกมาแล้วคุกเข่า
"ขอแต่งตั้งเจ้าทั้งสองเป็น แม่ทัพมหาศึก และมีทหารในบัญชาเป็น คนละ 10หมื่นนาย เพิ่มเบี้ยเลี้ยงเพิ่มเป็นคนละเท่าตัว"
"ขอบพระทัย" ทั้งสองก้าวกลับไป
"แม่ทัพปาปิยะ เอซะ โนทามากิโอะ ก้าวออกมา" ทั้งสามก้าวออกมา
"แต่งตั้งเป็นแม่ทัพระดับ 4 เพิ่มเบี้ยเลี้ยงอีก 1000"
"ขอบพระทัย"
"ทหารทั้ง 7หมื่น เพิ่มขั้นคนละ 2 ขั้น"
"ทรงปรีชายิ่งแล้ว" แล้วทั้งหมดก็ถวายพระพร
"เอาละต่อไปเป็นเรื่องเราบ้างน่ะ เราก็อายุจะ 50 แล้วยังไม่มีรัชทายาทสืบทอดบัลลังก์ ราชินีฮิโตมิไม่สามารถให้กำเนิดโอรสหรือธิดาได้ เรามีสิทธิ์ตั้งราชินีใหม่ได้หรือไม่ ท่านเนโอมารุ?" พลางหันไปมองอำมาตย์เฒ่า รอยยิ้มแห่งชัยชนะละเลงไปทั่วใบหน้าของราชินีมิโดริ ซึ่งตอนนี้ก็เป็นเพียงนางบำเรอมิโดริ
"ตามกฎมนเทียรบาล ไม่สามารถกระทำได้พะยะค่ะ การตั้งราชินีใหม่ต่อเมื่อราชินีสิ้นพระชนม์ หรือทำผิดมหันต์เท่านั้นพะยะค่ะ" เนโอมารุกราบทูล ขณะที่ราชาอิเอยาสึมีทีท่าไม่พอใจเท่าไร รอยยิ้มของมิโดริแทบหุบลงมาในทันที
"ถ้าอย่างนั้น เราจะทำการแต่งตั้งใหม่" สิ่งที่ทุกคนกลัวเกิดขึ้นแล้ว
"เราขอแต่งตั้งมิโดริเป็นสนมเอก สามารถออกว่าราชการกับเราได้" ราชากล่าว และหันไปกุมมือมิโดริ มิโดริฝืนยิ้มในใจก็แค้นที่ไม่สามารถเป็นราชินีได้ เสียงคัดค้านอย่างไม่เป็นทางการดังคับท้องพระโรง
"กระหม่อมขอคัดค้านพะยะค่ะ" โทงาริ อำมาตย์เฒ่าที่เป็นคนอุ้มชูราชาอิเอยาสึออกหน้าค้านอย่างเป็นทางการเป็นคนแรก
"ทำไมล่ะ?" ราชาอิเอยาสึถามคำถามที่ค่อนข้างปัญญาอ่อนออกไป
"กระหม่อมทนไม่ได้ ที่จะให้นังหญิงแพศยาหลายผัวคนนี้มายั่วยวนองค์ประมุข ทำให้ประเทศชาติ
"
"หยุดน่ะ!!! เจ้ากล้าดีอย่างไร จึงมากล่าวเช่นนี้" ราชาแผดเสียง
"อยากถูกฆ่านักใช่ไหม!!! ทหาร!!!"
"เอามันไปประหาร" ราชาออกคำสั่ง
"ท่านโทงาริ ทำคุณให้แผ่นดินมานาน ควรเห็นแก่ความดีของท่าน ลดโทษให้บ้างเถิดพะยะค่ะ" โควตะที่ยืนอยู่แถวหน้าออกหน้าขอร้อง
"ลดโทษด้วยพะยะค่ะ อภัยโทษด้วยพะยะค่ะ" เสนาอำมาตย์ และแม่ทัพทั้งหลายคุกเข่าขอร้อง
"จริงอยู่ ท่านโทงาริกล่าวไปก็มีความก้าวร้าว แต่ด้วยความภักดี และก็มิได้ลบหลู่พระองค์ ฉะนั้นมิใช่ลบหลู่เบื้องสูง ควรได้รับโทษแต่พอประมาณ" ซาไอกล่าว แต่ท่านโทงาริไม่มีทีท่ากลัวโทษ
"ท่านอิเอยาสึ ถึงอาณาจักรนากิของเราจะยิ่งใหญ่และเพิ่มตั้งได้ไม่นาน นั้นเพราะกษัตริย์ของเราทรงปรีชา มิได้หลงสุรานารี แต่ครั้งนี้ถึงจุดอับของอาณาจักร เกิดราชาไร้ความสามารถเช่นท่าน หากไม่มีท่านฮิโตมิที่คอยอุ้มชูคนดีให้ช่วยเหลือราชสำนัก แบกรับภาระของอาณาจักร ปานนี้ยังไม่รู้ว่าศพท่านจะไปอยู่ที่ไหน!!! คนดีเช่นท่านฮิโตมิยังถูกมองข้ามถูกกักกัน คนที่ได้ดีคือนังเชลยแพศยา ที่มอมเมาประมุข รู้ไว้น่ะ
"
ท่านโทงาริยังพูดต่อไป มิโดริแสดงอาการไม่พอใจอย่างมาก ราชาอิเอยาสึลุกขึ้นตะโกนแต่ก็ไม่ได้ผล โทงาริยังพูดความจริงต่อไป
"คนที่ข้าอุ้มชูน่ะเป็นท่านก็จริง แต่ท่านฮิโตมิหรอกที่ข้าอยากช่วยเหลือ คนที่เฉลียวฉลาดเช่นท่านฮิโตมิใยมิเป็นชายจะได้เป็นราชาที่ยิ่งใหญ่ พระนางสามารถโค่นล้มท่านได้ แต่พระนางก็ยังจงรักภักดีไม่คิดเป็นอื่นคอยแบกรับภาระของอาณาจักรทั้งที่ท่านคอยหาความสำราญ อำมาตย์กว่าครึ่งราชสำนัก ก็เป็นผู้ที่ถูกท่านฮิโตมิคัดเลือก เพราะท่านฮิโตมิขอร้องข้า ข้าถึงได้อยู่ช่วยเหลือ
"
"เจ้าพูดจบรึยัง!!!!" ราชาแผดเสียง
"ไม่เห็นหัวข้ารึไง!!! ข้าเป็นพระราชาน่ะ ฮิโตมิดีนักใช่ไหม?"
"ได้ๆ สั่งการลงไป เอาโทงาริไปประหาร ปลดฮิโตมิเป็นสามัญชน จะได้รู้ซะบ้างว่าข้าบริหารบ้านเมืองได้รึเปล่า!!!"
"อย่าพะยะค่ะ"
"โปรดไตร่ตรองดูใหม่"
"อย่าทำเช่นนั้น"
"นังคนกาลกิณีมิโดรินำภัยมาให้"
เสียงแห่งความวุ่นวายดังไปทั่วทั้งท้องพระโรง
"หากพระองค์ยืนยันจะทำเช่นนั้น ก็โปรดประหารกระหม่อมด้วย" เนโอมารุกล่าวอย่างเด็ดเดี่ยว
"คนดีอยู่ที่การกระทำ โทงาริลบหลู่เบื้องสูงสมควรประหารแต่เขามีความดี ส่วนท่านฮิโตมิเพียงถูกพาดพิงถึง โปรดไตร่ตรองดูใหม่"
"ได้ๆ เห็นแก่ความดีที่เคยทำมาของพวกทุกคน สั่งเนรเทศโทงาริออกนอกอาณาจักรใน 3 วันถ้าเลย 3วันผู้ใดพบเจอฆ่าได้ทันที ใครช่วยเหลือมันถือว่าเป็นกบฎ ส่วนฮิโตมิส่งไปตำหนักเย็นตัดอำนาจทั้งหมด ต่อไปนี้ข้าจะบริหารบ้านเมืองเอง เลิกประชุม!!!" ราชาตรัส แล้วเสด็จกลับเข้าตำหนักอย่างรวดเร็ว เร็วเกินกว่าทุกคนจะห้ามได้ทัน ยังความโกรธให้กับเหล่าเสนาที่มีต่อมิโดริมากยิ่งขึ้น หลังจากเลิกประชุม ได้มีเหล่าขุนนางรวมตัวกันเพื่อช่วยเหลือโทงาริ โดยเวลาดวงจัทร์แตะขอบฟ้าได้ปลอมตัวไปรวมกันที่บ้านของโทงาริ กว่า 30 คน ขณะนี้ เขาคือโทงาริอดีตขุนนางเท่านั้น
"ท่านโทงาริ" เหล่าขุนนางร้องเรียก
"โอ้
ทุกท่าน คารวะทุกท่าน" โทงาริคุกเข่า
"อย่าทำเช่นนี้เลย ถึงท่านจะเป็นชาวบ้านธรรมดา ท่านก็ยังเป็นท่านโทงาริที่พวกเรานับถือเสมอ" ขุนนางช่วยกันพยุงโทงาริขึ้น
"ทุกท่านมาที่นี่ มีอะไรให้ข้ารับใช้หรือ?"
"มิได้พวกเรามาเพื่อช่วยท่านต่างหาก"
"หา!!! เช่นนั้นพวกท่านจะถูกลงโทษ ฐานที่เป็นกบฎน่ะ"
"พวกเราไม่กลัวตาย เพื่อให้คนดีอยู่ช่วยนากิต่อไปพวกเรายอมตาย"
"พวกท่าน" โทงาริกล่าว
"ขอบคุณพวกท่านมาก" โทงาริคุกเข่า
"เอาล่ะเราวางแผนกันไว้แล้ว" โควตะกล่าว
"ซาไอพูดเลย"
"ก่อนอื่นราชาจะต้องหาทางประหารท่านแน่นอน เราจะส่งท่านไปกับกองเสบียงเป็นสารถีที่จะถูกส่งไปนอกเมืองในคืนนี้ หลังจากนั้นท่านก็จะต้องขับเกวียนไปจนถึงจุดพักแรกและก็จะเจอกับสารถีตัวจริง เราจะมีม้าเร็วให้ท่านและก็จะมีจุดเปลี่ยนม้าให้ทุกๆ 1000 ม. เพียง วันครึ่งก็ไปถึงชายเดน แต่ขอให้ท่านไปให้ไกลที่สุด"
"ท่านคิดจะไปที่ไหน ท่านโทงาริ" ปาปิยะถาม
"คงไปที่อาณาจักรเมียวบุง ข้ายังมีอำนาจอยู่ที่นั้น" โทงาริถาม
"เมียวบุง!!! ราชวงศ์มากินาเสะ ของท่านฮิโตมิรึ" โควตะอุทาน
"อือ..." โทงาริกล่าว
"ขอทุกท่านระวังตัวด้วย อาณาจักรของเราอ่อนแอ คงอยู่ได้ไม่นาน
ขอทุกท่านจงโชคดี" โทงาริอวยพร ก่อนที่จะไปกับแม่ทัพผู้น้อยคนหนึ่ง
"พวกเรา ตอนกลับระวังด้วย มีทหารของพระราชาป้วนเปี้ยนอยู่มาก รวมทั้งพวกของมิโดริด้วย จงปลอดภัย" โนทามากิโอะกล่าวและสวมชุดและแบกถังสุขาภิบาลออกไป ซาไอก็เช่นกัน เธอสายเต็มที่แล้ว นัดที่นัดเอาไว้กับเซอิจิ ชุดมือปรามสะบัดปลิว ถ้าโควตะไม่ดึงเอาไว้เธอคงวิ่งอย่างเร็วจนผิดสังเกต พอถึงหน้าตำหนักซาไอถอดหมวกและเสื้อคลุม ซุกไว้ใต้พุ่มไม้ แล้วปีนต้นไม้ใหญ่ ด้วยความรีบร้อนเธอจึงตกต้นไม้ แต่ก็ไม่ได้สนใจจึงปีนไปอีกครั้ง
"ท่านเซอิจิ" ซาไอร้องเรียก แล้วกระโดดเข้าทางหน้าต่าง เซอิจิที่ซุกตัวเองอยู่มุมห้องลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว
"ซาไอ" เซอิจิกระโดดเข้ามาแทบในทันที จับไหล่ของซาไอไว้
"ซาไอมาช้า" เซอิจิบอก
"เผอิญ ข้ามีธุระนิดหน่อย
."
"ช่างเถอะ!! นี่ซาไอข้ามีอะรให้เจ้าดูด้วย" พระองค์จูงแขนของซาไอมายังแท่นบรรทม ล้วงห่อกระดาษจากใต้หมอนขึ้นมาก้าง
"สวยจังเลย" ซาไออุทาน เมื่อเห็นเสื้อคลุมขนมิงค์สีขาวทั้งตัว
"เสื้อตัวนี่ เสด็จแม่ให้มา ข้าให้เจ้า ลองใส่ดูสิ" เซอิจิส่งเสื้อคลุมให้ซาไอ
"มิบังอาจหรอก เพค่ะ" ซาไอปัดออก
"อย่าเลยน่า ช่วยใส่ให้ดูหน่อย" เซอิจิ กางเสื้อคลุมใส่ให้
"ดูสิ เหมาะจังเลย"เซอิจิพูด แล้วถอยห่างออกมาเพื่อดู
"พระองค์กันแสงอีกแล้ว" ซาไอใช้มือปาดคราบน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม ขณะที่เซอิจิใช้มือโอบรอบเอวซาไอ แล้วจู่ๆก็ปล่อยออก "อะไรหรือเพค่ะ" มีเสียงเดินเข้ามา
"เสด็จแม่" เซอิจิกล่าว
"ซาไอกลับไปก่อน ไปก่อน"พระองค์กล่าว
ปัง!!!!
"เสด็จแม่" เซอิจิแสร้งแสดงความแปลกใจ
"วันนี้ทำไมออกมาเดินล่ะ ปกติเห็นเอาแต่ซุกอยู่มุมห้อง" สนมเอกมิโดริกล่าว
"วันนี้ลูกนึกบทกลอนได้ จึงได้บรรยากาศ" เซอิจิพูดปดอย่างแนบเนียน
"แล้วเหตุท่านแม่จึงมาหาลูกได้ล่ะพะยะค่ะ" เจ้าชายถาม
"ก็เจ้าอิเอยาสึมันไม่มีอารมณ์น่ะสิ คนแก่ก็คนแก่มันจะสนุกเท่าคนหนุ่มได้อย่างไร ใช่ไหม?" พระนางเข้าโอบรอบคอโอรสและยื่นหน้าเข้าไปใกล้ แต่เซอิจิถอยห่าง "ลูกง่วงแล้วพะยะค่ะ" เจ้าชายกล่าว
"ชิ
ข้าอุ้มชูเจ้าขนาดนี้ยังไม่ดีอีกหรือ เจ้าลูกเมียเก่า!!!" พระสนมกล่าว
"ใช่!!! ถึงข้าไม่ใช่ลูกท่าน แต่ข้าก็ไม่ใช่ทาสท่านน่ะ" เจ้าชายเถียง
"โอ๋!!! คิดว่าคนไม่สามารถมีลูกได้อย่างข้า ให้เจ้าเรียกว่าแม่ จะบอกให้น่ะว่าของแค่นี้มันยังแค่เท่าทุน"
"ท่าน!!!"
"ข้าน่ะยังไม่เคยมีครั้งไหนที่เจ้าไม่เสร็จข้า ข้าจะทำให้เจ้าลืมซาไอของเจ้าไปเลย" พระสนมโรมเร้า และเข้าหา
"ไม่!! พะยะค่ะ" เซอิจิตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว
"แค่ข้าไม่มาหา อาทิตย์เดียวแข็งกร้าวขนาดนี่เลยหรือ" มิโดริว่า
"หากเสด็จแม่ยังไม่ออกไป ลูกจะออกไปเอง" เซอิจิกล่าวและทำทีจะก้าวออกไป
"เจ้า!!!" มิโดริว่า"พอปีกกล้าก็จะบินหนีเรอะ"
"มิกล้า เพียงแต่ลูกจะไม่เป็นทาสท่านอีก"
"ซาไอมันเอาความภักดีจากข้าไป!!! เจ้ารักมัน!!!" มิโดริร้อง
"ถึงเป็นอย่างนั้นจริง เสด็จแม่ก็ไม่สิทธิเรื่องนี้" เซอิจิตะโกน
"เจ้า!!!"
"ได้ๆ ถ้าเจ้าอยากอิสระจากข้า ข้าจะก็ปล่อยเจ้า" มิโดริกล่าวอย่างโกรธเกรียว และเดินจากไป
"ท่านเซอิจิ" ซาไอผลุบออกจากใต้เตียง ขณะเซอิจิพยุงขึ้น
"ข้าคืนเสื้อคลุมให้" ซาไอถอดเสื้อออก
"ได้ยินแล้วใช่ไหม?" เซอิจิบอก
"เพค่ะ"
"หม่อมฉันจะไม่เปลี่ยนไปหรอกเพค่ะ" ซาไอว่า เซอิจิก้มหน้า
"ข้าเคย
.มีความสัมพันธ์กับเสด็จแม่อย่างนั้น ทั้งที่เจ้าบอกข้าว่ามันผิด ข้าขัดไม่ได้ ข้า
." เซอิจิร้องไห้
"ไม่ต้องกันแสงเพค่ะ หม่อมฉันไม่ทิ้งพระองค์หรอกเพค่ะ"ซาไอกอดเด็กหนุ่ม "จำได้ไหม? ตอนที่เจอพระองค์ใหม่ๆ หม่อมฉันก็ต้องกอดพระองค์แล้ว" เซอิจิกอดซาไอไว้
"กลัว ข้ากลัวถ้าเสด็จแม่ฆ่าข้า เหมือนที่ฆ่าแม่ข้า"
"เรื่องเป็นยังไง?" ซาไอถาม
"ตอนที่ข้าเพิ่งเกิด เป็นลูกของราชินีองค์แรก แต่เสด็จแม่ทรงช่วยข้ามาจากลานประหารข้าและเสด็จแม่จริงๆโดยการเปลี่ยนตัวเด็ก และบอกจะเปิดเผยความลับหากไม่ทำตาม"
"ซาไอ
.. กลัว
ข้า
กลัว" เซอิจิร้องไห้
"หม่อมฉันจะปกป้องพระองค์เอง" ซาไอลูบผมของเซอิจิ และดึงไหล่เซอิจิออก
"หม่อมฉันไปล่ะเพค่ะ "ซาไอทูลลา และออกไปทางหน้าต่าง
. . . . . .
ฝ่ายโทงาริ
.
"เฮ้ย!!!หยุด" ทหารยามหน้าประตูกล่าว
"ตรวจ!!!" เขาสั่งลูกน้อง ค้นในกองเสบียง
"ไม่มีขอรับ!!!"
"ดีมาก!!! ไปได้แล้ว!!!" เกวียนขับออกไป มีใครรู้ไหมว่า สารถีนั้น คือโทงาริ ที่อันตรายที่สุด คือที่ปลอดภัยที่สุด ค้นเสบียงแต่ไม่ดูหน้าคนขับ โทงาริสามารถออกไปนอกเมืองได้ อีก 3 วันต่อมาก็ไปถึงอาณาจักรเมียวบุงอย่างปลอดภัย
|